บทที่ 1068: วิธีขอความช่วยเหลือที่ถูกต้อง
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 1068: วิธีขอความช่วยเหลือที่ถูกต้อง
สมาชิกกลุ่มโจรสลัดร็อคส์ ดีเซเบ็ค มีความหลากหลาย แม้จะไม่ใช่สัตว์ประหลาดทุกคน แต่ก็ล้วนมีความสามารถเฉพาะตัว
สตุชชี่ก็เช่นกัน ในฐานะอดีตสมาชิกกลุ่มโจรสลัดร็อคส์ ดีเซเบ็ค และหนึ่งในสมาชิก MADS เธอก็มีพลังต่อสู้ในระดับหนึ่ง
ในอดีต MADS ต้องเผชิญกับการต่อสู้มากมาย แม้จะพึ่งพาพลังจากภายนอก แต่สมาชิกแต่ละคนก็มีฝีมือไม่น้อย
จนถึงทุกวันนี้ จัดจ์แห่งเจอร์ม่า 66 เวก้าพังค์กับสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ บากี้ที่มีวีเบิ้ล และควีนที่เกือบจะขึ้นเป็นจักรพรรดิ์คนใหม่ พวกเขาล้วนมีพลังต่อสู้เป็นของตัวเอง
แม้แต่ซีซาร์ที่ดูเหมือนจะอ่อนแอที่สุด ก็ยังเป็นผู้ใช้พลังสายพารามีเซีย
วีเบิ้ลไม่ได้มีเวลาดูแลเธอตลอดเวลา การที่สตุชชี่กล้าพาวีเบิ้ลออกมาเพียงลำพัง แน่นอนว่าต้องมีสิ่งที่เธอพึ่งพาได้
วีเบิ้ลดึงความสนใจของมัลโก้กับเอสไป สควาร์ดก็ถูกวีเบิ้ลเล่นงานจนบาดเจ็บ ตอนนี้เขาจึงเป็นจุดอ่อน
สตุชชี่กดปุ่มบนไม้เท้าของเธอ ไม้เท้าธรรมดาๆก็มีใบมีดแหลมคมโผล่ออกมา ร่างเล็กๆของเธอก็หายวับไปจากจุดเดิมด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
แผนของสตุชชี่คือ จับสควาร์ดเป็นตัวประกัน แล้วใช้ความห่วงใยที่กลุ่มโจรสลัดหนวดขาวมีต่อเพื่อน บังคับให้พวกเขาปล่อยเธอและวีเบิ้ลไป แต่เมื่อเอสปรากฏตัวขึ้น สถานการณ์ก็เกินความคาดหมายของเธอ
สควาร์ดไม่ทันได้ตั้งตัว แต่คนอื่นๆสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของเธอ
"นี่ แกจะทำอะไรพวกพ้องของพวกเราน่ะ?"
เปลวไฟสีฟ้าแลบผ่าน มัลโก้ถอนตัวจากการต่อสู้กับวีเบิ้ล มาอยู่ตรงหน้าสตุชชี่ และคว้าไม้เท้าของเธอไว้
ตอนนี้โจสรับหน้าที่ป้องกันหลัก เอสรับหน้าที่โจมตีหลัก ส่วนมัลโก้เป็นเหมือนผู้สังเกตการณ์จากบนฟ้า
เขาจะโจมตีเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แต่ภารกิจหลักของเขาคือ สนับสนุนทุกจุดที่เกิดปัญหา เพื่อไม่ให้เอสกับโจสพลาดท่าจนกู้คืนไม่ได้
แคร็ก!
ปลายไม้เท้าของสตุชชี่หักออกจากกัน ส่วนที่แยกออกมาพุ่งเข้าหาหัวของมัลโก้ราวกับขีปนาวุธขนาดเล็ก แต่หลังจากการระเบิดครั้งใหญ่ บนร่างของมัลโก้ก็มีเพียงเปลวไฟฟื้นฟูเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย
"พลังไม่เลว แต่เสียดาย แกไม่รู้จักพวกเราดีพอ และก็ไม่รู้จักพ่อดีพอด้วย"
แรงระเบิดนั้นรุนแรง แต่การระเบิดแบบธรรมดาไม่อาจส่งผลต่อมัลโก้ที่มีพลังของนกฟีนิกซ์ได้
กรงเล็บของนกฟีนิกซ์ทะลุควันจับตัวสตุชชี่ไว้ สถานการณ์พลิกผันในพริบตา สตุชชี่ที่คิดจะจับสควาร์ดเป็นตัวประกัน กลับกลายเป็นตัวประกันของมัลโก้เสียเอง
ถ้าสตุชชี่มีข้อมูลมากพอ เธอคงไม่เลือกพาวีเบิ้ลออกล่ากลุ่มโจรสลัดหนวดขาวที่เหลืออยู่เพียงลำพัง
ถ้าเธอรู้จักหนวดขาวดีพอ เธอคงเข้าใจว่าหนวดขาวไม่เคยสนใจสมบัติใดๆ และก็ไม่มีมรดกมหาศาลอะไร
เทคโนโลยีของเธอมีพลังก็จริง แต่เธอก็ไม่ได้ฝึกฝนฮาคิให้แข็งแกร่งเหมือนควีน ไม่ได้มีทักษะการต่อสู้แบบจัดจ์ และก็ไม่มีร่างกายที่เป็นพลังธรรมชาติแบบซีซาร์ การที่เธอปรากฏตัวในสนามรบแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย
สุดท้ายเธอก็แก่ตัวลง ไม่มีใครหนีพ้นกาลเวลา
ถ้าเป็นศัตรูทั่วไปก็คงไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้เธอแก่ตัวลงแล้ว ถูกมัลโก้ที่อยู่ในระดับเดียวกับเธอเข้าประชิดตัว จึงดูอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด
"วีเบิ้ล! หยุดเดี๋ยวนี้!"
"แม่?!"
เมื่อเห็นสตุชชี่ถูกมัลโก้จับไว้ วีเบิ้ลก็โยนอาวุธในมือทิ้ง ยอมแพ้โดยไม่มีข้อแม้ แม้จะถูกโจสพุ่งชนเข้าที่อก เขาก็ไม่ตอบโต้ ปล่อยให้ศัตรูจับตัวเขาไว้
ส่วนสตุชชี่ มัลโก้อุดปากและมัดเธอไว้เรียบร้อยแล้ว แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่โซ่ที่ใช้มัดตัวเธอก็เป็นของที่ผลิตโดยกลุ่มร้อยอสูร มีเพียงวาโนะคุนิเท่านั้น ที่มีความสามารถในการตีโซ่ไคโรเซกิที่มีความบริสุทธิ์สูงเช่นนี้
"ไอ้หมอนี่มีพลังขนาดนี้เชียวเหรอ? มัลโก้ เราจะจัดการกับพวกเขายังไงดี?"
พฤติกรรมต่างๆของวีเบิ้ลแสดงให้เห็นว่าสติปัญญาของเขาไม่สมประกอบ แต่ในขณะเดียวกัน ร่างกายของเขากลับมีพลังที่น่าสะพรึงกลัว
"พาตัวกลับไปก่อน"
"พาตัวกลับไป?"
"ใช่ แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่ตอนที่สตุชชี่ยังสาว เธอเคยอยู่บนเรือลำเดียวกับพ่อ เรื่องราวในอดีตของพ่อ แม้แต่ฉันก็ไม่รู้ทั้งหมด รอตรวจสอบให้แน่ใจก่อน ค่อยตัดสินใจอีกที"
ปล่อยไปไม่ได้แน่นอน ด้วยนิสัยโลภมากของสตุชชี่ ถ้าปล่อยเธอไป จะมีแต่ปัญหาเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เธอทำกับวีเบิ้ลมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ง่ายๆ ทางเลือกเดียวคือ พาตัวพวกเขากลับไป แล้วค่อยวางแผนระยะยาว
หัวหน้าหน่วยทั้งสามออกปฏิบัติการพร้อมกัน สตุชชี่ถูกมัลโก้จับได้ก่อน ทำให้วีเบิ้ลหมดกำลังใจจะต่อสู้ ทั้งสองจึงถูกจับกุมตัวและนำกลับไป
ในขณะที่กลุ่มโจรสลัดหนวดขาวที่เหลือกำลังปฏิบัติภารกิจ โจรสลัดกลุ่มอื่นก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ การฆ่าฟัน ปล้นสะดม นี่แหละคือเรื่องปกติ
แม้โลกใหม่จะมีโจรสลัดอยู่มากมาย แต่เมื่อเทียบกับโจรสลัดแล้ว จำนวนพลเรือนยังคงมีมากกว่า โลกใหม่ไม่ได้หยุดการค้าขายเพียงเพราะโจรสลัดชุกชุม
นอกจากพ่อค้าในโลกใต้ดินแล้ว พ่อค้าทั่วไปก็ยังเสี่ยงทำการค้าอยู่
ด้วยแรงดึงดูดของผลประโยชน์ พวกเขามักจะมองข้ามความเสี่ยง
เดินริมแม่น้ำบ่อยๆ ไหนเลยจะไม่เปียกบ้าง พ่อค้าบางคนก็โชคร้ายเจอโจรสลัด ทรัพย์สินถูกปล้น แถมตัวเองยังถูกจับไปเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น เกาะรังผึ้ง ผู้คนจำนวนมากที่ถูกจับมาล้วนถูกขังรวมกันไว้
โจรสลัดบนเกาะรังผึ้งไม่เพียงแต่จะปล้นสินค้าของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังจะรีดไถเงินจากญาติของคนเหล่านี้ด้วย
ถ้าไม่มีเงินค่าไถ่ ก็จะขายคนพวกนี้ให้กับพ่อค้าทาส บีบเค้นเอาคุณค่าสุดท้ายของพวกเขาออกมา
ภายในห้องขังแคบๆ ส่งกลิ่นเหม็นน่าสะอิดสะเอียน กลิ่นเหงื่อ กลิ่นทะเล กลิ่นของเสียต่างๆ ผสมปนเปกันจนหลายคนทนไม่ไหว
แต่ในกลุ่มคนที่แออัดนั้น กลับมีบางส่วนที่ดูเหมือนจะมีพื้นที่กว้างขวางกว่า แม้จะเป็นนักโทษเหมือนกัน แต่คนกลุ่มนี้ยังพอมีวิธีช่วยเหลือตัวเองอยู่บ้าง
โจรสลัดบนเกาะรังผึ้งไม่ได้เป็นโรคหวาดระแวงเหมือนควีน ดังนั้นจึงไม่ได้ยึดหอยทากสื่อสารของคนเหล่านี้ แต่กลับปล่อยให้พวกเขาหาเงินค่าไถ่กันเอง
คนที่ไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่พึ่งพาคนเหล่านี้ ยอมสละพื้นที่อันน้อยนิดที่เหลืออยู่ หวังเอาใจพวกเขา
"ฉันเป็นสมาชิกของประเทศพันธมิตร ฉันต้องการความช่วยเหลือ! พวกแกเป็นทหารเรือแบบไหน? กินภาษีของฉันไปแล้วไม่ทำงานกันรึไง?!"
คนส่วนใหญ่คิดว่าเมื่อถูกโจรสลัดจับ ต้องขอความช่วยเหลือจากทหารเรือ และนั่นก็คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่เลือกทำ แต่ก็มีบางคนที่เลือกทำในสิ่งที่แตกต่าง
"ไอ้โง่ พ่อค้าไม่กี่คนจะไปทำให้ทหารเรือลำบากมาช่วยเหลือได้ยังไง ถ้าทำได้ผลจริง เกาะรังผึ้งคงอยู่มาไม่ได้นานขนาดนี้หรอก"
"ท่านประธาน งั้นพวกเราก็ได้แต่รอเหรอครับ? โจรสลัดพวกนั้นจะปล่อยตัวพวกเราจริงๆเหรอ?"
"จะปล่อยหรือเปล่าฉันไม่รู้ แต่ถ้าจ่ายค่าไถ่ตามที่พวกนั้นเรียก บริษัทของฉันก็เจ๊งพอดี"
โจรสลัดบนเกาะรังผึ้งไม่สนใจชีวิตใคร พวกเขาไม่คิดจะสร้างสัมพันธ์ระยะยาวกับคนที่ถูกปล้น ดังนั้นค่าไถ่จึงสูงมาก พอที่จะทำให้บริษัทหนึ่งขาดสภาพคล่องทางการเงินได้
"ถ้างั้นท่าน..."
"นายยังหนุ่ม จำเอาไว้นะ เวลาขอความช่วยเหลือ อย่าทำตัวหยิ่งยโส อย่าคิดว่าตัวเองสำคัญ แต่ต้องทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกว่านายมีค่า
และอย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว คนที่โทรหาทหารเรือมีเยอะแล้ว พวกเราต้องใช้วิธีอื่น"
พูดจบเขาก็ดึงนามบัตรออกมา กดโทรออกไปยังหมายเลขบนนั้น
"ท่านควีนรึเปล่าครับ? ผมเองครับ ท่านจำผมได้มั้ย? ตอนนั้นผมเคยซื้อผลไม้จากท่าน...
จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร ผมแค่อยากจะบอกท่านว่า บริษัทของเราเพิ่งได้ถั่วแดงคุณภาพสูงมา แต่ผมกำลังมีปัญหาเล็กน้อย ได้ยินมาว่าท่านมีบริการทหารรับจ้าง ตอนนี้ผมต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนครับ"
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_