บทที่ 156 มีเพียงความรักที่ลึกซึ้ง
บทที่ 156 มีเพียงความรักที่ลึกซึ้ง
ทันทีที่รถพอร์ช คาเยนน์สีฟ้าในจอ KTV คันใหญ่ปรากฏขึ้น หนุ่มๆ หลายคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ก็ตื่นขึ้นมาแย่งไมโครโฟนกันทันที
"เมื่อวานผ่านไปแล้ว ไม่หวนคืน... โอ้เย"
"ความสุข มีค่ากว่าสิ่งใด"
"น้ำที่หกไปแล้ว ไม่สามารถเก็บกลับคืนมาได้... โอ้เย"
พี่ชายหลายคนที่ปกติจะเก็บอาการ ตอนนี้ก็คึกคักกันใหญ่ หลิวเหยียนที่ดูสุภาพเรียบร้อย ก็คว้าไมโครโฟนโชว์พลังเสียงร้องเพลงเช่นกัน
"ไม่ชวนน้องสาวร้องเพลงนี้ รู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้..."
"อย่าเพิ่งๆ ท่อนฮุคมาแล้ว"
หลิวเหยียนกดมือลง เตือนว่าอย่าส่งเสียงดัง จากนั้นพอถึงท่อนสำคัญก็ตะโกนเสียงดังว่า "ในตอนนี้ เหล้าแก้วนี้มีค่าที่สุด!"
"รีบรินเหล้าให้เต็ม ชนแก้วนี้ แล้วร้องเพลงเสียงดัง!"
มาจากเพลง "เหล้าของเพื่อน"
แม้แต่พี่ชายหลายคนที่ไม่มีไมโครโฟนก็มารวมตัวกัน ร้องเพลงเสียงดังด้วยกัน ทั้งห้องคาราโอเกะเต็มไปด้วยความมันส์ที่ไม่เหมาะกับวัยนี้ แม้แต่จางเชาที่ดูเป็นผู้เป็นคนที่สุด ก็ยังโยกตัวตามถังเจียนไปด้วย
"ก๊ง ก๊ง ก๊ง ก๊ง—"
เฉินหยวนกินอะไรมาบ้างแล้วก่อนมา ดังนั้นเขาที่แย่งไมโครโฟนไม่ได้ จึงได้แต่ยกเบียร์ยี่ห้อ หย่งฉ่วงเทียนหยา ขึ้นดื่ม
"มา เขย่าลูกเต๋า!" โจวหยูถือแก้วลูกเต๋า อยากจะชนกับเฉินหยวน
ดังนั้น ทั้งสองคนจึงเริ่มกันเลย
"สอง ห้าลูก" โจวหยูตะโกน
"เปิด!"
หลังจากโจวหยูพูดจบ เฉินหยวนก็พูดทันที
"..." โจวหยูมองลูกเต๋าของตัวเอง หนึ่ง สามลูก (นับเป็นไพ่โจ๊กเกอร์) สอง หนึ่งลูก หก หนึ่งลูก ก็ตกใจ "นี่ เปิดเลยเหรอ?"
"ใครใช้ให้แกตะโกนส่งเดช"
"ฉันสอง สี่ลูก แกไม่มีสองเลยสักลูก?"
"ยกเว้นแกจะมีสอง ห้าลูก"
เฉินหยวนเปิดฝา ไม่เพียงแต่ไม่มีสอง แม้แต่หนึ่งก็ไม่มีสักลูก
จากนั้นก็เหลือบมองอีกฝ่าย "ดื่ม"
"แม่งเอ๊ย เป็นไปได้ไงวะเนี่ย?!" โจวหยูยิ้มแห้งๆ ถอนหายใจกับโชคชะตาของตัวเอง จากนั้นก็เริ่มดื่ม
"มาอีก"
"สี่ สี่ลูก!"
"เปิด"
"นี่แก เปิดอะไรของแก? แกก็ไม่มีสี่เหมือนกัน?"
"มีลูกนึง แล้วแกมีสามลูก?"
"มีลูกเดียว... ก๊ง ก๊ง ก๊ง ก๊ง"
แบบนี้ ก่อนที่ 'น้องสาว' จะมา ทั้งสองคนก็เล่นกันอย่างสนุกสนาน และเนื่องจากโจวหยูถูกถล่มฝ่ายเดียว ทำให้ห้อง 18 เริ่มผลัดกันรุม
จนท้ายที่สุด เฉินหยวนก็ได้รับฉายาว่า ราชาลูกเต๋าแห่งตะวันออกเฉียงใต้
ตอนที่คนพวกนี้โมโหจนแทบคลั่ง ยังกล้าสงสัยเฉินหยวนอีก
แกโกงป่ะเนี่ย?
พูดอะไร พูดอะไร นี่พูดอะไร?
โกงบ้าโกงบออะไร?
ก็เปิดให้เห็นแล้วไง?
แหม เจ็บใจจิ๊ดอะดิแพ้รัว ๆ
"... อืม เหนื่อยหน่อยๆ "
เนื่องจากการใช้พลังในระดับสูงกับเรื่องแบบนี้ ทำให้เฉินหยวนรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาทันที เขาเอามือกุมขมับ ตั้งใจจะเลิกเล่น "พวกแกเล่นกันไปเถอะ"
"นี่ ชนะแล้วจะหนีเหรอ?"
หลิวเหยียนไม่ยอม อยากจะประลองกับเฉินหยวนสักสามร้อยยก “ก็ได้ จะไม่สู้ก็ได้ แต่ต้องดื่มกระป๋องนี้ให้หมด”
"ถึงจะไม่ได้กลัว แต่ฉันก็คอแห้งจริงๆ "
เฉินหยวนหยิบเบียร์ที่เหลืออยู่ครึ่งกระป๋อง ดื่มหมดในรวดเดียว จากนั้นก็คว่ำกระป๋องเบียร์อย่างเท่ๆ ค่อยๆขยับ ทำท่าทางองอาจ
"พี่ ฟองเบียร์กระเด็นใส่ขาผม..." ถังเจียนเตือนเบาๆ
"ร้องเพลงสักเพลงสิ เฉินหยวน"
เนื่องจากเฉินหยวนเขย่าลูกเต๋าอยู่ตลอด ในที่สุดก็ลงจากเวที จางเชาจึงยื่นไมโครโฟนให้เขา
"ได้เลย งั้นฉันขอแทรกเพลงที่เลือกไว้ก่อนนะ"
เฉินหยวนรับไมโครโฟน
แล้วในตอนนั้นเอง ก็มีสองร่างพุ่งเข้ามาใน KTV
ผู้ชายทุกคนใส่ชุดนักเรียน มีแต่พวกเธอสองคน ที่แต่งตัวสวยหรู
โจวฟู่ไม่ต้องพูดถึง กางเกงยีนส์เข้ารูปกับเสื้อไหมพรมชีฟอง ขับเน้นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอ เป็นความงามที่ผู้หญิงระดับเดียวกันต้องแหงนมอง
แน่นอน เธอแค่มีพื้นฐานที่ดี ไม่ได้แต่งตัวอะไรมาก ก็ดูเหมือนนางแบบแล้ว ส่วนเหอซือเจียวที่อยู่ข้างๆ ก็แปลกมาก ตอนที่เห็นเธอ เฉินหยวนอยากจะถามจริงๆว่า นี่ สาวงามคนนี้ เธอเป็นใครกัน?
เหอซือเจียวที่เดิมทีก็ดูดีอยู่แล้ว พอไม่ใส่ชุดนักเรียน ปล่อยผมหางม้าที่ดูเชยๆลงมา แต่งหน้าเสร็จ ก็ดูอ่อนเยาว์ สดใส มีออร่าที่สง่างาม ความสวยเพิ่มขึ้นมาอีกระดับ แม้แต่เดินตามถนน ก็เป็นผู้หญิงสวยที่บางครั้งก็มีคนมาขอเบอร์
เฉินหยวนไม่เคยคิดเลยว่า คำเหล่านี้ คำบรรยายเหล่านี้ สักวันหนึ่งจะมาปรากฏอยู่บนตัวเหอซือเจียว
ก่อนหน้านี้ เฉินหยวนมักจะบรรยายถึงเธอด้วยคำพูดที่ดูมีอคติมากกว่า
เช่น หญิงสาวที่สามารถต่อยเจิ้นกวนซี
หรือ คนถอนต้นหลิว
รวมถึง ผมเผ้าตั้งชี้ดุจแปรงเหล็ก หน้าตาดุดันเหมือนสิงโต เทพเจ้าแห่งสวรรค์เทียนเผิงลงมาจากบันได!
แน่นอน นี่แค่พูดเล่น พี่เจียวก็น่ารักอยู่แล้ว
เด็กผู้หญิงอายุสิบหกสิบเจ็ด แค่ดูแลตัวเองดีๆ แต่งตัวดีๆ ก็สามารถทำให้ใครบางคนตะลึงในช่วงเวลาหนึ่งได้
งั้นเซี่ยซินหยู่...
เฉินหยวนก็นึกถึงคำพูดของสวีจวิ้นอี้ขึ้นมาทันที ถ้าจะไปเจอผู้ชายที่แคร์ ผู้หญิงทุกคนก็จะแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มา หรือว่ากลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า?
เฮ้อ ไม่เห็นจำเป็นเลย
ซินหยู่ เธอไม่เหมือนคนอื่น ไม่ว่าจะแต่งตัวยังไง ก็ชนะใส ๆ
ต่อให้ไม่ชนะ ไม่ว่าใครก็ต้องยอมรับอยู่ดี จนสุดท้ายก็ชนะทุกคน
เหมือนการแข่งขันในรายการที่ชอบมีการโหวตกันไง
"เดี๋ยวนะ นายร้องก่อนเลย"
เฉินหยวนส่งไมโครโฟนคืน หยิบโทรศัพท์ออกมา ตั้งใจจะถามซินหยู่ว่าจะมาเมื่อไหร่ เขาจะได้ไปรับ แต่พอกดเปิดโทรศัพท์ ข้อความที่เด้งขึ้นมาก็ทำให้เขาช็อกทันที
เรียกได้ว่า ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
ถังซือเหวิน: มีเลสเบี้ยน
บ้าเอ๊ย เลสเบี้ยน!
นี่ เพิ่งจะรู้ตัวเหรอ?
จากนั้นก็ปลดล็อคโทรศัพท์ กดเข้า QQ เฉินหยวนถึงเห็นข้อความอีกอันหนึ่ง
เฉินหยวน ช่วยฉันด้วย
ก็คือว่า ตอนที่ถังซือเหวินรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเลสเบี้ยน สถานการณ์มันอันตรายมากแล้ว ถ้าฉันไปช้า เธออาจจะแย่ ข้าวสารคงสุกเป็นข้าวสุกแล้ว!
เขาจึงรีบพิมพ์ตอบกลับไป
โรงแรมไหน...?
แล้วก็ลบข้อความทั้งหมด พิมพ์ใหม่
อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในโรงแรม... ไม่สิ ฉันหมายถึง สิ่งที่ถังซือเหวินเจออาจจะเป็นแค่บรรยากาศที่อึดอัด ไม่ได้เป็นอันตรายถึงเนื้อตัวเธอ เพราะเฉิงไห่อิงดูแล้วไม่น่าจะใช้กำลังขืนใจใคร
แต่ว่า ทำไมเธอถึงต้องมาหาฉันตอนนี้ล่ะ?
คนอื่นช่วยเธอไม่ได้เหรอ?
เฉินหยวนคิดพลางเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ถ้าฉันเป็นถังซือเหวิน ฉันจะไปหาใครนะ?
เหอซือเจียว ความสัมพันธ์ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น
โจวฟู่... ครั้งที่แล้วเธอก็แทงข้างหลังฉัน บอกว่าจะไม่ให้ฉันเป็นเพื่อนสนิทกับเฉินหยวนอีก ถ้าไปหาเธอคงเสียหน้าหน่อยๆ
แต่ว่า ในแวดวงของถังซือเหวินที่โรงเรียน เธอก็แทบไม่มีเพื่อนเลย คนที่เรียกว่าเพื่อนได้ก็มีแค่เฉินหยวนนี่แหละ
เอาล่ะ... ถึงยังไงฉันก็เคยมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเธอ แถมยังเป็นตัวแทนโรงเรียนหมายเลข 11 ที่ลงแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกในฐานะคู่หูสุดแกร่งจากห้อง 18 อีกด้วย
ถ้าเทียบกับการไปหาคนอื่น การเรียกเฉินหยวนดูจะเป็นเหตุเป็นผลมากกว่า
แต่ปัญหาคือ ข้อความนี้มันผ่านมาตั้ง 20 นาทีแล้วนะ!
ตอนนี้ฉันเพิ่งมาเห็น ไม่รู้ว่าข้าวจะสุกเป็นข้าวสวยเรียบร้อยแล้วรึเปล่า?
ว่าแต่... ผู้หญิงเขาหุงข้าวกันยังไงนะ?
ภาพในหัวของเฉินหยวนเริ่มปรากฏขึ้นทีละน้อย เป็นภาพของถังซือเหวินกับเฉิงไห่อิง สองสาวสวยระดับท็อป สวมผ้ากันเปื้อน ยืนเคียงข้างกัน แขนแนบชิด จนแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียว
ในที่สุด ก็ช่วยกันกดปุ่มหุงข้าวของหม้อหุงข้าว
ไม่งั้นนายคิดว่าฉันหมายถึงอะไรล่ะ?
พวกบ้าชอบดูยูรินี่มันเพี้ยนจริงๆ
เฉินหยวน: เกิดอะไรขึ้น เธออยู่ไหน ฉันจะช่วยเธอยังไงดี?
หลังจากที่เฉินหยวนส่งข้อความคำถามสามข้อรวดไป ก็ไม่มีการตอบกลับมาทันที
ซึ่งทำให้เขารู้สึกกังวลขึ้นมาหน่อยๆ อย่าบอกนะว่าเดี๋ยวจะส่งข้อความมาว่า 'ฉันแปดเปื้อนแล้ว'
โชคดีที่ถังซือเหวินส่งโลเคชั่นมาให้ พร้อมกับอธิบายว่า "ฉันรู้ว่าที่นี่ใกล้กับที่พวกนายนัดเจอกัน เลยคิดถึงนายขึ้นมา รบกวนนายหน่อยนะ เฉินหยวน"
เฉินหยวน: "ไม่รบกวน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้"
จริงอย่างที่ว่า ไม่ได้รบกวนอะไรเลย เพราะอยู่แค่ห้างข้างๆ แม้แต่แท็กซี่ยังไม่ต้องเรียก
"พวกนาย ฉันขอออกไปแป๊บนึงนะ พวกนายเล่นกันไปก่อน"
"ฉันก็จะออกไปเหมือนกัน... เธอมาแล้ว ฉันไปรับก่อน"
หลังจากเฉินหยวนกับสวีจวิ้นอี้ ออกจากคาราโอเกะไป พวกที่เหลือก็มองตามด้วยสายตาพิพากษาคนนอกรีต โดยเฉพาะโจวหยู ที่มองจนแทบจะแผ่รังสีความริษยาออกมาได้ "น่าอิจฉาชะมัด! คนมีแฟนนี่ไม่ควรมางานเลี้ยงแบบนี้เลย"
"ใช่ นี่มันปาร์ตี้เกย์!"
ถังเจียนรีบเสริม
"ก็ไม่เชิงนะ"
จางเชาเตือนสติอย่างจริงจัง ในฐานะชายแท้ รสนิยมของเขาไม่มีปัญหาแน่นอน แม้แต่จะเล่นมุกแบบนี้ก็ไม่เอาด้วย เพราะผู้ชายตัวจริงต้อง... ทำในสิ่งที่ผู้ชายควรทำ
"เดี๋ยวพวกนั้นพาแฟนกลับมา พวกเรามีแผนอะไรกันบ้าง?"
เมื่อเห็นว่าเฉินหยวนไม่อยู่ โจวหยูก็เริ่มเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พูดกับทุกคน
แล้วทุกคนก็มองหน้ากัน ก่อนจะยิ้มออกมาเหมือนกับโจวหยู
เห็นได้ชัดว่าทุกคนเห็นพ้องต้องกัน
"เดี๋ยวเล่นเกมส่งดอกไม้กัน แต่เราจะโกง บังคับให้คู่รักร้องเพลงรักด้วยกัน ไม่สิ ต้องเป็นเพลงยุให้รักกัน!"
โจวหยูรู้สึกว่าตัวเองช่างร้ายกาจเกินบรรยาย
แบบนี้ ใครจะแยกเขากับจอมมารออกล่ะเนี่ย?
ส่วนข้อเสนอของเขา ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียง
ในเวลานี้ โจวหยูถึงกับรู้สึกว่าตัวเองปานอัจฉริยะในนิยายแฟนตาซี
เกิดใหม่อีกทีก็เป็นโจวหยูแล้ว!
"ก๊อกๆ "
ทันใดนั้น ประตูห้องคาราโอเกะก็ถูกเคาะ
ถังเจียนจึงเดินไปเปิดประตู
จากนั้น สาวสวยสองคนที่ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู
เมื่อเห็นทั้งคู่ในลุคแปลกตา ทุกคนก็อุทานออกมาพร้อมกัน
"โจวฟู่ก็ว่าไปอย่าง แต่วันนี้แม้แต่เจ๊เจียวก็ดูสวยไปด้วย?"
จูจื้อหาวโพล่งออกมาตรงๆ
แล้วก็โดนเหอซือเจียวเดินเข้ามาศอกใส่ทันที "อะไรคือแม้แต่ฉันด้วย หาคำพูดใหม่เดี๋ยวนี้!"
"คือ... สวยกว่า!" จูจื้อหาวรีบเปลี่ยนคำพูด ประจบประแจงทันที "เจ๊เจียวสวยกว่า...พี่ใหญ่ อย่าเปิดศอกใส่ผม ผมผิดไปแล้ว"
"เจียวเจียว เรามานั่งตรงนี้กันเถอะ"
โจวฟู่ยิ้ม แล้วพาเหอซือเจี๋ยวมานั่งโซฟาคู่ ตอนนี้จางเชาก็ยื่นไมโครโฟนให้ พูดว่า "พวกเราร้องกันมานานแล้ว พวกเธอต่อเลย"
"เฉินหยวนล่ะ?" โจวฟู่ถามหลังจากมองไปรอบๆ
"เธอจะร้องกับเฉินหยวนเหรอ?"
"เปล่า... ฉันหมายถึงเขาออกไปข้างนอกเหรอ?" โจวฟู่ถามด้วยรอยยิ้มเก้อๆ
"อ๋อ เขารับโทรศัพท์แล้วออกไป น่าจะไปรับแฟน" จางเชาอธิบาย
"งั้น เจียวเจียว เธอเริ่มก่อนเลย" โจวฟู่พูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
"เอ่อ... ไมโครโฟนยังเหลืออีกอันไม่ใช่เหรอ?"
เหอซือเจี๋ยวพูดจบ ถังเจียนก็พูดขึ้นมาทันที "พวกเรากำลังเล่นเกมส่งดอกไม้อยู่ ส่งไปถึงใคร คนนั้นก็ต้องร้อง เพราะงั้น พวกเธอสองคนร้องด้วยกัน..."
เฮ้ย พวกนายอย่าแกล้งเธอสิ!
โจวหยูรีบส่งสายตาเตือนเพื่อนๆ
พวกนายเข้าใจผิดแล้ว!
พวกเราจะแกล้งเฉินหยวนกับสวีจวิ้นอี้ด้วยกัน ไม่ใช่เหอซือเจียวนะ
เข้าใจไหม?
เห็นได้ชัดว่า พวกนั้นไม่ได้ใส่ใจกับคำเตือนของเขาเลยสักนิด
ตรงกันข้าม พวกเขายังทำตามใจตัวเอง เริ่มเกมขึ้นมาดื้อๆ!
จางเชาหันหน้าไปทางประตู แล้วเคาะเบาๆ จากนั้น ถังเจียนก็ถือกล่องลูกเต๋าไว้ในมือ โดยที่เหอซือเจียว เจ้าของเรื่องแทบจะไม่ได้ตกลงอะไรด้วยเลย เกมก็เริ่มต้นขึ้นอย่างกะทันหันแบบนี้
ในจังหวะที่เสียงกลองดังขึ้น ถังเจียนก็โยนกล่องลูกเต๋าในมือไปให้โจวหยู
ยิ่งไปกว่านั้น พวกนั้นยังกระโดดหนีออกไปราวกับก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบจนเกิดคลื่นเป็นพันๆชั้น พวกเขาอยู่ห่างจากโจวหยูอย่างน้อยสองเมตร ในตอนนี้ เสียงกลองของจางเชาที่ดังขึ้นก็หยุดลงในทันที
จากนั้น ทุกคนก็หันไปมองโจวหยูที่ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ด้วยความตกตะลึง
หา?
ไม่สิ ไม่ใช่
ไม่ได้นะ!
พวกสารเลว! พวกแกมันสารเลวจริงๆ!
"ถ้าอย่างนั้น นายก็ร้องเพลงคู่กับเหอซือเจียวแล้วกัน" ถังเจียนปรบมือขึ้นมาก่อน แล้วก็พาคนอื่นๆ ปรบมือตาม
"เฮ้!" เหอซือเจียวร้อนใจ พูดด้วยความไม่พอใจอย่างมาก "ทำไมทำเหมือนกับการร้องเพลงกับฉันเป็นการลงโทษ? พวกนายนี่เสียมารยาทจริงๆ!"
"..." โจวฟู่ที่อยู่ข้างๆ ถูกเหอซือเจียวทำให้อึ้งไปเลย
ถ้าเป็นเธอคนเดิม ในตอนนี้คงใช้คำด่าที่รุนแรงเป็นร้อยๆคำด่าทอไปแล้ว แม้แต่คำหยาบคายอย่าง "ไอ้โง่" ก็คงหลุดออกมา
ไม่ใช่แค่คำว่า "เสียมารยาท" แบบนี้
พี่สาวเจียวที่ใส่กระโปรง ดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยขึ้นมาเลย ฮ่าๆๆ
"งั้น..."
โจวหยูที่ถือไมโครโฟนอยู่ในมือ ไม่รู้จะพูดอะไร มองไปที่เหอซือเจียว
วันนี้เธอสวยมาก
แต่คนเยอะเกินไป เขาเลยไม่รู้จะชมเธอยังไง
การร้องเพลงคู่กับเธอ สำหรับเขาแล้ว ไม่ถือว่าเป็นการลงโทษ
พูดตามตรง เขายังคิดอยู่เลยว่า ถ้าตอนเล่นเกมส่งดอกไม้ 'ดอกไม้' ไม่ได้อยู่ในมือเขา แล้วเหอซือเจียวต้องไปร้องเพลงกับคนอื่น...
โชคดีที่พวกนั้นตั้งใจจะแกล้งเขาตั้งแต่แรก
"ฮึ่ม พวกขยะ"
เหอซือเจียวส่งเสียงฮึดฮัดใส่ผู้ชายคนอื่นๆ ก่อนจะหันไปมองโจวหยู แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ฉันอยากร้องเพลงพอดี...นายมีเพลงไหนที่ร้องได้บ้างไหม?"
ฉากนี้ ทำเอาผู้ชายทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์พูดไม่ออก
พวกเรามาแกล้งนะ ไม่ได้มาให้รางวัล
ทำไมต้องทำเป็นใสซื่อแบบนี้... พวกนายต้องการอะไรกันแน่?
"ฉันร้องได้ทุกเพลง...เปิดดนตรีประกอบก็ได้ บางเพลงฉันจำเนื้อร้องไม่ได้" โจวหยูพูด
"โอเค งั้นฉันไปเลือกเพลงก่อน"
ในขณะที่เหอซือเจียวกำลังคิดแบบนั้น เพลงที่เหมาะกับการร้องคู่ก็ดังขึ้นมาบนหน้าจอพร้อมกับเสียงดนตรีนำ
เมื่อเห็นแบบนี้ โจวฟู่ก็รู้ทันทีว่าต้องมีผู้ชายบางคนแอบเล่นตลก แต่เธอก็คิดว่าพวกเขาทำได้ดี ทำได้เยี่ยมมาก
ดังนั้น เธอก็เลยพูดขึ้นมาว่า "เอาเพลงนี้แหละ ฉันชอบเพลงนี้ แล้วก็ร้องง่ายด้วย ทุกคนร้องตามได้~"
"ไม่สิ นี่ นี่ นี่..."
เหอซือเจียวยังตั้งใจจะบอกกับโจวฟู่อยู่เลยว่า พวกเธอจะร่วมมือกันเป็นพันธมิตรเพื่อปกป้องกันและกัน แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาแทงข้างหลังเธอแบบนี้ล่ะ?
"เริ่มแล้วนะ" โจวฟู่เตือน
จากนั้น โจวหยูก็เริ่มร้องท่อนของผู้ชาย "ถ้าเธอไม่รักฉัน ก็คืนหัวใจให้ฉัน เธอใช้ความรักแลกกับช่วงวัยเยาว์ แล้วฉันยังเหลืออะไรอีก..."
หลังจากร้องท่อนของผู้ชายจบ โจวหยูก็มองไปที่เหอซือเจียวด้วยท่าทีอ่อนแอ
ราวกับจะบอกว่า เธอจะร้องก็ได้
ไม่ร้อง ฉันก็ร้องคนเดียวจนจบ
นี่ โจวหยู นายจะทำหน้าเศร้าทำไม?
ฉันเป็นคนที่เล่นไม่ซื่อขนาดนั้นเลยเหรอ?!
"เธอบอกมาสิว่าเพราะอะไร ทั้งหมดมันเป็นความผิดฉัน!"
เหอซือเจียว ที่ไม่เคยอายใครมาก่อน จะยอมเสียหน้าในตอนนี้ได้ยังไง เธอจึงหลับตาลง รวบรวมความกล้า แล้วร้องเพลงออกมาว่า "ต่างก็คิดว่าความรักสวยงามเกินไป ความจริงมันยั่วยวนใจเกินห้าม!"
"คงมีแต่เพลงของ Phoenix Legend เท่านั้นแหละ ที่ทำให้พี่เจียว ยอมรับผิดได้..."
"แต่พวกเขาร้องเพลงกันได้ดีมากเลยนะ ทั้งที่เป็นเพลงเก่าขนาดนี้"
"แล้วโจวหยูนั่น..."
คนอื่นๆก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่า นี่ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นรางวัลต่างหาก
โจวหยู ดูมีความสุขกับการร้องเพลงมาก
คนที่ตั้งใจจะมาดูคนอื่นขายหน้า กลับกลายเป็นตัวตลกเสียเอง โดนเจ้าพวกนอกรีตนี่ ลงโทษซะอย่างนั้น
"รักเธอแบบนี้ นอกจากน้ำตา...จะทำอะไรได้อีก"
หลังจากที่ทั้งคู่ร้องประสานเสียงท่อนสุดท้ายจบลง ก็มองหน้ากัน ก่อนจะหันหน้าหนีไปคนละทาง แล้วส่งไมโครโฟนให้คนข้างๆ
จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่ง
แทบจะพร้อมเพรียงกันเลย
ไม่รู้จะพูดยังไงดี...
แต่มันน่าอาย น่าอายจริงๆ
ตอนนี้เหอซือเจียวรู้สึกแบบนั้น แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าตอนที่ร้องเพลง ถึงแม้จะมีคนอยู่ข้างๆเยอะแยะ บางคนยังส่งเสียงเชียร์ แต่เธอกลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
ในตอนนั้น เธอได้ยินแค่เสียงของเขา...
"ซือเจียว" ในขณะที่ผู้ชายคนข้างๆเริ่มร้องเพลงเดี่ยว เสียงเพลง "Sailor" ก็ดังก้องไปทั่วห้อง โจวหยูหยิบกล่องลูกเต๋าขึ้นมา แล้วถามขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า "เล่นเขย่าลูกเต๋ามั้ย?"
"..."
เหอซือเจียว อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่ามีคนมาจับก้นเธอ
หันกลับไปมอง ก็เห็นโจวฟู่ยิ้มแป้นอยู่
ที่จริง น่าจะเรียกว่า 'ตี' มากกว่า
"งั้น... งั้นเล่นสองตาแล้วกัน แต่ถ้าฉันแพ้ จะไม่ดื่มเบียร์... ดื่มเยอะไม่ได้"
"เอาสิ"
เหอซือเจียวจึงเดินไปนั่งข้างๆโจวหยู แล้วหยิบกล่องลูกเต๋าของตัวเองขึ้นมา
ในตอนที่โจวหยูกำลังเขย่าลูกเต๋าอย่างตั้งอกตั้งใจ เหอซือเจียวก็ยื่นขาไปข้างหน้าเล็กน้อย
แล้วขาอ่อนใต้ชายกระโปรง ก็ค่อยๆเสียดสีกับขาของโจวหยูเบาๆ...
อีกฝ่ายชะงัก แล้วเงยหน้าขึ้นมอง
ส่วนเธอก็กัดริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ...
ในตอนนี้ ใบหน้าแดงก่ำของเธอ มีแต่ความรักใคร่