บทที่ 1: การแต่งงานในฝัน
ถัง เทียนฉี ผล็อยหลับไประหว่างเล่นเกม Marvel
ในความมืดสลัว เขาคล้ายได้ยินเสียงคลิกเมาส์
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาเห็นแบล็ควิโดว์ในชุดแต่งงานสีขาว กำลังยิ้มให้ตัวเองในกระจก เธอดูงดงามเหนือคำบรรยายในชุดเจ้าสาว เสน่ห์ของเธอผสานกับความศักดิ์สิทธิ์ของชุดได้อย่างลงตัว
เทียนฉีมองไปรอบๆ เห็นโบสถ์เต็มไปด้วยผู้คน ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก มีเพียงไม่กี่ใบหน้าของชาวเอเชียแทรกอยู่ประปราย
เสียงอันศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้นบนแท่น: "คุณนาตาชา คุณยินดีที่จะแต่งงานกับชายผู้นี้และรับเขาเป็นสามีของคุณหรือไม่? ไม่ว่าจะยามเจ็บป่วยหรือสุขภาพดี ยากจนหรือร่ำรวย คุณจะจงรักภักดีต่อเขาจนกว่าชีวิตจะหาไม่?"
ใบหน้างดงามของแบล็ควิโดว์เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เธอพยักหน้าเบาๆ: "ฉันยินดี"
บาทหลวงกล่าวต่อ: "คุณถัง เทียนฉี คุณยินดีที่จะแต่งงานกับหญิงผู้นี้และรับเธอเป็นภรรยาของคุณหรือไม่? ไม่ว่าจะยามเจ็บป่วยหรือสุขภาพดี ยากจนหรือร่ำรวย จะรักและปกป้องเธอจนกว่าชีวิตจะหาไม่?"
ถัง เทียนฉี รู้สึกสับสน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
นี่เป็นความฝันหรือเปล่า?
ดูเหมือนว่าฉันจะเล่นเกม Marvel มากเกินไป จนคิดถึงแต่เรื่องพวกนี้ทั้งวันทั้งคืน
เทียนฉีรู้สึกเสมอว่าตัวละครที่น่าสงสารที่สุดใน Marvel คือแบล็ควิโดว์
ชื่อจริงของแบล็ควิโดว์คือ นาตาชา โรมานอฟฟ์ ตามการกำหนดในหนังสือการ์ตูน เธอเกิดในประเทศที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ในปี 1928 อายุน้อยกว่ากัปตันอเมริกาเพียง 8 ปี
ร่างกายของเธอถูกดัดแปลงโดยองค์กรลับที่มีชื่อเสียง เรดรูม ซึ่งชะลอการแก่ตัวของเธอลงอย่างมาก ทำให้แม้จะผ่านไปหลายทศวรรษจนถึงศตวรรษที่ 21 รูปลักษณ์ของเธอก็ยังคงเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ในภาพยนตร์ "Black Widow" ระบุชัดเจนว่าเธอเกิดในยุค 20 และมีอายุปกติ
ส่วนประสบการณ์อื่นๆ ก็คล้ายคลึงกัน
เธอถูกฝึกฝนอย่างโหดร้ายโดยเรดรูมตั้งแต่เด็ก วิธีการอันไร้ความปรานีทำให้เธอมีชื่อเสียงในโลกของสายลับ แต่ความงามของเธอทำให้ผู้ชายไม่อาจต้านทาน หากพลั้งเผลอ พวกเขาจะสูญเสียชีวิตในความงามของเธอ
เหมือนแมงมุมตัวเมียที่จะกินตัวผู้หลังจากออกลูก เธอโหดเหี้ยมจนได้รับฉายา "แมงมุมแม่ม่ายดำ" - แมงมุมที่มีพิษร้ายที่สุด
ไม่มีผู้หญิงปกติคนไหนอยากได้ฉายาน่ากลัวแบบ "แบล็ควิโดว์"
ที่จริงนาตาชาไม่เคยเรียกตัวเองว่า "แบล็ควิโดว์" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ชอบรหัสเรียกขานนี้
ที่แย่ยิ่งกว่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้สายลับหญิงถูกศัตรูยุยงให้กบฏ "เรดรูม" จึงผ่าตัดมดลูกของเธอออก ทำให้เธอไม่สามารถมีลูกได้
นับแต่นั้นมา ไม่ว่าจะอยู่ในองค์กร "เรดรูม" หรือภายหลังเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. หรือ Avengers เธอก็ได้แต่เป็นนักฆ่าที่มีเสน่ห์ดึงดูด แต่ไร้ซึ่งความสุขส่วนตัว
ในบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ของ Avengers เธอและฮอว์คอายมีพลังต่ำที่สุด ทั้งคู่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษ พวกเขาคือขีดจำกัดสูงสุดของคนธรรมดา และเป็นขีดจำกัดต่ำสุดของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่!
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูต่างดาวที่ทรงพลัง ซูเปอร์ฮีโร่ชายทั้งหมดต่างตื่นเต้นและตะโกนว่า "การแสดงกำลังจะเริ่มแล้ว..."
มีเพียงเธอเท่านั้น ที่มีความกลัวและความเหงาแฝงอยู่ในดวงตา พูดว่า "ฉัน...ฉันไม่เห็นว่ามันสนุกตรงไหน?"
น่าเสียดายที่ในโลกของซูเปอร์ฮีโร่ ไม่มีใครได้ยินคำพูดของเธอ และไม่มีใครใส่ใจ
สุดท้ายใน "Avengers 4" เธอสละชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งอัญมณีวิญญาณเพื่อส่วนรวม
ผู้ที่ไว้อาลัยให้เธอมีทั้งเพื่อนร่วมรบ เพื่อนร่วมงาน และมิตรสหาย แต่ไม่มีคนรักหรือลูกๆ
อาจกล่าวได้ว่าแบล็ควิโดว์ดูสวยงามตราตรึงใจและเป็นที่หลงใหลของทุกคน แต่แท้จริงแล้วเธอคือผู้ที่เหงาและน่าสงสารที่สุด
"เอ่อ... คุณถัง เทียนฉี คุณยินดีหรือเปล่า?" บาทหลวงเตือน
แบล็ควิโดว์มองด้วยสีหน้างุนงง
เทียนฉีรวบรวมสติและพูดว่า: "ฉันยินดี ฉันยินดีครับ ฉันแค่ไม่อยากเชื่อว่าพระเจ้าจะโปรดปรานฉันมากขนาดนี้ ฉัน ถัง เทียนฉี ขอสาบานต่อจักรวาลว่าจะปกป้องคุณด้วยชีวิต เพื่อที่คุณจะไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไป จะไม่มีศัตรูคนไหนทำร้ายคุณได้อีก และไม่ว่าความจริงจะโหดร้ายแค่ไหน ฉันยินดีที่จะฝ่าฟันทุกอุปสรรค มีลูกด้วยกัน และเลี้ยงดูพวกเขาให้เติบโต"
หัวใจของแบล็ควิโดว์สั่นสะท้าน คำพูดของถัง เทียนฉี กระทบจุดอ่อนในจิตวิญญาณของเธอโดยตรง!
ในขณะนั้น แบล็ควิโดว์รู้สึกตกใจเล็กน้อย เขารู้ที่มาของเธอหรอ? เขาตั้งใจพูดแบบนี้เพื่อยั่วเธอหรือเปล่า?
ตามข้อมูลที่มี มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น ประวัติของถัง เทียนฉี เรียบง่ายมาก
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าถัง เทียนฉี จะเป็นสายลับศัตรู เขาก็ไม่มีทางรู้ความปรารถนาลึกๆ ในใจของเธอได้ แม้แต่ฟิวรี่ ผู้อำนวยการ SHIELD ยังไม่รู้เลย แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไร?!
แบล็ควิโดว์ใช้ชีวิตอย่างเดียวดาย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเป็นใคร รู้เพียงจากคำพูดของนายพลในเรดรูมว่าพวกเขาตายแล้ว และแม้แต่หลุมศพก็ยังหาไม่เจอ
คนที่ทำงานในสายอาชีพของพวกเขาไม่สามารถมีครอบครัว มีเพื่อน หรือมีลูกได้ ความเชื่อที่เคยปลูกฝังล้มครืนพร้อมกับการล่มสลายของจักรวรรดิเก่า
ไม่รู้ว่ามาจากไหนหรือจะไปที่ใด เธอรู้สึกสิ้นหวังและขาดความรู้สึกเป็นเจ้าของอย่างที่สุด
จนกระทั่งเธอทรยศต่อเรดรูม และได้ลงหลักปักฐานที่ SHIELD
และเหตุผลที่เธอตั้งรกรากที่นั่นก็ง่ายมาก เธอเคยพูดกับซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ หลายครั้งว่า: "ที่นี่คือบ้านของฉัน และพวกคุณเหมือนครอบครัวของฉัน"
ความปรารถนาที่ลึกที่สุดของเธอคือการมีบ้านที่เธอสามารถใช้ชีวิตที่ระหกระเหินของเธอได้
น่าเสียดายที่อาชีพของเธอทำให้เธอไม่สามารถมีครอบครัวเหมือนคนธรรมดาได้ เธอกลัวด้วยซ้ำว่าชายที่เธอตกหลุมรักจะเห็นร่างกายที่มีบาดแผลของเธอเมื่อกลับบ้าน
"บัดนี้ ในนามของพระเจ้า ข้าขอประกาศว่าทั้งสองเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการ!" บาทหลวงประกาศ
"ปรบมือ ปรบมือ ปรบมือ..." เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างร่าเริง
เมื่อเห็นว่าถัง เทียนฉี ยังคงดูเหม่อลอยอยู่ บาทหลวงจำเป็นต้องเตือนว่า: "ตอนนี้ คุณสามารถจูบภรรยาของคุณได้แล้ว"
จากนั้น... ทั้งคู่ก็จูบกันยาวนานจนแทบขาดอากาศหายใจ...
ในความสุขที่ดูเหมือนจริงและเหมือนฝันนี้ ทั้งสองร่วมชนแก้วกับผู้อาวุโส ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงในหมู่แขก
แต่แบล็ควิโดว์ไม่ได้ลืมภารกิจของเธอ
ทั้งคู่เข้าไปชนแก้วกับผู้อาวุโสท่านหนึ่ง ชายชาวตะวันตกผู้นี้มีดวงตาสีฟ้า จมูกโด่งเหมือนนกอินทรี และดวงตาของเขาดูคมกริบราวกับสายฟ้า อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับถัง เทียนฉี และแบล็ควิโดว์ ใบหน้าของเขาแสดงความเมตตาของผู้อาวุโสอย่างที่ไม่ค่อยเห็น
แต่เขายังคงระมัดระวังมาก ดื่มเฉพาะไวน์ที่ลูกน้องส่งให้ ไม่แตะต้องไวน์ที่พนักงานเสิร์ฟนำมา
เขานำขวดไวน์และแก้วมาเอง ซึ่งดูไม่เข้ากับสไตล์ของงานแต่งงาน แค่มองก็รู้ว่าราคาแพงมาก
น่าเสียดายที่เขาต้องเจอกับแบล็ควิโดว์!
ขณะที่ชนแก้วอวยพร ผงละเอียดที่แทบมองไม่เห็นจากใต้เล็บของแบล็ควิโดว์ลอยเข้าไปในแก้วของอีกฝ่าย
หลังจากรับพรจากผู้อาวุโสในที่นั่ง พวกเขาก็ดื่มรวดเดียวจนหมด
แบล็ควิโดว์ปฏิบัติภารกิจมามากมายในชีวิต ทั้งถูกและผิด บางครั้งถึงขั้นฆาตกรรม แต่เธอไม่เคยแสดงความเมตตา
คราวนี้ เธอจู่ๆ ก็รู้สึกกังวลและอดไม่ได้ที่จะมองเทียนฉีอย่างพินิจ
ถ้า "สามี" ของฉันรู้ว่าฉันกำลังใช้เขาอยู่ เขาจะรู้สึกอย่างไร?
ต่อไป คือห้องหอ!
คืนนั้นช่างอบอุ่น
เทียนฉีมีพละกำลังที่ดีมาก...
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงแบล็ควิโดว์ เพราะพละกำลังของเธอยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ...
และเตียงก็แข็งแรงมาก ไม่พังแม้จะผ่านไปทั้งคืน...
วันรุ่งขึ้น ถัง เทียนฉี ตื่นขึ้นอย่างเงียบๆ
เมื่อเห็นห้องนอนสไตล์ตะวันตกนี้และความทรงจำที่ยังหลงเหลืออยู่ในใจ ในที่สุดเขาก็ยืนยันได้ว่าเขาไม่ได้ฝัน แต่ได้ข้ามโลกมา!
