ตอนที่ 7 ทางออก
ตอนที่ 7 ทางออก
เลือดที่อาบบนร่างกายของสวี่จื้อตอนนี้ค่อยๆ แข็งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลือดที่กระเซ็นบนใบหน้าและผม ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว และอยากจะไปอาบน้ำโดยเร็วที่สุด แต่ผลข้างเคียงของสกิลกระหายเลือดยังคงอยู่ ทำให้เธอต้องนั่งเป็นอัมพาตบนรถเข็นโดยไม่มีแรงแม้แต่จะขยับนิ้ว
สวี่จื้อจ้องมองนาฬิกา และนับเวลาไปผ่านไป หลังครบ 10 นาที เรี่ยวแรงของเธอก็ฟื้นกลับมาอย่างเห็นได้ชัด
“ดูเหมือนว่าผลข้างเคียงจะคงอยู่ประมาณ 10 นาที”
เวลา 10 นาทีไม่ใช่ช่วงเวลาสั้นๆ หากเธออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย แค่เท่านี้ก็พอที่จะทำให้เธอตายนับสิบนับร้อยครั้ง
“ถ้าร่างกายของฉันแข็งแกร่งขึ้น และสกิลกระหายเลือดยกระดับขึ้น ผลข้างเคียงของมันจะกินเวลาสั้นลงหรือเปล่า?”
นี่เป็นคำถามที่ต้องขบคิด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ เธอต้องคิดถึงแผนรับมือในอนาคตก่อน
สิ่งที่ลำบากที่สุดในเวลานี้ก็คือ โลกภายนอกถูกปกคลุมไปด้วยหมอกดำ แค่เดินออกจากบ้านก็เท่ากับเดินเข้าไปในหมอกแล้ว แม้ว่าในบ้านใช่ว่าจะไม่มีเลย แต่ก็มีหมอกน้อยกว่าภายนอกบ้านมาก
หลังจากสังหารเด็กสาวแล้ว สวี่จื้อก็เกิดความสงสัยในใจ
หลังจากที่เมืองถูกปิดตาย เธอไม่ได้เจอคนอื่นๆ อีกเลย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าหมอกสามารถกัดกร่อนจิตใจของผู้คนได้เร็วแค่ไหน แต่เมื่อพิจารณาจากเด็กชายเมื่อวาน และเด็กสาวในวันนี้ บางทีอาจแทบไม่มีคนปกติเหลือแล้ว พวกเขาอาจกลายเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวในคราบมนุษย์ไปแล้ว
เมื่อคิดได้แบบนี้ สวี่จื้อก็รู้สึกกังวลไม่น้อย เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูกกัดกร่อนไปมากแค่ไหนแล้ว
แต่ถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกับดวงตา เมื่อเธอล้างตัว และส่องกระจกทุกวัน
สวี่จื้อรู้จึงคิดว่าตัวเองอาจมีภูมิต้านทานต่อหมอกดำอยู่บ้าง และเมื่อพิจารณาจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอจนน่าสังเวชของเธอ ภูมิต้านทานนี้ต้องมีอยู่ก่อนที่เธอจะได้เครื่องเกม
ไม่เช่นนั้นเธออาจจะไม่รอดจนถึงวันที่เครื่องเกมปรากฏ
สวี่จื้อไม่เคยตระหนักเรื่องนี้มาก่อนเนื่องจากไม่มีการอ้างอิงหรือข้อเปรียบเทียบ แต่ตอนนี้เธอได้ค้นพบว่าตัวเองอาจมีพรสวรรค์บางอย่าง
อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่จู่ๆ เครื่องเกมก็ปรากฏขึ้นข้างๆ เธอ อย่างน้อยเธอก็ต้องบางอย่างที่ดึงดูดมันเข้ามาหา
ด้วยความคิดนี้ สวี่จื้อจึงวางแผนที่จะทำสิ่งที่กล้าหาญ
แต่ก่อนหน้านั้นเธอหยิบเครื่องเกมขึ้นมา บนหน้าจอก็แสดงสเตตัสของเสี่ยวอี้
[ งู ( เลเวล 11 ) ]
[ จิตวิญญาณ : 140 ]
[ ร่างกาย : 560 ]
[ พลัง : คมมีด ]
[ สกิล : พิษ ( เลเวล 5 ) คมเขี้ยว ( เลเวล 3 ) กระหายเลือด ( เลเวล 4 ) เจ้าเล่ห์ ( เลเวล 2 ) ]
[ แต้มวิวัฒนาการ : 700 / 1,500 ]
จิตวิญญาณ และร่างกายเพิ่มขึ้นไม่น้อย จะเห็นได้ว่าการปรับปรุงหลังจากมาถึงเลเวล 10 นั้นเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ด้านอื่นๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
สวี่จื้อไม่ได้ผิดหวังอะไร หลังจากที่เธอคลิก คำบรรยายก็ปรากฏขึ้นตรงกลางหน้าจอ
[ ทุกสิ่งในโลกนี้คาดเดาไม่ได้ เมื่อคุณตระหนักดีว่าถ้าพยายามเอาชีวิตรอด คุณก็ทำบางสิ่งที่ต่างจากเดิม มันเป็นการเดิมพัน แต่ผู้ที่ไร้ซึ่งความกล้าก็มีแต่จะถูกกินเท่านั้น ]
[ แต่ตอนนี้คุณรู้อยู่แล้วว่าควรจะทำอะไรต่อ จึงไม่ต้องการคำแนะนำใดๆ ถึงเวลาออกคำสั่งใหม่ให้กับแฟมิเลียแล้ว ]
[ โปรดทราบ : สติปัญญาของแฟมิเลียจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเลเวลที่เพิ่มขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่ง คำสั่งของคุณไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดมากนัก พวกมันก็สามารถเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการได้ด้วยตัวเอง ]
คำบรรยายจบแล้ว แล้วจางหายไป และแป้นพิมพ์เสมือนก็ปรากฏขึ้นตรงกลางหน้าจอ สวี่จื้อไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์มาก่อน ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงพิมพ์อย่างช้าๆ ทีละตัวอักษร
[ ไปล่าเหยื่อที่ย่านเมืองเก่าด้านหลังหอนาฬิกาเพื่อรวบรวมข้อมูล ]
หลังจากกดยืนยัน เสี่ยวอี้ก็เริ่มออกเดินทาง
แถบความคืบหน้ายังคงเป็น 7 ชั่วโมง ดูเหมือนว่าการยกระดับจะไม่ได้ลดเวลาล่าลง
หลังจากนั้น สวี่จื้อก็ควบคุมรถเข็นให้เคลื่อนไปทางหน้าต่าง เนื่องจากเมืองมีหมอกหนาเกินไป จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะมองเห็นสภาพอากาศภายนอก ไม่ว่าจะมืดครึ้มหรือมีแดดออก หมอกดำอันมืดมิดก็จะบดบังทุกสิ่งเอาไว้ และเธอมองเห็นเพียงหมอกที่ล่องลอยไปมาเท่านั้น
สวี่จื้อรวบรวมความกล้า แล้วยื่นมือออกแล้วค่อยๆ ผลักหน้าต่างออก
เป็นผลให้หมอกดำพุ่งเข้าไปในบ้านตามช่องว่างนี้ สวี่จื้อไม่ได้หลบและปล่อยให้พวกมันกระโจนเข้าหาใบหน้าของเธอ จากนั้นจึงสูดดมเข้าไปในร่างกาย
นี่เป็นการกระทำที่บ้าบิ่นมาก แต่สวี่จื้อคิดว่ามันจำเป็น ไม่ว่ายังไง คนผิดปกติกลุ่มก็มุ่งเป้ามาที่เธอ หากเธอไม่สามารถเผชิญหน้ากับพวกเขาได้ เขาก็ต้องออกจากบ้านหลังนี้แล้วสัมผัสกับหมอกดำอยู่ดี
ตอนนี้ เธอจึงริเริ่มที่จะทดสอบมันด้วยตัวเอง และหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น จะได้คิดหาทางต่อ
สวี่จื้อนั่งอยู่หน้าหน้าต่างเป็นเวลานาน สูดไอหมอกที่มีความเข้มข้นสูง แต่เธอก็ไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในตัว เธอจึงกลับไปที่ห้องน้ำแล้วมองดูตัวเองในกระจก แล้วได้เห็นดวงตาที่ยังมีสีขาวดำเหมือนเดิม
"อย่างที่คิดจริงๆ"
ดูเหมือนเธอมีภูมิต้านทานต่อการกัดกร่อนจิตใจของหมอกดำ ต่างจากคนอื่นที่จะเสียสติแล้วเป็นบ้าไป
“ดี”
ด้วยเหตุนี้ เธอจะสามารถออกจากบ้าน และทำตามแผนที่วางไว้ได้
สวี่จื้อล้างตัวก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาด จากนั้นจึงเริ่มเก็บสัมภาระเพื่อดูว่าต้องนำอะไรติดตัวไปบ้าง
บ้านของเธออยู่ไม่ไกลจากย่านเมืองเก่าด้านหลังหอนาฬิกา สวี่จื้อจึงวางแผนที่จะออกจากบ้านและไปอยู่แถวๆ นั้นหลังจากตื่นนอนตอนตีห้าในวันพรุ่งนี้
เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะหนึ่งในผู้อยู่ในอุปการะของเธอเคยอาศัยอยู่ที่นั่น และอีกอย่างคือตามคำบรรยายของเกม หลังเที่ยงคืน สัตว์ประหลาดในโลกภายนอกจะหลับลึกลงด้วยความกลัว และส่วนใหญ่จะยังไม่ตื่นจนถึงเช้า ตอนตีห้าจึงถือเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างปลอดภัย
นอกจากนี้เธอยังได้สั่งให้เสี่ยวอี้สำรวจสถานการณ์ และเส้นทางล่วงหน้าก่อน หากไม่มีอุบัติเหตุใดๆ เธอจะขอให้มันมาช่วยปกป้อง และออกเดินทางพร้อมกับเธอในเช้าวันพรุ่งนี้ นั่นจะทำให้เธอมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น
หลังจากการฆ่าคน สวี่จื้อก็ได้จัดแจงเส้นทางหลบหนีอย่างรวดเร็ว
หลังจากเป่าผมให้แห้ง สวี่จื้อก็ไม่ได้ใส่ใจกับศพที่นอนอยู่ตรงประตู แต่หยิบเครื่องเกมขึ้นมา และเริ่มควบคุมหมาให้ออกล่า
เวลาของเธอในตอนนี้มีค่ามาก
เมื่อถึงเวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง สวี่จื้อก็ยกระดับหมาเป็นเลเวล 7 ได้สำเร็จ
[ หมา ( เลเวล 7 ) ]
[ จิตวิญญาณ : 20 ]
[ ร่างกาย : 360 ]
[ พลัง : ไม่มี ]
[ สกิล : แข็งแกร่ง ( เลเวล 4 ) ดมกลิ่น ( เลเวล 3 ) รอบคอบ ( เลเวล 1 ) ]
เธอกังวลเล็กน้อยเมื่อดูแต้มวิวัฒนาการที่ต้องใช้เพื่อยกระดับจากเลเวล 7 ไป 8 หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จะต้องใช้เวลาสี่วันในยกระดับหมาให้ไปถึงเลเวล 10
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังต้องการให้เสี่ยวอี้เป็นผู้คุ้มกันเมื่อย้ายไปย่านเมืองเก่าในวันพรุ่งนี้ มันจึงขึ้นอยู่กับโชคหากให้มันไปหาผลไม้สีดำเพียงลำพัง หากโชคไม่ดี เธออาจไม่ได้รับอะไรเลย ซึ่งจะเป็นการเสียเวลาเปล่า
ตอนนี้เธอจำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างเร่งด่วน การเสี่ยงโชคจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ชาญฉลาด
สวี่จื้อจึงตัดสินใจจะให้มันไปล่าเหยื่อที่ไม่ทันระวังตัวจากการหลับใหลในวันพรุ่งนี้เช้าเพื่อสะสมแต้มวิวัฒนาการแทน
เนื่องจากร่างกายที่แข็งแกร่งของมันนั้นชัดเจนมาก การลอบโจมตีจึงมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูง
ส่วนผลไม้สีดำนั้น คงต้องรอจนกว่าเธอจะหาที่อยู่ใหม่ได้ และลงหลักปักฐานก่อน
ไม่นานหลังจากตัดสินใจ แถบความคืบหน้า 7 ชั่วโมงของเสี่ยวอี้ก็เต็มอีกครั้ง สวี่จื้อนอนบนเตียงและคลิกที่ร่างอวตารของเสี่ยวอี้เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ของการล่า