ตอนที่แล้วบทที่ 371 : อำนาจ (8)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 373: ครอบงำ (2)

บทที่ 372: ครอบงำ (1)


【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】

【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】

【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】

บทที่ 372: ครอบงำ (1)

< อับดับ 1 >

ตัวเลขมหาศาลปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคังวูจิน

[บ็อกซ์ออฟฟิศตลอดกาลของเกาหลีใต้]

[อันดับภาพยนตร์ตลอดกาล (รวม)]

-1. ปลิง/ จำนวนผู้ชมสะสม: 20483558 คน

-2. เกาะแห่งผู้สูญหาย/ จำนวนผู้ชมสะสม: 20321451 คน

-3. ยุทธนาวี/ จำนวนผู้ชมสะสม: 16715955 คน

-4. พรหมลิขิต/ จำนวนผู้ชมสะสม: 15557118 คน

จนถึงเมื่อวานทุกสิ่งยังคงเดิม แต่เพียงชั่วข้ามคืนกลับพลิกผันราวกับฟ้าดินถล่มทลาย ‘ปลิง’ ที่มียอดผู้ชม 19 ล้านคน ทะยานข้ามหลัก 20 ล้านคนอย่างสง่างาม และขึ้นแท่นอันดับ 1 ของภาพยนตร์เกาหลีตลอดกาล ส่งผลให้ ‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ ต้องหล่นลงไปอยู่อันดับ 2 อย่างเลี่ยงไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ ในปีเดียวกันนี้จึงมีภาพยนตร์ที่มียอดผู้ชมทะลุ 20 ล้านคนถึงสองเรื่อง

ท่ามกลางสถานการณ์อันเหนือคาด วูจินกลับเผยสีหน้าเรียบเฉย สงบนิ่งราวกับสายน้ำ ยิ่งไปกว่านั้น พลัง “พลังอสูร” ที่เพิ่งได้รับมา ยิ่งเสริมให้เขาดูเย็นชาขึ้นไปอีก

ทว่าเบื้องหลังท่าทีนิ่งสงบนั้น…

‘ว้าว! นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย! เหลือเชื่อ!’

ภายในใจของเขา กลับเต็มตื้นไปด้วยความปลื้มปิติ ความรู้สึกยินดีพลุ่งพล่านราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ สมกับความพยายามที่ผ่านมาทั้งหมด นี่เพิ่งจะเข้าสู่ปีที่ 2 ของการเดบิวต์ กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 แต่ก่อนสิ้นปีนี้ ภาพยนตร์สองเรื่องที่เขาแสดงก็มียอดผู้ชมทะลุ 20 ล้านคนแล้ว การพลิกโฉมประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ภายในเวลาเพียง 1 ปี เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง

ผู้ที่สร้างปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์นี้ขึ้นมาได้ มีเพียงคังวูจินผู้เดียวเท่านั้น

แน่นอนว่าทั้งในอดีตและอนาคต จะไม่มีใครสามารถทำได้เช่นนี้อีก นี่คือความจริงที่ไม่มีใครโต้แย้งได้ ถึงแม้วูจินจะอยากเต้นรำด้วยความดีใจ แต่ด้วยบุคลิกเย็นชาและชอบทำตัวเท่ห์ เขาจึงยิ่งต้องเก็บอาการ แสร้งทำเป็นนิ่งเฉย

อย่างไรก็ตามชเวซองกุนผมเปียที่ถือโทรศัพท์มือถืออยู่ กลับทนไม่ไหว

“เจ้าเด็กบ้านี้!”

ชเวซองกุนโผเข้ากอดคังวูจินพลางกระโดดโลดเต้นอย่างบ้าคลั่ง วูจินเพียงขยับตัวตามจังหวะของเขาเล็กน้อย

“คนดูยี่สิบล้าน! คนดูยี่สิบล้านสองเรื่อง! หนังเรื่องนี้มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย?! ไม่! เป็นไปไม่ได้!”

วูจินนิ่งเงียบ

“แถมยังทำได้ภายใน 1 ปี! แถมหนังเกาหลีที่ทำรายได้สูงสุดอันดับ 1 และ 2 ล้วนเป็นหนังที่นายแสดงนำ! บ้าไปแล้ว! นี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ !”

แท้จริงแล้ว ‘ปลิง’ ในช่วงกลาง ๆ ยอดผู้ชมเริ่มชะลอตัวลงบ้าง แต่กลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หรือจะเรียกว่าทะยานขึ้นอย่างรุนแรงก็น่าจะได้ กระแสข่าวต่าง ๆ ของคังวูจิน นอกเหนือจากไมลีย์ คาร่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้กำกับอันกาบกที่กำลังจะไปฮอลลีวูด ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งให้หนังช่วงกลางถึงช่วงท้ายทำรายได้ถล่มทลาย

ความสำเร็จของ ‘ปลิง’ ยังคงดำเนินต่อไป

แม้กระแสจะแผ่วลงบ้างเมื่อเทียบกับช่วงแรก แต่การที่หนังเข้าฉายมาเดือนกว่าแล้วยังทำรายได้ได้ขนาดนี้ ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง ถึงอย่างนั้น สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือตัวคังวูจินเอง ที่สามารถถ่ายทำหนังด้วยตารางงานที่อัดแน่นขนาดนี้ และผลลัพธ์ก็คือ เขาได้พลิกประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์เกาหลีไปโดยสิ้นเชิง

“ฮ่า ๆ ๆ ! ‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ ! ‘ปลิง’ ! จะมีนักแสดงคนไหนมาล้มสถิติอันดับ 1 และ 2 นี้ได้อีก! ไม่มีใครทำได้นอกจากนาย! นายเท่านั้นที่จะล้มสถิติของตัวเองได้!”

“ประธานใจเย็น ๆ ก่อนครับ”

“ใจเย็น? ใจเย็นเหรอ?! จะใจเย็นได้ยังไงกัน?!”

ชเวซองกุนยังคงกอดวูจินไว้แน่น พร้อมกับอาการดีใจอย่างออกนอกหน้าอยู่นานกว่า 3 นาที

แล้วทันใดนั้น

“โว้ว- ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นแบบนี้”

ในที่สุดชเวซองกุนก็สงบสติอารมณ์ได้ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านั้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว

“ที่บ้าจริง ๆ คือยังมีระเบิดปรมาณูลูกสุดท้ายเหลืออยู่นี่สิ” ชเวซองกุนพึมพำกับตัวเองพลางแตะหน้าจอโทรศัพท์มือถือสองสามครั้ง ไม่นานอักษรญี่ปุ่นก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เรียงร้อยเป็นตัวเลขที่น่าตื่นตะลึง

-[จำนวนผู้ชม 'การสังเวยอันน่าสะพรึงกลัวของคนแปลกหน้า' ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2021]

-[การสังเวยอันน่าสะพรึงกลัวของคนแปลกหน้า/ วันที่เข้าฉาย: 26 ตุลาคม/ จำนวนผู้ชมสะสม: 21091784]

นั่นคือผลงานของ ‘บุปผาเร้น’ ภาพยนตร์ที่เข้าฉายก่อน ‘ปลิง’ เพียงหนึ่งวัน แต่ก็สามารถกวาดยอดผู้ชมทะลุ 20 ล้านคนได้เช่นกัน หรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ 21 ล้านคน แม้กระแสจะเริ่มซาลงบ้างเมื่อเทียบกับ ‘ปลิง’ แต่ ‘บุปผาเร้น’ ก็ยังคงรักษาตำแหน่งไว้ใน 5 อันดับแรกของยอดจองตั๋วในญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงพลังที่ยังคุกรุ่นอยู่

ยิ่งไปกว่านั้น ‘บุปผาเร้น’ ยังติดอันดับภาพยนตร์ยอดนิยมตลอดกาลของญี่ปุ่นอีกด้วย

ถึงแม้จะไม่อาจโค่นบัลลังก์ภาพยนตร์อนิเมะที่ครองชาร์ตได้ แต่ก็นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่และเป็นสัญญาณที่ดีในตลาดภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ถูกอนิเมะครอบงำ ‘บุปผาเร้น’ ได้จุดประกายการเปลี่ยนแปลง และการที่ภาพยนตร์ที่ไม่ใช่อนิเมะสามารถทำรายได้ทะลุ 20 ล้านคนได้เช่นนี้ ถือเป็นสถิติใหม่ของญี่ปุ่น

ชเวซองกุนเงยหน้าขึ้น ยกนิ้วโป้งให้กับความสำเร็จนั้น

“ไม่ใช่แค่ 20 ล้านสองเรื่องหรอกนะครับ…”

คังวูจินตอบกลับเสียงทุ้มต่ำ

“ต้องเป็นสามต่างหาก”

“ใช่!! สามเรื่อง 20 ล้าน!!” ชเวซองกุนร้องรับอย่างตื่นเต้น

เริ่มจาก ‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ ตามมาด้วย ‘ปลิง’ และ ‘บุปผาเร้น’ ภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องต่างก็กวาดยอดผู้ชมทะลุ 20 ล้านคน ทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น ไม่มีนักแสดงคนไหนสามารถทำได้เช่นนี้ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี นอกจากคังวูจิน

“เฮ้ แต่นี่มันยังไม่จบแค่นี้ใช่มั้ย?” ชเวซองกุนถามด้วยน้ำเสียงคาดหวัง

“ใช่ครับ” คังวูจินตอบรับสั้น ๆ

ชเวซองกุนพึมพำ ราวกับยังมีอะไรค้างคาใจ “‘ปลิง’ เข้าฉายเดือนหน้าที่ญี่ปุ่น ‘บุปผาเร้น’ เข้าฉายเดือนหน้าที่เกาหลี”

หนังแต่ละเรื่องผลัดกันฉายราวกับส่งไม้ผลัดต่อกัน

“ถ้า ‘ปลิง’ ที่ญี่ปุ่นกับ ‘บุปผาเร้น’ ที่เกาหลีทำยอดทะลุสิบล้านคนได้...” เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย คล้ายกำลังครุ่นคิด

“ยอดคนดูจะไม่ใช่ยี่สิบล้าน แต่จะพุ่งไปถึงสามสิบล้าน! สามสิบล้านคนเลยนะ!” น้ำเสียงของชเวซองกุนตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด

หลายวันต่อมา ในวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน ช่วงบ่ายต้น ๆ ณ นครลอสแอนเจลิส

ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ของบริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ใจกลางเมืองแอลเอ ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน ชาวต่างชาติอย่างน้อยสามสิบคนนั่งล้อมรอบโต๊ะรูปตัวดี ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้น มีชายชาวเกาหลีเพียงคนเดียวนั่งอยู่ด้านหน้า

ชายชราร่างเล็ก ผู้กำกับอันกาบก ใบหน้าของเขายับย่นไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลา เขามาถึงแอลเอได้สองวันแล้ว สถานที่แห่งนี้คือ ‘โคลัมเบียสตูดิโอ’ หนึ่งในห้าค่ายหนังยักษ์ใหญ่แห่งฮอลลีวูด ชาวต่างชาติที่มารวมตัวกันล้วนเป็นทีมงานหลักของภาพยนตร์เรื่อง ‘ปิเอโรต์’ แท็บเล็ตและแฟ้มใสถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบตรงหน้าชาวต่างชาติทุกคน รวมถึงผู้กำกับอันกาบกด้วย

และแล้ว...

-ครืด

บานประตูห้องประชุมเปิดออก พร้อมกับจอสกรีนขนาดเล็กที่ปรากฏขึ้นด้านหน้า หญิงชาวต่างชาติผมยาวประบ่าปรากฏกายขึ้น ใบหน้าของเธอคมคาย ดุดัน เธอคือPDใหญ่ของภาพยนตร์เรื่อง ‘ปิเอโรต์’ ผู้มีชื่อเสียงและค่าตัวสูงลิบลิ่วในฮอลลีวูด ไม่ต่างจากโจเซฟ เฟลตัน

เธอกล่าวขึ้นว่า “นี่คือรายชื่อนักแสดงชายตัวเลือกถัดไปค่ะ”

รีโมตขยับ ภาพบนจอก็เปลี่ยนไป ปรากฏใบหน้าคมคายของเหล่าซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดสลับกันไปมา PDสาวเลื่อนโปรไฟล์ของนักแสดงแต่ละคนอย่างรวดเร็วราวกับต้องการอวดโฉมเพียงเท่านั้น หนึ่ง สอง สาม...ในที่สุดนักแสดงชายระดับท็อปห้าคนก็ปรากฏขึ้น และคนที่หก...ใบหน้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นบนจอ

‘คังวูจิน...มาแล้วสินะ’

เป็นคังวูจินจริง ๆ ด้วย

ทันทีที่ใบหน้าของชายหนุ่มปรากฏขึ้น PDสาวก็หันไปเผชิญหน้ากับทีมงานหลายสิบชีวิต

“ทั้งหมด 6 คนนี้ค่ะ”

เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที แม้จะมีข่าวลือเกี่ยวกับนักแสดงฮอลลีวูดมากมาย แต่การเปิดเผยตัวนักแสดงอย่างเป็นทางการเช่นนี้ถือเป็นครั้งแรก

“แต่ละคนนี่...สุดยอดทั้งนั้นเลย!”

“นักแสดงระดับนี้มารวมตัวกันได้ยังไงเนี่ย? น่าเสียดายจังที่ต้องเลือกแค่คนเดียว”

“ค่าตัวพวกเขารวมกันนี่ได้เท่าไหร่กันนะ?”

“การทดสอบคงดุเดือดน่าดูชม”

“แต่ว่า...คนสุดท้าย คังวูจิน? นักแสดงเกาหลีคนนั้นใช่มั้ย? คนที่ทำให้เมืองคานน์ฮือฮาไปพักใหญ่”

“ใช่ คนที่พูดถึงรางวัลออสการ์ในคำกล่าวรับรางวัลนั่นแหละ เขาสร้างเรื่องใหญ่โตได้สมคำร่ำลือจริง ๆ แต่...นักแสดงคนนี้มันดูไม่เข้าพวกยังไงก็ไม่รู้”

“ในหมู่นักแสดงมีข่าวลือเกี่ยวกับเขากันอยู่นะ อืม...แต่······ถ้ามองในแง่ของระดับแล้วก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน”

“ผู้กำกับแดนนี่ชมเขาเยอะมากเลยนี่”

“หืม? ผู้กำกับแดนนี่ แลนดิสคนนั้นน่ะเหรอ?”

ไม่ว่าพวกเขาจะพูดคุยอะไรกัน PDสาวก็ยังคงดำเนินการบรรยายสรุปต่อไป

“ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าตอนนี้ข้อมูลของนักแสดงยังห้ามรั่วไหลออกไปข้างนอกเด็ดขาด”

โคลัมเบียสตูดิโอได้ออกมายืนยันการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องใหม่ เผยเพียงชื่อผู้กำกับอันกาบกเท่านั้น ขณะที่รายละเอียดอื่น ๆ รวมถึงชื่อเรื่อง ‘ปิเอโรต์’ ยังคงเป็นความลับ

ไม่นานนัก PDสาวก็สบตากับอันกาบก

“คุณผู้กำกับคะ ฉันอยากจัดตารางออดิชั่นนักแสดงภายในเดือนมกราคม คุณคิดว่าอย่างไรคะ?”

ณ ประเทศเกาหลี

ขณะที่ลอสแอนเจลิสยามบ่ายคล้อยของวันที่ 27 เวลาในเกาหลีใต้กลับย่างเข้าสู่เช้าตรู่ของวันที่ 28 ณ จังหวัดคย็องกี ภายในกองถ่ายละคร ‘มารร้ายผู้แสนดี’ เหล่าทีมงานกว่าร้อยชีวิตกำลังขะมักเขม้นทำงานกันอย่างแข็งขัน PDซงมันวูผู้มีหนวดเคราเข้มครึ้มคอยควบคุมดูแลทุกอย่าง นักแสดงมากมายต่างประจำตำแหน่งรอคิวถ่ายทำ รวมถึงฮวาลินด้วย

ทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“คังวูจินมาถึงแล้วครับ!”

ร่างสูงโปร่งของคังวูจินในชุดลองแพดดิงปรากฏขึ้นในกองถ่าย ใบหน้าเรียบเฉยไม่ต่างจากทุกวัน PDซงมันวูที่กำลังควบคุมกองถ่ายอยู่รีบตรงเข้าไปหา ในมือถือบทละคร ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ไว้แน่น

“คุณวูจิน”

ใบหน้าของPDซงมันวูหยาบกร้านจากการอดนอนทำงานหนัก รอยคล้ำใต้ตาเด่นชัดราวกับสวมแว่นกันแดด คังวูจินเอ่ยทักทายอย่างสุภาพ

“วันนี้ก็ฝากตัวด้วยนะครับ คุณPD”

PDซงมันวูฝืนยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงกระซิบกับคังวูจินแผ่วเบา

“อีกสิบวันก็น่าจะปิดกล้องได้แล้วล่ะ”

การถ่ายทำ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ พาร์ท 1 ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์

ภายในสิบวัน ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ก็จะถ่ายทำเสร็จสิ้น เมื่อได้ยินคำพูดของPDซงมันวู วูจินถึงแม้สีหน้าจะยังคงเรียบเฉย แต่ภายในใจกลับฉายแววประหลาดใจ 'เร็วขนาดนั้นเชียวเหรอ?'

'เหมือนการลองเทคที่กรุงเทพ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เวลาช่างโบยบินรวดเร็วเหลือเกิน'

แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงพาร์ท 1 และยังมีพาร์ท 2 รออยู่เบื้องหน้า แต่ก็นับว่าเป็นความเร็วที่น่าทึ่งไม่น้อย

'ก็จริงอยู่ที่พวกเราถ่ายทำกันอย่างเอาเป็นเอาตาย'

คำว่าบ้าคลั่งคงจะเหมาะสมกับตารางการถ่ายทำอันหนักหน่วงนี้เป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นPDซงมันวูที่ยืนอยู่ตรงหน้า หรือทีมงานอีกกว่าร้อยชีวิต ทั้งนักแสดง ทีมงานเบื้องหลังของนักแสดง และแม้แต่ตัวเขาเอง ทุกคนต่างทุ่มเททำงานกันอย่างขะมักเขม้นตามตารางที่อัดแน่นราวกับปลาทูน่าในกระป๋อง

เป็นการทำงานหามรุ่งหามค่ำที่แทบจะเอาชีวิตไม่รอด

มีเพียงวูจินเท่านั้นที่ยังคงสภาพเดิม หากปราศจากพลังของมิติว่างเปล่า ตัวเขาเองคงทรุดโทรมไม่ต่างจากคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ใกล้จะปิดกล้องเต็มทีแล้ว PDซงมันวูที่แจ้งข่าวนี้ถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยกับคังวูจินอีกครั้ง

“แน่นอนว่าตารางอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างตามสถานการณ์ แต่ถ้าเราปิดกล้องพาร์ท 1 ภายในสิบวัน การเปิดตัว ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ก็จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ครับ”

ว่าแต่PDยังไหวหรือเปล่านะ? อยู่ ๆ จะเป็นลมล้มพับไปตรงนี้ไหมเนี่ย? ในสายตาวูจิน PDซงมันวูอยู่ในสภาพที่ต่อให้หมดสติไปก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ดูผอมลงไปมากทีเดียว ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาจึงเอ่ยถามPDซงมันวูอย่างเงียบ ๆ

“ครับ PD แต่ว่าPDยังไหวเหรอครับ”

“ไหวอะไร?”

“ทั้งการถ่ายทำ ทั้งการเปิดตัว ถ้ายังมีชีวิตอยู่ถึงจะได้เห็นนะครับ”

PDซงมันวูที่กำลังกระพริบตาชี้มาที่ตัวเอง ก่อนจะยิ้มออกมาบาง ๆ

“อ่า- ผมเหรอ? โอ้โห เป็นห่วงผมด้วยเหรอครับคุณวูจิน ฮ่า ๆ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ แค่นี้จิ๊บ ๆ ผมผ่านงานกำกับภาพยนตร์มามากกว่าสิบปี งานแบบนี้ผ่านมือผมมาเยอะแล้ว”

“จริงเหรอครับ?”

“แน่นอน ตอนที่ผมทำนิติจิตวิทยาเสเพล คุณก็เห็นกันอยู่แล้วนี่”

“······”

“จริง ๆ ก็เหนื่อยกว่าตอนนั้นนิดหน่อย แต่ผมก็เคยทำโปรเจกต์ที่หนักกว่านี้เยอะ สมัยก่อนสภาพแวดล้อมในการถ่ายทำมันย่ำแย่กว่านี้มาก”

หลังจากเล่าความยากลำบากในวงการบันเทิงในอดีตให้วูจินฟังครู่หนึ่ง เขาก็กระแอมไอเบา ๆ แล้วกลับเข้าเรื่อง

“เอาเป็นว่าผมคุยกับทาง Netflix เรียบร้อยแล้ว ตามกำหนดการน่าจะฉายเดือนมกราคม ถ้าช้าสุดก็เดือนกุมภาพันธ์ ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะได้ดูกัน ในกองนี้ดูเหมือนคุณวูจินจะเป็นคนเดียวที่ยังดูสดใสร่าเริง อีกนิดเดียวก็จะปิดกล้องแล้ว สู้ ๆ นะ”

'พาร์ทแรกของ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์สินะ เป็นตารางงานที่ดูเป็นไปได้ เพราะPDซงมันวูทุ่มเทกับงานนี้มากจริง ๆ' วูจินครุ่นคิด

“แล้วก่อนเปิดตัว ก็ต้องถ่ายทำส่วนของคุณวูจินคนเดียวเพื่อโปรโมตและทำการตลาดด้วย ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย?”

“ไม่มีปัญหาครับ”

“ผมตกลงกับทางไมลีย์ คาร่า เรียบร้อยแล้วด้วย เฮ้อ- เดี๋ยวเราจะเริ่มปล่อยคลิปแนะนำตัวละคร ตัวอย่าง และตัวอย่างต่าง ๆ เร็ว ๆ นี้ อ่า- แล้วก็มีการแก้ไขตารางถ่ายทำเล็กน้อย คุณวูจินมีงานที่ต่างประเทศช่วงปลายปีด้วย คงยุ่งน่าดู”

'คงกำลังพูดถึงตารางงานของฉันสินะ'

“ผมจะเร่งถ่ายฉากของคุณวูจินให้เสร็จโดยเร็วที่สุดนะ”

PDซงมันวูชูนิ้วโป้งทั้งสองข้าง ก่อนจะบอกให้ทุกคนเตรียมตัวแล้วเดินจากไป วูจินมองตามแผ่นหลังของเขาพลางครุ่นคิด 'เมื่อ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ เปิดตัวไปทั่วโลกแล้ว จะได้รับการตอบรับอย่างไรบ้างนะ?'

คังวูจินครุ่นคิดถึงกระแสตอบรับอยู่ครู่หนึ่ง

[9/บทละคร (ชื่อเรื่อง: มารร้ายผู้แสนดี) ระดับ EX]

การออกฉายระดับ EX ครั้งแรก

‘จำได้ว่ามันได้ระดับ EX สินะ คงจะดุเดือดน่าดูเชียว?’

แท้จริงแล้ว แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าสิ่งใดจะบังเกิดขึ้น แต่กระนั้น ความตื่นเต้นก็แล่นริ้วอยู่ภายใน 'มารร้ายผู้แสนดี' เปรียบประดุจประกาศิตฉบับแรกที่คังวูจินประกาศกร้าวสู่สายตาชาวโลก

หลังจากนั้น 30 นาที

เหล่าทีมงานกว่าร้อยชีวิตต่างสงบนิ่ง PDซงมันวูนั่งประจำตำแหน่งเบื้องหน้าจอมอนิเตอร์ ตะโกนก้องสั่งการไปยังคังวูจินที่อยู่กลางกองถ่าย

“แอคชั่น!!”

4 ธันวาคม

เดือนพฤศจิกายนลาลับ เดือนธันวาคมมาเยือนพร้อมเกล็ดหิมะแรกที่โปรยปรายลงมา ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ คังวูจินนั่งอยู่บนเครื่องบิน สวมหมวกปกปิดใบหน้าคมคาย ร่างสูงโปร่งนั่งชิดติดหน้าต่าง แต่เครื่องบินลำนี้ช่างแตกต่างจากลำอื่น ๆ โดยมีจำนวนผู้โดยสารเบาบาง มีเพียงชเวซองกุนและทีมงานของวูจินเท่านั้น

เหตุผลง่ายดายยิ่ง

เพราะนี่คือเครื่องบินส่วนตัวของคังวูจิน ทิวทัศน์ภายนอกหน้าต่างถูกเมฆหมอกปกคลุม วูจินที่ใบหน้าหล่อเหลาแฝงไว้ด้วยความองอาจ

‘ลอสแอนเจลิส นานแล้วสินะที่ไม่ได้มาเยือน รู้สึกแปลกตาไปจากเดิม หรืออาจเป็นเพราะสเกลงานที่วางแผนไว้มันต่างกันนะ?’

ความจริง เขาไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงเลยสักนิด

‘อะไรก็มาเหอะ ฉันไม่กลัวหรอก’

นี่คือเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของเครื่องบินส่วนตัวคังวูจิน มุ่งหน้าสู่ฮอลลีวูดอันเลื่องชื่อ

และในขณะเดียวกันนี้ ณ ดินแดนเกาหลี ข่าวคราวเกี่ยวกับเขากำลังถูกเผยแพร่กระจายออกไปอย่างร้อนแรง

『[ข่าวเด็ด] ลับสุดยอด! ‘คังวูจิน’ ขึ้นเครื่องบินส่วนตัว บินไปแอลเอแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยช่วงปลายปี หรือจะเป็นการบินเพื่อเดบิวต์ที่ฮอลลีวูด? 』

จบ

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด