ตอนที่แล้วช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 2 การแย่งชิง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 4 จุดร่วมของอาชีพ

ช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 3 ผู้มีอาจารย์เป็นถึงลอร์ดแห่งเอลฟ์!


ช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 3 ผู้มีอาจารย์เป็นถึงลอร์ดแห่งเอลฟ์!

ถังซวง ผู้บัญชาการของมณฑลเทียนหนาน กำลังเจรจาเรื่องผลประโยชน์อย่างเอาจริงเอาจัง กลยุทธ์นี้ถือว่าเฉียบขาดมาก

แต่ชิวอวี่เวยผู้สุภาพอ่อนโยนก็ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว

หากมองจากมุมของซูเฉิน แน่นอนว่าต้องเลือกฝ่ายที่ให้ผลประโยชน์มากกว่า

ศักยภาพและความแข็งแกร่งของอาชีพเอกลักษณ์นั้นไม่อาจปฏิเสธได้ หากสามารถรักษาและพัฒนาต่อไปได้ ทรัพยากรที่ลงทุนไปในช่วงแรกจะได้รับผลตอบแทนอย่างมหาศาล ชิวอวี่เวยและถังซวงเข้าใจในหลักการนี้เป็นอย่างดี ผลประโยชน์และสวัสดิการจึงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นเสนอที่จะแนะนำหญิงสาวผู้ครอบครองอาชีพที่อายุใกล้เคียงกันให้กับซูเฉินด้วย

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่เรื่องนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คนทั่วไปอิจฉาจนแทบบ้า

แต่ซูเฉินกลับรู้สึกพูดไม่ออก

เปลี่ยนเรื่องเร็วไปไหม?

เขาเหมือนคนขาดความรักจากสาว ๆ ขนาดนั้นเลยหรือ?

เป็นไปไม่ได้สิ

พูดจริง ๆ ถึงเขาจะไม่ได้หล่อระดับพระเอกนิยายรัก แต่ก็ดูดีมีสง่าราศี พอตัวเลยนะ ช่วงหลายปีมานี้ แค่จดหมายรักจากนักเรียนต่างห้องก็ไม่รู้กี่ฉบับ ถ้าอยากมีแฟน คงทำได้ง่าย ๆ ...

“ผมว่าถ้าคุณเพิ่มผลประโยชน์และทรัพยากรอีกหน่อย ผมคงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น”

ซูเฉินอยากพูดประโยคนี้มาก แต่เขายังไม่ทันได้เอ่ย ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะมาจากนอกห้องเรียน “ผู้บัญชาการทั้งสองคนลงทุนมากจริง ๆ เพื่อแย่งชิงผู้ครอบครองอาชีพเอกลักษณ์”

หญิงสาวผู้สง่างามคนหนึ่งสะพายกระบี่และถือน้ำเต้าใส่เหล้า เดินเข้ามาเป็นคนแรก

“มู่เหมียน? สาขามณฑลเป่ยเสวียนของพวกเธอก็อยากเข้ามาแย่งด้วยเหรอ?”

ถังซวงมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที สายตาของชิวอวี่เวยก็ดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย

มู่เหมียน ระดับ 85 ผู้บัญชาการสาขาสหพันธ์มณฑลเป่ยเสวียน อาชีพหายาก [เซียนกระบี่จันทรา]

พลังโจมตีสูงมาก ถ้าสู้กันจริง ๆ พวกเธอสองคนรวมกันก็สู้ไม่ได้...

“ฮ่า ฮ่า แน่นอนว่าไม่ ฉันแค่รับคำสั่งมา”

หญิงสาวที่ชื่อมู่เหมียนหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ มองไปที่ซูเฉิน แล้วพูดว่า “คุณซูเฉินใช่ไหมคะ ทางสำนักงานใหญ่สหพันธ์ฝากฉันมาบอกว่า ถ้าคุณตกลงไปที่สำนักงานใหญ่ จะมีคนรับคุณเป็นศิษย์ สวัสดิการและผลประโยชน์ทุกอย่างรับรองว่าสูงกว่าสาขาอื่น ๆ แน่นอน และต่อไปใครทำให้คุณไม่พอใจ อาจารย์คนนี้ก็จะจัดการให้ แถมยังจะช่วยคุณหาวัสดุระดับสูงอีกด้วย”

พูดจบ เธอก็หลีกทางให้หญิงสาวผู้ถือคทาเวทไม้โอ๊ก ที่ดูงดงามราวกับตุ๊กตา เดินเข้ามา มองไปที่ซูเฉิน

สีหน้าของชิวอวี่เวยและถังซวงเปลี่ยนไปในทันที

“เธอชื่อจูหยวนเอ๋อร์ เป็นเอลฟ์ลอร์ดระดับ 100 เชียวนะ ตอนมาฉันได้ดูประวัติของคุณแล้ว เธอก็ค่อนข้างถูกใจคุณนะ” มู่เหมียนพูดไปเรื่อย ๆ น้ำเสียงติดตลกเล็กน้อย

ซูเฉินมองไปที่หญิงสาวผู้ไร้สีหน้า ส่วนสูงราว ๆ 150 เซนติเมตร แล้วมองไปที่ชิวอวี่เวยและถังซวงอีกครั้ง

หญิงสาวทั้งสองคนหลบสายตาลงเล็กน้อย ดูเหมือนจะเสียความมั่นใจไปแล้ว

ยอมแพ้แล้วสินะ...

ซูเฉินกระพริบตา

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะจบลงแล้ว

เขาขยี้หว่างคิ้ว ทันใดนั้นจูหยวนเอ๋อร์ก็เดินมาหาเขา ยื่นแหวนวงเล็ก ๆ ให้

“เมื่อเปิดใช้งาน จะได้รับวัสดุระดับเพชรสามร้อยชิ้น สามารถใช้ฝึกฝนความเชี่ยวชาญทักษะได้” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงรวบรวมได้แค่นี้”

“ถ้าไม่พอใจ รอไปถึงมณฑลเป่ยเสวียน ฉันจะช่วยหาเพิ่มให้”

เธอพูดพลางเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ใสราวกับน้ำฉายแววความหวัง “ตอนนี้ เธออยากเป็นศิษย์ของฉันไหม?”

รวบรวมได้แค่นี้?

นี่คือวัสดุระดับเพชรสามร้อยชิ้นเชียวนะ เป็นระดับที่รองจากตำนาน ทำไมพูดอย่างกับเป็นวัสดุระดับเคลือบขาวที่หาได้ทั่วไป...

แม้ว่าจะมีพรสวรรค์การหลอมสร้างไม่รู้จบและอาชีพเอกลักษณ์ติดตัวอยู่แล้ว ซูเฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความร่ำรวยที่ถาโถมเข้ามา

พูดตามตรง สิ่งนี้ไม่ได้ดึงดูดใจเขามากนัก แต่การมีที่พึ่งพิงในช่วงแรกก็ถือว่าดี

“อาจารย์ ต่อไปนี้ขอฝากตัวด้วยครับ”

ดังนั้น โดยแทบไม่ลังเล เขาจึงรับแหวนมาอย่างเด็ดขาด ข้อความแจ้งเตือนการเพิ่มพลังปรากฏขึ้นแวบหนึ่งต่อหน้าเขา

“อืม”

จูหยวนเอ๋อร์พยักหน้า รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเพียงเสี้ยววินาที เธอยืนเขย่งปลายเท้า เอื้อมมือมาลูบหัวเขา “เด็กดี”

——

“ไม่คิดว่าท่านผู้นั้นจะมาด้วย” ชิวอวี่เวยถอนหายใจ เมื่อเห็นซูเฉินและอีกสองคนหายไปในค่ายกลเวทเคลื่อนย้าย

จูหยวนเอ๋อร์

เอลฟ์ลอร์ด ระดับ 100

มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วสหพันธ์ ยอดฝีมือผู้ปราบปรามประตูมิติหลายหมื่นแห่ง

ใครจะคิดว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกติเก็บตัวเงียบเชียบ จะมาแย่งชิงคนกับผู้บัญชาการอย่างพวกเธอด้วยตัวเอง?

“ปวดหัวจริง ๆ ไม่คิดว่าจะมาเสียเที่ยว” ถังซวงบ่นพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหัวเราะ “ช่างเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ได้ไปกับเธอ ฉันก็สบายใจขึ้นหน่อย”

“เธอก็ไม่ได้ตัวเขาไปเหมือนกันนี่”

ชิวอวี่เวยเหลือบมองเธอ ในขณะที่ยังคงยิ้มอยู่ แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนพร้อมจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้ทุกเมื่อ

แต่ถังซวงไม่ได้กลัว เงามืดรอบตัวเธอพลุ่งพล่าน ร่างกายเริ่มเลือนราง “ฉันอาจจะแย่งไปไม่ได้ แต่น้องสาวฉันต้องทำได้แน่ ตอนนี้เธอก็อยู่ที่สำนักงานใหญ่สหพันธ์เหมือนกัน”

“ฮ่า ฮ่า สาขามณฑลหนานโจวของพวกเธอคงไม่ได้อะไรหรอก”

เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น พร้อมกับการหายตัวไปของถังซวง

ชิวอวี่เวยจ้องมองไปยังเงามืดที่สงบลงหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วแค่นเสียง

“ยัยนี่ ยังหลงตัวเองเหมือนเดิม...”

“พูดเหมือนมีแค่น้องสาวเธอคนเดียวที่อยู่สำนักงานใหญ่สหพันธ์”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด