ตอนที่ 697 นี่มันการโจมตีข้ามมิติชัดๆ!
เสวี่ย ไฉคัง และเพื่อนอีกสองคนยังคงนั่งอึ้งอยู่กับที่
พวกเขาที่ใช้โปรแกรมโกง กลับโดนอีกฝ่าย ‘ยำเละ’ เป็นครั้งที่สอง?
โลกนี้มันเป็นอะไรไปแล้ว?
พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีใครสักคนที่ไม่ใช่เกมเมอร์ระดับโลก สามารถ 1v3 เอาชนะคนใช้โปรแกรมโกงถึงสามคนได้
สิ่งนี้.. มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย!
โปรแกรมโกงที่พวกเขาใช้นั้น ทำให้พวกเขาเอาชนะคนรู้จักมาแล้วมากมาย รวมถึงผู้เล่นมืออาชีพบางคนที่เล่นเกมอื่นด้วย
แต่ตอนนี้ พวกเขากลับแพ้ให้กับชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่ง มันน่าอายจนพูดอะไรไม่ออก...
“นายทำได้ยังไง?”
เสวี่ย ไฉคัง คิดจนหัวแทบแตกแต่ก็ยังคิดไม่ออก สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม เย่เฉิน
ถ้าไม่ได้คำตอบ เขาคงนอนไม่หลับไปทั้งเดือน
“นายยอมรับว่าใช้โปรแกรมโกงหรือเปล่าล่ะ?”
เย่เฉิน ไม่ได้ตอบคำถามตรงๆ แต่ถามกลับแทน
ในความเป็นจริง เย่เฉิน ไม่ได้มีทักษะอีสปอร์ตระดับโลกที่ได้จากเกม และที่เขาสามารถเอาชนะพวกโกงได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะเขาเคยเล่นเกมนี้มาก่อน
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ... เย่เฉิน มี ‘เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ’ ที่เขาใช้ก่อนเริ่มเกม
เมื่อได้ยินคำถามของ เย่เฉิน เถียน ปั๋วเฟิง รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดโหมดบันทึกวิดีโอแล้วเล็งกล้องไปที่ เสวี่ย ไฉคัง และเพื่อนๆ เพื่อเก็บหลักฐานไว้ก่อน
เสวี่ย ไฉคัง และพวกหันมามองหน้ากัน
พวกเขาเข้าใจดีว่า ถ้าไม่พูดความจริง เย่เฉิน ก็คงไม่ยอมบอกคำตอบให้พวกเขาฟัง
สุดท้าย เสวี่ย ไฉคัง ก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วพยักหน้าก่อนพูดไปว่า :
“ใช่ เราใช้โปรแกรมโกง”
“เสวี่ย ไฉคัง! พวกนายมันไร้ยางอายจริงๆ!”
“ตอนนี้ก็ยอมรับแล้วสินะ!”
เถียน ปั๋วเฟิง กับเพื่อนๆ ตะโกนด่าด้วยความโมโห
สำหรับพวกเขา การเล่นเกมนั้นควรใช้ฝีมือ ไม่ใช่พึ่งโปรแกรมโกง ซึ่งมันน่าอับอายมาก
“ตอนนี้ นายบอกเราได้แล้วใช่ไหมว่าทำไมนายถึงชนะพวกเราได้?”
เสวี่ย ไฉคัง ไม่สนใจคำด่า แต่หันไปถาม เย่เฉิน
“‘Doomsday is Coming’ เป็นเกมที่บริษัทของฉันพัฒนาขึ้นมา ฉันใช้บัญชีภายใน ซึ่งแตกต่างจากบัญชีทั่วไป”
เย่เฉิน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ปกติเขาก็เล่นเกมนี้ผ่านบัญชีธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
แต่เมื่อกี้ เพื่อสั่งสอน เสวี่ย ไฉคัง เขาขอบัญชีพิเศษจากบริษัท ฟิวเจอร์ เกมของเขามาใช้
“‘Doomsday is Coming’ เป็นเกมของบริษัทนาย?!!”
