ตอนที่แล้วบทที่ 355 : ลูกโซ่ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 357 : ลูกโซ่ (6)

บทที่ 356 : ลูกโซ่ (5)


【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】

【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】

【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】

บทที่ 356 : ลูกโซ่ (5)

ครั้งแรกที่คังวูจินมาถึงโรงภาพยนตร์ซึ่งกำลังจัดฉายรอบปฐมทัศน์ของ ‘บุปผาเร้น’ ให้ผู้ชม บอกตามตรงว่าเขาลอบมองเข้าไปข้างในแล้วรู้สึกอยากจะสร้างความฮือฮาสักหน่อย

เหตุผลง่ายมาก

“นี่เรียกว่าหนังเหรอ! ทำลายต้นฉบับหมดเลย!!”

เสียงตะโกนกราดเกรี้ยวของผู้ชมหลายร้อยคนดังลั่นออกมาจากโรง พนักงานโรงภาพยนตร์ที่กำลังพาคังวูจินไปยังที่นั่งพลางมองเขาด้วยความสนใจถึงกับชะงัก พร้อมกับพนักงานจากบริษัทจัดจำหน่าย ‘บุปผาเร้น’ รีบเข้ามาห้ามปราม

“เอ่อ... ตอนนี้เข้าไปอาจจะยังไม่เหมาะนะครับ”

“ครับ รอให้ทุกอย่างสงบลงก่อนดีกว่า หรือไม่ก็รอบนี้ผ่านไปก่อนก็ได้ครับ”

พนักงานบริษัทจัดจำหน่ายพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้มาบ่อยแล้ว ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ‘บุปผาเร้น’ จัดฉายรอบปฐมทัศน์มากกว่าหนังเรื่องอื่น ๆ เป็นเท่าตัว และทุกครั้งก็จะมีทั้งนักข่าวและผู้ชมส่วนใหญ่ที่แสดงความรู้สึกอย่างรุนแรง แน่นอนว่ารอบฉายสำหรับผู้ชมจะเสียงดังกว่าหลายเท่า แต่ครั้งก่อน ๆ ไม่มีคังวูจินอยู่ด้วย ส่วนครั้งนี้เขามา

“ถ้าคุณวูจินเข้าไปตอนนี้ ผมว่าทุกคนคงยิ่งโกรธกว่าเดิมนะครับ”

ใบหน้าของวูจินเรียบเฉย แต่ในใจเขาก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง

‘จริงแฮะ เข้าไปตอนนี้มีหวังโดนอะไรปาใส่หัวแน่’

แต่ในเมื่อตอนนี้เขาสร้างภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่ง การแสดงความอ่อนแอออกมาก็คงไม่เข้าท่า วูจินพยายามสงบสติอารมณ์แล้วตอบกลับไปอย่างไม่ยี่หระ

“ไม่เป็นไรครับ”

“······ครับ?”

“ไม่เป็นไร”

“อ่า”

คังวูจินก็เดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายไม่สนใจใยดี แต่พอเข้าไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่

‘ผ่านงานที่เมืองคานน์มาแล้วยังรอด เรื่องแค่นี้จิ๊บ ๆ ’

ภายในโรงภาพยนตร์ที่บรรยากาศตึงเครียด การปรากฏตัวของคังวูจินสร้างความประหลาดใจให้กับผู้กำกับเคียวทาโร่และนักแสดงชาวญี่ปุ่นจากภาพยนตร์เรื่อง ‘บุปผาเร้น’ เป็นอย่างมาก การมาเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ของเขาดูเร่งรีบ แท้จริงแล้วแม้จะไม่มาก็ไม่เสียหาย ทว่าคังวูจินกลับยืนกรานที่จะมาด้วยตัวเอง

เพราะเป็นภาพยนตร์ที่เขาแสดงนำ การขึ้นไปทักทายบนเวทีจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ

ทันทีที่วูจินปรากฏตัว ผู้ชมหลายร้อยคนก็พลันเงียบกริบ ราวกับโลกหยุดหมุน ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะมา

ยิ่งไปกว่านั้น

“······คังวูจิน?”

“ไม่ใช่ว่าบอกว่าไม่มาเหรอ?”

“ตกใจหมดเลย”

รัศมีของ “รางวัลนักแสดงนำชาย เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์” ที่เคยทำให้ทั่วโลกตะลึง ยิ่งเสริมบารมีให้กับเขา คังวูจินเปล่งเสียงทุ้มกังวานไปยังผู้ชมนับร้อย

‘ต้องทำให้ดูเคร่งขรึมกว่าปกติ’

ความสงบนิ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่จงใจ

“สวัสดีครับ ผมคังวูจิน รับบท อิโยตะ คิโยชิ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘บุปผาเร้น’ ครับ”

ผู้ชมหลายร้อยคนที่ไม่ใช่แฟนตัวยงของ ‘บุปผาเร้น’ ต่างนิ่งงันราวกับต้องมนตร์ บางคนถึงกับอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา ท่ามกลางเสียงฮือฮา เสียงกระซิบกระซาบก็เริ่มดังขึ้น

“คังวูจิน······ต่างจากนักแสดงคนอื่นจริง ๆ”

“ไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ดู···น่าเกรงขามจัง”

“จริงด้วย เรียกว่าอะไรนะ? ออร่าความเป็นมืออาชีพ?”

ออร่าเปล่งประกายเจิดจรัสเกินต้านทาน

ความเงียบสงัดเข้าครอบงำโรงภาพยนตร์ที่ครู่ก่อนยังครึกครื้น ราวกับเสียงทุกเสียงถูกกลืนหายไปในสุญญากาศ เหลือเพียงความตกตะลึงที่สะท้อนอยู่ในแววตาของผู้คน เบื้องหน้าบารมีอันน่าเกรงขามของคังวูจิน

�·····

�·····

ผู้กำกับเคียวทาโร่แสยะยิ้ม เสียงหัวเราะแหบพร่าดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอ

‘เหมือนกับว่าจะเกิดสงครามขึ้น แต่เพียงแค่คังวูจินปรากฏตัว ทุกอย่างก็กลับสงบลงได้ในพริบตาเชียวเหรอ’

แม้แต่ตัวเขาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการภาพยนตร์มากว่าหลายสิบปี ก็ยังไม่เคยพบเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน

‘เขากลายเป็นดาราแถวหน้าของโลกไปแล้วจริง ๆ ’

ไม่เพียงแต่ผู้กำกับเคียวทาโร่เท่านั้น นักแสดงของ ‘บุปผาเร้น’ ทุกคนก็ล้วนแล้วแต่รู้สึกเช่นเดียวกัน สายตาของพวกเขายังคงจับจ้องไปที่คังวูจินด้วยความทึ่งปนอัศจรรย์ใจ หากคนเบื้องหลังยังรู้สึกเช่นนี้ แล้วคนดูจะขนาดไหนกัน มานะ โคซะกุขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอย่างจริงจัง

‘นั่นมันท่าทางของนักแสดงที่เพิ่งเข้าวงการมาได้แค่สองปีจริงดิ?’

ทันใดนั้น

-กึก

คังวูจินที่เพิ่งกล่าวทักทายผู้ชมเสร็จสิ้น ยื่นไมโครโฟนให้กับมานะ โคซะกุ ชายหนุ่มใบหน้าคมคายโค้งศีรษะให้วูจินเล็กน้อยก่อนเอ่ย

“ขอบคุณครับ”

จากนั้นก็ขยับกายไปอีกหนึ่งก้าว เว้นที่ว่างด้านข้างผู้กำกับเคียวทาโร่เอาไว้สำหรับคังวูจิน เพราะพระเอกของ ‘บุปผาเร้น’ ก็คือคังวูจินอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อวูจินยืนประจำที่ของตน นักแสดงหลักของ ‘บุปผาเร้น’ ก็ถือว่าพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างสมบูรณ์

“สวัสดีครับ ผมมานะ โคซะกุ รับบทเป็นสารวัตรโยชิซาวะ โมจิโอะ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘บุปผาเร้น’ ครับ”

บรรยากาศบนเวทีกลับมาดำเนินไปอย่างราบรื่น ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อน ท่าทีของผู้ชมหลายร้อยคนที่อยู่เบื้องหน้า แตกต่างจากเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วราวฟ้ากับดิน

-กึก

ทุกคนต่างควักโทรศัพท์มือถือออกมา ราวกับผึ้งแตกรัง บันทึกภาพคังวูจินกันอย่างจ้าละหวั่น

ประมาณ 30 นาทีต่อมา

ทีม ‘บุปผาเร้น’ เสร็จสิ้นการทักทายบนเวทีรอบปฐมทัศน์สำหรับผู้ชม และกำลังเดินออกจากโรงภาพยนตร์ นักแสดงชาวญี่ปุ่นต่างรุมล้อมคังวูจิน ราวกับดาวล้อมเดือน พร้อมกับยิงคำถามมากมาย แต่เมื่อผู้กำกับเคียวทาโร่เข้ามาแทรก บรรยากาศก็สงบลงเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงถามวูจินว่า

“คุณวูจิน สบายดีไหมครับ? ได้ยินมาว่าตารางงานแน่นมาก ทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ”

คังวูจินพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะตอบว่า

“แน่นมากครับ บ่ายนี้ผมต้องกลับเกาหลีแล้ว”

“‘มารร้ายผู้แสนดี’ กำลังถ่ายทำอยู่ไม่ใช่เหรอครับ”

“ใช่ครับ แต่ผมขออนุญาตมาแล้ว กลับไปแบบกะทันหันแบบนี้ไม่มีปัญหาหรอกครับ”

“ฮ่า ๆ ขอบคุณมากนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมจะพลาดการขึ้นเวทีของ ‘บุปผาเร้น’ ได้ยังไง”

“แต่ว่า คุณวูจินมาถึงนี่แล้ว ไหงสื่อกลับเงียบแบบนี้ล่ะครับ?”

“ผมแอบเข้ามาครับ”

สรุปแล้ว วูจินต้องขึ้นเวทีทักทายในโรงภาพยนตร์อีก 4 แห่ง รวมถึงรอบที่เพิ่งจบไป หลังจากนั้น เขาจะต้องบินกลับเกาหลีทันที ตอนนี้ญี่ปุ่นกับเกาหลีคงดูเหมือนโซลกับคยองกีโดในสายตาของคังวูจินเสียแล้ว

ในขณะที่คังวูจินกำลังเดินสายทักทายสำหรับ ‘บุปผาเร้น’ อยู่นั้น

『คังวูจิน เจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายจากเมืองคานส์ ปรากฏตัวเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ ‘บุปผาเร้น’ / ภาพประกอบ』

สื่อญี่ปุ่นที่ได้รับข่าวต่างก็กระหน่ำรายงานข่าวกันยกใหญ่ เพราะผู้ชมในโรงภาพยนตร์รอบที่แล้วได้โพสต์ภาพของคังวูจินลงโซเชียลมีเดียกันอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง

เพราะ ‘คังวูจิน’ แอบเยือนญี่ปุ่นอย่างกะทันหันงั้นหรือ?

การปรากฏตัวอย่างไม่คาดฝันในโรงภาพยนตร์รอบสื่อมวลชนของ ‘บุปผาเร้น’ คังวูจินถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล

‘บุปผาเร้น’ ใกล้เข้าฉายในอีกหนึ่งสัปดาห์ บุรุษแห่งเมืองคานส์ คังวูจินก็ให้ความสนใจด้วยเช่นนั้นเหรอ?

ครึ่งวันนั้นผ่านไปอย่างวุ่นวาย หลังเสร็จสิ้นภารกิจทักทายบนเวที วูจินก็รีบตรงไปยังสนามบินฮาเนดะในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ระหว่างนั่งรถตู้ คังวูจินโทรหาชเวซองกุน ซึ่งกำลังวุ่นอยู่กับงานค้างคาที่เกาหลี แต่ก็มักจะรับสายของเขาเสมอ

“เออ วูจิน เคลียร์งานที่ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้วเหรอ? โอ๊ย ฉันน่าจะไปด้วยจริง ๆ”

“เรียบร้อยดีครับท่านประธาน” วูจินเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม

“แล้วก็ ผมจะปฏิเสธบทภาพยนตร์ทั้งหมดที่ส่งมาจากต่างประเทศในครั้งนี้ครับ”

“...รวมถึง ‘จูราสสิคแลนด์4’ ด้วยใช่ไหม?”

“ครับ ทั้งหมดเลย”

วูจินปฏิเสธทุกเรื่อง แม้กระทั่ง ‘จูราสสิคแลนด์4’ ดูเหมือนชเวซองกุนที่อยู่อีกฟากของสายจะไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไรนัก

“โอเค ฉันจะจัดการให้เอง”

หลังจากนั้น วูจินก็มาถึงสนามบินฮาเนดะ การเดินทางเข้าประเทศเป็นไปอย่างเงียบเชียบราวกับสายลม แต่การเดินทางออกดูเหมือนจะไม่ราบรื่นเช่นนั้น

เสียงแฟลชดังขึ้นทันทีที่เขามาถึง

-แชะ แชะ แชะ!

-แชะ แชะ แชะ!

นักข่าวญี่ปุ่นหลายร้อยคน พร้อมด้วยแฟนคลับและผู้ชมจำนวนมหาศาล ได้มารอต้อนรับคังวูจินที่สนามบิน แต่เขาก็ไม่มีเวลาจะโอ้เอ้ วูจินโบกมือให้พวกเขาพอเป็นพิธี ก่อนจะผ่านขั้นตอนต่าง ๆ แล้วตรงไปยังทางขึ้นเครื่อง สิ่งที่แปลกก็คือความรู้สึกของวูจินเอง เพราะตอนที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น เขาใช้เครื่องบินโดยสารทั่วไป แต่ครั้งนี้ต่างออกไป

‘โอ้โห! นั่นมัน...เครื่องบินส่วนตัวงั้นเหรอ?!’

คังวูจินได้พบกับเครื่องบินส่วนตัว ของขวัญจากประธานฮิเดกิ

‘โอ้พระเจ้า! เครื่องบินส่วนตัวของฉันเหรอเนี่ย?! จริงเหรอเนี่ย!’

ถึงเห็นกับตาแต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ

ณ เวลาเดียวกันที่เกาหลี

ในขณะที่คังวูจินกำลังตื่นตะลึงอยู่ที่ญี่ปุ่น ที่เกาหลีก็กำลังคึกคักและสั่นสะเทือนไปกับข่าวคราวของเขา อิทธิพลของ ‘เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์’ และ ‘ปลิง’ ยังคงคุกรุ่น

『 ‘ปลิง’ หนังฉาย 27 ตุลาคมนี้ โรงภาพยนตร์หลายแห่งเปิดจองตั๋วล่วงหน้าแล้ว/ ภาพประกอบ』

ต่างประเทศยังคงกล่าวขวัญถึง ‘ปลิง’ และเกาหลีก็เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีข่าว ไมลีย์ คาร่า และ ‘บุปผาเร้น’ ที่ผุดขึ้นมาเป็นระลอก ๆ อีก

ปัจจุบัน พลังทางการตลาดของคังวูจินในเกาหลีนั้นเรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบเทียม

ดังนั้น ผลงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเขาก็ได้รับความสนใจตามไปด้วย

『[คุยข่าวดารา] ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ของ ‘คังวูจิน’ ได้รับความสนใจจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์』

『Netflix ได้อานิสงส์จากพลังของคังวูจิน... ‘มารร้ายผู้แสนดี’ เตรียมฉายทั่วโลก ทุ่มทุนสร้างมหาศาล? 』

สำนักข่าวใหญ่เล็กในประเทศต่างก็ตื่นตัวกับคังวูจินที่กำลังโด่งดังเป็นพลุแตก โดยเฉพาะ “PowerPatch” สำนักข่าวใหญ่ที่มีความเกี่ยวพันกับวูจินในอดีต บรรณาธิการหน้าบานก็เดินเข้าไปในห้องข่าวบันเทิงที่วุ่นวายราวกับตลาดสด

-กึก

บรรณาธิการไม่สนใจเสียงจ้อกแจ้กของเหล่านักข่าว เขาเดินตรงไปที่โต๊ะนักข่าวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ห้องทำงานตัวเอง นักข่าวคนนั้นมีรอยคล้ำใต้ตาชัดเจนและสวมแว่นทรงเหลี่ยม บรรณาธิการสะกิดไหล่เขาเบา ๆ แล้วผายมือ

“เข้ามาหน่อย”

นักข่าวคนนั้นพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามบรรณาธิการเข้าไป เขาคือนักข่าวที่เพิ่งไปทำข่าวเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์และได้สัมภาษณ์คังวูจินมาด้วย เมื่อเข้าไปในห้องทำงาน บรรณาธิการหน้าบานที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้หนังก็เอ่ยขึ้น

“นี่ นายลองดูนี่สิ”

บรรณาธิการยื่นโทรศัพท์มือถือให้ บนหน้าจอปรากฏภาพสถานที่ถ่ายทำอะไรบางอย่าง นักข่าวแว่นเหลี่ยมเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย ก่อนจะตอบ

“นี่มันอะไรเหรอครับ?”

“ฉันได้มาจากทางกรุงเทพ นายไม่รู้จักหรือไง”

“ผมไม่รู้จักครับ”

“หืม… ทางโซเชียลมีเดียกับคอมมิวนิตี้ออนไลน์ที่กรุงเทพ เริ่มแชร์กันบ้างแล้วนะ ฉันได้มาจากคนรู้จักที่กรุงเทพ นี่แหละ”

“ครับ แล้วมันยังไงเหรอครับ?”

“นี่ นายดูรูปดี ๆ สิ”

นักข่าวเกาคางอย่างใช้ความคิด แล้วโน้มหน้าเข้าไปดูโทรศัพท์มือถือของบรรณาธิการอย่างพินิจ มีกล้องและอุปกรณ์ถ่ายทำมากมายพร้อมทีมงานหลายสิบคน ดูยังไงก็เป็นสถานที่ถ่ายทำ ภาพที่เห็นเหมือนถ่ายจากด้านหลังในมุมกว้าง บรรณาธิการใช้นิ้วชี้ไปที่ชายคนหนึ่งในภาพ

“รู้ไหมว่านี่ใคร?”

นักข่าวจ้องมองอย่างพินิจพิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

“คังวูจิน?”

“ใช่ คังวูจิน”

ความเงียบงันปกคลุมไปทั่วห้อง นักข่าวเว้นจังหวะครู่หนึ่ง ก่อนจะตบมือดังฉาด เสียงปรบมือสะท้อนก้องอยู่ในความเงียบ

“นี่มันภาพหลุดจากกองถ่าย ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ที่ไปถ่ายทำต่างประเทศนี่ครับ ใช่ไหม? ‘มารร้ายผู้แสนดี’ เพิ่งไปถ่ายทำที่กรุงเทพ ไม่ใช่เหรอ?” เขาเอ่ยถาม น้ำเสียงแฝงไปด้วยความสงสัย

“ใช่” บรรณาธิการตอบรับสั้น ๆ ไป

“แล้วไงครับ? ภาพแบบนี้เดี๋ยวทาง ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ก็ปล่อยออกมาเองแหละ รออีกหน่อยก็ได้ ไม่เห็นจะสำคัญอะไรเลย แค่เอามาเรียกน้ำย่อยก่อนก็พอไหวอยู่หรอก” นักข่าวพยายามแย้ง

“ฟังให้จบก่อนสิ” บรรณาธิการขมวดคิ้วเข้ม นิ้วชี้สะบัดไปมาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ภาพหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ห่างคังวูจินไปเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

“ผู้หญิงผมทองนี่ คิดว่าเป็นใคร” บรรณาธิการถามเสียงเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยความหมาย

นักข่าวเงียบไปครู่หนึ่ง 'อะไรกัน' สีหน้าของเขาเริ่มจริงจังขึ้น ก้มหน้าลงไปใกล้จอโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ภาพค่อนข้างเบลอ แถมยังเป็นภาพด้านข้างของหญิงสาว ไม่ใช่ภาพด้านหน้าตรง ๆ ทำให้ดูยากอยู่บ้าง แต่สีผมทองสว่างชัดเจน บวกกับรูปร่างและออร่าของเธอนั้น...ดูคุ้นตาเหลือเกิน

นักข่าวผู้สวมแว่นกรอบสี่เหลี่ยมจ้องมองหญิงสาวในภาพอยู่นาน ราวกับพยายามจะทะลุผ่านความพร่ามัวนั้นไปให้ได้ ก่อนจะพึมพำชื่อที่ผุดขึ้นมาในใจเบา ๆ ราวกับเสียงกระซิบ

“หรือว่า...ไมลีย์ คาร่า?”

ณ ลอสแอนเจลิส

ขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อยู่ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ลอสแอนเจลิสกลับเป็นเวลาค่ำคืน แม้จะเป็นเช่นนั้น แสงไฟในตัวเมืองก็ยังสว่างไสวราวกับกลางวัน รถตู้ขนาดใหญ่สองคันแล่นไปตามท้องถนนที่คลาคล่ำไปด้วยยวดยาน ภายในรถตู้คันหน้า หญิงสาวผมทองที่คุ้นตานั่งอยู่ เธอคือไมลีย์ คาร่า ศิลปินสาวชื่อดังที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับการโปรโมตอัลบั้มใหม่

'เหนื่อยจังเลยแฮะ'

หญิงสาวผมบลอนด์ทองอร่าม ไมลีย์ คาร่า เพิ่งเสร็จสิ้นตารางงานอันแน่นขนัดของวันนี้ และกำลังมุ่งหน้าสู่ห้องอัดเสียง ในขณะนี้เธอนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองโทรศัพท์มือถือในมือเงียบ ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ สายตาสบเข้ากับโจนาธาน ชายหนุ่มผมรองทรงสั้นที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“300 ล้านวิว”

คาร่าพึมพำพลางยกโทรศัพท์มือถือขึ้นให้โจนาธานดู บนหน้าจอปรากฏมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ของเธอจากช่อง Youtube ส่วนตัว

-【โรคติดสุรา (ร่วมร้องโดย วูจิน)】|ไมลีย์ คาร่า

-ยอดวิว 300 ล้านครั้ง

โจนาธานแสยะยิ้ม ยกนิ้วโป้งให้

“ตอนเที่ยงยัง 290 ล้านอยู่เลย ยินดีด้วยนะคาร่า”

“พวกเราทุกคนต่างหากที่ควรได้รับคำยินดี นานทีเดียวกว่ายอดวิวจะแตะหลักร้อยล้านได้เร็วขนาดนี้ ใช่มั้ย?”

“ใช่ ประมาณ 5 ปีได้แล้ว ต้องยกความดีความชอบให้ผลงานร่วมระหว่างเธอกับคังวูจิน”

“ของขวัญส่งไปบ้านคงไม่พอแล้วล่ะ ต้องส่งข้อความส่วนตัวไปหาเขาสักหน่อย”

คาร่าก้มมองโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง โจนาธานกอดอกถามขึ้น

“แล้วเรื่องบทที่ส่งมา คุณจะไม่ลองอ่านดูสักหน่อยเหรอ?”

คาร่ายังคงจ้องโทรศัพท์ มือเรียวลูบเส้นผมสีทองเบา ๆ

“ไม่ ฉันจะรอโจเซฟ ไม่อยากอ่านบทอื่นแล้วเผลอไปชอบ ไม่ดูเลยจะดีกว่า”

“อืมม-”

ทันใดนั้นคาร่าก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นให้โจนาธานดูอีกครั้ง

“แบบนี้คังวูจินจะมีปฏิกิริยาบ้างมั้ยนะ?”

“บางทีฐานแฟนคลับต่างประเทศของเขากับยอดวิวในYoutubeและโซเชียลมีเดียอื่น ๆ คงจะพุ่งสูงทะลุเพดานแน่”

“เขาน่ะ ปกติก็เป็นคนเก็บอารมณ์อยู่แล้ว”

โทรศัพท์มือถือของคาร่ากำลังฉายภาพชาร์ตบิลบอร์ดที่เพิ่งอัปเดตประจำสัปดาห์

[Billboard Hot 100]

-1. โรคติดสุรา (ร่วมร้องโดย วูจิน)/ ไมลีย์ คาร่า (ใหม่ในสัปดาห์นี้!)

ชื่อของคังวูจินสว่างวาบอยู่บนอันดับหนึ่งของชาร์ตบิลบอร์ด

-จบ-

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด