บทที่ 38 : สมบัติล้ำค่าที่สุดของเผ่ามังกร!
บทที่ 38 : สมบัติล้ำค่าที่สุดของเผ่ามังกร!
"เหลือเวลาอีกแค่ห้านาทีกริ่งเข้าเรียนจะดังแล้วนะ เจ้าไม่กลัวไปสายรึไง?"
"แม่จิ้งจอกอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง, บอกมาตามตรง ทำไมจักรพรรดินีเเห่งประเทศมังกรถึงประกาศจับเจ้า"
เดลลูคิดจะบ่ายเบี่ยง แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อพบกับแววตาของเซียวซิงหยูที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่และจริงจัง
"อย่าโกหก พูดความจริงมา"
น้ำเสียงของเซียวซิงหยูแฝงไปด้วยความเย็นชา
เดลลูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยักไหล่
"ก็ได้ ในเมื่อเจ้าเป็นมาสเตอร์ของข้า การปิดบังเจ้าก็คงไม่มีประโยชน์อะไร"
"ที่นางตั้งค่าหัวตามล่าข้า, ก็เพราะสิ่งนี้"
เดลลูยกมือขวาขึ้น บนฝ่ามือของเธอมีบางสิ่งที่คล้ายกับลูกแก้วคริสตัลปรากฏขึ้น
เซียวซิงหยูจ้องมองด้วยความสนใจ เเละทันใดนั้นดวงตาเทพอสูรก็เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
"นี่...นี่มัน..."
"น้ำตามังกร?!"
เซียวซิงหยูเรียกชื่อสมบัติชิ้นนี้ออกมาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมันทำให้เดลลูตกตะลึงอีกครั้ง
"เจ้าเป็นแค่ปรมาจารย์อสูรระดับหนึ่งดาวไม่ใช่หรือ…ทำไมถึงรู้เรื่องต่างๆมากมาย แถมยังรู้จักน้ำตามังกรอีก!"
เซียวซิงหยูลูบน้ำตามังกรเบาๆ ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลที่ไหลเวียนอยู่ภายในนั้น
"ว่ากันว่าเผ่าพันธุ์มังกรสายเลือดบริสุทธิ์มีสมบัติล้ำค่าอยู่ 3 อย่าง"
"ดาบเกล็ดมังกร หนวดราชามังกร และน้ำตามังกร"
"ดาบเกล็ดมังกรและหนวดราชามังกร เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก"
เซียวซิงหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรับน้ำตามังกรมาจากมือของเดลลู
"ส่วนน้ำตามังกรนั้น แตกต่างจากสมบัติอีกสองชิ้นของเผ่าพันธุ์มังกร…สมบัติชิ้นนี้มันไม่มีพลังโจมตีใดๆ"
"แต่มันเกิดจากน้ำตาของมังกรสายเลือดบริสุทธิ์นับหมื่นตัวมาหลอมรวมกัน, หากปลดปล่อยพลังทั้งหมดของสมบัตินี้ออกมา จะสามารถย้อนเวลากลับไปสู่อดีตได้"
หลังจากที่เซียวซิงหยูพูดจบ เดลลูก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“เจ้า…”
“ทำไมเจ้าถึงรู้ความลับของเผ่าพันธุ์มังกรสายเลือดบริสุทธิ์มากมายขนาดนี้?”
"เพราะฉันโกง"
"อะไรนะ?!"
"บอกไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก, เเต่ต่อไปอย่ามาสุ่มถามเรื่องของข้าเลย…มันอธิบายยาก"
"เหอะ ใครอยากจะสอดเรื่องของเจ้ากัน!"
เดลลูทำปากยื่น มองบนใส่เซียวซิงหยูอย่างหมั่นไส้ แต่เเบบนี้กลับดูน่ารักไปอีกแบบ
เซียวซิงหยูถือน้ำตามังกรไว้ในมือ ทันใดนั้นความรู้สึกแปลกประหลาดก็แล่นเข้ามาในจิตใจของเขา
"แปลกจัง นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าสัมผัสกับน้ำตามังกร…แต่ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างนี้นะ"
เซียวซิงหยูไม่รู้ตัวเลยว่าปานบนร่างกายของเขากำลังเปล่งประกายเรืองรอง และสั่นพ้องไปกับน้ำตามังกร
“ลูลู่ เจ้าได้ของล้ำค่าชิ้นนี้มาจากที่ไหน?”
“เท่าที่ข้ารู้ น้ำตามังกรหายสาบสูญไปตั้งแต่สงครามสังหารมังกรเมื่อร้อยปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ เดลลูก็อธิบายตามความจริงทันที
"ข้ามีพี่สาวอยู่คนหนึ่ง เธอมีสายเลือดมังกรอยู่ครึ่งหนึ่ง"
"ครึ่งจิ้งจอกครึ่งมังกรงั้นหรือ?”
“งั้นก็คือจิ้งจอกมังกรเก้าหางสินะ”
เดลลูพยักหน้ารับ แล้วพูดต่อ
"ในสงครามสังหารมังกร เผ่าพันธุ์มังกรสายเลือดบริสุทธิ์มากมายถูกทำลายล้าง เเละพี่สาวข้า นางได้รับมอบหมายจากราชามังกร ให้ดูแลรักษาน้ำตามังกรเอาไว้"
"เเต่ช่วงนี้ไม่รู้จักรพรรดินี้ไปได้ข่าวมาจากไหน ว่าเผ่าพันธุ์จิ้งจอกเก้าหางของเรารับหน้าที่ดูแลน้ำตามังกร…นางเลยออกประกาศจับข้า"
เซียวซิงหยูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามคำถามสุดท้าย
"แล้วสงครามสังหารมังกรเมื่อร้อยปีก่อนล่ะ, เจ้ารู้อะไรบ้างใหม?"
ในเรื่องนี้, เดลลูส่ายหน้าอย่างจนใจ
ดวงตาเทพอสูรของเซียวซิงหยูสามารถมองทะลุคำโกหกของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้…การที่เดลลูส่ายหน้า ไม่ใช่เพราะเธอปฏิเสธที่จะตอบคำถาม แต่เป็นเพราะเธอไม่รู้เรื่องสงครามสังหารมังกรจริงๆ
"เอาล่ะมาสเตอร์ คืนน้ำตามังกรให้ข้ามาได้เเล้ว!"
เเต่เซียวซิงหยูสนใจสมบัตินี้มาก, เขาจึงเก็บน้ำตามังกรใส่แหวนมิติของตัวเองทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้ เดลลูก็ได้เเต่มองด้วยความน้อยใจ
"ลูลู่ เราทำพันธสัญญาโลหิตกันแล้ว ยังไงก็ถือว่าเป็นพวกเดียวกัน"
"สมบัติจะอยู่กับข้าหรืออยู่กับเจ้าก็เหมือนกัน"
"อีกอย่าง พันธสัญญาโลหิตก็เหมือนทะเบียนสมรส ในเมื่อเราจดทะเบียนกันแล้ว น้ำตามังกรก็ต้องถือเป็นทรัพย์สินสมรสร่วมกัน…ถูกต้องไหม?"
"ใครเป็นสามีภรรยากับเจ้ากัน ถ้าไม่ติดว่าโดนพันธสัญญาโลหิตบังคับไว้ ข้าจะบีบคอเจ้าให้ตายเลย ไอ้คนลามก!" เดลลูพูดอย่างหัวเสีย
ผู้หญิงด่าคือผู้หญิงรัก (ใช่หรอวะ (-__-))
ยิ่งเซียวซิงหยูกับเดลลูทะเลาะกันมากเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้นเท่านั้น
"เอาล่ะลูลู่ กลับเข้ามาในตราอสูรได้เเล้ว!"
เซียวซิงหยูเปิดตราอสูรแล้วเก็บเดลลูเข้าไป
จากนั้นเขาก็เดินไปยังวิทยาลัยชิงหลง
……
"วิทยาลัยชิงหลงนี่ ดูยิ่งใหญ่อลังการดีนี่"
"แน่นอนอยู่แล้ว เงินที่ใช้บูรณะวิทยาลัยชิงหลง เป็นเงินส่วนตัวของจักรพรรดินีเเห่งประเทศมังกร เธอไม่ขาดแคลนเงินหรอก"
"นางอางสือหลานคนนั้น... เหอะ"
"ไม่ต้องห่วง เจ้าอยู่ในตราอสูรของข้า ไม่มีใครหาเจ้าเจอหรอก"
เดลลูสามารถสื่อสารทางจิตกับเซียวซิงหยู และมองเห็นสิ่งที่เซียวซิงหยูเห็นได้
ในขณะเดียวกัน ก็ไม่มีใครสามารถตรวจจับการมีอยู่ของเธอได้
เดลลูต้องยอมรับว่าการอยู่กับเซียวซิงหยูเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้
เซียวซิงหยูกลับเข้าสู่วิทยาลัยชิงหลง และใช้ชีวิตนักศึกษาตามปกติ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ถึงวันเสาร์
วันนี้เป็นวันสำคัญของวิทยาลัยชิงหลง
การแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่ประจำปี เริ่มต้นขึ้นในเวลาสิบโมงเช้า
ที่ลานกว้างกลางวิทยาลัยชิงหลง
ที่นั่งผู้ชมเต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาล้อมรอบเวทีขนาดใหญ่อย่างหนาแน่น
……..
บนเวทีกรรมการ
ท่านอธิการบดีซูหรูหยาน รองอธิการบดีหวังตงเซิง และหัวหน้าอาจารย์หลินชาง…ผู้นำทั้งสามของวิทยาลัยชิงหลง ทำหน้าที่เป็นกรรมการในการแข่งขันครั้งนี้
เเละบนเวทีผู้บรรยาย ยังคงเป็นผู้ประกาศหน้าเดิม…หยางซู่
"อาจารย์และนักเรียนทุกท่าน สวัสดีตอนเช้าครับ"
"การแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่ประจำปี กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!"
"ในนักเรียนใหม่ 600 คน จะถูกจับคู่โดยการจับฉลาก"
"ขอให้นักเรียนใหม่ทุกคน เข้าร่วมพิธีจับฉลากด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย"
แม้แต่การจับฉลากก็ยังต้องต่อแถว
เซียวซิงหยูและเพื่อนๆ ห้อง 3 จึงมายืนต่อแถวพลางพูดคุยกัน
อู๋เซิงโหย่วมีรอยคล้ำใต้ตาเหมือนหมีแพนด้าไม่มีผิด
"อู๋เซิง เมื่อคืนแอบไปทำอะไรมารึเปล่า ถึงได้มีรอยคล้ำใต้ตาแบบนั้น" ซ่งหู่ถามด้วยรอยยิ้ม
"ไร้สาระ ฉันไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นซะหน่อย ฉันแค่เครียดจนนอนไม่หลับต่างหาก!"
สภาพของอู๋เซิงโหย่วก็ไม่ต่างจากนักเรียนใหม่คนอื่นๆ
การแข่งขันจัดอันดับนักเรียนใหม่ เป็นการแข่งขันที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเรียนใหม่
อันดับที่ได้ จะส่งผลโดยตรงต่อชีวิตในรั้ววิทยาลัยตลอดสามปี
นักเรียนที่ได้อันดับท้ายๆ จะไม่ได้รับความสำคัญจากวิทยาลัยชิงหลง
หลังจากเรียนจบก็จะไม่ได้รับทรัพยากรหรือคอนเนคชั่นใดๆ
ส่วนนักเรียนที่ได้อันดับต้นๆ จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจากวิทยาลัยชิงหลง
เหล่าอัจฉริยะเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะได้รับทรัพยากรที่ดีที่สุดตลอดสามปีในรั้ววิทยาลัยเท่านั้น…แต่หลังจากเรียนจบแล้ว วิทยาลัยชิงหลงยังรับประกันการได้งานสำหรับพวกเขา
เพราะท่านอธิการบดีซูหรูหยานจะเขียนจดหมายแนะนำด้วยตัวเอง เพื่อให้พวกเขาได้เข้าทำงานในกิลด์ปรมาจารย์อสูรที่ดีที่สุดในประเทศ
อู๋เซิงโหย่วเอามือกุมอกที่เต้นระรัว เเล้วพูดด้วยความรู้สึกกดดัน
"การแข่งขันครั้งนี้ มันคือการต่อสู้ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันชัดๆ เพื่อให้ได้อันดับที่ดี ทุกคนคงต้องสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายแน่ๆ"
"เชิญนักเรียนคนต่อไปขึ้นมาจับฉลาก!" กรรมการตะโกนเสียงดัง
เเละชายหนุ่มท่าทางยโสโอหังก็ได้เดินขึ้นไปบนเวทีจับฉลาก
เขาคือคนคุ้นเคยของเซียวซิงหยู หวังเยี่ยน ลูกชายของรองอธิการบดีหวังตงเซิง
เมื่อหวังเยี่ยนปรากฏตัว เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นจากที่นั่งผู้ชม
เเต่โดยมากเป็นเสียงหัวเราะเยาะและเสียงถากถางมากกว่า
"นั่นมันลูกชายของรองอธิการบดีหวังนี่"
"ใช่ เขาคนนี้แหละ ที่โดนเซียวซิงหยูอัดจนเสียหน้าบนเวทีประลองเมื่อเดือนที่เเล้ว"
"ในวิทยาลัยชิงหลง หมอนี่น่าจะเป็นตัวตลกอันดับหนึ่งเลยนะ..."
หวังเยี่ยนได้ยินเสียงซุบซิบนินทาของทุกคน…ทันใดนั้นความโกรธแค้นก็พลุ่งพล่านในใจของเขา
"เซียวซิงหยู ความอัปยศที่เเกสร้างให้ฉัน…วันนี้ฉันจะเอาคืนให้หมด!"
หวังเยี่ยนกัดฟันกรอด จากนั้นเขาก็จับฉลากขึ้นมาหนึ่งใบ
เเละเมื่อเปิดออก เขาก็พบว่ามันมีชื่อสามคำเขียนอยู่…เซียวซิงหยู
ทันใดนั้น กรรมการก็ประกาศอย่างรวดเร็ว
“รอบแรก คู่ที่ 7”
“หวังเยี่ยน ปะทะ เซียวซิงหยู!”
……………….