เสวี่ย ไฉคัง เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
เพื่อนอีกสองคนของเขาก็เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ พวกเขาพยายามเดาว่าทำไม เย่เฉิน ถึงสามารถเอาชนะพวกเขาได้
บางทีอาจเพราะฝีมือระดับเทพ หรือบางทีอาจใช้โปรแกรมโกงที่เหนือกว่า
แต่คำตอบของ เย่เฉิน กลับทำให้พวกเขาช็อกยิ่งกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้เสียอีก
นี่……
พวกเขาทั้งสามรู้สึกสับสน
นี่มันการโจมตีข้ามมิติชัดๆ! (เหนือชั้น /ใช้เทคโนโลยีที่เหนือกว่า)
ใครจะไปคิดว่า ในขณะที่พวกเขาใช้โปรแกรมโกงของเกม คนที่พวกเขากำลังเล่นด้วยกลับเป็น ‘ผู้พัฒนาเกม’ ซะเอง
โปรแกรมโกงของพวกเขาจะไปเทียบกับตัวเกมที่สร้างโดยบริษัทของ เย่เฉิน ได้อย่างไร?
“พี่เฉิน เป็นเจ้าของเกม ‘Doomsday is Coming’ เหรอ?!”
“พี่เฉิน สุดยอดไปเลย!”
“เทพชัดๆ!”
เถียน ปั๋วเฟิง และว่าน จวิ้นอิง ก็ตกใจไม่แพ้กัน ตอนนี้พวกเขามอง เย่เฉิน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใส
“พวกเรายอมแพ้แล้ว ยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งเลย”
เสวี่ย ไฉคัง ถอนหายใจยาว
ในเมื่อเกมเป็นของอีกฝ่าย ต่อให้พวกเขาใช้โปรแกรมโกงอย่างไร ..ก็ไม่มีทางชนะ
“แล้วพวกนายจะรออะไรอีก?”
ว่าน จวิ้นอิง พูดขึ้นพร้อมกับมอง เสวี่ย ไฉคัง และเพื่อนๆ ด้วยแววตากดดัน
เสวี่ย ไฉคัง และพวกสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
เมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ ถ้าจะไม่พูดก็คงไม่ได้แล้ว
“พ่อครับ…”
“พ่อครับ…”
“พ่อครับ…”
…………
พวก เสวี่ย ไฉคัง เริ่มเรียก เย่เฉิน ว่า ‘พ่อ’ ก่อน จากนั้นจึงหันไปเรียก เถียน ปั๋วเฟิง และพวกอีกที
ภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงสะท้อนของคำว่า ‘พ่อ’ ดังขึ้น
“โอ้ ลูกชายคนดีของฉัน”
“ลูกชายที่รัก สวัสดีๆ”
“คำเรียกนี้มันช่าง.. ไพเราะอะไรขนาดนี้ หวัดดีๆ ลูกชายคนเก่ง”
หลังจากถูก เสวี่ย ไฉคัง ล้อเลียนอย่างหนักมาก่อนหน้านี้ ในที่สุด เถียน ปั๋วเฟิง ก็ได้โอกาสเอาคืนบ้าง
ด้านข้าง ว่าน จวิ้นอิง เองก็ไม่พลาดที่จะหัวเราะรับ แม้ เสวี่ย ไฉคัง จะไม่ได้เรียกเขาโดยตรง แต่ใครจะไม่อยากได้โอกาสแบบนี้ล่ะ?
หลังจากเรียกเสร็จ พวก เสวี่ย ไฉคัง ก็หันไปมอง เย่เฉิน ด้วยสายตาที่ซับซ้อน ก่อนจะทำท่าจะเดินออกจากห้อง
“ใครบอกว่านายไปได้?”
ทันใดนั้นเสียงเข้มๆ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้..ดังขึ้น
ทุกคนหันกลับไปมองที่ เย่เฉิน อีกครั้ง
“พวกเราเรียกแล้ว นายยังต้องการอะไรอีก?”
เสวี่ย ไฉคัง พูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด
“เรื่องพนันจบไปแล้วก็จริง แต่ฉันยังมีคำถามอยากถามนาย”
“นายได้โปรแกรมโกงมาจากไหน?”
เย่เฉิน ถามอย่างตรงไปตรงมา
นี่คือประเด็นสำคัญที่สุด
โปรแกรมโกงเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อเกม หาก เย่เฉิน เจอปัญหานี้แล้ว เขาจะต้องจัดการที่ต้นตอให้สิ้นซาก
ไม่อย่างนั้น เกมแรกที่บริษัทเขาตั้งใจพัฒนามาอย่างยากลำบาก จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
เกม ‘Doomsday is Coming’ มีความหมายสำคัญต่อเขา
การที่โปรแกรมโกงโผล่มาได้ในเวลาอันสั้นหลังเกมเปิดตัว ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
“เรื่องนี้ฉันบอกนายไม่ได้”
เสวี่ย ไฉคัง ส่ายหน้า แหล่งที่มาของโปรแกรมโกงนี้เป็นเรื่องที่เขาปกปิดมาตลอด มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะพูดง่ายๆ
“งั้นนายก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไป”
“ฉันไม่ได้ถามเพื่อขอความคิดเห็น”
สายตาของ เย่เฉิน เริ่มเย็นยะเยือกขึ้น คำพูดของเขาไม่มีช่องให้ต่อรอง
เมื่อเห็นแบบนี้ ว่าน จวิ้นอิง และเถียน ปั๋วเฟิง ก็รีบปิดประตูห้องไว้ทันที พร้อมทั้งจ้อง เสวี่ย ไฉคัง และพวกด้วยสายตาเย็นชา
“ถ้า พี่เฉิน พูดแล้ว พวกนายจะไม่มีทางออกไปได้แน่นอน..”
เสวี่ย ไฉคัง กลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดกลัว
สายตาเยือกเย็น และพลังอำนาจที่แผ่ซ่านออกมาจาก เย่เฉิน ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญกับบุคคลระดับสูงที่น่ากลัว
เมื่อคิดได้ว่า เย่เฉิน เป็นเจ้าของบริษัทเกมในวัยที่ยังหนุ่มแน่นเช่นนี้ เสวี่ย ไฉคัง ตระหนักได้ทันทีว่าเบื้องหลังของ เย่เฉิน ต้องไม่ธรรมดา
ยิ่งไปกว่านั้น คนของ เย่เฉิน ก็มากกว่าเขา
คนที่รู้สถานการณ์ปัจจุบันคือคนฉลาด เมื่อตระหนักได้ถึงสถานการณ์ เขาจึงตัดสินใจพูดความจริงออกมาในที่สุด
ปรากฏว่า โปรแกรมโกงนี้เขาซื้อจากคุณชายคนหนึ่งในเมืองเย่ว์เฉิงที่ชื่อ จ้าว จื้อหยาง
โปรแกรมโกงเป็นธุรกิจที่ทำกำไรสูงมาก
เพื่อทำเงิน จ้าว จื้อหยาง ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากทั่วประเทศ มารวมตัวกันในทีมลับๆ เพื่อพัฒนาโปรแกรมโกงโดยเฉพาะ
หลายปีมานี้ จ้าว จื้อหยาง ทำเงินได้มหาศาลจากการขายโปรแกรมโกง จนทำให้คนรอบข้างเขาอิจฉา
และเพราะตระกูลของ จ้าว จื้อหยาง มีอิทธิพลมาก จึงไม่มีใครกล้าแตะต้องเขาจนถึงตอนนี้
“พี่เฉินครับ ตอนนี้พวกเราขอไปได้หรือยัง?”
หลังจากบอกที่มาของโปรแกรมโกง เสวี่ย ไฉคัง ก็ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ได้ นายยังต้องตอบคำถามของฉันอีกหลายข้อ”
เย่เฉิน ส่ายหน้า และพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น