ตอนที่ 1555 เปิดโปง (2) (ฟรี)
ตอนที่ 1555 เปิดโปง (2)
“ฉันต้องผ่านบททดสอบพลังผังก่อเกิดหลังจากที่เปิดใช้งานพลังผังก่อเกิดผังที่หกของพลังอวตารสีน้ำเงินด้วยรึเปล่า?” ลู่โจวสงสัย
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาวางหัวใจชีวิตลงในวังก่อเกิดของพลังอวตารสีน้ำเงิน มันไม่ได้เจ็บปวดเหมือนกับพลังอวตารสีทอง มันค่อนข้างจะคล้ายคลึงกับสถานการณ์หยวนเอ๋อ
พลังอวตารสีน้ำเงินถือว่าเป็นพลังอวตารอิสระ เพราะยังไงซะสีของมันก็ยังคงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตอนนี้สีของมันคือสีทอง สายฟ้าสีน้ำเงินมากมายกระพริบอยู่รอบๆ ตัวมัน แขนขาของมันสามารถแยกออกจากกันและใช้งานได้อย่างอิสระ
ครั้งนี้ก็ยังคงไม่มีความเจ็บปวดใดๆ เกิดขึ้นตอนที่วางหัวใจชีวิตลงในวังก่อเกิดของพลังอวตารสีน้ำเงิน ในเรื่องนี้มันยังคงดีกว่าหยวนเอ๋อ มันช่างหาที่เปรียบไม่ได้
“และก็เป็นไปตามคาด...”
โชคดีที่ลู่โจวมีอายุขัยมากพอ สุดท้ายแล้วอายุขัยที่พลังอวตารสีน้ำเงินใช้ในการเปิดใช้งานพลังผังก่อเกิดก็ยังคงสามารถชดเชยได้ด้วยพลังอวตารสีทอง ต่อไปเขาคงจะต้องสะสมการ์ดพลังชีวิตเพื่อที่จะชดเชยส่วนนี้ การมีแต้มบุญมากมายขนาดนี้ เขาจึงไม่กังวลอะไร
“ฉันคงจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้แน่” ลู่โจวมองดูการเปิดใช้งานพลังผังก่อเกิดของพลังอวตารสีน้ำเงินที่ราบรื่น เขาถอนหายใจ
ลู่โจวหยิบการ์ดอัปเกรดออกมาอีกครั้ง ไม่มีเวลาหรือสถานที่ไหนที่จะเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว
“100 ปี...เอาล่ะ...”
“ใช้”
“ติ้ง! กำลังอัปเกรดระบบ”
“ติ้ง! การ์ดไอเทมทั้งหมดกำลังอยู่ในช่วงคูลดาวน์”
จากนั้นลู่โจวก็เข้าสู่สภาวะทำสมาธิ ประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาถูกปิดลง มันเหมือนกับว่าเขาได้เข้าไปในอีกโลกหนึ่ง โลกที่คล้ายคลึงกับหุบเหว แต่มันก็ยังคงแตกต่างออกไป
เขาลอยตัวอยู่ในกาแล็กซี่ราวกับว่าเขากำลังตามหาอะไรบางอย่าง ในความมืดที่เต็มไปด้วยแสงสว่างมากมาย ไม่มีอะไรเลย จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ได้เห็นศิลานิยมสีทองที่คุ้นเคย
เวลาไม่เคยคอยใคร
เพียงพริบตาเดียว 30 ปี ก็ผ่านไป
ตลอด 30 ปี ที่ผ่านมา ฉินหยวนได้พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะช่วยเหลือศิษย์ของศาลาปีศาจลอยฟ้าให้ผ่านบททดสอบพลังผังก่อเกิด
ในช่วงเวลานี้ มีเพียงแค่หอยสังข์เท่านั้นที่ไม่ได้ผ่านบททดสอบพลังผังก่อเกิด เป็นเพราะอย่างแรก นางไม่จำเป็นต้องผ่านบททดสอบพลังผังก่อเกิดในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายแบบนี้ อย่างที่สอง นางยังคงห่างไกลจากบททดสอบพลังผังก่อเกิดครั้งที่สี่
ในช่วงเวลานี้ พวกเขายังคงติดต่อกับยู่เฉิงไห่และยู่ฉางตง ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาผ่านบททดสอบพลังผังก่อเกิดได้ยังไง?
ในตอนเช้า
“ข้าทำได้แค่เพียงใช้พลังฝึกฝนที่ข้ามีเพื่อที่จะยืดเวลา ตราบใดที่พี่ลู่ยังคงไม่กลับมา ข้าก็จะไม่ยอมแพ้” เฉินฟูที่ตอนนี้ผมขาวโพลนเดินไปยังแท่นวงกลมด้วยความช่วยเหลือจากฮัวหยิน เห็นได้ชัดว่าอาการของเขากำลังทรุดลง เขาสั่นเล็กน้อยในขณะที่กำลังเดิน
“ท่านอาจารย์ ทำไมท่านต้องทำแบบนั้นด้วย?” ฮัวหยินถาม
เฉินฟูกำลังจะตาย แต่ฉินหยวนได้ใช้ไข่มุกจิตวิญญาณดูดซับพลังฝึกฝนของเขาและถ่ายโอนความเสียหายบางส่วนที่หมิงซินทำกับเขาไปยังตัวเอง นางเป็นถึงผู้สังหารเซียน ดังนั้นนางจึงสามารถฟื้นฟูได้ด้วยความสามารถของนาง แต่เฉินฟูทำแบบนั้นไม่ได้ ดังนั้นพลังฝึกฝนของเขาจึงหายไป
ทุกคนคำนับเฉินฟูเมื่อเขามาถึงแท่นวงกลม
“เจ้ายังคงกังวลอยู่งั้นเหรอ?” เฉินฟูมองดูฉินหยวนที่ดูเป็นกังวล
“30 ปี ผ่านไปแล้ว ต่อให้พวกเราจะหลบซ่อนตัว แต่ด้วยความสามารถของดินแดนแห่งความว่างเปล่า พวกเขาก็จะต้องหาพวกเราเจอในไม่ช้า ตาชั่งแห่งยุติธรรมไม่ใช่ของธรรมดาๆ” ฉินหยวนที่พยักหน้ากล่าว
“เจ้าหมายความว่าพวกเราต้องย้ายที่อยู่งั้นเหรอ?” เฉินฟูถาม
“บางทีมันก็เป็นแบบนั้น...”
“แต่พี่ลู่ยังคงไม่ได้กลับมา” เฉินฟูกล่าว
“พวกเราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับท่านเจ้าศาลาลู่หรอก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลตัวเอง”
“แล้วเจ้าคิดว่าพวกเราควรจะทำยังไงกัน?”
“พลังฝึกฝนของศิษย์จากศาลาปีศาจลอยฟ้านั้นพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก ในช่วงเวลาต่อจากนี้ พวกเราคงจะมีเซียนเพิ่มขึ้นอีกหลายคน มันจะส่งผลกระทบต่อตาชั่งแห่งยุติธรรม ตอนนั้นพวกเราคงจะต้องแยกศิษย์ของศาลาปีศาจลอยฟ้าออกจากกัน ปล่อยให้พวกเขาท่องเที่ยวไปในเก้าดินแดน แบบนั้นพวกเขาก็จะไม่ถูกค้นพบ” ฉินหยวนกล่าว
เฉินฟูพยักหน้า มันเป็นความคิดที่ดี
“ข้าพร้อมแล้ว!” หยวนเอ๋อที่บินมาจากที่ไกลๆ ลอยตัวอยู่กลางอากาศ นางมองดูฉินหยวน
“ตกลง ตามข้ามา” ฉินหยวนกล่าว นางกลับคืนสู่ร่างผึ้งและบินไปยังจุดศูนย์กลาง “พวกเจ้ารออยู่ที่นี่” นางกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะจากไป
“ศิษย์น้องเก้า เจ้าทำได้แน่!”
“ข้าไม่คิดเลยว่าคนแรกที่จะผ่านบททดสอบพลังผังก่อเกิดของเซียนได้จะเป็นคุณหนูเก้า”
ทุกคนถอนหายใจ
“หลังจากที่ท่านเข้าไปแล้ว ท่านจะถูกภาพลวงตาหลากหลายรูปแบบโจมตี ท่านแค่ต้องจำเอาไว้ว่าพวกมันทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ของปลอม จิตใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นเซียน เวลาที่ท่านใช้ในการผ่านบททดสอบพลังผังก่อเกิดมักจะเป็นตัวแทนของพรสวรรค์ในการทำความเข้าใจเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต” ฉินหยวนที่กำลังเดินทางบอกหยวนเอ๋อถึงอันตรายในส่วนลึกของหุบเขาหอมหมื่นลี้และวิธีการผ่านบททดสอบพลังผังก่อเกิด
“ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว” หยวนเอ๋อพยักหน้าซ้ำๆ
“หากท่านรู้สึกไม่สบายใจ จงคิดถึงเรื่องอื่นๆ เพื่อที่จะเบี่ยงเบนความสนใจ”
“คิดถึงอาหารได้รึเปล่า?”
“ได้”
“แล้วการดื่มสุราล่ะ?”
“ก็ได้เช่นกัน”
“ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว”
พวกเขาทั้งสองร่อนลงสู่พื้นดินที่ทางเข้าสู่ส่วนลึกของหุบเขาหอมหมื่นลี้หลังจากที่ข้ามจุดศูนย์กลาง
“ท่านสามารถเข้าไปได้จากที่นั่น” ฉินหยวนชี้นิ้วไปที่ทางเข้า
“ค่ะ”
ฟิ้ว!
หยวนเอ๋อพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาหอมหมื่นลี้ ก่อนที่ฉินหยวนจะได้พูดอะไร
ฉินหยวน: “???”
“ข้า...ข้ายังมีเรื่องสำคัญที่อยากจะพูด ข้ายังพูดไม่จบ!” นางยกมือขึ้นอย่างงุนงง
หยวนเอ๋อหายตัวไปในขณะที่ฉินหยวนกำลังตกตะลึง
ฉินหยวนรีบบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อที่จะติดตาม เพราะยังไงซะนางก็ยังคงเป็นถึงผู้สังหารเซียนโบราณ ความเร็วของนางนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าหยวนเอ๋อ ไม่นานนางก็เห็นหยวนเอ๋อที่ตอนนี้อยู่ในส่วนลึกของหุบเขาหอมหมื่นลี้ “สมกับเป็นศิษย์ที่ผู้มีมลทินภาคภูมิใจ!” นางพยักหน้าและพึมพำ
ฉินหยวนรู้เรื่องพรสวรรค์ที่น่าทึ่งของหยวนเอ๋อ การที่หยวนเอ๋อจะสามารถเดินทางเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาหอมหมื่นลี้ได้อย่างง่ายดายนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับนาง
หยวนเอ๋อฮัมเพลงอย่างมีความสุขในขณะที่กำลังเดิน
“ไม่มีภาพลวงตา?” ฉินหยวนงุนงง
หยวนเอ๋อหยุดลงอย่างกะทันหัน นางมองไปรอบๆ อย่างสงสัย นางไม่เห็นอะไรแปลกประหลาด สภาพแวดล้อมโดยรอบนั้นเงียบสงบและดูปลอดภัย “พวกมันทั้งหมดเป็นเพียงแค่ของปลอม สัตว์ประหลาดผมสีเขียว สัตว์ประหลาดผมสีเหลือง สัตว์ประหลาดผมสีดำ...” นางพึมพำซ้ำๆ
“และก็เป็นไปตามคาด นางถูกภาพลวงตาโจมตี” ฉินหยวนพยักหน้า
หยวนเอ๋อจินตนาการถึงสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวมากมาย แต่นางก็ยังคงรู้สึกว่าพวกมันนั้นไร้ประโยชน์ นางฮัมเพลงและเดินต่อไป
ฉินหยวน: “...”
ไม่ถึง 15 นาที หยวนเอ๋อก็เดินทางเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาหอมหมื่นลี้ได้ครึ่งทางแล้ว
“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของปลอม สัตว์ประหลาดผมสีเหลือง สัตว์ประหลาดผมสีเขียว สัตว์ประหลาดผมสีดำ...” หยวนเอ๋อที่หยุดลงนึกถึงสิ่งที่ฉินหยวนพูดเอาไว้ นางพึมพำอีกครั้ง
ฉินหยวนพูดไม่ออก ภาพลวงตาของคนส่วนใหญ่มักจะเป็นปีศาจในใจของพวกเขา แต่ทำไมเด็กหญิงตรงหน้านางถึงได้เห็นสัตว์ประหลาดที่มีขนปุกปุยและมีสีสันสดใสมากมาย? นางยังคงสังเกตการณ์หยวนเอ๋อ
ความเร็วของหยวนเอ๋อเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ฉินหยวน: “???”
หยวนเอ๋อรู้สึกว่าตัวเองช้าเกินไป นางจึงเริ่มวิ่ง เมื่อนางมาถึงพื้นที่ส่วนสุดท้าย นางก็หยุดลงอย่างกะทันหันก่อนจะตีลังกากลางอากาศ ผนึกสีทองมากมายพุ่งออกมาจากร่างกายของนาง นางใช้เคล็ดวิชาเหยียบเมฆาเจ็ดดาวหลบไปมา
“ที่แท้ภาพลวงตาที่แท้จริงก็เพิ่งจะมาถึงงั้นเหรอ?” ฉินหยวนเข้าใจทุกอย่าง
‘ช่างเป็นพรสวรรค์ที่หาที่เปรียบไม่ได้!’
หยวนเอ๋อเต้นไปมาบนท้องฟ้า สีหน้าของนางเปลี่ยนแปลงไปเป็นครั้งคราว
“หากนางสามารถเอาชนะปีศาจในใจของนางได้ภายในสองชั่วโมง นั่นก็คงจะถือว่าน่าทึ่งมากแล้ว...” ฉินหยวนพึมพำ
เขตแดนพลังโดยรอบสว่างไสว ทันทีที่ฉินหยวนพูดจบ
พลังงานโดยรอบมารวมตัวกัน มันยกหยวนเอ๋อขึ้นไป
หยวนเอ๋อไม่ได้ต่อต้าน นางค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง สายสะพายนิพพานพันรอบเอวของนางอย่างหลวมๆ
พลังงานมากมายมารวมตัวกัน ลมและเมฆปั่นป่วน ไม่นานพลังงานก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของหยวนเอ๋อ
สายสะพายนิพพานปลิวไสว หยวนเอ๋อเริ่มเปล่งประกาย
“แสงศักดิ์สิทธิ์!” ฉินหยวนที่เห็นแบบนั้นอุทาน
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่ฉินหยวน ผู้สังหารเซียนโบราณ ก็ยังตั้งตัวไม่ทัน “นี่มัน...แบบนี้นี่เอง?” นางมองดูหยวนเอ๋อที่กำลังเปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่เข้าใจ
ตรงหน้าวิหารศักดิ์สิทธิ์
แคร็ก!
ตาชั่งแห่งยุติธรรมส่งเสียงที่แตกต่างออกไป
ร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขามองดูตาชั่งแห่งยุติธรรม
ตลอด 30 ปี ที่ผ่านมา แม้จะมีความไม่สมดุล แต่น่าเสียดาย ตาชั่งแห่งยุติธรรมก็ยังคงไม่ได้เคลื่อนไหวที่ชัดเจนแบบนี้
“เวินหรูชิง ฮัวเจิงหง กวนจิว และจุยฉาน”
ร่างสี่ร่างปรากฏตัวขึ้นเกือบจะในเวลาเดียวกัน
“ฝ่าบาท ท่านมีอะไรจะสั่งการ?”
“ส่งคำสั่งลงไป เมล็ดพันธุ์แห่งความว่างเปล่าได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว รีบตามหามันให้เจอ!”
“ครับ!”