ตอนที่แล้วก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 48 ทูตแห่งเหยียนสุ่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 50 จินหยวนเจิ้งผู้โง่เขลา

ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 49 มดปลวก


ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 49 มดปลวก

สิ้นเสียง

ประตูก็ถูกผลักเปิดออกอย่างกะทันหัน

ชายหนุ่มรูปงามสวมชุดขาวเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า

ชายหนุ่มผู้นี้มีออร่าลึกลับแผ่กระจายออกมาจากทั่วทั้งร่าง

หยางเว่ยเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจเยี่ยหมิง คิ้วขมวดมุ่น หันไปทางสวี่หยาเซิง “ท่านสวี่ นี่หรือกฎของราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนของพวกท่าน ปล่อยให้ผู้ใดก็ไม่รู้เข้ามาได้”

ทว่าสวี่หยาเซิงกลับไม่สนใจคำพูดของหยางเว่ย

ซวนหลวนเทียนและสวี่หยาเซิงป้องมือคารวะเยี่ยหมิง “ขอคารวะท่านเจ้าศาลา”

ได้ยินเช่นนั้น หยางเว่ยตกตะลึง!

เขาย่อมรู้ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ควบคุมราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนคือศาลาสังหารโลหิต

เขาได้เตรียมคำพูดต่อไปเอาไว้แล้ว

เพียงแค่สวี่หยาเซิงยอมเข้าร่วมราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยก็จะช่วยเขากวาดล้างศาลาสังหารโลหิต ปลดปล่อยตนเองจากการเป็นหุ่นเชิด

แต่ไม่คิดว่าเจ้าของศาลาสังหารโลหิตจะปรากฏตัวขึ้น

ในขณะเดียวกัน หยางเว่ยเห็นเยี่ยหมิงก็ตกตะลึง

เจ้าศาลาแห่งศาลาสังหารโลหิตผู้นี้ ในตำนานกล่าวขานว่าลึกลับยากหยั่งถึง มีระดับตบะอันล้ำลึก

กลับเป็นชายหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่าเขา!

ไม่นานนัก หยางเว่ยก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว

มองไปยังเยี่ยหมิง กล่าวว่า “ฝ่าบาทเคยกล่าวไว้ หากท่านผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้ยอมเข้าร่วมราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย ฝ่าบาทจะไม่หวงสิ่งใด”

เยี่ยหมิงกล่าวกับตนเอง “แปลกยิ่งนัก เหตุใดจึงมีเสียงยุงอยู่ข้าง ๆ”

หยางเว่ยแม้ว่าภายในใจจะโกรธแค้น แต่ก็ยังคงอดกลั้นเอาไว้

ชายหนุ่มชุดขาวเบื้องหน้าผู้นี้ มีผู้แข็งแกร่งระดับบำรุงจิตคอยรับใช้ หากสามารถดึงเขามาเข้าร่วมราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยได้

ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยก็จะมีผู้แข็งแกร่งระดับบำรุงจิตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน

ความดีความชอบนี้มากพอที่จะทำให้เขาร่ำรวยและมีอำนาจ

“ท่านผู้ยิ่งใหญ่คิดทบทวนอีกครั้งหรือไม่ หากท่านยอมนำศาลาสังหารโลหิตรวมเข้ากับราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยของข้า ไม่นานก็จะสามารถยึดครองอีกสองราชวงศ์ได้”

เยี่ยหมิงพึมพำ “รวมเข้า?”

“ใช่แล้ว”

หยางเว่ยคิดว่าเยี่ยหมิงเริ่มหวั่นไหว จึงพยักหน้า

“ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยของพวกเจ้าคือสิ่งใด แม้แต่ถือรองเท้าของข้าก็ยังไม่คู่ควร รวมเข้า? ตลกสิ้นดี!”

แต่คำพูดต่อไปของเยี่ยหมิง ทำให้หยางเว่ยราวกับฟังภาษาต่างดาว

“เจ้า!”

หยางเว่ยรู้สึกตัว ความโกรธแค้นแผ่กระจายไปทั่วใบหน้า แต่ความโกรธแค้นนี้ก็หายไปในพริบตา

แรงกดดันที่แข็งแกร่งกว่าสวี่หยาเซิงหลายสิบเท่า กดขี่เขาจนแทบหายใจไม่ออก

หยางเว่ยทั้งสี่แขนขาสั่นเทา ราวกับแมลงสาบที่น่าสมเพช

“นี่……”

หยางเว่ยหวาดกลัวอย่างยิ่ง!

แรงกดดันนี้ช่างน่ากลัวยิ่งกว่าฝ่าบาทของเขาหลายร้อยเท่า ระดับตบะของชายหนุ่มชุดขาวเบื้องหน้าผู้นี้คืออันใดกันแน่!

“ขวางหูขวางตา!”

พร้อมกับเสียงหนึ่งดังขึ้น

แรงกดดันก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน

หยางเว่ยที่หวาดกลัวอย่างยิ่ง ถูกแรงกดดันบดขยี้จนกลายเป็นเนื้อบด!

พื้นดินรอบด้านเต็มไปด้วยโลหิต!

สวี่หยาเซิงมองดูเจ้าศาลาแห่งศาลาสังหารโลหิตผู้นี้ด้วยความตกใจ

นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้พบเจอกับอีกฝ่าย

ตอนที่ได้พบเจอกับเยี่ยหมิงเป็นครั้งแรก เขาก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย

ไม่คิดว่าเจ้าศาลาแห่งศาลาสังหารโลหิตผู้นี้ จะเป็นชายหนุ่มเช่นนี้

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาคิดมากเกินไป

เขาเคยได้ยินมาว่า หากผู้ใดบำเพ็ญเพียรจนถึงระดับหนึ่ง ก็จะกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง

เจ้าศาลาแห่งศาลาสังหารโลหิตผู้นี้ อาจจะเป็นคนเช่นนั้น

เยี่ยหมิงไม่รู้ว่าการกระทำของเขาทำให้คนอื่น ๆ คิดไปไกล

เยี่ยหมิงหันไปหาซวนหลวนเทียน “ไม่ต้องให้ข้ากล่าว คงจะรู้ดีว่าต้องทำเช่นไร”

ซวนหลวนเทียนโค้งคำนับเล็กน้อย ตอบกลับ “ขอรับ”

“ส่วนเจ้า ก็จัดการเรื่องของราชวงศ์ต่อไป”

“สวี่หยาเซิงจะไม่ทำให้ท่านเจ้าศาลาผิดหวัง”

“ผลประโยชน์ของศาลาสังหารโลหิตต้องมาก่อน!”

สวี่หยาเซิงคุกเข่าลงข้างหนึ่ง กล่าว

……

ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย พระราชวัง

“ท่านฝ่าบาท ท่านกล่าวเช่นนั้นจริงหรือ”

จินหยวนเจิ้งคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความหวาดกลัว

เบื้องหน้าของเขาคือจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย ฟู่มู่โจว

ตอนนี้จินหยวนเจิ้งมาพบเจอกับฟู่มู่โจวในฐานะทูตแห่งศาลาสังหารโลหิต

เพียงแต่......ฟู่มู่โจวยิ้มเล็กน้อย “แน่นอน ตราบใดที่เจ้าสามารถเกลี้ยกล่อมศาลาสังหารโลหิต ให้พวกเขายอมเข้าร่วมราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ยได้ เราขอรับรองว่าเจ้าจะเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่แห่งราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน”

“แต่หาก……”

จินหยวนเจิ้งนึกถึงผลลัพธ์ของการทรยศศาลาสังหารโลหิต ร่างกายก็สั่นสะท้าน

“หากพวกเขาไม่ยอม เจ้าก็สามารถเป็นสายลับให้ราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย ส่งข่าวสารให้พวกเรา เมื่อพวกเราทำลายล้างศาลาสังหารโลหิตได้ เจ้าก็ยังคงสามารถเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่แห่งราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนได้”

ได้ยินเช่นนั้น จินหยวนเจิ้งมีสีหน้าลังเล

เมื่อเห็นเช่นนั้น

ฟู่มู่โจวยิ้มเล็กน้อย “ไม่รู้ว่าเจ้าเคยได้ยินชื่อเสียงของสำนักร้อยลี้หรือไม่”

จินหยวนเจิ้งตกใจ “ท่านฝ่าบาทกล่าวถึงสำนักนิกายระดับหก สำนักร้อยลี้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งมณฑลเทียนหยวนกระมัง”

“ใช่แล้ว บุตรชายคนที่สองของเรา มีพรสวรรค์แต่กำเนิด ได้เข้าร่วมสำนักร้อยลี้ และกลายเป็นศิษย์สายตรงของผู้อาวุโสคนหนึ่ง”

ได้ยินเช่นนั้น จินหยวนเจิ้งก็กลั้นหายใจ

สำนักร้อยลี้!

เป็นขุมอำนาจที่มีชื่อเสียงโด่งดังในมณฑลเทียนหยวน

เขาเคยได้ยินมาว่าผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิตที่หาได้ยากยิ่งนักในราชวงศ์ต่าง ๆ ที่สำนักร้อยลี้มีมากกว่าสิบคน

ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าสำนักยังคงมีระดับตบะอันน่าตกใจ ระดับบำรุงจิตเก้าชั้นฟ้า!

“คงไม่ต้องให้เรากล่าวต่อกระมัง”

ไม่นานนัก จินหยวนเจิ้งกัดฟัน “ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว”

‘ศาลาสังหารโลหิต ข้า จินหยวนเจิ้งผู้นี้ได้ทำทุกอย่างเพื่อท่านเจ้าศาลา แต่พวกท่านกลับไม่ยอมมอบตำแหน่งฮ่องเต้ให้ข้า’

‘หากพวกท่านไม่ให้ คนอื่นย่อมต้องให้!’

‘เช่นนั้นอย่าได้โทษข้าที่ไร้ความปราณี!’

ภายในดวงตาของจินหยวนเจิ้งปรากฏแววตาเย็นชา

……

เวลาผ่านไป หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

จินหยวนเจิ้งกลับมายังราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน กำลังจะรายงานข่าวสารให้ศาลาสังหารโลหิต

มือสังหารแห่งศาลาสังหารโลหิตที่คอยรับข้อมูล กล่าวขึ้นอย่างกะทันหัน “ท่านซวนหลวนเทียนมีเรื่องสำคัญต้องการพบเจอท่าน โปรดตามข้ามา”

ได้ยินเช่นนั้นจินหยวนเจิ้งตกใจ

ท่านซวนหลวนเทียนคือผู้ที่ดูแลเรื่องราวต่าง ๆ ของศาลาสังหารโลหิตกระมัง

ไม่คิดว่าผู้มีตำแหน่งสูงส่งเช่นนี้จะมาพบเจอเขา

หรือว่าตนถูกจับได้แล้วว่าทรยศ

จินหยวนเจิ้งส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว

เรื่องเช่นนี้เป็นไปไม่ได้

ท่านซวนหลวนเทียนผู้นี้ แม้จะแข็งแกร่งเพียงใด ก็มิอาจมองเห็นอนาคตได้กระมัง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด