ตอนที่แล้วก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 44 กองทัพบุกโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 45 ประชิดเมือง


ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 45 ประชิดเมือง

“น่าเสียดาย คงต้องทำให้พวกเขาผิดหวังเสียแล้ว”

เยี่ยหมิงเผยรอยยิ้มมุมปาก

เบนสายตาไปยังมือสังหารผู้นั้น “ข้าทราบแล้ว เจ้าไปเถิด”

“ขอรับ”

หลังจากที่คนผู้นั้นจากไป

เยี่ยหมิงยังไม่ทันเอ่ยวาจา เฟิงชิงจู๋กลับกล่าวขึ้น “คุณชาย ท่านจะมอบหมายคนเหล่านี้ให้ข้ารับใช้จัดการหรือไม่เจ้าคะ”

“ในเมื่อเจ้าต้องการ เช่นนั้นก็มอบให้เจ้าเถิด”

เยี่ยหมิงพยักหน้าเล็กน้อย บังเอิญว่าเขาก็อยากจะเห็นพลังอำนาจของระดับถ้ำพำนัก

“เช่นนั้น ข้ารับใช้ก็ขอขอบคุณคุณชาย”

เฟิงชิงจู๋กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม

……

ณ ที่ไกลโพ้น กองทัพอันยิ่งใหญ่กำลังเดินทางข้ามดินแดนทะเลทราย

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฝ่าบาทก็ช่างคิด การจัดการราชวงศ์ที่อ่อนแอเช่นนี้ การส่งยอดฝีมือระดับบำรุงจิตมากมายเช่นพวกเรามาก็เพียงพอแล้ว เหตุใดจึงต้องร่วมมือกับราชวงศ์อื่นอีก”

บุรุษร่างกำยำกล่าวจบ ก็เหลือบมองยอดฝีมือระดับบำรุงจิตหลายคนที่อยู่ไม่ไกล

ชายชราที่หลับตาลง ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น “ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน……มียอดฝีมือ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยอดฝีมือหรือ? ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนเป็นเพียงเปลือกกระมัง”

“ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตที่แท้จริงมีเพียงผู้ตรวจการสวี่หยาเซิง และผู้บัญชาการชายแดนเฉินโป้เซียวที่มีเพียงระดับบำรุงจิตหนึ่งชั้นฟ้า รวมไปถึงยอดฝีมือจากศาลาสังหารโลหิต ที่คาดเดาว่ามีระดับตบะระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้า”

“กล่าวถึงตรงนี้ ข้าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนอ่อนแอถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ถึงถูกองค์กรมือสังหารเล็ก ๆ ทำลายล้างได้”

ชายร่างเล็กที่มีความสูงเพียงหนึ่งเมตรสามสิบเซนติเมตร กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเยาะเย้ย

ได้ยินเช่นนั้นชายชรามิได้เอ่ยวาจาใด ๆ บางทีเขาอาจจะคิดมากเกินไป

รวมแล้วด้วย กองทัพนี้มียอดฝีมือระดับบำรุงจิตถึงเจ็ดคน

ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนที่บาดเจ็บสาหัส จะสามารถต้านทานพลังอำนาจเช่นนี้ได้หรือ?

“พี่น้องทั้งหลาย เร่งฝีเท้าเถิด ข้าได้ยินมาว่าราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนมีสตรีมากมาย เมื่อพวกเรายึดครองเมืองได้ พวกเจ้าก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ”

บุรุษร่างกำยำที่เคราปกคลุมทั่วใบหน้า ยกแก้วสุราขึ้น กล่าวกับเหล่าทหารโดยรอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“โอ้!”

“ดี!”

ในพริบตา ขวัญกำลังใจของทุกคนก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก พวกเขารีบเร่งฝีเท้า

พวกเขาคงไม่รู้ว่าการเดินทางมายังราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนครั้งนี้ จะเป็นจุดจบของพวกเขา!

……

เมื่อหายนะค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา

ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน

ด้วยการกระทำอย่างลับ ๆ ของสวี่หยาเซิงและศาลาสังหารโลหิต

ความวุ่นวายในเมืองใหญ่และเขตต่าง ๆ ก็สงบลง

สวี่หยาเซิงกล่าวว่า “เมื่อวานนี้ ข้าได้รับข่าวสารจากผู้บัญชาการเฉินว่า ที่ชายแดนมีกองทัพที่รวมตัวกันจากหลายราชวงศ์ราชันกำลังมุ่งหน้ามายังเมืองลัวลี่ คาดว่าคงจะมาไม่ดี”

“อืม ตอนนี้ความวุ่นวายภายในราชวงศ์สงบลงแล้ว เหลือเพียงปัญหาภายนอกเท่านั้น”

ซวนหลวนเทียนกล่าวอย่างช้า ๆ

สวี่หยาเซิงเอ่ยถาม “ท่านซวนหลวนเทียน เอ่อ… ศาลาสังหารโลหิตมีวิธีการใดหรือไม่”

ซวนหลวนเทียนยิ้มเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยการเยาะเย้ย “ในเมื่อสามารถใช้วิธีการต่อสู้ได้ เหตุใดจึงต้องใช้วิธีการอื่น”

“ท่านหมายความว่า……ศาลาสังหารโลหิตต้องการที่จะต่อสู้กับกองทัพพันธมิตรราชวงศ์ราชันหรือ”

สีหน้าของสวี่หยาเซิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

กล่าวต่อ “ท่านซวนหลวนเทียน มิใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจศาลาสังหารโลหิต แต่……เท่าที่ข้ารู้ อีกฝ่ายมียอดฝีมือระดับบำรุงจิตเจ็ดคน”

“ในบรรดานั้น ยังคงมียอดฝีมือระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้าสองคน นี่……”

ความกังวลของสวี่หยาเซิงเป็นเรื่องปกติ

ในความคิดของเขา ศาลาสังหารโลหิตนอกจากเจ้าศาลาที่ลึกลับแล้ว ก็มียอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือองค์รักษ์ดำที่เขาพบเจอในวันนั้น

แม้ว่าเจ้าศาลาผู้นั้นจะมีระดับตบะระดับบำรุงจิตเก้าชั้นฟ้า

แต่อีกฝ่ายมียอดฝีมือระดับบำรุงจิตถึงเจ็ดคน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสามราชวงศ์ที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา

พลังอำนาจเช่นนี้ เทียบเท่าขุมอำนาจระดับหก

“โปรดวางใจ เจ้าเพียงแค่มองดูก็พอ เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าก็จะรู้ว่าเบื้องหน้าศาลาสังหารโลหิต กองทัพพันธมิตรราชวงศ์ราชันก็ไม่ต่างจากไก่รองบ่อน”

ซวนหลวนเทียนเผยท่าทางที่มั่นใจเป็นครั้งแรก

เพราะเขารู้ดีว่าพลังอำนาจโดยรวมของศาลาสังหารโลหิตในตอนนี้ เทียบเท่าขุมอำนาจระดับห้า!

……

กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในพริบตา กองทัพพันธมิตรที่รวมตัวกันจากสามราชวงศ์ราชัน กองทัพหนึ่งแสนนาย ก็มาถึงเบื้องหน้าเมืองหลวง

“ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนของข้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับราชวงศ์ราชันเหยียนสุ่ย ราชวงศ์ราชันเทียนผิง และราชวงศ์ราชันพั่วซือ พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไร”

เฉินโป้เซียว ผู้บัญชาการชายแดนแห่งราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนขมวดคิ้ว กล่าว

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผู้บัญชาการเฉินไม่ต้องกังวล พวกเรามาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อที่จะช่วยเหลือราชวงศ์ของท่านกำจัดศาลาสังหารโลหิต ขุมอำนาจชั่วร้ายเช่นนี้ พวกเราต้องร่วมมือกันกำจัด”

ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตจากราชวงศ์ราชันโป้เซียวกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม

เฉินโป้เซียวที่อยู่ด้านข้าง ได้ยินเช่นนั้น ภายในใจก็หนักอึ้ง

กำจัด?

คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนี้ แต่เขา เฉินโป้เซียว ย่อมต้องเข้าใจ

นี่เป็นเพียงข้ออ้าง พวกเขาต้องการเข้ามายังราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนอย่างเปิดเผย

ใครจะรู้ว่าหลังจากที่พวกเขาเข้ามาแล้ว จะทำเรื่องเลวร้ายใด ๆ

“ไม่จำเป็น ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนของข้าสามารถจัดการเรื่องภายในได้ ยิ่งไปกว่านั้น ความวุ่นวายภายในราชวงศ์ก็สงบลงแล้ว ไม่ต้องรบกวนพวกเจ้า”

เฉินโป้เซียวกล่าว

“โอ้ ฮ่องเต้พระองค์ใหม่หรือ?”

“เท่าที่ข้ารู้ ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนคือผู้ตรวจการสวี่หยาเซิง เหตุใดผู้ตรวจการจึงกลายเป็นฮ่องเต้ได้”

บุรุษผู้นั้นมีแววตาเย็นชา กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม “ข้าสงสัยว่าสวี่หยาเซิง ผู้ตรวจการแห่งราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนคิดก่อกบฏ ลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน พวกเราต้องนำตัวเขากลับไปสอบสวน!”

“ส่วนราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนจะอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเราสามราชวงศ์ชั่วคราว”

ในที่สุดเฉินโป้เซียวก็อดทนไม่ได้ ตะโกนว่า “เจ้าบังอาจ!”

“หึ ในเมื่อพวกเจ้าไม่ยอมเปิดประตูเมือง ก็แสดงว่าพวกเจ้าร่วมมือกับคนชั่วร้ายอย่างสวี่หยาเซิง เช่นนั้นก็อย่าได้โทษพวกเราที่ต้องบุกเข้าไป”

“ลงมือ!”

ในขณะที่ยอดฝีมือระดับบำรุงจิตสี่ชั้นฟ้าจากราชวงศ์ราชันโป้เซียวกำลังจะใช้พลังอำนาจทำลายประตูเมือง

“หยุด!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ผู้ที่เอ่ยวาจาคือชายชราชุดเขียวที่หลับตาลงตลอดทาง

“อย่าคิดว่าเจ้าเป็นถึงยอดฝีมือระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้าแล้วจะทำสิ่งใดก็ได้ เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

บุรุษผู้นั้นเห็นชายชราขัดจังหวะตนเอง จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร

ชายชรามองไปยังกำแพงเมืองด้วยสายตาที่จริงจัง กล่าวว่า “ที่นั่นมียอดฝีมือ และ……แข็งแกร่งยิ่งนัก!”

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด