บทที่ 85: แบบนี้ถึงจะเรียกว่ามังกรตัวจริง!
การพนันเริ่มขึ้น
เฉาโบ๋เหวินเรียกสัตว์อัญเชิญของเขาออกมา
สัตว์อัญเชิญที่เขาอัญเชิญมีทั้งผีเสื้อยักษ์ลายพร้อยขนาดใหญ่เท่าบ้าน สุนัขสองหัวขนาดปกติ และเสือคริสตัลน้ำแข็งตัวโต
หลี่เหยามองอย่างเหนื่อยใจ ขณะที่เฉาโบ๋เหวินใช้เวลาเกือบนาทีเต็มในการร่ายอัญเชิญพวกมัน
นี่เองที่ทำให้คนทั่วไปมองว่าผู้อัญเชิญด้อยพลัง
หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ใครจะมีเวลาให้คุณยืนร่ายเวทนานขนาดนี้?
หลี่เหยาดูพลางสำรวจพลังของสัตว์อัญเชิญเหล่านั้นอย่างคร่าวๆ
ดูท่าจะมีแค่เจ้าเสือคริสตัลน้ำแข็งเท่านั้นที่มีพลังสูงและน่าจะเป็นสัตว์อัญเชิญหลักของเฉาโบ๋เหวิน
ผู้ใช้เวทอัญเชิญส่วนใหญ่จะทุ่มทรัพยากรทั้งหมดเพื่อเสริมพลังให้สัตว์อัญเชิญหลักเพียงตัวเดียว ส่วนตัวอื่นๆ มักใช้เพียงเพื่อการควบคุมหรือรับความเสียหายเท่านั้น
เมื่อคุโจ มิซากิเสริมพลังคำอวยพรให้กับเสือคริสตัลน้ำแข็ง ร่างกายของมันก็ขยายใหญ่ขึ้น พลังที่แผ่ออกมาทำให้เฉาโบ๋เหวินมั่นใจมากขึ้น เขารู้ดีว่าเจ้าเสือตัวนี้สามารถรับมือกับสัตว์ระดับราชาได้อย่างสบาย
“หลี่เหยา แกจะเอาอะไรมาแข่งกับฉันล่ะ?”
เฉาโบ๋เหวินมองหลี่เหยาด้วยสายตาหยิ่งยโส
“ทำตัวอวดดีอย่างนี้ อย่าหวังว่าจะได้ครอบครองหนังสือทักษะนั่นเลย!”
“อืม...ตามนั้น” หลี่เหยาแค่พยักหน้าตอบแบบขอไปที จากนั้นก็ถามว่า
“เสร็จหรือยัง?”
ท่าทางเย็นชาของหลี่เหยาทำเอาเฉาโบ๋เหวินโมโห
เขาสั่งให้เสือคริสตัลน้ำแข็งโจมตีทันที
“คิดจะเป็นผู้อัญเชิญทั้งที แต่กลับไม่รู้จักเรียกสัตว์อัญเชิญมาช่วยตนก่อน หึ
อย่าบอกนะว่าแกคิดจะใช้แค่ตั๊กแตนตัวเดียวต่อกรกับฉัน?”
หลี่เหยาสะดุดไปนิดหน่อย
เขาไม่เคยมีนิสัยที่จะต้องเรียกสัตว์อัญเชิญมาเสียก่อนเลย เพราะแค่เขานึกก็สามารถเรียกสัตว์อัญเชิญออกมาได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาร่ายคาถายาวนานเหมือนคนอื่น
เจ้าเสือคริสตัลน้ำแข็งกระโจนเข้ามาใกล้หลี่เหยา เฉาโบ๋เหวินยิ้มแสยะ
“ไม่เรียกสัตว์อัญเชิญมา ก็ตายซะเถอะ!”
แต่มันกลับเป็นหลี่เหยาที่เพียงแค่ยกไม้เท้ากษัตริย์ขึ้นมากระแทกกับพื้นอย่างเบามือเท่านั้น แรงกระแทกแผ่คลื่นพลังออกไปทำให้ทั้งเฉาโบ๋เหวิน สัตว์อัญเชิญตัวอื่นๆ และนักรบทั้งหมดถูกทำให้มึนงงไปชั่วขณะ
หลี่เหยาสังเกตว่าเจ้าเสือคริสตัลน้ำแข็งซึ่งถูกเสริมพลังจากคำอวยพรเป็นตัวเดียวที่ฟื้นจากอาการมึนงงก่อน มันพยายามโจมตีหลี่เหยา แต่ก็ถูกเกราะ “คุ้มกัน” ดูดซับพลังไปทั้งหมด
เมื่อเฉาโบ๋เหวินฟื้นขึ้นมา เขาก็เห็นว่าเจ้าเสือคริสตัลน้ำแข็งของเขายังคงโจมตีหลี่เหยาไม่หยุด
“ตื่นแล้วสินะ”
หลี่เหยากล่าวขึ้นอย่างเย็นชา “บอกเจ้าเสือตัวนั้นกลับไปได้แล้ว การพนันจบลงแล้ว”
คำพูดนี้ทำเอาเฉาโบ๋เหวินโมโห เขาอ้าปากจะตะโกนกลับไป แต่กลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ต้นคอ กรงเล็บแหลมคมของตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าได้จ่อคอของเขาไว้ พร้อมจะจู่โจมได้ทุกเมื่อ
“พอแล้ว!”
เฉาโบ๋เหวินร้องออกมาด้วยความตื่นกลัว เขารู้ดีว่าคอของเขานั้นไม่แข็งพอจะสู้กับกรงเล็บของมันได้
เมื่อเสือคริสตัลน้ำแข็งถอยห่างจากหลี่เหยา ตั๊กแตนแห่งความว่างเปล่าจึงยอมปล่อยเฉาโบ๋เหวินออกมาและหายกลับไปในอากาศ
ใบหน้าของเฉาโบ๋เหวินแดงจัดด้วยความอับอายและโกรธเกรี้ยว ไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นนี้ได้
ด้านคุโจ มิซากิเองที่ฟื้นจากอาการมึนก่อน เธอก็ได้แต่ยืนมองหลี่เหยาด้วยสีหน้าตึงเครียด
เมื่อเห็นท่าทางของเจ้านายที่ยืนเงียบขรึมอยู่ตรงนั้น เฉาโบ๋เหวินก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งร่าง รีบตะโกนลั่นออกมา
“ไม่! ไม่ถือว่าแพ้!”
“ใช้ทักษะควบคุมมาเล่นงานกันแบบนี้มันไม่ได้เรียกว่าแข่งกันจริงๆ!”
เสียงกระแทกของพลังที่เกิดจากทักษะ 【แผ่นดินสั่นไหว】ดังจนคนในบ้านได้ยิน พวกเขาดูสถานการณ์ผ่านจอมอนิเตอร์พร้อมกัน ต่างพากันโกรธที่เฉาโบ๋เหวินทำตัว
ไร้ยางอาย
“คนแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ! ใครกันที่บอกว่าผู้อัญเชิญห้ามใช้ทักษะควบคุม?”
“ยังจะบอกว่าไม่ยอมแพ้ ทั้งที่มีตั้งสองตัวช่วยแต่ดันโดนเอากรงเล็บจ่อคอไว้แบบนี้
นี่มันไร้ยางอายเกินไป!”
ฉินเยว่ขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด รู้สึกโกรธแทนหลี่เหยา ขณะที่กั้วหนิงเองก็จ้องจอมอนิเตอร์ด้วยความเป็นห่วง
แต่ซางหยาหน่า ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ส่ายหน้าปลอบโยน
“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หลี่เหยาน่ะไม่แพ้แน่”
“แล้วนี่ยังใช้สัตว์อัญเชิญแค่ตัวเดียว...แสดงว่าเขาคงแค่ไม่อยากสร้างความลำบากให้คนอื่นมากเกินไป”
ด้านหลี่เหยาเอง กำลังมองตรงไปที่ คุโจ มิซากิ
“หรือคุณก็เห็นด้วยกับเขา?”
“ไม่...” คุโจ มิซากิชะงักไปเล็กน้อย เธอกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ก็ถูกเฉาโบ๋เหวินขัดขึ้นเสียก่อน
“แน่นอนว่ามันไม่ถือว่าแพ้! ใช้การควบคุมมาเล่นงานแบบนี้ไม่เรียกว่าแข่งกันจริง!”
เฉาโบ๋เหวินจ้องไปที่คุโจ มิซากิและพูดขึ้นเสียงหนัก
“คุณหนูมิซากิ ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ ถ้าใช้ทักษะพิเศษนั้นเสริมพลังให้อสูรผม ผมรับรองเลยว่าจะไม่โดนทักษะควบคุมเล่นงานอีกแน่ๆ!”
“หุบปาก!” คุโจ มิซากิ มองเฉาโบ๋เหวินด้วยสายตาเย็นชา เธอเบื่อหน่ายเต็มที
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ยุติธรรมตั้งแต่แรก เธอเพียงใช้การอวยพรพื้นฐานเพื่อแสดงให้
หลี่เหยาเห็นถึงความสามารถเท่านั้น แต่ถ้าต้องใช้ทักษะหลักของเธอในสภาพสองต่อหนึ่งล่ะก็ เธอคงหมดความน่าเชื่อถือไปเลย
หลี่เหยาเห็นท่าทางเช่นนั้นแล้วก็ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้
“ถ้านั่นไม่ใช่ความเห็นของคุณ งั้นสัญญาการพนันก็จบแล้ว ผมขอรับหนังสือทักษะไปละกัน”
เมื่อเห็นหลี่เหยาเดินจากไปโดยไม่สนใจคำเชิญ คุโจ มิซากิ ก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เธอจ้องมองแผ่นหลังของเขาอย่างไม่พอใจและแฝงไปด้วยความโกรธที่ปะทุอยู่ในใจ
แต่สำหรับเฉาโบ๋เหวิน มันไม่ใช่เรื่องแย่เลยที่หลี่เหยาไม่ตอบรับคำเชิญ เพราะตอนนี้ทักษะทั้งหมดที่คุโจ มิซากิมีอยู่จะตกเป็นของเขาแทน
หลี่เหยาจะต้องตาย เฉาโบ๋เหวินคิดด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาต
หลี่เหยาต้องตาย เพื่อให้คุโจ มิซากิสามารถหันมาสนใจและทุ่มเทให้กับเขาได้ทั้งหมด
เฉาโบ๋เหวินแสยะยิ้มอย่างบ้าคลั่ง พลางตะโกนด้วยเสียงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“การต่อสู้ของผู้อัญเชิญที่แท้จริงน่ะ ต้องไม่มีการใช้ทักษะควบคุม!”
ทันใดนั้น เจ้าเสือคริสตัลน้ำแข็งของเขาก็เปิดใช้งานทักษะคลุ้มคลั่ง
ขนของมันเริ่มเปลี่ยนไป ร่างกายถูกปกคลุมด้วยเส้นเลือดสีม่วงอมเขียว ตาของมันเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น และเขี้ยวยาวที่น่ากลัวพร้อมน้ำลายไหลย้อยก็ปรากฏออกมา
“โฮกกกก!”
เจ้าเสือคริสตัลน้ำแข็งแผดเสียงคำรามเสียงดังพร้อมเปิดปากยิงลำแสงน้ำแข็งตรงมาที่หลี่เหยา
“นี่แกทำบ้าอะไร!” คุโจ มิซากิ ตกตะลึง เธอไม่เคยเห็นเฉาโบ๋เหวินแสดงพฤติกรรมบ้าคลั่งเช่นนี้มาก่อน
ทันใดนั้น เสียงคำรามของมังกรก็ดังก้องไปทั่วพื้นที่ แรงสั่นสะเทือนทำให้โครงสร้างโดยรอบสั่นไหวไปหมด
ก่อนที่เฉาโบ๋เหวินจะทันตั้งตัว กรงเล็บขนาดมหึมาก็ทะลวงผ่านลำแสงน้ำแข็งของเจ้าเสือคริสตัลน้ำแข็งเข้ามา และจับตัวเฉาโบ๋เหวินไว้แน่น
เมื่อหมอกน้ำแข็งสลายไป ความน่าเกรงขามของมังกรดำก็เผยออกมาให้เห็นเต็มสองตา
มังกรดำปีกหก ผิวหนังสีดำสนิท มีเกล็ดเงาวับส่องประกาย และรูปร่างที่แสดงให้เห็นถึงความดุดันไร้ปรานี
ทุกคนที่ได้เห็นต่างนิ่งงันราวกับต้องมนตร์
“นี่มัน...มังกรเหรอ?!”
...