ตอนที่แล้วบทที่ 359 : ลูกโซ่ (8)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 361 : ลูกโซ่ (10)

บทที่ 360 : ลูกโซ่ (9)


【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】

【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】

【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】

บทที่ 360 : ลูกโซ่ (9)

ไมลีย์ คาร่าจะมาแสดงหนังเกาหลีงั้นเหรอ? นักข่าวชายสวมหมวกเอ่ยขึ้น นักข่าวหญิงผมยาวดัดลอนสางผมพลางถามกลับทันที

“ล้อเล่นหรือเปล่า?”

นักข่าวชายยักไหล่ นักข่าวหญิงจ้องมองเขาครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ถ้านายจะทำให้ฉันขำ นายก็ทำสำเร็จแล้วล่ะ นี่มันเรื่องตลกที่สุดที่ฉันได้ยินมาทั้งปีเลย”

แค่เรื่องตลกก็สมควรแล้ว ไมลีย์ คาร่าคือซูเปอร์สตาร์ระดับโลกติดท็อปห้า เธอโด่งดังทั้งในฐานะนักแสดงและนักร้อง แถมล่าสุดอัลบั้มใหม่ของเธอก็กำลังครองชาร์ตบิลบอร์ด ใครเลยจะเชื่อว่าซูเปอร์สตาร์ผู้ทรงอิทธิพลขนาดนี้จะมารับงานแสดงในหนังเกาหลีได้กัน

แต่นักข่าวชายสวมหมวกก็ยังยืนยันคำพูดเดิม

“ขอโทษด้วยนะเพ็กกี้ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอหัวเราะ”

“ถ้างั้นมันคืออะไร? ทำไมถึงพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกมา ฉันยุ่งนะ”

นักข่าวชายยื่นแท็บเล็ตในมือให้เธอ

“ฉันก็คิดว่ามันไร้สาระเหมือนกัน แต่ตอนนี้มีข่าวลือเรื่องไมลีย์ คาร่า แพร่กระจายไปทั่วโซเชียลและสื่อเกาหลีอย่างรวดเร็วเลย”

“······”

รอยยิ้มบนใบหน้าของนักข่าวหญิงจางหายไป เธอขมวดคิ้วอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงมองแท็บเล็ตที่ได้รับมา ในนั้นมีทั้งบทความข่าวจากเกาหลีที่แปลแล้ว และโพสต์จากโซเชียลมีเดียที่นักข่าวชายรวบรวมมา ส่วนใหญ่เป็นโพสต์ของแฟนคลับของคาร่า พาดหัวข่าวจากเกาหลีเขียนว่า

『ภาพหลุดจากกองถ่าย ‘มารร้ายผู้แสนดี’ เผยให้เห็น ไมลีย์ คาร่า! หรือจะเป็นการยืนยันการร่วมงานกับคังวูจิน? 』

บทความส่วนใหญ่ที่นักข่าวชายรวบรวมมาล้วนมีพาดหัวคล้ายคลึงกัน ยิ่งไปกว่านั้น โพสต์บนโซเชียลมีเดียของแฟนคลับคาร่ายังเติมเชื้อไฟให้กับข่าวลือเหล่านี้ด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องกัน แม้ทุกคนจะใช้ถ้อยคำต่างกันไปบ้าง แต่ใจความสำคัญก็คือ

ไมลีย์ คาร่าขวัญใจของพวกเรากำลังจะมีผลงานในเกาหลีจริงเหรอ?

นักข่าวหญิงเลื่อนดูเนื้อหาต่าง ๆ ก่อนจะเสยผมยาวดัดลอนของเธออย่างจริงจัง นักข่าวชายจึงอธิบายเพิ่มเติม

“ฉันยังไม่ได้ตรวจสอบทั้งหมด แต่ดูเหมือนเรื่องนี้จะกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในโซเชียลมีเดียและชุมชนออนไลน์ของเกาหลีด้วย เพียงแต่เพิ่งเริ่มเป็นกระแสได้ไม่นาน ทางฮอลลีวูดจึงยังเงียบสงบอยู่”

“แปลกจังเลยนะ ทำไมจู่ ๆ ถึงมีข่าวลือแบบนี้ออกมาได้ล่ะ”

เมื่อถูกถามกลับ นักข่าวชายจึงใช้นิ้วชี้เลื่อนหน้าจอแท็บเล็ตที่นักข่าวหญิงถืออยู่ ภาพที่ปรากฏขึ้นดูเหมือนจะเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์

“นี่คือกองถ่าย ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ผลงานของเกาหลี สถานที่ถ่ายทำอยู่ที่กรุงเทพ ถ่ายทำในต่างประเทศ ฉันลองเช็คดูแล้ว เหมือนจะเป็นผลงานออริจินัลของ Netflix เอาเป็นว่า ผู้ชายคนนี้คือคังวูจิน”

“คังวูจิน...คนที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์”

“ใช่ ตอนนั้นเพ็กกี้ เธอยังหัวเราะเยาะคำประกาศที่คล้ายกับการท้าทายของเขาที่ว่า ‘ปีหน้าจะคว้ารางวัลออสการ์’ เลย”

“ฉันรู้ หลังจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์จบลง ก็มีบทความเกี่ยวกับเขาออกมาเยอะมาก และเป็นที่พูดถึงในฮอลลีวูดพอสมควร”

นักข่าวชายพยักหน้ารับ ก่อนจะขยับนิ้วชี้ไปที่หน้าจอแท็บเล็ต

“สาเหตุที่ข่าวลือแพร่ออกไปเป็นเพราะผู้หญิงผมบลอนด์คนนี้”

“ก็ดูเหมือนไมลีย์ คาร่า จริง ๆ นั่นแหละ”

“ภาพตัดนี้หลุดออกมาจนกลายเป็นประเด็นใหญ่โตเลยนะ รู้หรือเปล่า? คังวูจิน ครั้งนี้ก็มีส่วนร่วมในอัลบั้มของไมลีย์ คาร่าด้วย สมัยก่อนตอนที่เธอมาเกาหลีก็เคยไปออกรายการYoutubeของคังวูจินมาแล้ว”

“ที่งานเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งนี้ก็มีภาพคู่ของทั้งสองคนด้วยนะ”

“น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ? ครั้งก่อนฉันติดหนี้เธอนี่ เรื่องนี้ยกให้เธอแล้วกัน”

นักข่าวหญิงก้มมองภาพหญิงสาวผมบลอนด์ในแท็บเล็ตอีกครั้ง คราวนี้ไมลีย์ คาร่ากำลังโด่งดังไปทั่วโลก ไม่เพียงแต่ปรากฏตัวที่เมืองคานส์เท่านั้น แต่อัลบั้มใหม่ของเธอก็กวาดชาร์ตบิลบอร์ดไปอย่างถล่มทลาย

นั่นหมายความว่าตอนนี้ข่าวคราวของไมลีย์ คาร่าขายได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า

นักข่าวหญิงผู้นั้นจึงดึงเก้าอี้ออกมานั่งพลางเปิดโน้ตบุ๊กที่ปิดอยู่ขึ้นมา จากนั้นก็หันไปถามนักข่าวชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

“คังวูจิน ไมลีย์ คาร่า— อ้อ ใช่ ชื่อผลงานเกาหลีเรื่องนั้นคือ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ใช่ไหม?”

‘มารร้ายผู้แสนดี’ กำลังมีแนวโน้มที่จะโด่งดังไปทั่วโลก

ต่อมา

คังวูจินอยู่ที่กองถ่าย ‘มารร้ายผู้แสนดี’ เหลือเวลาอีกเพียง 10 นาทีก่อนเริ่มถ่ายทำ ทีมงานรอบตัวเขากำลังก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์มือถือกันอยู่ หรือจะพูดให้ชัดก็คือกำลังดูกระแสตอบรับที่กำลังร้อนแรงทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น

“พี่คะ! ‘ปลิง’ ยอดคนดู 780000 แล้วค่ะ! 780000!!”

“บ้าไปแล้ว! ‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ วันแรกได้เท่าไหร่นะ?”

“ประมาณ 700000!”

“โอ้โห!! มากกว่าตั้ง 80000 เลยเหรอ?!”

“‘ปลิง’ นี่จะทำลายสถิติอีกแล้วหรือเนี่ย?!”

"ว้าว! ถึงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์จะมีอิทธิพลในการโปรโมตมากขนาดไหน แต่ยอดผู้ชมวันธรรมดาถึง 780000 คนนี่มัน...เหลือเชื่อจริง ๆ "

"แล้ว 'บุปผาเร้น' ล่ะ? ผลของ 'บุปผาเร้น' ออกมาหรือยัง?"

คังวูจินแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ก่อนจะเอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"880000"

ความตื่นเต้นของทีมงาน ทั้งสไตลิสต์และคนอื่น ๆ พลันแปรเปลี่ยนเป็นความยินดีปรีดาอย่างบ้าคลั่ง

"880000!!! มากกว่าวันแรกอีก! เอ๊ะ? ว่าแต่พี่รู้ได้ยังไงคะ?"

"รับโทรศัพท์มาน่ะ"

"โอ้โห! 880000! นี่มันตัวเลขที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย! ทั้งที่สื่อญี่ปุ่นด่า 'บุปผาเร้น' ว่าเจ๊งแน่ ๆ ! สมน้ำหน้า!"

"เฮ้ย ถึงยังไงก็ไม่ควรพูดว่า 'สมน้ำหน้า' หรอกนะ"

"ก็อ่านข่าวแล้วมันโมโหอ่ะ!"

'บุปผาเร้น' และ 'ปลิง' ต่างทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง หากเมื่อวาน 'บุปผาเร้น' เป็นเพียงเรื่องเดียวที่ทำลายสถิติ แต่วันนี้ทั้งสองเรื่องกลับทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด ยอดผู้ชม 880000 และ 780000 คนนั้นมากพอที่จะทำลายสถิติของทั้งสองประเทศ

ทันใดนั้นเอง

"คุณวูจิน!! ยินดีด้วยค่ะ!!"

"โอ้โห! ยอดผู้ชมสุดยอดมากเลยนะครับ?!"

ทีมงาน 'มารร้ายผู้แสนดี' หลายสิบคนต่างกรูเข้ามาแสดงความยินดีและชื่นชมคังวูจินที่ยังคงนิ่งสงบ บางคนก็เน้นย้ำถึงสิ่งที่ไม่ควรลืมเลือน

"ไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย! สุดยอดมาก! แค่ได้เล่นเป็นพระเอกในหนังที่เข้าฉายพร้อมกันทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นก็เหลือเชื่อแล้ว แถมหนังทั้งสองเรื่องยังทำลายสถิติยอดผู้ชมอีก!"

จุดที่ทั้งสองเรื่องนี้มีเหมือนกันคือ การมีคังวูจินเป็นนักแสดงนำ

ไม่เคยมีนักแสดงคนใดที่สามารถเปิดตัวภาพยนตร์ในสองประเทศพร้อมกันแล้วประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายเช่นนี้มาก่อน สถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่เอี่ยมอ่อง ทั้งในวงการบันเทิงเกาหลีและญี่ปุ่น คังวูจินได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทั้งสองประเทศ

ต่อมา ทีมงานทุกคนต่างคาดเดาอนาคตอันรุ่งโรจน์

“แบบนี้ถ้าทั้งสองเรื่องทะลุ 10 ล้านคนนี่คือ… สุดยอดไปเลยใช่มั้ย?”

“ยิ่งกว่านั้นอีก! คุณวูจินจะกลายเป็นตำนาน!”

ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็กระโดดโลดเต้นด้วยความปิติยินดี ยกเว้นคังวูจิน

“แต่ว่า คุณวูจิน! ทำไมถึงใจเย็นได้ขนาดนี้หลังจากปล่อยระเบิดลูกใหญ่ขนาดนี้? ทำไมถึงนิ่งจัง!”

ความจริงแล้วคังวูจินเต้นรำฉลองอย่างสุดเหวี่ยงอยู่ในใจตั้งแต่หลายสิบนาทีก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ภายในใจเขายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง

‘หึหึ มุมปากนี่มันจะยกขึ้นตลอดเลยแฮะ หยุดเลยนะไอ้ชาย คังวูจิน ตัวฉัน หยุด หยุดดด’

เขากำลังพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมอารมณ์ แต่สื่อในประเทศกลับแตกตื่นกันยกใหญ่

『[ประเด็นร้อน] ‘ปลิง’ ภาพยนตร์รางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ทำยอดผู้ชมวันแรก 780000 คน ครองอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศอย่างโดดเด่น!』

『 ‘ปลิง’ ทำยอดผู้ชมวันธรรมดา 780000 คน สูงกว่า “เกาะแห่งผู้สูญหาย” ที่มียอดผู้ชม 20 ล้านคน!』

『 ‘บุรุษแห่งเมืองคานส์’ คังวูจิน ประสบความสำเร็จอีกครั้ง ‘ปลิง’ ทำยอดผู้ชม 780000 คนในวันเปิดตัว!』

ทันทีที่ผลงานของ ‘ปลิง’ ถูกประกาศ เหล่าสื่อก็แห่กันเข้ามาราวกับฝูงผึ้งแตกรัง

『 “ด้วยสถิตินี้ อาจทะลุ 20 ล้านคน” ‘ปลิง’ ที่สร้างความฮือฮาในเมืองคานส์ ทำลายสถิติด้วยยอดผู้ชม 780000 คน』

แม้กระทั่งวันที่สองของการฉาย ยอดจองตั๋วภาพยนตร์เรื่อง ‘ปลิง’ ก็ยังคงครองอันดับหนึ่ง บทความวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดหลังฝนตก ทุกบทความล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวังมากมาย

『[คุยข่าวภาพยนตร์] วันแรกกวาดผู้ชม 780000 คน · ครองอันดับ 1 · เสียงชื่นชมจากผู้ชมถล่มทลาย คว้ารางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ‘ปลิง’ จะสร้างปรากฏการณ์ในเกาหลีได้หรือไม่? พร้อมคว้ารางวัลนักแสดงนำชาย』

กระแสสื่อกำลังพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุด เช่นเดียวกับกระแสตอบรับจากผู้คน แน่นอนว่ามหาชนต่างฝากความหวังไว้กับ ‘ปลิง’ อย่างมหาศาล เริ่มตั้งแต่การคว้ารางวัลอันทรงเกียรติจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประกอบกับเสียงชื่นชมจากบุคคลสำคัญระดับโลก โดยปกติ หากความคาดหวังที่พุ่งสูงลิบลิ่ว ความผิดหวังก็มักจะยิ่งใหญ่ตามมาเป็นเงา

ทว่าผู้ชมที่ได้สัมผัสกับ ‘ปลิง’ กลับไม่มีใครต้องพบกับความผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

“โอ้โห! สุดยอดมากจริง ๆ ต้องไปดูอีกรอบให้ได้”

“ตอนที่หนังเปลี่ยนโทนกลางเรื่องนี่แหละ สุดยอดไปเลย โดยเฉพาะตอนที่คังวูจินเปลี่ยนสีหน้า”

“ลองไปหาข้อมูลดู เขาเรียกว่าโรคริปลีย์ หรือว่า… คังวูจินนี่โรคจิตกันแน่? แสดงได้… เหมือนคนโดนผีสิงยังไงยังงั้น”

“เอาจริง ๆ นะ ซิมฮันโฮดูจืดชืดไปเลย”

“เห็นด้วยอย่างยิ่ง สำหรับฉันแล้ว คงไม่มีนักแสดงคนไหนสามารถเอาชนะการแสดงของคังวูจินได้อีกแล้ว”

เพราะพวกเขาได้รับความบันเทิงที่เหนือความคาดหมายทุกประการ

[「ปลิง」/ เข้าฉายวันที่ 27 ตุลาคม 2021] [คะแนน 9.5] [ความเห็นของผู้ชมและชาวเน็ต/ 1988 คน]

-บท การกำกับ นักแสดง ทุกอย่างดีหมด… ขนลุก…./ r*************

-ช่วงเวลาที่คังวูจินก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ สีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปราวกับคนละคน คือจุดเปลี่ยนโทนของหนังเลย/ t****************

-โรคริปลีย์ เดี๋ยวนี้คนเป็นกันเยอะเพราะ Instagram การที่เชื่อว่าเรื่องโกหกเป็นเรื่องจริง ยังไงก็เอะใจ คังวูจินแสดงได้สมจริงมาก/ f************

-เข้าใจอย่างสุดซึ้งเลยว่าทำไมเทศกาลหนังเมืองคานส์ถึงมอบรางวัลปาล์มทองคำให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ และทำไมคังวูจินถึงได้รับรางวัลนักแสดงนำชาย/ h************

-ภาพยนตร์ที่มอบความรู้สึกแปลกประหลาด...ราวกับมีบางสิ่งติดค้างอยู่ในใจ/ 4*****************

-ภาพยนตร์ที่ไม่ต้องการคำบรรยายใด ๆ และทุกคนในยุคนี้ควรหาโอกาสรับชมสักครั้ง และในเวลานี้ คังวูจินคือที่สุดของนักแสดงฝีมือระดับประเทศ/ a*******

-ยังคงรู้สึกประทับใจและขนลุกไม่หาย จนถึงขั้นที่ฉันต้องลบบัญชี Instagram ทิ้งไป/ d*********

-ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนปัญหาสังคมในยุคปัจจุบันผ่านโรคริปลีย์ ผู้กำกับอันกาบกช่างเป็นอัจฉริยะโดยแท้/ 6**********

ฮ่า ๆ ๆ ๆ บ้าไปแล้ว คังวูจิน นี่เขาเป็นโรคริปลีย์เข้าจริง ๆ หรือเปล่านะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ / b********

-ไหงจึงมีแต่คำชื่นชม? ในสายตาฉันมองเห็นเพียงคนวิกลจริตที่ทำลายครอบครัวของตัวเอง/ c*******

-ฉันถึงกับต้องเปลี่ยนกางเกงในหลายรอบเพราะการแสดงอันทรงพลังของคังวูจิน...เขาแบกภาพยนตร์ทั้งเรื่องไว้คนเดียวเลย/ 1***********

เรียกได้ว่า กระแสตอบรับของ ‘ปลิง’ และ ‘บุปผาเร้น’ นั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ‘ปลิง’ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นตั้งแต่ก่อนฉายและหลังจากเข้าฉาย ขณะที่ ‘บุปผาเร้น’ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตั้งแต่เริ่มสร้างมาจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ยิ่ง ‘บุปผาเร้น’ ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากเท่าใด ยิ่งถูกคนประณามมากเท่าไหร่ กลับยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

『850000+880000! เพียงสองวัน ‘บุปผาเร้น’ ทำรายได้ทะลุ 1730000 และยังคงครองแชมป์การจองตั๋วในวันที่สามของการฉาย!』

『เสียงวิพากษ์วิจารณ์กลับกลายเป็นแรงผลักดัน? ‘บุปผาเร้น’ แม้จะเต็มไปด้วยคำติฉินนินทา แต่ก็ยังคงทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง』

กระแสความสนใจในคังวูจินพลุ่งพล่านราวกับไฟลามทุ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ผู้กำกับ บุคคลทั่วไป สื่อมวลชน และผู้คนในแวดวงบันเทิงของทั้งสองประเทศต่างก็กล่าวถึงเขาอย่างไม่ขาดปาก ทั้งสองประเทศแทบจะตกอยู่ในภาวะวิกฤต แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นั้น

『พาดหัวข่าวของสำนักข่าวใหญ่ในนิวยอร์ก “คังวูจิน ประกาศสงครามกับรางวัลออสการ์ ไมลีย์ คาร่า ปรากฏตัวใน ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ผลงานที่เขากำลังร่วมแสดงด้วย” 』

กระแสคลื่นลูกใหญ่นี้อาจซัดกระเซ็นไปทั่วโลกก็เป็นได้

ไม่กี่วันต่อมา ในวันอาทิตย์ที่ 31 ณ นครลอสแอนเจลิส

ขณะที่วงการภาพยนตร์ของทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นกำลังร้อนระอุ บรรยากาศในลอสแอนเจลิสกลับค่อนข้างสงบนิ่ง ท่ามกลางบริษัทภาพยนตร์และจัดจำหน่ายน้อยใหญ่ที่ตั้งเรียงราย ภายในห้องประชุมขนาดกลางของบริษัทระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง ชายชราผู้มากประสบการณ์นั่งสง่าอยู่กลางโต๊ะรูปตัว D รัศมีแห่งความเก๋าเกมแผ่ซ่านออกมาโดยรอบ

“······”

ใบหน้าที่ฉาบไปด้วยริ้วรอยแห่งวัย ผมสีเงินตัดสั้น ดวงตาเฒ่าชรามองออกไปยังทิวทัศน์ของนครลอสแอนเจลิสอย่างเงียบเชียบ ชายคนนี้คือผู้กำกับอันกาบก รอบตัวเขามีทั้งตัวแทนและผู้บริหารจากบริษัทต้นสังกัด รวมถึงล่ามอีกหนึ่งคน รวมผู้กำกับอันกาบกเป็นทั้งหมดห้าคน ทุกคนดูราวกับกำลังรอคอยใครบางคนอยู่

เหตุใดผู้กำกับอันกาบกจึงมาปรากฏตัวที่ลอสแอนเจลิสแทนที่จะเป็นเกาหลี?

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลาที่ภาพยนตร์เรื่อง ‘ปลิง’ กำลังเข้าฉายในเกาหลี ตามธรรมเนียมแล้วผู้กำกับอันกาบกควรจะอยู่ร่วมในกิจกรรมโปรโมตและการตลาด แต่เขากลับมาอยู่ที่ฮอลลีวูด ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าฉงนนัก

ทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ผู้กำกับ”

ร่างท้วมของผู้จัดการทรุดลงบนเก้าอี้ข้างกายผู้กำกับอันกาบก แววตาเป็นประกายฉายแววตื่นเต้น แต่ก็พยายามเก็บอาการไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเรื่อย

“‘ปลิง’ ผลงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพิ่งประกาศยอดผู้ชมครับ ฉายไปแค่สี่วันคนดูทะลุสี่ล้านแล้ว เร็วกว่า ‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ อีกนะครับ”

“อืม”

ผู้กำกับอันกาบกครางรับในลำคอ ก่อนเอ่ยถามขึ้น

“แล้ว ‘บุปผาเร้น’ ล่ะ เป็นยังไงบ้าง?”

“แรงกว่าของเราน่ะสิครับ”

ทันใดนั้นเอง เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นมาในทันที

-แกร๊ก!

บานประตูห้องประชุมที่ปิดสนิทถูกผลักออก ขัดจังหวะคำพูดของผู้จัดการ กลุ่มชาวต่างชาติหน้าตาแตกต่างกันทยอยเดินเข้ามาสี่คน เมื่อพวกเขาปรากฏตัว ผู้กำกับอันกาบกและคนอื่น ๆ ก็ลุกขึ้นยืนต้อนรับ จับมือทักทายกันอย่างสุภาพ

“นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ ผู้กำกับอันกาบก ขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับ ‘รางวัลปาล์มทองคำ’ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ด้วยครับ”

“การคว้ารางวัลเหนือหนังกระแสหลักจากคานส์ได้นี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ”

“ขอบคุณครับ”

เวลาผ่านไปราวสิบนาที หลังจากพูดคุยทักทายกันพอหอมปากหอมคอ

-กึก

ทุกคนจึงทยอยนั่งลง ชายชาวต่างชาติร่างสูงโปร่ง ศีรษะล้านสะท้อนแสงไฟ สวมแว่นตาขอบบาง อายุราวหกสิบปี นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้กำกับอันกาบก เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นภาษาอังกฤษ

“ผู้กำกับ ผมอยากให้คุณมากำกับภาพยนตร์ของเรา”

ข้อเสนอให้กำกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดได้มาถึงแล้ว

-จบ-

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด