ตอนที่แล้วบทที่ 33 : พันธสัญญา​เลือด, ควบคุมจิ้งจอกเก้าหาง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่​ 35 : หวนคืน​!

บทที่ 34 : สังหาร​ราชสีห์เพลิงลาวา!


บทที่ 34 : สังหาร​ราชสีห์เพลิงลาวา!

เมื่อทำพันธสัญญาเลือดแล้ว จะไม่สามารถยกเลิกได้

เส้นชีพจรของอสูรรับใช้จะเชื่อมโยงกับมาสเตอร์​อย่างแนบแน่น

ถ้ามาสเตอร์​ตาย อสูรรับใช้ก็จะสูญสิ้นพลังชีวิต เเละกลายเป็นเถ้าธุลี

ตอนนี้ เดลลูกลายเป็นอสูรรับใช้ของเซียวซิงหยูแล้ว ถึงแม้ในใจเธอจะยังไม่ยอมรับ แต่ต่อจากนี้ไปเธอก็ต้องทำตามคำสั่งของเซียวซิงหยูเท่านั้น

…..

ณ เวลานี้​ดวงตาเทพอสูรของเซียวซิง​หยู​ได้เปิดขึ้นอีกครั้ง

ในสายตาของเซียวซิงหยู ข้อมูลของเดลลูได้รับการอัปเดต

ข้อมูลที่อัปเดตส่วนใหญ่จะอยู่ในสองส่วน

ส่วนแรกคือค่าความภักดี

เซียวซิงหยูเอามือเท้าคาง พลางขมวดคิ้วครุ่นคิด

“ก่อนทำพันธสัญญาเลือด ความภักดีของแม่จิ้งจอกนี่เป็น 0”

“เเต่หลังจากทำพันธสัญญาเลือดแล้ว ความภักดีเพิ่มขึ้นมาแค่ 1 แต้ม”

“ดูเหมือนแม่จิ้งจอกนี่จะยอมรับแค่ลมปาก แต่ในใจยังไม่ยอมรับเรา…”

“อืม คงต้องใช้เวลาฝึกอีกนาน”

ค่าความภักดีของอสูรรับใช้ เต็มที่คือ 100

อย่างเช่น หมาป่าลมวายุ​นรก มีค่าความภักดี 100

ค่าความภักดีเป็นเกณฑ์สำคัญที่ใช้วัดความเชื่อใจที่อสูรรับใช้ที่มีต่อมาสเตอร์​

ยิ่งค่าความภักดีสูง ความเข้าใจกันระหว่างอสูรรับใช้กับมาสเตอร์​ก็จะยิ่งสูงมากขึ้น

เมื่อค่าความภักดีถึง 100 อสูรรับใช้กับมาสเตอร์​จะสามารถสื่อสารทางจิตใจกันได้ ทำให้สามารถต่อสู้ได้อย่างเหนือชั้นมากขึ้น​

ในทางกลับกัน อสูรรับใช้อย่างเดลลูที่มีค่าความภักดีแค่ 1, สิ่งนี้แสดงว่าในใจลึกๆแล้วเธอยังไม่ยอมรับเซียว​ซิง​หยู​

ดังนั้น​ ในการต่อสู้ก็อาจจะก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นก็ได้

ข้อมูลที่อัปเดตส่วนที่สอง คือการวิเคราะห์อาการ

[การวิเคราะห์อาการ]:

อนุภาคเทพอสูรคุ้มครองเส้นชีพจรเอาไว้แล้ว จึงไม่มีอันตรายถึงชีวิต

แต่พลังมังกรในร่างกายยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไป ทำให้พลังของเดลลูลดลงอย่างมาก จำเป็นต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน

เซียวซิงหยูเพ่งมองด้วยพลังของดวงตา​ทั้งหมด ทันใดนั้น​ข้อมูลชุดใหม่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

[การรักษาฟื้นฟู]:

ใช้เลือดเทพอสูรหล่อเลี้ยงเส้นชีพจรที่เสียหายทุกสัปดาห์

รับประทานสมุนไพรลิ้นมังกร เถาองุ่นสีน้ำเงิน เห็ดหลินจือหงส์เพลิง...เพื่อบำรุงร่างกาย

เซียวซิงหยูเหลือบมองไปที่เดลลู

ตอนนี้เดลลูอยู่ในสภาพที่คงที่แล้ว, แต่เพราะบาดเจ็บสาหัส จึงยังคงต้องได้รับการรักษาฟื้นฟูอีกเป็นเวลานาน

"ลูลู่ เธอจำไว้นะ"

"เพื่อช่วยให้เธอได้ฟื้นฟู ต่อไปนี้ฉันจะต้องใช้เลือดจากหัวใจคอยหล่อเลี้ยงเส้นชีพจรของเธอทุกสัปดาห์"

"นอกจากนี้ ฉันยังต้องไปหาสมุนไพรหายากมาปรุงยา เพื่อกำจัดพลังมังกรในร่างกายของเธอให้หมดสิ้น"

พูดถึงตรงนี้ เซียวซิงหยูหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหูจิ้งจอกของเดลลู

"เพราะฉะนั้น เธอก็ควรรู้จักตอบแทนบุญคุณบ้างนะ"

"ต่อไปนี้ ถ้าฉันอยู่ใน​อันตราย เธอต้องปกป้องฉัน…เข้าใจ​ใหม!"

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, เดลลูก็เบะปากอย่างไม่เต็มใจ

"วางใจเถอะ เมื่อทำพันธสัญญาเลือดแล้ว ยังไงข้าก็ต้องเป็นอสูรรับใช้ของเจ้า"

"ถ้ามาสเตอร์​ตาย อสูรรับใช้ก็ต้องตาย"

"แม้จะต้องใช้ชีวิตของข้าเข้าเเลก, ข้าก็จะปกป้องเจ้า"

เซียวซิงหยูทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หยุดไว้ก่อน

จากนั้น, ภายในถ้ำที่มืดมิดก็เริ่มเงียบสงัด

ตอนนี้เดลลูมีความภักดีต่อเซียวซิงหยูเพียง 1 เท่านั้น

ระหว่างคนกับอสูร ไม่มีมิตรภาพหรือความผูกพันใดๆ…มีเพียงพันธสัญญาเลือดที่ไร้ซึ่งความอบอุ่นเท่านั้น ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างนายกับบ่าวเอาไว้

"ต้องหาวิธีเพิ่มความภักดีของแม่จิ้งจอกนี่ให้ได้"

เซียวซิงหยูครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะเปิดใช้ดวงตาเทพอสูรอีกครั้ง

[นิสัยและความชอบ]:

รักสะอาด กลัวสกปรก ชอบกินหน่อไม้

เซียวซิงหยูยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะ​เขาคิดแผนการได้แล้ว

"ฝนหยุดแล้ว ฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อยนะ"

"เจ้าจะไปไหน?"

"อยู่เฉยๆในถ้ำ รอฉันกลับมา"

"แต่ว่า…"

"นี่คือคำสั่ง"

ถึงแม้เซียวซิงหยูจะยังเด็ก แต่เขาก็ชอบทำตัวเป็นนายใหญ่

คำสั่งของมาสเตอร์​ อสูรรับใช้ต้องเชื่อฟังโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

……

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

ฝนก็เริ่มตกหนักอีกครั้ง

เดลลูนอนอยู่ในถ้ำเพียงลำพัง

แม้ตอนนี้​เส้นชีพจรของ​เธอจะได้รับการคุ้มครองแล้ว แต่พลังมังกรก็ยังคงไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ซึ่ง​มัน​ทำให้เธอทรมานอย่างมาก

"เจ้าเด็กนั่นไปไหนกันนะ?"

"เหอะ ข้าจะไปเป็นห่วงมนุษย์ทำไมกัน?"

เดลลูเป็นคนปากแข็ง แต่จริง​ๆแล้ว​ขี้ใจอ่อน

เมื่อครู่ตอนที่อยู่กับเซียวซิงหยู เดลลูสังเกตเห็นว่าเด็กหนุ่มก็บาดเจ็บสาหัสมากเช่นกัน

ในสภาพบาดเจ็บเเบบนั้น ถ้าแผลของเขาโดนฝน จะต้องเกิดการอักเสบอย่างแน่นอน

ในขณะที่เดลลูกำลังลังเลว่าจะออกไปตามหาเซียวซิงหยูดีหรือไม่ เงาร่างหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในถ้ำเรียบร้อย​แล้ว​

"บ้าจริง ฝนตกหนักอีกรอบเฉย!"

เซียวซิงหยูกลับเข้ามาในถ้ำด้วยตัวที่เปียกโชก

แผลของเขาโดนฝนจนเจ็บแปล๊บๆ

"นี่ เจ้าไปไหนมา?"

"ลูลู่ ข้าไม่ได้ชื่อ 'เจ้า'"

"มาสเตอร์​ ท่านไปไหนมาหรือ?"

"นี่ สำหรับเจ้า"

เซียวซิงหยูเปิดแหวนมิติ เเล้วหยิบหน่อไม้ออกมาหลายอัน

เมื่อ​เห็นภาพนี้, เดลลูก็อึ้งไปครู่หนึ่ง

จากนั้น​ น้ำลายก็เริ่มไหลออกมาจากมุมปาก พร้อมดวงตาที่เป็นประกาย

เผ่าจิ้งจอกเก้าหางชอบกินหน่อไม้มากที่สุด

“เจ้าออกไปข้างนอก ก็เพื่อไปขุดหน่อไม้นี่มางั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว คุณไม่รู้หรอกว่ามันขุดยากแค่ไหน เล็บของฉันแทบจะหลุดออกมาแล้ว…”

เมื่อเห็นเล็บที่เต็มไปด้วยเลือดและร่างกายที่เปื้อนโคลนของเซียวซิงหยู เดลลูก็รู้สึกอบอุ่นใจเล็กน้อย​

“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าชอบกินหน่อไม้?”

“เดาเอา”

คำตอบ​นี้ทำให้เดลลูเริ่มสงสัย

“เด็กคนนี้ดูเหมือนจะเป็นแค่ปรมาจารย์​อสูรระดับหนึ่งดาว แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เเค่นั้น เเละเขาดูมีความลับซ่อนอยู่มากมาย”

“เลือดจากหัวใจของเขา สามารถรักษาเส้นชีพจรที่บาดเจ็บจากพลังมังกรได้”

“และเขายังเดาถูกว่าข้าชอบกินอะไร”

เเต่ทันใดนั้น, เซียวซิงหยูก็ขัดความคิดของเดลลู

“อย่ามัวแต่นิ่งอยู่เลย กินเร็วเข้า!”

เซียวซิงหยูยัดหน่อไม้เข้าไปในอุ้งมือของเดลลู

เดลลูหิวมาก เธอจึงกินหน่อไม้ทั้งหมดจนหมดเกลี้ยงในรวดเดียว

“ไม่คิดเลยว่า อสูรระดับจักรพรรดิอย่างคุณจะกินพืช”

“หึ…ข้าไม่สนใจเนื้ออย่างพวกมนุษย์หรอก”

เผ่าจิ้งจอกเก้าหางเป็นเผ่าพันธุ์ที่พิเศษมากในบรรดาสัตว์​อสูร

พวกเขากินแต่พืชผัก และหน่อไม้ก็เป็นอาหารโปรดของพวกเขา

ทันใดนั้นเอง เซียวซิงหยูก็ยกมือขึ้นไปแตะที่แก้มของเดลลู

“เจ้าจะทำอะไร!”

สีหน้าของเดลลูเปลี่ยนไปอย่างมาก ดวงตาเต็มของเธอไปด้วยความระแวง

เเละเมื่อมือของเซียวซิงหยูแตะลงบนแก้มของเดลลู…เดลลูก็ตกตะลึง จนมึนงงไปชั่วขณะ

ในตอนนี้เอง เซียวซิงหยูก็ใช้มือของเขาเช็ดคราบสกปรกบนแก้มของเดลลูออกเบาๆ

แก้มของเดลลูเริ่มแดงระเรื่อ เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือของเซียวซิงหยู

“เผ่าจิ้งจอกเก้าหางรักสะอาดไม่ใช่เหรอ?”

“หน้าเปื้อนแบบนี้ คงจะอึดอัดน่าดู”

“มะ ไม่เป็นไร ข้าเช็ดเองได้…”

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดลลูแสดงสีหน้าเขินอาย

เธอไม่เคยถูกใครปฏิบัติด้วยความใกล้ชิดเช่นนี้มาก่อน

ความภักดี +1

ความภักดี +1

ความภักดี +1

หลังจากที่เซียวซิงหยูเช็ดหน้าให้เดลลูเสร็จ ความภักดีของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็น 23

“23 ยังไม่ถึงเกณฑ์เลย”

“ยังไงซะ แม่จิ้งจอกนี่ก็เป็นอสูรระดับจักรพรรดิ แถมยังมีสายเลือดระดับตำนาน…”

“การจะทำให้เชื่อง…คงต้องใช้เวลาอีกมาก”

เซียวซิงหยูรู้ดีว่าใจร้อนไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร เขาจึงยังไม่รีบร้อน

หลังจาก​นั้น, ความเงียบก็กลับมาอีกครั้ง

ภายในถ้ำที่มืดและเปียกชื้น เซียวซิงหยูพิงหลังกับผนังหินเย็นเฉียบ พร้อมใบหน้าที่ซีดเซียว

“บาดแผลของเจ้า เป็นอย่างไรบ้าง?”

นี่เป็นครั้งแรกที่เดลลูเป็นฝ่ายถามไถ่อาการของเขา​

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่น่าถึงตาย”

เซียวซิงหยูพยายามเข้มแข็ง แม้ร่างกายจะอ่อนแอมาก

“บาดแผลของเจ้า น่าจะเกิดจากการถูกอสูรระดับ​สมบูรณ์โจมตี”

“ภูเขาหยินหนานเป็นสถานที่ทดสอบนักเรียนใหม่ของวิทยาลัยชิงหลง, ตามหลักแล้วไม่น่าจะมีอสูรระดับสมบูรณ์ได้”

“ดังนั้น…เจ้าต้องไปสร้างความแค้นกับใครมาอย่างเเน่นอน”

เซียวซิงหยูยกยิ้มบางๆ

“ใช่ ฉันได้ไปสร้างความแค้นกับไอ้สารเลวคนหนึ่ง”

จากนั้น สีหน้าของเซียวซิงหยูก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

เสียงของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความอาฆาต

“เเละฉันจะทำให้มันต้องชดใช้”

หวังเยี่ยนรวมไปถึงหวังตงเซิง ทั้งคู่ถูกเขาขึ้นบัญชีดำเรียบร้อยแล้ว

“ว่าแต่ ลูลู่ ช่วยเล่าเรื่องของคุณให้ฉันฟังหน่อย”

“บาดแผลของคุณ ไ​ด้มาจากไหนกัน?”

เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​นี้, เดลลูก็เม้มริมฝีปากโดยไม่ได้​ตอบอะไร

“ในบันทึกประวัติศาสตร์อารยธรรมสัตว์​อสูร”

“มีบันทึกไว้ว่า มังกรสายเลือดบริสุทธิ์ถูกกำจัดจนสูญพันธุ์ไปหมดแล้วตั้งแต่สงครามสังหารมังกรเมื่อร้อยปีก่อน”

“แต่บาดแผลของคุณ กลับมีรอยกรงเล็บมังกร และในร่างกายก็มีพลังมังกรอยู่ด้วย”

เซียวซิงหยูทำเสียงแข็งกร้าว เขารู้ว่าแม่จิ้งจอกตนนี้มีความลับที่ปกปิด​ไว้มากมาย

เดลลูครุ่นคิดอยู่นาน เเต่สุดท้าย​ก็ส่ายหน้า

“ความลับบางอย่าง ตอนนี้เจ้ายังไม่ควรรู้”

“คุณเป็นถึงอสูรรับใช้ของฉัน เเต่กลับปกปิดความลับจากมาสเตอร์​เเบบนี้ได้อย่าง​ไร​…”

“เมื่อทำพันธสัญญาเลือดแล้ว เจ้าจะทำอะไรข้าก็ได้…แต่ข้ายังยืนยันคำเดิม ความลับบางอย่าง ตอนนี้เจ้ายังไม่ควรรู้”

เซียวซิงหยูหรี่ตาลง

“ทำไม?”

“เพราะตอนนี้เจ้าเป็นแค่ปรมาจารย์​อสูรระดับหนึ่งดาว ถึงเจ้าจะรู้ความลับของข้า มันก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้เจ้า หรือแม้แต่…”

“หรือแม้แต่?”

“หรือแม้แต่จะเปลี่ยนมุมมองของเจ้าที่มีต่อโลกใบนี้ไปตลอดกาล​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ เซียวซิงหยูก็ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย​

“เอาล่ะ, ข้าจัสัญญากับเจ้า ว่าเมื่อเจ้าเป็นปรมาจารย์​อสูรระดับเก้าดาวได้แล้ว ข้าจะเล่าความลับทั้งหมดที่ข้ารู้ให้เจ้าฟัง”

“เชอะ ใครจะอยากรู้ความลับบ้าๆนั่นกัน~”

เซียวซิงหยูพูดอย่างไม่จริงใจ

ปากของเขาบอกว่าไม่สนใจ แต่ในใจกลับอยากรู้ความลับของเดลลูอย่างมาก

“ตอนนี้เด็กคนนี้ยังอ่อนแอเกินไป บอกความลับพวกนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์…”

“จิ้งจอกแก่ปากแข็งนี่ คงต้องสั่งสอนให้หนักกว่านี้ซะแล้ว…”

คนกับอสูรมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างมีความคิดของตัวเอง

……

กรรรรร!!!

เเต่ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามของเสือก็ดังขึ้นจากนอกถ้ำ

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ขนลุกซู่ทันที​

ตอนนี้…ด้านนอกถ้ำมืดสนิทจนมองเห็นได้ไม่เกินห้าเมตร

เเต่ถึงแม้เซียวซิงหยูจะมองไม่เห็น, แค่ได้ยินเสียงคำรามและสัมผัสได้ถึงพลัง…เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอสูรที่อยู่ด้านนอกคือ ราชสีห์เพลิงลาวา!

อย่างไร​ก็ตาม, เดลลูยังคงสงบราวกับสัมผัส​ไม่ได้​ถึงศัตรู​

“เจ้าตัวที่อยู่นอกถ้ำ คืออสูรระดับสมบูรณ์ที่ทำร้ายเจ้าใช่ไหม?”

เซียวซิงหยูพยักหน้ารับ, ขณะที่เสียงฝีเท้าหนักๆดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

“ลูลู่ เจ้า…”

“ไม่ต้องห่วง ถึงข้าจะบาดเจ็บสาหัส แต่ข้าก็ยังเป็นถึงอสูร​ระดับจักรพรรดิ​”

เมื่อระดับพลังต่างกันมากขนาดนี้ บาดแผลก็ไม่ใช่ปัญหาใดๆ

เดลลูลุกขึ้น เเล้วเดินออกไปนอกถ้ำ

เซียวซิงหยูอยู่ข้างใน จึงมองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกเลย

สามวินาทีต่อมา เซียวซิงหยูได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากนอกถ้ำ!

เเละเเน่นอนว่าเสียงร้องโหยหวนนั้น เป็นเสียงสุดท้ายในชีวิต​ของราชสีห์เพลิงลาวา

“สมกับเป็นอสูร​ระดับจักรพรรดิ ระดับพลังต่างกันคนละโลกจริงๆ!”

……………….

4.5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด