ช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 13 ถูกแช่แข็ง

ช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 13 ถูกแช่แข็ง

คริสซิเลียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

ในขณะที่ซูเฉินเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เสียงเคาะประตูของเธอก็ดังขึ้นจากด้านนอก “ท่านซูเฉินผู้ยิ่งใหญ่ ยาฟื้นฟูที่ท่านต้องการ ฉันนำมาให้ท่านแล้ว”

“ตอนนี้สะดวกให้เข้าไปไหมคะ?”

“เข้ามาเถอะ”

เขาถอดอุปกรณ์และปิดฉายา ก่อนจะตอบรับ

สาวใช้ผมยาวสีฟ้าครามเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ โค้งคำนับเล็กน้อย ก่อนจะยื่นกล่องสีเงินเทาที่มีลวดลายเส้นสีแดงและน้ำเงินสลับกันให้ “กล่องยาวิเศษนี้ ท่านหยวนเอ๋อร์เตรียมไว้ให้ศิษย์ในอนาคตของเธอล่วงหน้าแล้ว ข้างในมียาฟื้นฟูพลังเวทขนาดเล็ก 20,000 ขวด ยาฟื้นฟูพลังชีวิตขนาดเล็ก 20,000 ขวด ขนาดกลางและขนาดใหญ่อย่างละ 10,000 ขวด ตอนนี้น่าจะพอให้ท่านใช้แล้วค่ะ”

ของที่ให้มาทีเป็นหมื่นขวด สมกับเป็นจูหยวนเอ๋อร์จริง ๆ

“ขอบคุณมาก”

ซูเฉินกล่าวขอบคุณ รับกล่องมาแล้วใส่ลงในกระเป๋า

กล่องยาวิเศษเองก็เป็นไอเทมสำหรับเก็บของ แต่เก็บได้เฉพาะยาฟื้นฟู

นั่นหมายความว่า มันน่าจะถูก[เพิ่มพลังร้อยเท่า]ได้?

ถ้าเพิ่มพลังทีเดียว ก็น่าจะดีกว่าเห็นข้อความแจ้งเตือนการเพิ่มพลังเต็มไปหมดจนตาลาย...

“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ นี่คือหน้าที่ของฉัน” คริสซิเลียโค้งคำนับอีกครั้ง ประสานมือไว้ “ถ้าอย่างนั้น ท่านเลือกโลกที่ท่านจะไปได้หรือยังคะ?”

“ได้แล้ว” ซูเฉินชี้ให้เธอดู

สีหน้าของคริสซิเลียดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย หลังจากตรวจสอบข้อมูลครู่หนึ่ง เธอก็พูดว่า “โลกแฟนตาซีที่มีสัตว์ประหลาดระดับสูงสุด 20... สัตว์ประหลาดที่กระจายอยู่มีสไลม์ กระต่ายเขาเดียว และสิ่งมีชีวิตอันเดด... จุดกระจายตัวค่อนข้างหนาแน่น... แต่ก็ไม่เป็นไร”

“อืม ฉันจะยืนยันอีกครั้ง ท่านจะไม่เปลี่ยนใจแล้วใช่ไหมคะ?”

น้ำเสียงของสาวใช้สูงโปร่งดูสงบนิ่ง

ซูเฉินพยักหน้า

คริสซิเลียไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่โค้งคำนับเล็กน้อย “เชิญตามฉันมาค่ะ”

——

สี่พันปีก่อน เมื่อช่องมิติแรกเปิดออกบนพื้นผิวโลก ศัตรูต่างโลกจำนวนมากก็เดินออกมาจากมัน

และในวันนั้น มหาเจตจำนงก็ปรากฏตัวขึ้น

ยุคแห่งข้อมูลของผู้ครอบครองอาชีพมนุษย์จึงได้เริ่มต้นขึ้น

แม้ว่าจะได้รับข้อมูลสำคัญจากมหาเจตจำนงว่า “ตราบใดที่ควบคุมช่องมิติได้ ก็สามารถควบคุมการปรากฏตัวของศัตรูต่างโลกได้”

แต่ในตอนนั้น ผู้ครอบครองอาชีพก็ยังลำบากในการรับมือกับศัตรูต่างโลกที่อยู่ตรงหน้า แล้วจะไปควบคุมช่องมิติได้อย่างไร?

มีเพียงการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายครั้งแล้วครั้งเล่า

และตอนนี้

สหพันธ์ได้เปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นการรุกคืบศัตรูต่างโลก

ยิ่งไปกว่านั้น ยังควบคุมช่องมิติได้มากมาย และภายใต้การสำรวจและรวบรวมของผู้ครอบครองอาชีพที่แข็งแกร่ง ตำแหน่งที่กระจัดกระจายเหล่านี้ ซึ่งเป็นตัวแทนของโลกที่สมบูรณ์ ก็ถูกจัดประเภทตามระดับความยาก และวางไว้ในสนามทดสอบของสาขาสหพันธ์ต่างๆ

และโลกที่ซูเฉินเลือก

อยู่ภายใต้การควบคุมของสาขาสหพันธ์มณฑลเป่ยเสวียน

ผ่านค่ายกลเวทมนตร์ที่มีอยู่ในบ้านต้นไม้

หลังจากมาถึงสนามทดสอบของสาขาสหพันธ์มณฑลเป่ยเสวียน คริสซิเลียก็นำทาง ซูเฉินเดินตามไปพลางสำรวจสนามทดสอบที่เคยเห็นในวิดีโอออนไลน์

ระหว่างทาง อาจเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเธอโดดเด่นเกินไป หรืออาจเป็นเพราะปัจจัยอื่น ๆ

ซูเฉินจึงได้รับความสนใจจากหลายสายตา

และที่ทางเข้าช่องมิติหลายแห่ง

ชายร่างสูงใหญ่ สวมชุดเกราะหนัก สะพายกระบี่ฟันฉลามขนาดใหญ่ กำลังยืนอยู่ที่นั่น

คริสซิเลียที่นำทาง หยุดเดิน

ชายคนนั้นก็โค้งคำนับ “ท่านคริสซิเลียผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”

“ไม่ได้ทักทายกันนานเลยเช่นกัน” คริสซิเลียพูดอย่างใจเย็น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะหลีกทาง จึงพูดอย่างแผ่วเบาว่า “มีอะไรอย่างอื่นอีกไหม?”

“มี” ชายคนนั้นตอบอย่างรวดเร็ว ดวงตาที่เฉียบคมจ้องมองซูเฉินที่อยู่ด้านหลังคริสซิเลีย “นี่คือศิษย์คนใหม่ของท่านจูหยวนเอ๋อร์ ลอร์ดแห่งเอลฟ์เหรอ? ได้ยินมาว่าเป็นผู้ครอบครองอาชีพเอกลักษณ์...”

“คุยกันแค่นี้พอ” คริสซิเลียขัดจังหวะเขาอย่างเย็นชา โดยไม่สนใจมารยาท “เรามีธุระ”

“พวกเธอเลือกโลกไหน? ผมขอเป็นผู้คุ้มกันให้ก็ได้” ชายคนนั้นยังไม่ถอย แต่กลับเปลี่ยนเรื่อง

“ขอบคุณสำหรับความหวังดี” คริสซิเลียมองเขาอย่างใจเย็น ดวงตาสีทองค่อย ๆ แคบลง “แต่ไม่จำเป็น”

บรรยากาศที่ตึงเครียดระหว่างทั้งสอง ทำให้พื้นที่โดยรอบว่างเปล่าในทันที

“นั่นไม่ใช่ผู้บัญชาการใหญ่ฉินเจิงแห่งสาขาสหพันธ์มณฑลเป่ยเสวียนของเราเหรอ? ใครกันที่กล้าเผชิญหน้ากับเขา?”

“สวยจังเลย ดูคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่จำไม่ได้...”

“เมื่อกี้เหมือนได้ยินว่าผู้บัญชาการใหญ่ฉินพูดถึงท่านจูหยวนเอ๋อร์ ลอร์ดแห่งเอลฟ์?”

“พระเจ้า ทั้งสองคนจะสู้กันในสนามทดสอบนี่เหรอ?”

“ผู้บัญชาการใหญ่ฉินเป็นนักรบคลั่งโลหิตระดับ 90 เชียวนะ ถ้าสู้กันจริง ๆ คงจะวุ่นวายน่าดู”

“แล้วคนที่อยู่ข้างหลังผู้หญิงคนนั้นคือใคร? ดูเหมือนจะอายุยังไม่มาก?”

เสียงกระซิบที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ความอยากรู้อยากเห็น และความกลัว ดังมาจากผู้ครอบครองอาชีพรอบข้าง

ซูเฉินมองชายตรงหน้าด้วยความสงสัย

เขารู้ว่าอีกฝ่ายคือผู้บัญชาการใหญ่ฉินเจิงแห่งเป่ยเสวียน นักรบคลั่งโลหิตระดับ 90

แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมาขวางทางและเสนอตัวเป็นผู้คุ้มกันให้เขา?

ถ้าบอกว่าเป็นการแสดงไมตรี ด้วยชื่อเสียงของอาชีพเอกลักษณ์ก็สมเหตุสมผล แต่ทำไมบรรยากาศถึงตึงเครียดขนาดนี้...

“แปลกจริง ๆ”

ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ซูเฉินจึงเลิกคิด และเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไป

“สหพันธ์ไม่ได้มีคนแบบนี้มานานแล้ว” ฉินเจิงพูดอย่างมีเลศนัย “ฉันคิดว่า...”

ตู้ม!

ลมหายใจที่เย็นยะเยือกราวกับมาจากดินแดนน้ำแข็งนิรันดร์ พัดผ่านมาอย่างรวดเร็ว แช่แข็งฉินเจิงให้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งในพริบตา

“ความคิดของแก ไม่เกี่ยวกับท่านหยวนเอ๋อร์และท่านซูเฉินแม้แต่น้อย” น้ำเสียงของคริสซิเลียเย็นชา “นักรบคลั่งโลหิตระดับ 90 อย่าทำตัวอวดดีเกินไป”

นักรบคลั่งโลหิตระดับ 90 อย่าทำตัวอวดดีเกินไป...

พูดได้สุดยอดมาก

ซูเฉินมองฉินเจิงที่ถูกแช่แข็งอยู่กับที่โดยไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง แล้วมองไปที่คริสซิเลีย สาวใช้คนนี้หันกลับมา น้ำเสียงกลับมาสงบเหมือนเดิม “ไปกันเถอะ ท่านซูเฉินผู้ยิ่งใหญ่”

“ครับ” ซูเฉินพยักหน้า ระหว่างเดินผ่านก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ เขามองมันอีกครั้ง

ผ่านชั้นน้ำแข็งที่ดูไม่หนามากนัก เขาเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงอยู่ในท่าทางและสีหน้าเดิมขณะที่กำลังพูด ราวกับว่าไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองถูกแช่แข็ง

“สามารถจัดการฉินเจิง ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเป่ยเสวียนได้ในพริบตา ระดับของคริสซิเลียน่าจะอยู่ที่ 100 ใช่ไหมนะ?”

ซูเฉินคาดเดา จากนั้นก็สังเกตเห็นว่าทุกอย่างรอบสนามทดสอบเงียบลง

ผู้ครอบครองอาชีพทุกคนจ้องมองฉินเจิงที่ถูกแช่แข็งด้วยความตกตะลึง

ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