บทที่ 326 เจ้านายที่ใส่ใจจริงใจ หลี่เอ้อร์
บทที่ 326 เจ้านายที่ใส่ใจจริงใจ หลี่เอ้อร์
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลี่เอ้อร์มองไปยังโจวซิงซิงที่อยู่ในห้องขัง ด้านหลังลูกกรงเหล็ก
“พี่ใหญ่! ท่านกลับมาแล้ว ช่วยฉันด้วย ฉันโดนใส่ความแน่ๆ!” โจวซิงซิงร้องไห้ปานจะขาดใจ พูดไปพลางน้ำตาน้ำมูกไหลไม่หยุด “ฉันอยากเป็นขุนนางผู้ซื่อตรง ทำไมฉันจะไปฆ่าคนได้”
หลี่เอ้อร์มองหน้าโจวซิงซิงที่ยังเล่นบทน้ำตาคลอจนสุดชีวิตอยู่ ก่อนจะถลึงตาใส่เขาอย่างเหลืออด
“ฉันให้เวลาสองนาที ถ้าเจ้าอธิบายให้ชัดๆ ไม่ได้ ก็เตรียมตัวอยู่ในนี้ไปเถอะ ยังไงที่นี่ก็มีฉันวกินฟรี” หลี่เอ้อร์พูดเสียงแข็ง
“สองนาที? สองนาทีจะพอได้ยังไง ขอห้านาทีเถอะพี่ใหญ่!” โจวซิงซิงรีบวิงวอน
“หนึ่งนาที” หลี่เอ้อร์ตอบกลับเสียงเย็น
“อ๊าา—ทุกข์ยิ่งนัก!” โจวซิงซิงร้องโอดครวญ
“ร้องไห้ก็นับเวลาด้วยนะ ตอนนี้เหลือห้าสิบหกวินาที” หลี่เอ้อร์เคาะนาฬิกาโรเล็กซ์ทองของตนเอง ซึ่งคราวนี้เขาไม่ใส่นาฬิกาปลอมจากถังขยะอีกแล้ว แต่เป็นของแท้แบบเดียวกับที่จู่อี๋ตั้นใส่
“พี่ใหญ่ ท่านสั่งให้ฉันกับเสาไป่ซิงตามสืบคดีของเกาจิ้น พวกเราดักรออยู่ที่นอกบ้านพัก ในคืนวันที่ 8 ฉันได้ยินเสียงดังมาจากฉันงใน ก็เลยปีนรั้วเฉันไปดู พอฉันเฉันไปถึงพร้อมเสาไป่ซิงก็พบว่าเมียของเกาจิ้นถูกฆ่าไปแล้ว ส่วนที่ว่าทำไมถึงมีรอยนิ้วมือฉันบนหน้าอกเธอน่ะ พระเจ้ารู้ดี ฉันแค่จะช่วยเธอ! เผื่อว่าถ้าช่วยได้แต่ฉันไม่ทำ ก็เท่ากับปล่อยให้เธอตายเปล่าน่ะสิ!”
หลี่เอ้อร์: “เอ่อ…”
โจวซิงซิงพูดเร็วปรื๋อจนหลี่เอ้อร์ฟังไม่ทัน โชคดีที่หลี่เชี่ยนอิงนำสำเนาคำให้การของโจวซิงซิงที่บันทึกไว้มาให้ดู หลี่เอ้อร์จึงเปิดแฟ้มคดีขึ้นอ่านทันที
แท้จริงแล้ว ภรรยาของเกาจิ้นถูกฆ่า หลี่เอ้อร์จำได้ว่าฉากหนึ่งในหนังเรื่อง คนตัดคน ก็มีย้อนความถึงเรื่องนี้ ซึ่งเป็นฝีมือเกาอี้ น้องชายที่คอยติดตามเกาจิ้น แล้วนี่มันมาเกี่ยวกับโจวซิงซิงและเสาไป่ซิงได้ยังไงกัน?
“ตอนที่เจ้าเฉันไปในบ้าน เจ้าเห็นใครอยู่ไหม? อย่างเช่นเกาอี้ที่เป็นลูกน้องของเกาจิ้น” หลี่เอ้อร์ถามพลางอ่านข้อมูลไปด้วย ถือโอกาสบอกใบ้โจวซิงซิงไปในตัว
โจวซิงซิงมองหน้าพี่ใหญ่ของตนอย่างงุนงง แต่ก็รีบตอบ “เกาอี้เหรอ? ไม่เห็นเลย”
เขาตามสืบเรื่องของเกาจิ้นมาพักใหญ่ ก็ย่อมรู้จักเกาอี้ดี
“ก็เพราะในบ้านมีแต่ศพ ไม่มีคนอื่นอยู่เลย ฉันถึงได้ถูกใส่ความขนาดนี้” โจวซิงซิงโอดครวญอย่างเจ็บปวด
“แล้วจะเป็นไปได้ไหมว่าคนร้ายรู้ตัวว่าเจ้าตามเกาจิ้นอยู่ หลังจากฆ่าคนแล้วก็วางแผนโยนความผิดให้เจ้าและเสาไป่ซิง?” หลี่เอ้อร์พูดนำให้โจวซิงซิง
โจวซิงซิงได้ยินดังนั้นก็ดีใจใหญ่ เพราะเขาเองก็คิดแก้ต่างเช่นนี้มาตลอด เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน
หลี่เอ้อร์จึงหันไปมองหลี่เชี่ยนอิง นี่ว่ากันว่าโจวซิงซิงและเสาไป่ซิงถูกใส่ความด้วยกัน แล้วเสาไป่ซิงหายไปไหนล่ะ?
หลี่เชี่ยนอิงพอเห็นสายตาของหลี่เอ้อร์ก็เฉันใจทันที
“สารวัตรเป็นคนพาตัวเธอไปครับ” หลี่เชี่ยนอิงเกาหัวพลางยิ้มเจื่อนๆ
“โชคดีที่สารวัตรเป็นคนจัดการ ไม่งั้นตอนนี้โจวซิงซิงยังนอนแหงแก๋อยู่ในห้องขังที่สถานีตำรวจหว่านไจ๋แน่ๆ คดีเกิดขึ้นที่ย่านบนเขาอันเป็นย่านไฮโซในหว่านไจ๋ หน่วยสืบสวนคดีใหญ่หว่านไจ๋เป็นคนทำคดีนี้” หลี่เชี่ยนอิงอธิบาย
“อืม…” หลี่เอ้อร์พยักหน้า
“คิดว่าเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำไหม?” หลี่เอ้อร์ถามหลี่เชี่ยนอิงหลังจากคิดได้ครู่หนึ่ง
“ต้องมีสิ ก็ทีมที่ไปทำคดีเป็นของเฉาเต๋าฮว่า พูดว่าได้รับแจ้งเบาะแสจากสายข่าวนิรนาม จะบังเอิญขนาดนี้เชียวเหรอ?” โจวซิงซิงรีบแทรกขึ้น
“แถมคนที่คุมคดีเป็นเฉาเต๋าฮว่าด้วย คนอย่างเฉาเต๋าฮว่าน่ะหรือ? ท่านพี่คิดดูสิ คนที่มีพุงใหญ่ขนาดนั้นจะจับโจรเก่งได้สักแค่ไหน” โจวซิงซิงบ่นลั่น “วันๆ ก็เห็นแต่กินๆ อยู่ไปวันๆ”
“…ดูเหมือนว่าเจ้าคงแค้นเฉาเต๋าฮว่าพอควร”
“ออกมาได้แล้ว” หลี่เอ้อร์ส่งสัญญาณให้หลี่เชี่ยนอิงเปิดห้องขัง ปล่อยตัวโจวซิงซิง
“พี่ใหญ่ พวกกองตรวจสอบของแผนกสืบสวนสอบสวนภายในช่วงนี้คอยจับตาดูหน่วยสืบสวนคดีใหญ่ของเราอยู่ ฉันได้ข่าวว่าพวกเขาสนใจคดีนี้เป็นพิเศษ ถ้าเกิดปล่อยตัวโจวซิงซิงออกไปโดยไม่มีเหตุผล เราอาจจะเจอปัญหาใหญ่” หลี่เชี่ยนอิงเตือน
“อืม มีเหตุผลดี” หลี่เอ้อร์พยักหน้า “งั้นใช้ช่องทางกฎหมาย โจวซิงซิงจะได้ประกันตัวไปก่อน ฉันจะออกค่าใช้จ่ายให้”
ตอนนี้หลี่เอ้อร์ร่ำรวยขึ้นแล้ว จึงพูดอย่างมั่นใจ
“ขอบคุณครับพี่ใหญ่ งั้นฉันขออาสาติดตามคดีนี้ต่อ ฉันทำคดีนี้มาพักหนึ่งแล้ว ไม่มีใครรู้รายละเอียดดีเท่าฉัน” โจวซิงซิงออกจากห้องขังแล้วรีบขออาสาทำงานต่อ
หลี่เชี่ยนอิง: “…”
หลี่เอ้อร์เหล่มองโจวซิงซิง “ได้สิ แต่ค่าประกันตัวน่ะ หักจากเงินเดือนของเจ้าแล้วกัน”
“อ้าา!” โจวซิงซิงถึงกับตาค้าง “ขอครึ่งเดียวไม่ได้หรือ?”
“เข้าเรื่องดีกว่า ภรรยาของเกาจิ้นถูกฆ่า เกาจิ้นมีปฏิกิริยายังไง?” หลี่เอ้อร์ถามต่อ
“เกาจิ้นหายตัวไป แต่เราตรวจสอบแล้วว่าคู่สามีภรรยาคู่นี้รักกันดี เกาจิ้นมีท่าทีสงสัยแต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนทำ มันขัดกันเกินไป” หลี่เชี่ยนอิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
โจวซิงซิงพยักหน้าเห็นด้วย ถ้าคนรวยจะฆ่าภรรยาตัวเองก็แค่จ้างนักฆ่ามืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยากขนาดนี้
“เกาจิ้นหายตัวไปหรือ?” หลี่เอ้อร์ตาเป็นประกาย
ทุกอย่างตรงตามเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ เพียงแต่เขายังไม่รู้ว่าเฉินเสี่ยวเต่าพักอยู่ที่ไหน
“โจวซิงซิง เจ้ารับหน้าที่ตามหาเกาจิ้น เขาคงยังไม่ออกจากเกาะฮ่องกงหรอก อย่าเพ่งไปที่โรงแรมใหญ่ๆ กับห้างสรรพสินค้ามากนัก ลองสังเกตพวกตึกเก่าๆ หรืออพาร์ตเมนต์เก่าๆ ที่มีการดูแลรักษาต่ำๆ หน่อย” หลี่เอ้อร์หันไปสั่งโจวซิงซิง
“รับทราบครับ!” โจวซิงซิงรับคำทันที
“หลี่เชี่ยนอิง ถ้าเกาจิ้นหายตัวไป เมียก็ตาย คนที่จะได้ประโยชน์ที่สุดคือใคร?” หลี่เอ้อร์เก็บแฟ้มคดียื่นคืนให้หลี่เชี่ยนอิง
“ต้องเป็นเกาอี้ น้องชายต่างแม่ของเกาจิ้น ที่เป็นทั้งลูกพี่ลูกน้องและผู้จัดการของเขา” หลี่เชี่ยนอิงพูดพลางขมวดคิ้ว “แต่หมอนี่ก็มีพยานที่บอกว่าอยู่คนละที่กัน เหมือนจะจ้างคนมาฆ่ามากกว่า”
หลี่เอ้อร์ยักไหล่ “ยังไงก็แล้วแต่ จับตามันเอาไว้ ไม่ต้องแอบทำ ให้มันรู้ตัวไปเลย ดูสิว่ามันจะทำผิดอะไร”
หลี่เชี่ยนอิงเองก็สงสัยในตัวเกาอี้ เพียงแต่คดีนี้พัวพันกับเสาไป่ซิงและยังได้รับการกำชับจากหวงปิ่งเหยา หลี่เชี่ยนอิงจึงกลัวว่าจะส่งผลเสียต่อตำแหน่งของคนทั้งกลุ่มเลยเก็บตัวทำงานเงียบๆ พอดีหลี่เอ้อร์กลับมาทันเวลา
“ยังยืนเอ๋ออยู่ทำไมล่ะ อยากจะให้ฉันเลี้ยงอาหารว่างหรือไง?” หลี่เอ้อร์หันไปถามโจวซิงซิงที่ยังยืนนิ่งอยู่
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ!” โจวซิงซิงเกาหัวอย่างเก้อๆ “พี่ใหญ่ จะให้ฉันตามล่าเกาจิ้นทั่วเกาะ แบบนี้ขอเบิกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าหน่อยได้ไหม”
หลี่เอ้อร์มองหน้าโจวซิงซิงอย่างจริงจัง ก่อนจะตอบเขาไปว่า “ไสหัวไป!”
โจวซิงซิงรีบเดินหนีไปทันที
“หลี่เชี่ยนอิง ไม่ใช่ว่าจะแต่งงานเร็วๆ นี้หรอกเหรอ? แฟนเจ้ามีญาติหรือเพื่อนที่ยังไม่แต่งงานบ้างไหม?” หลี่เอ้อร์ถามอย่างจริงจัง
“หา??” หลี่เชี่ยนอิงงงไปกับคำถาม
“ก็หม่าจวิน น่ะสิ ดูเหมือนจะถึงฤดูใบไม้ผลิของเขาแล้ว หมอนี่น่าจะหาภรรยาสักคนได้แล้ว ในฐานะหัวหน้า ฉันก็ต้องใส่ใจชีวิตส่วนตัวของลูกน้อง ถ้าไม่จัดการให้เรียบร้อย ฉันกลัวจะกระทบกับการทำงานของหมอน่ะ” หลี่เอ้อร์พูดตรงไปตรงมา
หลี่เชี่ยนอิงถึงกับอึ้ง หลี่เอ้อร์นี่เขาเป็นคนเลื่อนตำแหน่งเอง คนอย่างหลี่เอ้อร์นั้นเขารู้ดีอยู่แล้ว
“พี่ใหญ่ ท่านพูดจริงหรือ?” หลี่เชี่ยนอิงถามย้ำ
“จริงสิ จริงยิ่งกว่าไข่มุกเสียอีก เรื่องนี้สำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้น” หลี่เอ้อร์พูดเสียงจริงจัง “ภาษาจีนเขาเรียกว่า ‘สำคัญเป็นอันดับหนึ่ง’ น่ะ”
หลี่เชี่ยนอิงพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ ‘หม่าจวินน่ะหรือ? เขามักบอกว่าไม่มีผู้หญิงขัดขวางงานของเขาได้ แล้วทำไมอยู่ๆ ก็จะมีล่ะ? หรือหลี่เอ้อร์จะหมายถึงโจวซิงซิง?’
“ฉันจำได้ว่าลิซ่ายังมีลูกพี่ลูกน้องที่ยังโสดอยู่ ลิซ่าเองก็กำลังช่วยหาแฟนให้เขาอยู่พอดี”
หลี่เชี่ยนอิงพูดไม่ทันจบ หลี่เอ้อร์ก็รีบพูดเสริม “งั้นตกลงเป็นเขา รีบจัดการให้เรียบร้อย ฉันจะเป็นเจ้าภาพเองทั้งกินข้าว ดื่มน้ำชา ดูหนัง หรือเข้าห้อง ฉันเลี้ยงหมด” พลางล้วงเงินสดออกมาจากกระเป๋าส่งให้หลี่เชี่ยนอิงโดยไม่ได้นับ “จัดให้จบเรื่องซะ”
ท่าทีแบบนี้แสดงว่าหลี่เอ้อร์ไม่วางใจจนกว่าเขาจะได้เห็นลูกหม่าจวินเกิดมาเอง
หลี่เอ้อร์รู้สึกว่าตัวเองช่างมีน้ำใจ ความใส่ใจในลูกน้องของเขานั้นช่างน่านับถือจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นเจ้านายที่ดีอย่างแท้จริง
หลี่เชี่ยนอิงทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก นึกขึ้นมาได้ถึงบางอย่างที่ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที
“หม่าจวินเขาคงไม่เป็นอะไรไปหรอกใช่ไหม? เขาจะตายแล้วเหรอ?” หลี่เชี่ยนอิงเริ่มเสียงสั่น
“สมัยนี้เทคโนโลยีการแพทย์พัฒนาไปมาก รักษาได้แน่นอน” หลี่เอ้อร์ยังไม่ทันได้ตอบ หลี่เชี่ยนอิงก็พูดปลอบตัวเองต่อทันที
แม้ว่าหลี่เชี่ยนอิงจะชอบว่ากล่าวหม่าจวินที่ไม่ระมัดระวัง ทำอะไรหุนหันพลันแล่น แต่เขาก็ยังเห็นหม่าจวินเป็นเหมือนพี่น้องอยู่ดี
หลี่เอ้อร์ได้แต่เงียบ
“โธ่เว้ย!”
ในขณะนั้น หม่าจวินกำลังถูกสั่งให้เช็ดกระจกที่ออฟฟิศของหน่วยสืบสวนอาชญากรรมใหญ่ เขาเกิดลื่นจนเกือบตกหน้าต่างลงไป แต่ยังดีที่ไม่เป็นอะไร
เขาเพียงแค่ขยี้จมูกแล้วทำงานต่อไป หวังว่าหลี่เอ้อร์จะเข้าใจตัวเขาบ้าง เพราะเขามองหลี่ซื่อหย่าเป็นน้องสาวเท่านั้น