ตอนที่แล้วก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 40 แผนล่อลวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 42 สามตระกูลล่มสลาย

ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 41 เริ่มต้นเก็บกวาด


ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 41 เริ่มต้นเก็บกวาด

“แม้ว่าจะปล่อยให้สารเลวซุ่ยกว่างนั่นหนีไปได้ แต่บาดแผลที่เขาได้รับตอนนี้หนักกว่าข้าหลายเท่า”

“ถึงเวลานั้น ค่อยส่งคนอื่นไปจัดการเขาก็ยังไม่สาย”

หลิวฟูหลานเหลือบมองไปยังตำหนักซุ่ยหยวน

ในขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินกับเสียงสรรเสริญที่ไพเราะ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทิศทางของตำหนักซุ่ยหยวน

“น้อมรับคำสั่งของเจ้าศาลา ผู้ใดที่เป็นคนของตระกูลหลิว สังหารอย่างไร้ความปราณี!”

ทันใดนั้น กลิ่นอายที่ราวกับคลื่นยักษ์ก็พุ่งออกมาจากตำหนักซุ่ยหยวน

“ระ… ระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้า! เป็นไปได้อย่างไร! ภายในราชวงศ์จะมีผู้ใดที่สามารถบรรลุระดับเดียวกับข้าได้!”

สีหน้าของหลิวฟูหลานซีดเผือด

ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หากเจ้าของกลิ่นอายนี้เป็นผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้าจริง ๆ เขาก็คงต้องตายอย่างแน่นอน

ในขณะที่เขากำลังหวาดกลัว ทุกคนต่างก็เห็นแสงสว่างหนึ่งสายพุ่งออกมาจากตำหนักซุ่ยหยวน

จากนั้นเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าหลิวฟูหลาน

ผู้มาใหม่สวมชุดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นชายวัยกลางคน

กลิ่นอายอันน่ากลัวแผ่กระจายออกมาจากร่างกายของชายผู้นั้น

หลิวฟูหลานมั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องเป็นผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้า!

“ขอบังอาจถามว่าท่านมาจากที่ใด”

หลิวฟูหลานป้องมือคารวะองค์รักษ์ดำ

ในสายตาของเขา องค์รักษ์ดำอาจจะเป็นผู้แข็งแกร่งจากราชวงศ์อื่น

ท้ายที่สุดแล้ว การต่อสู้เมื่อครู่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้แข็งแกร่งจากราชวงศ์อื่นได้อย่างง่ายดาย

หากอีกฝ่ายเป็นคนของราชวงศ์อื่นจริง ๆ

จุดประสงค์ของพวกเขาก็ชัดเจน พวกเขาต้องการฉวยโอกาสที่ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนอ่อนแอลง แย่งชิงดินแดน!

ด้วยเหตุนี้ หลิวฟูหลานจึงคิดหาวิธีรับมือในเวลาอันสั้น

หากผู้มาใหม่เป็นคนของราชวงศ์อื่นจริง ๆ เขาก็ยอมที่จะยินยอมทุกอย่าง ถึงเวลานั้น เมื่อบาดแผลหายดีแล้ว ค่อยแย่งชิงกลับคืนมาก็ยังไม่สาย

ตอนนี้เขาไม่มีพลังที่จะต่อกรกับผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้าได้ จำเป็นต้องถามที่มาและจุดประสงค์ของอีกฝ่ายเสียก่อน จึงจะสามารถวางแผนได้

ทว่าคำพูดขององค์รักษ์ดำในวินาทีถัดมา ทำให้เขาขมวดคิ้ว

“มือสังหารระดับเร้นลับชั้นตรีแห่งศาลาสังหารโลหิต องค์รักษ์ดำ น้อมรับคำสั่ง เดินทางมาเพื่อสังหารเจ้า!”

องค์รักษ์ดำกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและไร้อารมณ์

หลิวฟูหลานตกตะลึง “ศาลาสังหารโลหิต?”

ในช่วงร้อยปีที่เขาปิดด่านบำเพ็ญเพียร รอบ ๆ ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนมีขุมอำนาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ปรากฏขึ้นหรือ?

แต่เมื่อได้ยินประโยคหลัง สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไป

หลิวฟูหลานรีบกล่าว “ท่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาลาสังหารโลหิต ข้าคิดว่าพวกเราสามารถพูดคุยกันได้ หากศาลาสังหารโลหิตต้องการสิ่งใด ก็จงบอกกล่าวมา ข้าคือหลิวฟูหลาน ปฐมฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ราชันหลิวหยวน ขอเพียง……”

วูบ!

เงาร่างขององค์รักษ์ดำหายวับไปในพริบตา ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าหลิวฟูหลาน

ชักแมลงปอโลหิตออกมาจากเอว ฟาดฟันไปยังคอของหลิวฟูหลาน!

“เร็วยิ่งนัก!”

สีหน้าของหลิวฟูหลานเต็มไปด้วยความหวาดกลัว คิดในใจ “กระบี่เชิดสวรรค์”

กระบี่เชิดสวรรค์ในมือขวาของหลิวฟูหลานหลุดออกจากมือ บินไปขวางดาบขององค์รักษ์ดำ

สมบัติเวทสองชิ้นปะทะกัน

ตู้ม!!!

เสียงระเบิดที่ดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่าดังขึ้น

“พลังอำนาจของสมบัติเวทระดับนิลสองชิ้น ท่านผู้ยิ่งใหญ่คงจะรู้ดี หากไม่อยากตาย ข้าแนะนำให้ท่านยอมแพ้เสียดีกว่า”

สีหน้าของหลิวฟูหลานเคร่งขรึม

มองดูคลื่นพลังที่แผ่กระจายออกมาจากการปะทะกันของดาบและกระบี่

“ระดับนิล? ใครกันที่บอกเจ้าว่านี่คือระดับนิล?”

องค์รักษ์ดำยิ้มกว้าง “แมลงปอโลหิต ปลดผนึก!”

ทันใดนั้น พลังอำนาจอันน่ากลัวก็พุ่งออกมาจากดาบยาวสีดำ

“ประเดี๋ยวก่อน… พลังอำนาจนี้… หรือว่าจะเป็น… สมบัติเวทระดับปฐพี!”

ดวงตาของหลิวฟูหลานเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขาไม่คิดเลยว่าสมบัติเวทที่แม้แต่สำนักใหญ่ก็ยังคงยากที่จะครอบครอง ผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้าผู้นี้จะมี!

“จง… มอบศีรษะให้ข้า!”

ดวงตาขององค์รักษ์ดำเต็มไปด้วยความเย็นชา

แมลงปอโลหิตในมือผ่ากระบี่เชิดสวรรค์ออกเป็นสองส่วน!

องค์รักษ์ดำเหวี่ยงแมลงปอโลหิตลงมา ฟาดฟันไปยังคอของหลิวฟูหลาน

ฉัวะ!

โลหิตพุ่งกระจาย ราวกับดอกไม้ไฟ

เบื้องล่างเมืองลัวลี่

เหล่าขุนนางผู้มีอำนาจต่างก็ตกตะลึง

“ฝ่า… ฝ่าบาท… เพียงเท่านี้หรือ?”

“ศา… ศาลาสังหารโลหิต! ศาลาสังหารโลหิตมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้อยู่หรือ”

“จบแล้ว จบสิ้นแล้ว ดูเหมือนว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวนจะตกอยู่ในกำมือขององค์กรมือสังหารแล้ว”

เหล่าขุนนางผู้มีอำนาจมากมายที่มองการณ์ไกล คาดการณ์ถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รีบวิ่งกลับไปยังจวนของตนเอง บอกกล่าวให้ทุกคนในตระกูลเก็บข้าวของและทรัพย์สมบัติ เตรียมตัวหลบหนีไปยังราชวงศ์อื่น

หลังจากจัดการหลิวฟูหลานแล้ว

องค์รักษ์ดำเหลือบมองเหล่าขุนนางที่กำลังหวาดกลัวเบื้องล่าง

จากนั้นจึงหันไปมองตำหนักซุ่ยหยวน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “ข้าฝากเรื่องที่เหลือไว้กับเจ้า”

“ขอรับ”

สวี่หยาเซิงป้องมือคารวะ

หลังจากกล่าวจบ เงาร่างขององค์รักษ์ดำก็หายไป

ณ เวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง

หลิวชิงเฟิงมีใบหน้าซีดเผือด ราวกับถูกป้ายด้วยแป้ง

ฟางซงป้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส กลิ่นอายอ่อนแอลงอย่างมาก กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม “เจ้าตระกูลหลิว ดูเหมือนว่าความฝันในวสันตสารทของเจ้าจะสลายไปแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง อสูรร้ายที่พวกเรามองว่าเป็นเพียงมดปลวก กลับกลายเป็นพยัคฆ์ร้าย”

“เป็นไปได้อย่างไร ศาลาสังหารโลหิตเล็ก ๆ จะมีผู้แข็งแกร่งระดับบำรุงจิตแปดชั้นฟ้าได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้!”

หลิวชิงเฟิงกล่าวด้วยความโกรธ

ภาพเหตุการณ์ที่องค์รักษ์ดำสังหารหลิวฟูหลานด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขาเห็นอย่างชัดเจน

แต่เขาไม่เข้าใจเหตุใดศาลาสังหารโลหิตจึงมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่

ทำให้แผนการร้อยปีของตระกูลหลิวต้องพังทลายลง!

“เจ้าตระกูลหลิว ตามที่ตกลงกันไว้ ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป พวกข้าขอตัวก่อน”

เดิมทีมีหัวหน้าขุมอำนาจใต้ดินหลายสิบคน แต่ตอนนี้เหลือเพียงแปดคน

“ข้าก็เช่นกัน”

“ในเมื่อตระกูลหลิวไม่สามารถทำตามสัญญาได้ ข้า อู๋เทียนกังผู้นี้ก็มิใช่คนโง่เขลาที่จะยอมสละชีวิตเพื่อพวกเจ้า”

อีกแปดคนกล่าว จากนั้นก็หลบหนีไปคนละทิศละทาง

สถานการณ์ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งต่อสอง ยังคงมีศิษย์ระดับเคลื่อนวิญญาณของตระกูลฟางไม่กี่คน

“พวกเจ้า!”

หลิวชิงเฟิงเห็นเช่นนั้นก็โกรธแค้นอย่างยิ่ง

ตนเองไม่น่าจะเมตตาพวกเขา ปล่อยให้ขุมอำนาจใต้ดินเหล่านี้เติบโตขึ้น

“อ๊าก!”

“ประเดี๋ยวก่อน!”

“พวกเจ้าเป็นใคร!”

สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน!

เสียงร้องของปรมาจารย์ระดับเคลื่อนวิญญาณแปดคนดังขึ้น

เมื่อหลิวชิงเฟิงหันกลับไป ศพมากมายนอนอยู่บนพื้น

สิ่งที่ปรากฏในสายตา คือยอดฝีมือระดับเคลื่อนวิญญาณที่ร่างกายเต็มไปด้วยจิตสังหาร!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด