บทที่ 94 ผูกมิตร
บทที่ 94 ผูกมิตร
ลั่วซืออวี่และสาว ๆ ภายในทีมต่างก็ส่งเสียงร้องเชียร์ขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น และพวกเธอก็ไม่คิดว่าลู่หยางจะสามารถยิงโดนค้างคาวที่บินเร็วขนาดนี้ได้จริง ๆ
ขณะเดียวกันนักเวทหนุ่มก็ไม่ได้สนใจเสียงเชียร์จากด้านหลัง เพราะในตอนนี้เขากำลังทุ่มสมาธิไปกับค้างคาวที่บินอยู่ในอากาศ
หลังจากมีพรรคพวกถูกยิงพวกค้างคาวก็บินเร็วขึ้นกว่าเดิม รูปแบบการบินของพวกมันเริ่มคาดเดาได้ยากมากยิ่งขึ้น แต่สุดท้ายทุกสิ่งที่อยู่ในเกมมักจะมีรูปแบบการเคลื่อนไหวของพวกมันอยู่เสมอ ลู่หยางจึงรอคอยจังหวะก่อนจะยิงเบลซซิงเบิร์สออกไปอีกครั้ง
ตูม!
ค้างคาวอีกตัวร่วงลงกับพื้นพร้อมกันนั้นลู่หยางก็ได้ชี้นิ้วขึ้นไปในอากาศ
เฟลมอิมแพค!
ค้างคาวตัวหนึ่งเคลื่อนไหวราวกับตั้งใจบินเข้ามาชนเฟลมอิมแพคด้วยตัวเอง มันจึงติดสถานะสตั๊นกลางอากาศ ชายหนุ่มจึงรีบใช้สกิลคอมบัสชันอย่างต่อเนื่องเพื่อสังหารมันให้ตาย
ค้างคาวที่เหลือตัวสุดท้ายบินวนเป็นครึ่งวงกลมในอากาศ และทันใดนั้นมันก็พุ่งดิ่งลงมาทางด้านของลู่หยาง
“ระวัง!” ทุกคนตะโกนเตือน
ลู่หยางแสดงท่าทางเหมือนกับไม่รู้ว่าค้างคาวกำลังบินเข้ามา แต่เมื่อค้างคาวมาถึงตรงหน้าและกำลังจะอ้าปากเพื่อกัดเขา จู่ ๆ ร่างของนักเวทหนุ่มก็มีเปลวไฟปะทุออกมาอย่างรุนแรง
รีซิสท์ไฟร์ริง!
ค้างคาวที่พุ่งเข้ามาถูกผลักกระเด็นออกไปในทันที พร้อมกันนั้นคอมบัสชัน 2 ลูกก็พุ่งเข้าใส่มันอย่างต่อเนื่อง ค้างคาวตัวนี้จึงเสียชีวิตลงไปก่อนที่มันจะทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ
“ลู่หยาง คุณโคตรเก่งเลย!” ลั่วซืออวี่พูดชมขณะเดินมาข้าง ๆ นักเวทหนุ่ม
“อาจารย์ คุณรวมพลังไฟเอาไว้ในมือโดยไม่ยิงออกไปได้ยังไง? แล้วทำไมลูกไฟของคุณถึงยิงโดนพวกมันทุกครั้งเลยล่ะ?” ซิลเวอร์ไลท์แดนซ์ถามอย่างสงสัย
ลั่วซืออวี่และนักเวทคนอื่น ๆ ภายในทีมต่างก็กำลังมองไปทางลู่หยางอย่างคาดหวังด้วยเช่นกัน
“มันคือโหมดอิสระของนักเวท” ลู่หยางกล่าว
“โหมดอิสระของนักเวท?” ลั่วซืออวี่และซิลเวอร์ไลท์แดนซ์มองลู่หยางอย่างประหลาดใจ เพราะพวกเธอเพิ่งเคยได้ยินว่านักเวทก็มีโหมดอิสระเหมือนกับอาชีพอื่น ๆ ด้วย
“นักเวทมีโหมดอิสระด้วยเหรอ?” ซิลเวอร์วูฟกับลอร์ดเดสทรอยเยอร์เดินเข้ามาถาม
“มีสิ ทุกอาชีพต่างก็มีโหมดอิสระเหมือนกันหมด แต่เมื่อเทียบกับโหมดอิสระของนักรบหรือโจรแล้วโหมดอิสระของนักเวทกับนักธนูมันก็ค่อนข้างที่จะยากกว่า” ลู่หยางกล่าว
“แล้วโหมดอิสระของนักเวทมันมีอะไรพิเศษ?” ซิลเวอร์วูฟถามอย่างสงสัย
“ในโหมดอิสระนักเวทจะต้องท่องคาถาและชักนำมานาภายในร่างกายด้วยตัวเอง หากมีอะไรผิดพลาดแม้แต่ขั้นตอนเดียวนักเวทก็จะไม่สามารถปลดปล่อยเวทมนตร์ออกมาได้” ลู่หยางกล่าว
สิ่งที่ชายหนุ่มอธิบายคือข้อแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างโหมดอิสระของนักเวทกับอาชีพระยะประชิดอื่น ๆ เพราะทุกสกิลของอาชีพระยะประชิดเป็นสกิลที่สามารถใช้งานออกมาได้ทันที แต่คาถาที่ยาวที่สุดของนักเวทอาจจะต้องใช้เวลาท่องกันอย่างยาวนานถึง 10 นาทีเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นหากมันเกิดมีข้อผิดพลาดในระหว่างการร่ายเวท นักเวทก็จะไม่สามารถปลดปล่อยเวทมนตร์ออกมาได้
“หลังจากเปิดโหมดอิสระ การโจมตีทั้งหมดของนักเวทจะขึ้นอยู่กับการเล็งด้วยตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับความแม่นยำของทางระบบอีกต่อไป” ลู่หยางอธิบายต่อ
“เพราะแบบนี้มันเลยทำให้คุณยิงโดนค้างคาวตลอดเลยใช่ไหม?” ลั่วซืออวี่ถาม
“ใช่ แต่การเล่นโหมดอิสระของนักเวทเป็นสิ่งที่ฝึกได้ยากมาก ในบรรดานักเวท 100 คนก็อาจจะมีนักเวทที่เปิดโหมดอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงแค่คนเดียว” ลู่หยางกล่าว
ฉือมู่เดินมาอยู่ตรงหน้าลู่หยาง ก่อนที่ชายชราจะกล่าวขึ้นมาว่า
“น้องชายพอจะบอกวิธีใช้โหมดอิสระให้กับพวกเราได้ไหมว่าพวกเราจะต้องไปเรียนรู้มันที่ไหน?”
หัวหน้ากิลด์ทุกคนย่อมไม่อยากพลาดโอกาสที่จะให้ผู้บังคับบัญชาสร้างความเสียหายโดยไม่จำเป็นจะต้องมุ่งเน้นไปที่ความแม่นยำ และการทำแบบนั้นมันก็ดูเหมือนจะเพิ่มโอกาสติดคริติคอลให้กับนักเวทด้วย
“พวกคุณเลือกหัวข้อครูฝึกนักเวทขึ้นมาได้เลย การฝึกโหมดอิสระอยู่ในหัวข้อการสนทนากับครูฝึกนั่นแหละ” ลู่หยางกล่าว
“ที่แท้มันก็อยู่กับครูฝึกนี่เอง ว่าแต่คุณทนอ่านเรื่องพวกนั้นไปได้ยังไง? มันน่าเบื่อจะตาย” ลั่วซืออวี่ถามอย่างประหลาดใจ
ในเกมผู้เล่นสามารถเลือกสนทนากับครูฝึกในอาชีพของตัวเองได้ ซึ่งมันก็คล้าย ๆ กับระบบแนะนำการเล่นของเกมอื่น ๆ นั่นเอง อย่างไรก็ตามหัวข้อแรกของการสนทนาครูฝึกจะพูดถึงประวัติการพัฒนาของนักเวทประมาณ 10 นาที โดยมีการแทรกเนื้อหาการเล่นโหมดอิสระของนักเวทเอาไว้ภายในนั้น
“นี่คือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเราไม่เหมือนกัน” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
ลั่วซืออวี่แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ลู่หยางพูดคือสิ่งที่มีเหตุผล เพราะอย่างน้อยอีกฝ่ายก็คือคนค้นพบโหมดอิสระของนักเวท
“แล้วเราจะฝึกได้ยังไง? มันดูยากมากเลย” ลั่วซืออวี่กล่าว
“ตอนนี้ยังมีค้างคาวเหลืออยู่อีก 32 ตัว พวกคุณบันทึกวิธีที่ฉันใช้โหมดอิสระเอาไว้แล้วค่อย ๆ เรียนรู้มันไปอย่างช้า ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกคุณสามารถฝึกฝนวิธีการพวกนี้ได้อย่างช่ำชอง ต่อไปในเวลาสู้กับบอสอัตราการติดคริติคอลของพวกคุณก็จะอยู่ในระดับที่สูงมาก” ลู่หยางกล่าว
หลังได้รับคำอธิบายแววตาของนักเวทภายในทีมก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้ามาใกล้ ๆ ลู่หยางเพื่อสังเกตการใช้โหมดอิสระของนักเวท
นักเวทหนุ่มเผยรอยยิ้มก่อนจะเริ่มทำการโจมตีอีกครั้ง และสาเหตุที่เขาบอกเรื่องโหมดอิสระให้ทุกคนฟังก็เพื่อเตรียมการสำหรับเรื่องราวในอนาคต
ทุกคนที่มาลงดันเจียนกับฉือมู่ในวันนี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่จะเติบโตไปเป็นผู้เล่นชั้นยอดในอนาคตด้วยกันทั้งนั้น หลาย ๆ คนเติบโตไปเป็นหัวหน้าทีม ขณะที่บางคนเติบโตไปเป็นผู้คุมเมือง
ลู่หยางต้องการที่จะสร้างพันธมิตรกับฉือมู่เพื่อสร้างกิลด์ของตัวเองในอนาคต ซึ่งการสร้างพันธมิตรนี้ก็ไม่ใช่การสร้างพันธมิตรกับตัวฉือมู่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่สมควรจะสร้างพันธมิตรกับสมาชิกภายในกิลด์ของชายชราด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงใจดีกับคนอื่นมากขนาดนี้
ชายหนุ่มเชื่อว่าการที่เขาช่วยให้พวกลั่วซืออวี่ฝึกฝนโหมดอิสระได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ มันก็จะทำให้เขาได้รับผลตอบแทนมากกว่าสิ่งที่เขาได้ให้ไปในวันนี้อย่างแน่นอน
ไม่นานลู่หยางก็สังหารค้างคาวทั้ง 32 ตัวจนหมด อย่างไรก็ตามเหล่าบรรดานักเวทที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ยังไม่มีใครเข้าใจการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มเลยแม้แต่คนเดียว
“ทำไมมันดูยากมากเลย” ลั่วซืออวี่บ่น
ซิลเวอร์ไลท์แดนซ์และนักเวทคนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ไม่ต้องรีบร้อน ถ้ามีปัญหาอะไรค่อยมาถามฉันทีหลังก็ได้ เอาล่ะตอนนี้ค้างคาวก็ถูกจัดการไปหมดแล้วพวกเรารีบเดินทางต่อกันดีกว่า” ลู่หยางกล่าว
“อือ” ลั่วซืออวี่และนักเวทคนอื่น ๆ พยักหน้าอย่างมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
ในที่สุดทุกคนก็เดินจากระเบียงชั้น 3 ผ่านมอนสเตอร์เล็กน้อยมาจนถึงห้องโถงของดยุก โดยในห้องโถงนี้มีซอมบี้ยักษ์ที่ตัวสูงกว่า 2 เมตรยืนรออยู่ที่กลางห้อง
ดยุกยูริส
เลเวล 15
พลังชีวิต 250,000/250,000
“เลือดโคตรเยอะ!” ทุกคนต่างก็อุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว
ชิงเฟิงเดินมาข้าง ๆ ลู่หยางพร้อมกับพูดว่า
“บอสตัวนี้รับมือได้ยากมาก มันมีสกิลอยู่ทั้งหมด 4 สกิล สกิลแรกคือการอัญเชิญหมาป่าวิญญาณที่ในระหว่างการโจมตีมันจะอัญเชิญหมาป่าระดับอีลิทออกมา 1 ตัว ซึ่งหมาป่าตัวนี้มีพลังโจมตีที่สูงมาก”
“สกิลที่ 2 คือการยิงกระสุนกระจายออกไปแบบสุ่ม ตัวกระสุนจะชิ่งไปเรื่อย ๆ ทำให้เราจำเป็นจะต้องคอยหลบออกจากกลุ่มเพื่อนเพื่อไม่ให้เกิดการชิ่ง”
“สกิลที่ 3 มันจะใช้ออกมาตอนที่เลือดของบอสลดเหลือ 50% โดยมันจะผลักทุกคนลอยขึ้นไปบนฟ้าเมื่อตกลงมาพลังชีวิตของทุกคนจะเหลือแค่ 1% เท่านั้น ต่อมามันจะใช้สกิลฟื้นฟูที่จะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับผู้เล่นด้วยโดยการฟื้นฟูสูงสุดจะอยู่ที่ 50%”
“สกิลที่ 4 คือการสะสมพลัง ซึ่งทุก ๆ 5 วินาทีมันจะสะสมพลังขึ้น 1 ขั้น ผมเลยสามารถอดทนได้นานสุดแค่ 30 วินาทีเท่านั้น และต้องคอยสลับกับตัวแทงค์อีกสองคนเพื่อต้านทานบอสเอาไว้”
“ตอนลงดันเจี้ยนระดับเอ็กซ์เพิร์ทพวกเราตายกันไปหลายครั้งมากเลย โดยเฉพาะตอนที่มันอัญเชิญหมาป่าวิญญาณออกมา ผมกับแทงค์อีกสองคนต้องคอยสลับรับการโจมตีกันอย่างยากลำบาก”
ไม่ต้องห่วง รอบนี้ไม่น่ายากเพราะพระเอกมาแล้วววว