บทที่ 34 : สังหารราชสีห์เพลิงลาวา!
บทที่ 34 : สังหารราชสีห์เพลิงลาวา!
เมื่อทำพันธสัญญาเลือดแล้ว จะไม่สามารถยกเลิกได้
เส้นชีพจรของอสูรรับใช้จะเชื่อมโยงกับมาสเตอร์อย่างแนบแน่น
ถ้ามาสเตอร์ตาย อสูรรับใช้ก็จะสูญสิ้นพลังชีวิต เเละกลายเป็นเถ้าธุลี
ตอนนี้ เดลลูกลายเป็นอสูรรับใช้ของเซียวซิงหยูแล้ว ถึงแม้ในใจเธอจะยังไม่ยอมรับ แต่ต่อจากนี้ไปเธอก็ต้องทำตามคำสั่งของเซียวซิงหยูเท่านั้น
…..
ณ เวลานี้ดวงตาเทพอสูรของเซียวซิงหยูได้เปิดขึ้นอีกครั้ง
ในสายตาของเซียวซิงหยู ข้อมูลของเดลลูได้รับการอัปเดต
ข้อมูลที่อัปเดตส่วนใหญ่จะอยู่ในสองส่วน
ส่วนแรกคือค่าความภักดี
เซียวซิงหยูเอามือเท้าคาง พลางขมวดคิ้วครุ่นคิด
“ก่อนทำพันธสัญญาเลือด ความภักดีของแม่จิ้งจอกนี่เป็น 0”
“เเต่หลังจากทำพันธสัญญาเลือดแล้ว ความภักดีเพิ่มขึ้นมาแค่ 1 แต้ม”
“ดูเหมือนแม่จิ้งจอกนี่จะยอมรับแค่ลมปาก แต่ในใจยังไม่ยอมรับเรา…”
“อืม คงต้องใช้เวลาฝึกอีกนาน”
ค่าความภักดีของอสูรรับใช้ เต็มที่คือ 100
อย่างเช่น หมาป่าลมวายุนรก มีค่าความภักดี 100
ค่าความภักดีเป็นเกณฑ์สำคัญที่ใช้วัดความเชื่อใจที่อสูรรับใช้ที่มีต่อมาสเตอร์
ยิ่งค่าความภักดีสูง ความเข้าใจกันระหว่างอสูรรับใช้กับมาสเตอร์ก็จะยิ่งสูงมากขึ้น
เมื่อค่าความภักดีถึง 100 อสูรรับใช้กับมาสเตอร์จะสามารถสื่อสารทางจิตใจกันได้ ทำให้สามารถต่อสู้ได้อย่างเหนือชั้นมากขึ้น
ในทางกลับกัน อสูรรับใช้อย่างเดลลูที่มีค่าความภักดีแค่ 1, สิ่งนี้แสดงว่าในใจลึกๆแล้วเธอยังไม่ยอมรับเซียวซิงหยู
ดังนั้น ในการต่อสู้ก็อาจจะก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นก็ได้
ข้อมูลที่อัปเดตส่วนที่สอง คือการวิเคราะห์อาการ
[การวิเคราะห์อาการ]:
อนุภาคเทพอสูรคุ้มครองเส้นชีพจรเอาไว้แล้ว จึงไม่มีอันตรายถึงชีวิต
แต่พลังมังกรในร่างกายยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไป ทำให้พลังของเดลลูลดลงอย่างมาก จำเป็นต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน
เซียวซิงหยูเพ่งมองด้วยพลังของดวงตาทั้งหมด ทันใดนั้นข้อมูลชุดใหม่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
[การรักษาฟื้นฟู]:
ใช้เลือดเทพอสูรหล่อเลี้ยงเส้นชีพจรที่เสียหายทุกสัปดาห์
รับประทานสมุนไพรลิ้นมังกร เถาองุ่นสีน้ำเงิน เห็ดหลินจือหงส์เพลิง...เพื่อบำรุงร่างกาย
เซียวซิงหยูเหลือบมองไปที่เดลลู
ตอนนี้เดลลูอยู่ในสภาพที่คงที่แล้ว, แต่เพราะบาดเจ็บสาหัส จึงยังคงต้องได้รับการรักษาฟื้นฟูอีกเป็นเวลานาน
"ลูลู่ เธอจำไว้นะ"
"เพื่อช่วยให้เธอได้ฟื้นฟู ต่อไปนี้ฉันจะต้องใช้เลือดจากหัวใจคอยหล่อเลี้ยงเส้นชีพจรของเธอทุกสัปดาห์"
"นอกจากนี้ ฉันยังต้องไปหาสมุนไพรหายากมาปรุงยา เพื่อกำจัดพลังมังกรในร่างกายของเธอให้หมดสิ้น"
พูดถึงตรงนี้ เซียวซิงหยูหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหูจิ้งจอกของเดลลู
"เพราะฉะนั้น เธอก็ควรรู้จักตอบแทนบุญคุณบ้างนะ"
"ต่อไปนี้ ถ้าฉันอยู่ในอันตราย เธอต้องปกป้องฉัน…เข้าใจใหม!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เดลลูก็เบะปากอย่างไม่เต็มใจ
"วางใจเถอะ เมื่อทำพันธสัญญาเลือดแล้ว ยังไงข้าก็ต้องเป็นอสูรรับใช้ของเจ้า"
"ถ้ามาสเตอร์ตาย อสูรรับใช้ก็ต้องตาย"
"แม้จะต้องใช้ชีวิตของข้าเข้าเเลก, ข้าก็จะปกป้องเจ้า"
เซียวซิงหยูทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หยุดไว้ก่อน
จากนั้น, ภายในถ้ำที่มืดมิดก็เริ่มเงียบสงัด
ตอนนี้เดลลูมีความภักดีต่อเซียวซิงหยูเพียง 1 เท่านั้น
ระหว่างคนกับอสูร ไม่มีมิตรภาพหรือความผูกพันใดๆ…มีเพียงพันธสัญญาเลือดที่ไร้ซึ่งความอบอุ่นเท่านั้น ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างนายกับบ่าวเอาไว้
"ต้องหาวิธีเพิ่มความภักดีของแม่จิ้งจอกนี่ให้ได้"
เซียวซิงหยูครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะเปิดใช้ดวงตาเทพอสูรอีกครั้ง
[นิสัยและความชอบ]:
รักสะอาด กลัวสกปรก ชอบกินหน่อไม้
เซียวซิงหยูยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะเขาคิดแผนการได้แล้ว
"ฝนหยุดแล้ว ฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อยนะ"
"เจ้าจะไปไหน?"
"อยู่เฉยๆในถ้ำ รอฉันกลับมา"
"แต่ว่า…"
"นี่คือคำสั่ง"
ถึงแม้เซียวซิงหยูจะยังเด็ก แต่เขาก็ชอบทำตัวเป็นนายใหญ่
คำสั่งของมาสเตอร์ อสูรรับใช้ต้องเชื่อฟังโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
……
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ฝนก็เริ่มตกหนักอีกครั้ง
เดลลูนอนอยู่ในถ้ำเพียงลำพัง
แม้ตอนนี้เส้นชีพจรของเธอจะได้รับการคุ้มครองแล้ว แต่พลังมังกรก็ยังคงไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ซึ่งมันทำให้เธอทรมานอย่างมาก
"เจ้าเด็กนั่นไปไหนกันนะ?"
"เหอะ ข้าจะไปเป็นห่วงมนุษย์ทำไมกัน?"
เดลลูเป็นคนปากแข็ง แต่จริงๆแล้วขี้ใจอ่อน
เมื่อครู่ตอนที่อยู่กับเซียวซิงหยู เดลลูสังเกตเห็นว่าเด็กหนุ่มก็บาดเจ็บสาหัสมากเช่นกัน
ในสภาพบาดเจ็บเเบบนั้น ถ้าแผลของเขาโดนฝน จะต้องเกิดการอักเสบอย่างแน่นอน
ในขณะที่เดลลูกำลังลังเลว่าจะออกไปตามหาเซียวซิงหยูดีหรือไม่ เงาร่างหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในถ้ำเรียบร้อยแล้ว
"บ้าจริง ฝนตกหนักอีกรอบเฉย!"
เซียวซิงหยูกลับเข้ามาในถ้ำด้วยตัวที่เปียกโชก
แผลของเขาโดนฝนจนเจ็บแปล๊บๆ
"นี่ เจ้าไปไหนมา?"
"ลูลู่ ข้าไม่ได้ชื่อ 'เจ้า'"
"มาสเตอร์ ท่านไปไหนมาหรือ?"
"นี่ สำหรับเจ้า"
เซียวซิงหยูเปิดแหวนมิติ เเล้วหยิบหน่อไม้ออกมาหลายอัน
เมื่อเห็นภาพนี้, เดลลูก็อึ้งไปครู่หนึ่ง
จากนั้น น้ำลายก็เริ่มไหลออกมาจากมุมปาก พร้อมดวงตาที่เป็นประกาย
เผ่าจิ้งจอกเก้าหางชอบกินหน่อไม้มากที่สุด
“เจ้าออกไปข้างนอก ก็เพื่อไปขุดหน่อไม้นี่มางั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว คุณไม่รู้หรอกว่ามันขุดยากแค่ไหน เล็บของฉันแทบจะหลุดออกมาแล้ว…”
เมื่อเห็นเล็บที่เต็มไปด้วยเลือดและร่างกายที่เปื้อนโคลนของเซียวซิงหยู เดลลูก็รู้สึกอบอุ่นใจเล็กน้อย
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าชอบกินหน่อไม้?”
“เดาเอา”
คำตอบนี้ทำให้เดลลูเริ่มสงสัย
“เด็กคนนี้ดูเหมือนจะเป็นแค่ปรมาจารย์อสูรระดับหนึ่งดาว แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เเค่นั้น เเละเขาดูมีความลับซ่อนอยู่มากมาย”
“เลือดจากหัวใจของเขา สามารถรักษาเส้นชีพจรที่บาดเจ็บจากพลังมังกรได้”
“และเขายังเดาถูกว่าข้าชอบกินอะไร”
เเต่ทันใดนั้น, เซียวซิงหยูก็ขัดความคิดของเดลลู
“อย่ามัวแต่นิ่งอยู่เลย กินเร็วเข้า!”
เซียวซิงหยูยัดหน่อไม้เข้าไปในอุ้งมือของเดลลู
เดลลูหิวมาก เธอจึงกินหน่อไม้ทั้งหมดจนหมดเกลี้ยงในรวดเดียว
“ไม่คิดเลยว่า อสูรระดับจักรพรรดิอย่างคุณจะกินพืช”
“หึ…ข้าไม่สนใจเนื้ออย่างพวกมนุษย์หรอก”
เผ่าจิ้งจอกเก้าหางเป็นเผ่าพันธุ์ที่พิเศษมากในบรรดาสัตว์อสูร
พวกเขากินแต่พืชผัก และหน่อไม้ก็เป็นอาหารโปรดของพวกเขา
ทันใดนั้นเอง เซียวซิงหยูก็ยกมือขึ้นไปแตะที่แก้มของเดลลู
“เจ้าจะทำอะไร!”
สีหน้าของเดลลูเปลี่ยนไปอย่างมาก ดวงตาเต็มของเธอไปด้วยความระแวง
เเละเมื่อมือของเซียวซิงหยูแตะลงบนแก้มของเดลลู…เดลลูก็ตกตะลึง จนมึนงงไปชั่วขณะ
ในตอนนี้เอง เซียวซิงหยูก็ใช้มือของเขาเช็ดคราบสกปรกบนแก้มของเดลลูออกเบาๆ
แก้มของเดลลูเริ่มแดงระเรื่อ เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือของเซียวซิงหยู
“เผ่าจิ้งจอกเก้าหางรักสะอาดไม่ใช่เหรอ?”
“หน้าเปื้อนแบบนี้ คงจะอึดอัดน่าดู”
“มะ ไม่เป็นไร ข้าเช็ดเองได้…”
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดลลูแสดงสีหน้าเขินอาย
เธอไม่เคยถูกใครปฏิบัติด้วยความใกล้ชิดเช่นนี้มาก่อน
ความภักดี +1
ความภักดี +1
ความภักดี +1
…
หลังจากที่เซียวซิงหยูเช็ดหน้าให้เดลลูเสร็จ ความภักดีของเธอก็เพิ่มขึ้นเป็น 23
“23 ยังไม่ถึงเกณฑ์เลย”
“ยังไงซะ แม่จิ้งจอกนี่ก็เป็นอสูรระดับจักรพรรดิ แถมยังมีสายเลือดระดับตำนาน…”
“การจะทำให้เชื่อง…คงต้องใช้เวลาอีกมาก”
เซียวซิงหยูรู้ดีว่าใจร้อนไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร เขาจึงยังไม่รีบร้อน
หลังจากนั้น, ความเงียบก็กลับมาอีกครั้ง
ภายในถ้ำที่มืดและเปียกชื้น เซียวซิงหยูพิงหลังกับผนังหินเย็นเฉียบ พร้อมใบหน้าที่ซีดเซียว
“บาดแผลของเจ้า เป็นอย่างไรบ้าง?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เดลลูเป็นฝ่ายถามไถ่อาการของเขา
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่น่าถึงตาย”
เซียวซิงหยูพยายามเข้มแข็ง แม้ร่างกายจะอ่อนแอมาก
“บาดแผลของเจ้า น่าจะเกิดจากการถูกอสูรระดับสมบูรณ์โจมตี”
“ภูเขาหยินหนานเป็นสถานที่ทดสอบนักเรียนใหม่ของวิทยาลัยชิงหลง, ตามหลักแล้วไม่น่าจะมีอสูรระดับสมบูรณ์ได้”
“ดังนั้น…เจ้าต้องไปสร้างความแค้นกับใครมาอย่างเเน่นอน”
เซียวซิงหยูยกยิ้มบางๆ
“ใช่ ฉันได้ไปสร้างความแค้นกับไอ้สารเลวคนหนึ่ง”
จากนั้น สีหน้าของเซียวซิงหยูก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
เสียงของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความอาฆาต
“เเละฉันจะทำให้มันต้องชดใช้”
หวังเยี่ยนรวมไปถึงหวังตงเซิง ทั้งคู่ถูกเขาขึ้นบัญชีดำเรียบร้อยแล้ว
“ว่าแต่ ลูลู่ ช่วยเล่าเรื่องของคุณให้ฉันฟังหน่อย”
“บาดแผลของคุณ ได้มาจากไหนกัน?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้, เดลลูก็เม้มริมฝีปากโดยไม่ได้ตอบอะไร
“ในบันทึกประวัติศาสตร์อารยธรรมสัตว์อสูร”
“มีบันทึกไว้ว่า มังกรสายเลือดบริสุทธิ์ถูกกำจัดจนสูญพันธุ์ไปหมดแล้วตั้งแต่สงครามสังหารมังกรเมื่อร้อยปีก่อน”
“แต่บาดแผลของคุณ กลับมีรอยกรงเล็บมังกร และในร่างกายก็มีพลังมังกรอยู่ด้วย”
เซียวซิงหยูทำเสียงแข็งกร้าว เขารู้ว่าแม่จิ้งจอกตนนี้มีความลับที่ปกปิดไว้มากมาย
เดลลูครุ่นคิดอยู่นาน เเต่สุดท้ายก็ส่ายหน้า
“ความลับบางอย่าง ตอนนี้เจ้ายังไม่ควรรู้”
“คุณเป็นถึงอสูรรับใช้ของฉัน เเต่กลับปกปิดความลับจากมาสเตอร์เเบบนี้ได้อย่างไร…”
“เมื่อทำพันธสัญญาเลือดแล้ว เจ้าจะทำอะไรข้าก็ได้…แต่ข้ายังยืนยันคำเดิม ความลับบางอย่าง ตอนนี้เจ้ายังไม่ควรรู้”
เซียวซิงหยูหรี่ตาลง
“ทำไม?”
“เพราะตอนนี้เจ้าเป็นแค่ปรมาจารย์อสูรระดับหนึ่งดาว ถึงเจ้าจะรู้ความลับของข้า มันก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้เจ้า หรือแม้แต่…”
“หรือแม้แต่?”
“หรือแม้แต่จะเปลี่ยนมุมมองของเจ้าที่มีต่อโลกใบนี้ไปตลอดกาล”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูก็ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
“เอาล่ะ, ข้าจัสัญญากับเจ้า ว่าเมื่อเจ้าเป็นปรมาจารย์อสูรระดับเก้าดาวได้แล้ว ข้าจะเล่าความลับทั้งหมดที่ข้ารู้ให้เจ้าฟัง”
“เชอะ ใครจะอยากรู้ความลับบ้าๆนั่นกัน~”
เซียวซิงหยูพูดอย่างไม่จริงใจ
ปากของเขาบอกว่าไม่สนใจ แต่ในใจกลับอยากรู้ความลับของเดลลูอย่างมาก
“ตอนนี้เด็กคนนี้ยังอ่อนแอเกินไป บอกความลับพวกนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์…”
“จิ้งจอกแก่ปากแข็งนี่ คงต้องสั่งสอนให้หนักกว่านี้ซะแล้ว…”
คนกับอสูรมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างมีความคิดของตัวเอง
……
กรรรรร!!!
เเต่ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามของเสือก็ดังขึ้นจากนอกถ้ำ
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ขนลุกซู่ทันที
ตอนนี้…ด้านนอกถ้ำมืดสนิทจนมองเห็นได้ไม่เกินห้าเมตร
เเต่ถึงแม้เซียวซิงหยูจะมองไม่เห็น, แค่ได้ยินเสียงคำรามและสัมผัสได้ถึงพลัง…เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอสูรที่อยู่ด้านนอกคือ ราชสีห์เพลิงลาวา!
อย่างไรก็ตาม, เดลลูยังคงสงบราวกับสัมผัสไม่ได้ถึงศัตรู
“เจ้าตัวที่อยู่นอกถ้ำ คืออสูรระดับสมบูรณ์ที่ทำร้ายเจ้าใช่ไหม?”
เซียวซิงหยูพยักหน้ารับ, ขณะที่เสียงฝีเท้าหนักๆดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“ลูลู่ เจ้า…”
“ไม่ต้องห่วง ถึงข้าจะบาดเจ็บสาหัส แต่ข้าก็ยังเป็นถึงอสูรระดับจักรพรรดิ”
เมื่อระดับพลังต่างกันมากขนาดนี้ บาดแผลก็ไม่ใช่ปัญหาใดๆ
เดลลูลุกขึ้น เเล้วเดินออกไปนอกถ้ำ
เซียวซิงหยูอยู่ข้างใน จึงมองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกเลย
สามวินาทีต่อมา เซียวซิงหยูได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังมาจากนอกถ้ำ!
เเละเเน่นอนว่าเสียงร้องโหยหวนนั้น เป็นเสียงสุดท้ายในชีวิตของราชสีห์เพลิงลาวา
“สมกับเป็นอสูรระดับจักรพรรดิ ระดับพลังต่างกันคนละโลกจริงๆ!”
……………….