บทที่ 380: ครอบงำ (9)
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 380: ครอบงำ (9)
ถ้อยคำที่ผู้กำกับอันกาบกเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ดึงดูดสายตาของชาวต่างชาติทุกคนในห้องประชุมให้หันมาจับจ้องที่เขาเป็นตาเดียว ตั้งแต่PDใหญ่ไปจนถึงทีมงานหลักของ ‘ปิเอโรต์’ ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญในวงการฮอลลีวูด
“อืม?”
“หา-”
เสียงอุทานและถอนหายใจเบา ๆ ดังขึ้นเป็นระยะ พวกเขาต่างจดจ่ออยู่กับผู้กำกับอันกาบก ไม่เพียงเพราะอิทธิพลในฐานะผู้กำกับ ‘ปิเอโรต์’ เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะคำพูดที่เหนือความคาดหมายของเขาอีกด้วย PDหญิงผู้มีใบหน้าคมคายซึ่งยืนอยู่หน้าโต๊ะรูปตัวดีเพียงลำพังเอ่ยถามขึ้น คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
“···การออดิชั่นหรือการทดสอบหน้ากล้องแบบเปิด? หมายถึงการออดิชั่นแบบสาธารณะอย่างนั้นเหรอคะ?”
ถึงแม้จะเข้าใจความหมายอยู่แล้ว แต่ล่ามก็ยังคงแปลให้ผู้กำกับอันกาบกฟังอย่างเคร่งครัด เขาพยักหน้ารับช้า ๆ ก่อนจะตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว
“ใช่ครับ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว แต่ผมคิดว่า ‘ปิเอโรต์’ ควรเปิดการออดิชั่นและการทดสอบหน้ากล้องให้สาธารณชนรับรู้”
ทั้งนี้ ‘ปิเอโรต์’ ได้วางแผนที่จะจัดการออดิชั่นคัดเลือกนักแสดงและการทดสอบหน้ากล้องในวันเดียวกัน หากเป็นในเกาหลี คำพูดของผู้กำกับอันกาบกเพียงคำเดียวก็ถือเป็นที่สุด แต่ที่นี่คือฮอลลีวูด ในความเป็นจริงแล้ว เขาอยู่ในฐานะผู้ถูกว่าจ้าง อำนาจการตัดสินใจจึงขึ้นอยู่กับPDและบริษัทภาพยนตร์
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของผู้กำกับในฮอลลีวูดก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมองข้ามได้
ถึงจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าระบบของเกาหลี แต่โดยปกติแล้วเหล่าPDและบริษัทผู้สร้างมักจะเคารพการตัดสินใจของผู้กำกับที่ว่าจ้างมา ยิ่งผู้กำกับอันกาบกเป็นผู้กำกับดาวรุ่งพุ่งแรงในฮอลลีวูดขณะนี้ ทั้งในแง่ชื่อเสียงและประสบการณ์ ยิ่งทำให้ทุกคนให้ความสำคัญกับความเห็นของเขามากขึ้นไปอีก
ทว่า ทีมงานคนสำคัญในห้องประชุมกลับเริ่มกระซิบกระซาบกันด้วยความสงสัย
“เปิดเผยอย่างนั้นเหรอ? นักแสดงจะยินยอมเหรอครับ?”
“คงยากน่าดู นักแสดงแต่ละคนต่างก็ถือตัวเป็นที่หนึ่ง”
“ทำไมกันล่ะ?”
ในที่สุด ความข้องใจของทุกคนก็หลุดออกมาจากปากของPDสาว
“การออดิชั่นแบบเปิด? มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผู้กำกับคิดเช่นนั้นคะ?”
ที่เกาหลี การออดิชั่นแบบเปิดเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ฮอลลีวูด ถึงจะไม่ใช่ว่าไม่มีเลย แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมนัก โดยเฉพาะกับนักแสดงระดับแนวหน้า แน่นอนว่าผู้กำกับอันกาบกย่อมตระหนักถึงข้อนี้ดี แต่เขาก็ยังลูบไล้แก้มที่เริ่มเหี่ยวย่นของตน ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ประการแรก ผมคิดว่าการประเมินอารมณ์ของนักแสดงโดยการถ่ายทำแยกกันนั้น ให้ผลที่ไม่แม่นยำเท่าการเปรียบเทียบโดยตรงในสถานที่จริงครับ”
“อืม...”
“ผมอาจจะจู้จี้จุกจิกไปสักหน่อย แต่การถ่ายทอดความรู้สึกของ ‘ปิเอโรต์’ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ผมไม่อยากผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียว”
ผู้กำกับอันกาบกผ่านงานภาพยนตร์มามากกว่าร้อยเรื่อง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาได้ตัดสินใจครั้งสำคัญมานับครั้งไม่ถ้วน และแน่นอนว่าย่อมมีเรื่องที่ทำให้เขาต้องเสียใจบ้าง ถึงแม้ประสบการณ์จะทำให้เขาเคยชินกับความผิดหวัง แต่ความเสียใจเหล่านั้นกลับกลายเป็นความเสียดายฝังลึกอยู่ในใจ ครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้ระบบการสร้างภาพยนตร์ของฮอลลีวูดจะแตกต่างจากเกาหลี และความรับผิดชอบอาจจะน้อยกว่า แต่ผู้กำกับอันกาบกก็ไม่คิดจะทำผลงานเดบิวต์ในฮอลลีวูดครั้งนี้แบบขอไปที
“จะกล่าวว่านักแสดงคือหัวใจสำคัญของ ‘ปิเอโรต์’ ก็คงไม่เกินเลยนัก และผมก็อยากจะลดทอนความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ”
PDหญิงและทีมงานหลักบางคนพยักหน้าเห็นพ้อง ทันใดนั้นผู้กำกับอันกาบกก็เอ่ยขึ้น
“ประการที่สอง ผมคิดว่าจำเป็นต้องมีการยอมรับซึ่งกันและกันระหว่างนักแสดง ด้วยความที่ ‘ปิเอโรต์’ มีความแปลกใหม่ ฉีกทุกกฎเกณฑ์ และแหวกแนว จึงทำให้ได้รับความสนใจจากสื่อและแวดวงบันเทิงอย่างล้นหลาม ผมไม่อยากให้มีข่าวคราวแปลก ๆ เกิดขึ้นในกระบวนการคัดเลือกนักแสดงครับ”
“······นั่นเป็นสิ่งที่พวกเราก็ต้องการเช่นกัน แทนที่จะตัดสินความสามารถของนักแสดงเพียงอย่างเดียว การที่พวกเขาได้เห็นการวิเคราะห์และการแสดงที่แตกต่างกันของแต่ละคน และยอมรับซึ่งกันและกัน จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้น ทั้งภายในและภายนอก จริงไหมครับ?”
พูดง่าย ๆ คือ ต้องการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ป้องกันข่าวลือไร้สาระต่าง ๆ นอกจากนี้ผู้กำกับอันกาบกยังมีความคิดอื่นซ่อนเร้นอยู่ด้วย
‘ถ้าหากวูจินได้รับบทนี้ไปล่ะก็-’
ข่าวลือที่ว่าผู้กำกับอันกาบกมีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกนักแสดงจะต้องกระพือออกไปอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นการทำลายชื่อเสียงของทั้งตัวผู้กำกับอันกาบกเองและคังวูจิน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดสำหรับการทำงานในฮอลลีวูดครั้งแรก
ผู้กำกับอันกาบกกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“สุดท้าย ผมอยากจะเห็นว่านักแสดงมีความปรารถนาที่จะได้บทบาทนี้จริง ๆ หรือไม่ด้วยครับ”
หรืออีกนัยหนึ่งคือ ต้องการเห็นความทะเยอทะยานที่จะได้บทนี้ แม้จะต้องแลกกับศักดิ์ศรีก็ตาม ซึ่งความคิดนี้ก็เป็นความตั้งใจจริงของผู้กำกับอันกาบกเอง แต่เขาก็ไม่ได้ยึดติดกับมัน
“นี่เป็นข้อเสนอนะครับ จะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมถ้าหากการคัดเลือกจะไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ”
PDสาวสนทนากับทีมงานหลักอยู่ครู่หนึ่ง ทุกคนต่างก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แต่ดูเหมือนเสียงส่วนใหญ่จะเทไปทางผู้กำกับอันกาบกเล็กน้อย ในที่สุดPDสาวก็กอดอกพลางตัดสินใจ
“ดิฉันเคารพในข้อเสนอของผู้กำกับค่ะ ลองแจ้งไปยังนักแสดงที่เราเลือกไว้ดูนะคะ”
ทันใดนั้น ทีมงานหลักร่างท้วมชาวต่างชาติก็ยกมือขึ้นถาม
“เอ่อ… ผมว่านักแสดงคนอื่นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่คังวูจินจะโอเคไหมครับ? ฮอลลีวูดก็เป็นครั้งแรกของเขา ทุกอย่างคงจะดูแปลกใหม่สำหรับเขานะครับ”
ผู้กำกับอันกาบกตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“เขาไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่สิ ในบรรดานักแสดงทั้งหมด คังวูจินน่าจะเป็นคนที่ใจเย็นที่สุดด้วยซ้ำ”
ทีมงานหลักหลายสิบคนต่างพากันเอียงคออย่างสงสัย ขณะที่ริมฝีปากเหี่ยวย่นของผู้กำกับอันกาบกแย้มยิ้มบาง ๆ อย่างลืมตัว เขาคิดถึงใบหน้าเรียบเฉยของคังวูจิน
‘หมอนั่นคงจะชอบใจไม่น้อย ที่ฉันสร้างเวทีให้สัตว์ประหลาดอย่างเขาออกอาละวาด’
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
เมื่อความมืดยามราตรีแผ่ปกคลุมเมืองลอสแอนเจลิส ข่าวที่ค่อนข้างกะทันหันก็ถูกส่งไปถึงนักแสดงระดับท็อปของฮอลลีวูดบางคน จุดเริ่มต้นมาจาก ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ หนึ่งในค่ายใหญ่ ‘บิ๊กไฟว์’ ของฮอลลีวูด โดยพวกเขาได้สอบถามความเห็นจากตัวเลือกนักแสดงนำชายของภาพยนตร์เรื่อง ‘ปิเอโรต์’
แน่นอนว่าเหล่านักแสดงระดับท็อปของฮอลลีวูดที่ผ่านการประชุมเบื้องต้นของ ‘ปิเอโรต์’ แล้ว ต่างก็แสดงปฏิกิริยาอย่างงุนงง
“อะไรนะ? จะให้การทดสอบหน้ากล้องเป็นแบบสาธารณะเหรอ?”
“เอ่อ ทาง ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ เพิ่งติดต่อมา ฟังดูเหมือนจะขอความเห็นมากกว่าจะเป็นการยืนยันนะ”
"อะไรกันนะ การคัดเลือกนักแสดงแบบเปิด หมายความว่านักแสดงต้องดูการแสดงของกันและกันอย่างนั้นเหรอ"
"ใช่"
"······รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย จำเป็นต้องทำแบบนั้นด้วยเหรอ"
"ไม่จำเป็นหรอก แต่ในทางกลับกันก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำเช่นกัน"
"ทำไมล่ะ"
"เพราะเรามั่นใจ"
ไร้ซึ่งแววตื่นเต้นยินดี ขณะนี้ 'โคลัมเบียสตูดิโอ' ได้ประกาศรายชื่อนักแสดงชายที่ผ่านเข้ารอบอย่างเป็นทางการแล้ว นั่นหมายความว่านักแสดงทุกคนต่างรู้จักคู่แข่งของตนเอง และกำลังอยู่ในช่วงสืบหาข้อมูลของกันและกันอย่างขะมักเขม้น
"และถ้าปฏิเสธเรื่องนี้ อาจทำให้เราดูขี้ขลาดก็ได้"
"อ้อ"
"นักแสดงคนอื่นคงมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะคริส ฮาร์ทเน็ต เขาน่ะชอบอะไรที่ท้าทายอยู่แล้ว"
"······อืม"
"แล้วมันคงจะแปลกพิลั่นน่าดูถ้าไปถามเรื่องนี้กับนักแสดงคนอื่น ยิ่งถ้ามีแค่เราที่ปฏิเสธเรื่องนี้..."
"ฉันจะดูเหมือนเป็นคนเดียวที่ขี้ลาดสินะ"
"ใช่ แน่นอนว่าถ้านายไม่อยากรับงานนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรอก"
"พูดอะไรน่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าบทของ 'ปิเอโรต์' มันยอดเยี่ยมและสนุกกว่าผลงานไหน ๆ ที่ฉันเคยเห็นมาตลอดหลายปีมานี้ ฉันอยากเล่นจะแย่"
ด้วยเหตุนี้ นักแสดงฮอลลีวูดจึงเริ่มยอมรับแนวทางการคัดเลือกนักแสดงแบบเปิดนี้ แน่นอนว่าชื่อของคังวูจินก็ถูกพูดถึงในวงสนทนาด้วย
"ดีเลย ฉันสงสัยมานานแล้วว่าทำไมคังวูจินถึงเข้ามาร่วมวงด้วย คราวนี้จะได้เห็นฝีมือกับตาตัวเองสักที"
เพราะคังวูจินเป็นนักแสดงเกาหลีคนเดียวใน 'ปิเอโรต์' และมีข่าวลือหนาหูในหมู่นักแสดงฮอลลีวูด คริส ฮาร์ทเน็ตจึงดูตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากกว่านักแสดงคนอื่น ๆ
“การเปิดสาธารณะ ก็หมายความว่าเราจะได้ชมการแสดงของคังวูจินด้วยสินะ? ฉันเห็นด้วย ถือว่าดีเลย ฉันก็อยากจะขอให้เปิดเผยอยู่แล้ว”
“ขอ?”
“ฉันจะขอเข้าไปดูเขาแสดงได้ไหมล่ะ? แต่ถ้าทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันแบบนี้ ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ”
คริสซึ่งมีความผูกพันบางอย่างกับคังวูจินมาตั้งแต่แรกพบที่ตราตรึงใจ ตอบกลับอย่างฉับไวกว่านักแสดงคนอื่น ๆ
“บอกพวกเขาไปเลยว่าฉันยินดี”
ในท้ายที่สุด นักแสดงส่วนใหญ่ก็ได้ข้อสรุปที่คล้ายคลึงกัน แม้เหตุผลจะแตกต่างกันไป แต่สำหรับ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ แล้วก็ไม่มีปัญหาใด ๆ
และ...
“วูจิน”
ข่าวนี้ก็ส่งตรงถึงคังวูจินที่เกาหลีเช่นกัน ในขณะที่คนทั้งประเทศกำลังตื่นเต้นกับการก้าวสู่ฮอลลีวูดของเขา แม้เวลาที่เกาหลีจะช้ากว่าหนึ่งวัน แต่ก็ถือว่าแทบจะพร้อมกัน คังวูจินเพิ่งเสร็จสิ้นตารางงานช่วงเช้าและกำลังถ่ายทำโฆษณาอยู่
“ครับ ท่านประธาน”
ชเวซองกุนเอ่ยขึ้นตรง ๆ
“‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ ส่งอีเมลมาด่วน ถามว่าจะเปิดเผยการออดิชั่นและการทดสอบหน้ากล้องของ ‘ปิเอโรต์’ ได้หรือเปล่า?”
คังวูจินมีสีหน้าเรียบเฉย
‘เรื่องแค่นี้ต้องส่งมาถามด่วนเลยเหรอ? นี่มันฮอลลีวูดสินะ?’
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงเหรอการสร้างกระแส เขาก็ไม่ใส่ใจ เปิดเผยหรือไม่เปิดเผยก็ไม่ต่างอะไรสำหรับเขา
“ไม่มีปัญหาครับ”
“อืม ใช่ รู้ว่านายไม่โง่หรอก รู้อยู่แล้วสินะ ว่าที่พวกเขาบอกว่าเป็นการคัดเลือกแบบเปิดน่ะ หมายความว่าพวกหัวกะทิของฮอลลีวูดกับทีมผู้บริหารระดับสูงจะมาร่วมดูการแสดงด้วย”
คังวูจินตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม
“แบบนี้ก็ดีเลยครับ น่าจะกวาดเรียบได้ในการทดสอบครั้งเดียวเลย”
จากนั้น...กาลเวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวกับติดปีกบิน ในที่สุดก็ถึงวันพุธที่ 15 ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ ที่อยู่ในฮอลลีวูดได้แจ้งข่าวที่เหนือความคาดหมายให้กับนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง และในเวลานี้ กำหนดการณ์สำหรับการคัดเลือกนักแสดงและการทดสอบหน้ากล้องอย่างเป็นทางการก็ได้ถูกประกาศออกมาแล้ว
“การทดสอบหน้ากล้องเอาช่วงปลายเดือนมกราคมเป็นยังไงครับ?”
“ยังไงก็ต้องหลังจากเทศกาลปีใหม่นั่นแหละ”
“งั้นวันที่ 28 มกราคม?”
วันคัดเลือกนักแสดงและการทดสอบหน้ากล้องอย่างเป็นทางการจึงถูกกำหนดขึ้น ในขณะเดียวกัน ฝั่งฮอลลีวูดก็กำลังคึกคักไปด้วยกระแสของภาพยนตร์เรื่อง ‘ปิเอโรต์’ เดิมทีผลงานใหม่ของ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ ก็เป็นประเด็นที่ร้อนแรงอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อมีการประกาศชื่อเรื่องและรายชื่อนักแสดงชายที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ยิ่งทำให้เป็นที่กล่าวขวัญถึงมากขึ้นไปอีก
ถึงแม้จะมีนักแสดงฮอลลีวูดคนอื่น ๆ อย่าง คริส ฮาร์ทเน็ต ที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง แต่สื่อต่างประเทศก็ยังคงกล่าวถึงชื่อของคังวูจินอยู่เสมอ
ซึ่งข่าวลือในฮอลลีวูดนั้นเกินจริงไปมาก
เพราะสำหรับค่ายหนังยักษ์ใหญ่ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรก หรือเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ในหลาย ๆ ด้าน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีของฮอลลีวูด ‘ปิเอโรต์’ ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่มีข่าวลือมากมายร้อนแรงที่สุด
ต่อมาวันที่ 16...
คังวูจินปรากฏตัวในงานเลี้ยงส่งท้ายปีสุดยิ่งใหญ่ที่จัดโดยบริษัทชั้นนำของประเทศ แน่นอนว่าเขาคือพรีเซนเตอร์โฆษณา และเหล่านักข่าวที่มาร่วมงานต่างก็...
"คุณวูจิน! เรื่องฮอลลีวูดนี่ เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม! จะไปเมื่อไหร่ครับ!"
"ได้คุยกับผู้กำกับอันกาบกแล้วหรือยังครับ?!"
"จะต้องแข่งกับนักแสดงระดับท็อปของฮอลลีวูดที่ประกาศชื่อไปแล้วใช่ไหม?! มั่นใจแค่ไหนคะ?!!"
'ปิเอโรต์' เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรคะ!"
"มีการพูดคุยเกี่ยวกับผลงานฮอลลีวูดเรื่องอื่น ๆ อีกบ้างไหมครับ!!"
"ใกล้จะได้ไปฮอลลีวูดแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างคะ!"
"คุณวูจิน! คุณคังวูจิน!! ขอคำพูดสั้น ๆ หน่อยครับ!"
เหล่าผู้เกี่ยวข้องกับนักแสดงต่างรุมล้อมคังวูจิน ถามคำถามคล้าย ๆ กันซ้ำไปซ้ำมา ใบหน้าเรียบเฉยของวูจินเริ่มฉายแววเบื่อหน่าย
'โอ๊ย หูแทบแตก เข้าใจแหละว่ามันเป็นข่าวใหญ่ แต่มันก็วุ่นวายแบบนี้ทุกทีสิน่า เหนื่อยใจเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว อยากหายตัวไปอยู่ที่เงียบ ๆ สงบ ๆ จัง'
แต่เขาก็ต้องอดทนต่อไป
ผู้ที่ขึ้นสู่บัลลังก์ย่อมต้องแบกรับน้ำหนักของมงกุฎ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าจะไม่มีนักแสดงเกาหลีคนใดได้ไปฮอลลีวูดหรือมีข่าวคราวทำนองนี้ แต่กรณีที่นักแสดงเกาหลีได้รับบทนำเดี่ยวในภาพยนตร์ฮอลลีวูดนั้นไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้แต่ในเอเชียทั้งหมดก็ยังนับว่าน้อยมาก ยิ่งเป็นนักแสดงที่เพิ่งมีผลงานเพียง 2 ปีด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้
แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น แน่นอนว่ามีเพียงไม่กี่คนที่จะรู้ รวมถึงตัวคังวูจินเองด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างที่เขาเดินทางไปฮอลลีวูด วูจินได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องงานไว้ถึง 3 แห่ง นั่นคือ 'โคลัมเบียสตูดิโอ' 'ยูนิเวอร์แซลมูฟวี่ส์' ของโจเซฟ และ 'เวิลด์ดิสนีย์พิคเจอร์ส' หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่ามีถึง 3 บริษัทจาก 'บิ๊กไฟว์' ของฮอลลีวูดที่กำลังให้ความสนใจในตัวคังวูจิน
ความคิดหนึ่งแล่นผ่านสมองของเขา ‘ไม่นะ แค่ ‘ปิเอโรต์’ เรื่องเดียวก็วุ่นวายขนาดนี้แล้ว ถ้าเรื่องอื่นประกาศออกมาอีก คงปะทุรุนแรงยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดเป็นแน่’
ในขณะที่คังวูจินเปล่งประกายราวกับดวงดาว เส้นทางแห่งชื่อเสียงของเขาก็เบิกบานกว้างไกลออกไปทุกขณะ
『 ‘โกอินเตอร์ฮอลลีวูด’ คังวูจิน ‘มารรายผู้แสนดี’ เริ่มต้นกระบวนการตัดต่ออย่างเป็นทางการ ท่ามกลางกระแสความสนใจจากสื่อต่างประเทศที่หวนกลับมาจับจ้องอีกครั้ง』
『 ‘ปลิง’ ‘บุปผาเร้น’ ใกล้ถึงกำหนดฉายในเกาหลีและญี่ปุ่น โดยมีคังวูจินเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการประชาสัมพันธ์』
เรื่องราวก็ดำเนินไปเช่นนี้เอง
กระแสข่าวลือประหลาดเริ่มก่อตัวขึ้นในโลกออนไลน์ โดยพุ่งเป้าไปที่ภาพยนตร์เกาหลีเรื่องหนึ่ง
-[พวกนายได้ยินข่าวลือที่ว่า ดิสนีย์ กำลังจะสร้างภาพยนตร์คนแสดงจากผลงานชิ้นเอกเรื่องหนึ่งหรือเปล่า??]
-[อยู่ ๆ พูดเรื่องอะไรขึ้นมา? ไม่เคยได้ยินข่าวคราวแบบนี้มาก่อนเลย]
-[คอมเมนต์บ้าบออีกล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ดูเหมือนจะมีคนมาสร้างกระแสอีกแล้ว]
-[ถ้าข่าวลือเรื่องดิสนีย์สร้างหนังคนแสดงหลุดออกไป สื่อต่างประเทศคงแตกตื่นกันยกใหญ่ ฮ่า ๆ ๆ ตอนนี้มีแต่ข่าว ปิเอโรต์ กับคังวูจิน เต็มไปหมด]
-[ข่าวลืออะไรกัน?? เล่าให้ฟังหน่อยสิ]
-[ปั่นกระแสชัด ๆ อย่าไปใส่ใจเลย]
ชุมชนออนไลน์แห่งนี้ แม้จะเต็มไปด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ แต่หากเทียบกันในประเทศแล้ว ถือว่ามีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด
-เอ่อ ไม่ได้ปั่นกระแสนะเว้ย ฮ่า ๆ ๆ ๆ ฉันอยู่ LA ดิสนีย์ กำลังเตรียมสร้าง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ฉบับคนแสดงจริง ๆ ข่าวลือนี้เป็นเรื่องจริง??
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเรื่อง ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ถึงจู่ ๆ ก็โผล่ขึ้นมาได้เสียอย่างนั้น
-จบ-
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_