ตอนที่แล้วตอนที่ 22 แสงอุษาผู้รักสันติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 ข้อสันนิษฐานของนางาโตะและคาเรน

ตอนที่ 23 ย่อมมีช่วงเวลาที่จะต้องใช้งาน


ก่อนที่บรรยากาศจะเริ่มอึดอัดไปมากกว่านี้เบียคุยะเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

"รุ่นพี่นางาโตะ ไม่ต้องกังวลไปครับ เดี๋ยวผมจะไปพูดกับรุ่นพี่โคนันให้ลดจำนวนยันต์ระเบิดที่ขายลง และเพิ่มราคาขึ้นเล็กน้อย แล้วคุณจะไม่ต้องทำงานหนักขนาดนี้"

"ข-ขอบคุณนะ..."

แม้นางาโตะจะรู้สึกว่าคำพูดของเบียคุยะดูแปลกไปบ้าง แต่เขาก็ยังฝืนใจเอ่ยคำขอบคุณออกมาอยู่ดี ท้ายที่สุดแล้ว หากไม่มีแผนการของเบียคุยะ วิกฤตการเงินขององค์กรก็คงไม่มีทางแก้ไขได้ และสหายร่วมทีมก็คงไม่สามารถยิ้มได้อีกครั้ง ด้วยการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ที่มั่นคง สมาชิกแสงอุษาก็สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างสบายใจ

"ถ้าจะขอบคุณใครสักคน รุ่นพี่นางาโตะ ทำไมไม่ลองซ้อมต่อสู้กับผมล่ะครับ? ผมอยากเห็นพลังของรุ่นพี่นางาโตะ และประเมินดูว่าเรามีความต่างกันมากแค่ไหน"

เบียคุยะเสนอการซ้อมต่อสู้ขึ้นมาหลังจากได้รับคำขอบคุณจากนางาโตะ เขาอยากทดสอบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเอง เพราะค่าประเมินในแผงระบบถูกล็อกไว้

นางาโตะลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำขอของเบียคุยะ แต่สุดท้ายก็พยักหน้าตกลง เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า  เบียคุยะนั้นแข็งแกร่งจริงแค่ไหน

ก่อนหน้านี้ เบียคุยะเคยแสดงพลังที่ใกล้เคียงกับระดับจูนิน แต่หลังจากการเดินทางไปหมู่บ้านคุซางาคุเระ เบียคุยะเพียงลำพังกลับสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของนินจาแห่งหมู่บ้านคุซาได้ ซึ่งเป็นการแสดงความสามารถในการต่อสู้ที่เกินกว่าระดับจูนิน แม้กระทั่งสำหรับผู้ใช้เนตรสังสาระ การทำสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

หลังจากพยักหน้าตกลง เบียคุยะและนางาโตะเดินไปยังศูนย์กลางของพื้นที่โล่ง ทำท่ามือแสดงความเคารพก่อนการประลอง จากนั้นถอยออกจากกันเพื่อสร้างระยะห่างที่เพียงพอ คาเรน ผู้ชมเพียงคนเดียวในที่นั้น ยืนอยู่ที่ขอบสนามด้วยความตื่นเต้นและเฝ้ารอผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้

สายตาของคาเรนสลับไปมาระหว่างเบียคุยะและนางาโตะ ซึ่งทั้งคู่ต่างเป็นนักสู้ที่น่าเกรงขามในสายตาของเธอ ภาพการโค่นนินจาแห่งอิวะโดยใช้ยันต์ระเบิดของเบียคุยะยังคงชัดเจนในความทรงจำ เป็นสิ่งยืนยันถึงฝีมือของเขา

ในขณะที่นางาโตะ มีดวงตาเนตรสังสาระในตำนาน ดวงตาที่เคยเป็นของเซียนหกวิถี

การเริ่มต้นการประลองอย่างเป็นทางการทำลายความเงียบอันตรึงเครียด นางาโตะประสานมือของเขาเข้าด้วยกันพร้อมเปล่งเสียงคำรามหนักแน่น

"คาถาลม: หัตถ์วายุ"

จักระพุ่งออกมาจนก่อให้เกิดพายุหมุนขนาดเล็กในมือของเขา ก่อนที่เขาจะผลักพลังมหาศาลนั้นไปยังตำแหน่งของเบียคุยะ

เบียคุยะที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ถูกแรงลมพัดปลิวขึ้นกลางอากาศ แต่ด้วยเทคนิคกระดาษของเขา เบียคุยะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีกครั้งและกลับมาคุมความได้เปรียบทางอากาศไว้ เขาสร้างดาวกระจายกระดาษในมืออย่างคล่องแคล่วและปล่อยพวกมันออกไปเหมือนลูกดอกที่อันตรายพุ่งตรงไปหานางาโตะ

นางาโตะเบิกตากว้างเพียงชั่วครู่ก่อนจะกระโดดหลบดาวกระจายอย่างรวดเร็ว ดาวกระจายตกลงสู่พื้นโดยไม่สร้างความเสียหายใดๆ

เขารู้ดีว่าเบียคุยะเชี่ยวชาญเทคนิคกระดาษของโคนัน แต่การได้เห็นฝีมือของเขากับตาตัวเองนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง การแสดงความสามารถครั้งนี้ดูจะเหนือกว่าฝีมือของโคนันเสียอีก

การต่อสู้ยิ่งทวีความดุเดือดขึ้น นางาโตะใช้วิชานินจาพื้นฐานหลากหลายรูปแบบโจมตีต่อเนื่อง หวังจะบีบบังคับให้เบียคุยะลงมาสู่พื้นดินและลบล้างความได้เปรียบทางอากาศของเขา

อย่างไรก็ตาม เบียคุยะกลับแสดงให้เห็นถึงความคล่องแคล่ว ว่องไว หลบหลีกการโจมตีทั้งหมดก่อนจะลงมาหยุดยืนอย่างสง่างามบนยอดไม้สูง

แม้จะไม่ได้ใช้เนตรสังสาระ แต่นางาโตะก็ยังแสดงให้เห็นถึงพลังอันปฏิเสธไม่ได้ ความเชี่ยวชาญในธาตุพื้นฐานทั้งห้าทำให้เขากลายเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามซึ่งสามารถรับมือกับนินจาทั่วไปได้อย่างง่ายดาย ในบางแง่เขาช่างคล้ายกับโฮคาเงะรุ่นสามในวัยหนุ่ม

แต่เบียคุยะกลับไม่ได้แสดงอาการสะทกสะท้าน ธาตุพื้นฐานไม่ใช่ภัยคุกคามสำหรับเขาอีกต่อไป ด้วยการสะบัดข้อมือเบาๆ เขาปล่อยยันต์ระเบิดที่สะสมไว้ลงมาเป็นห่าฝน ระเบิดเหล่านี้กระทบพื้นดินก่อให้เกิดเสียงระเบิดกึกก้องต่อเนื่อง

นางาโตะที่ถูกบังคับให้ถอยกลับลงมาบนพื้นดินขมวดคิ้วแน่น การประลองที่เบียคุยะกล่าวถึงนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เขาคิดไว้ แต่กระนั้นเขาก็รู้ว่า หากต้องการประเมินพลังที่แท้จริงของเบียคุยะ การต่อสู้นี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุด

พื้นดินรอบตัวคาเรนสั่นสะเทือนจากแรงระเบิดที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงต้นหญ้าลำพังที่ถูกพายุโหมกระหน่ำ แม้ในตอนแรกจะเป็นเพียงผู้ชม แต่ความดุเดือดของการต่อสู้ทำให้เธอต้องถอยออกไปเพื่อรักษาระยะห่างจากสนามรบที่กำลังเดือดพล่าน

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ฝึกไม่ได้เล็ดลอดสายตาของสมาชิกแสงอุษาที่ประจำการอยู่รอบฐานเลย พวกเขามองหน้ากันด้วยความตกใจ ก่อนจะเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังสำนักงานโดยมีจุดประสงค์ที่จะรายงานเรื่องนี้ให้ยาฮิโกะทราบ

ยาฮิโกะฟังรายงานของลูกน้องอย่างตั้งใจ สายตาเขาเลื่อนไปยังพื้นที่ฝึกซ้อม เสียงระเบิดต่อเนื่องนั้นบ่งบอกได้ชัดเจนว่าเป็นฝีมือของเบียคุยะอีกครั้ง

โคนันแตกต่างจากเบียคุยะ เธอใช้ยันต์ระเบิดอย่างรอบคอบและคำนวณไว้ล่วงหน้า เขาหวนคิดถึงครั้งล่าสุดที่เธอปฏิเสธคำขอของเขาที่จะขอยันต์ระเบิดเพื่อฝึกฝน โดยให้เหตุผลว่าระเบิดเหล่านั้นเป็นสินค้าที่จัดทำขึ้นเพื่อขายภายนอกเท่านั้น

ด้วยการถอนหายใจเบาๆ ยาฮิโกะหันกลับมาสนใจกับสมุดแผนงานที่อยู่บนโต๊ะของเขา

"นี่ไม่ใช่การโจมตีจากศัตรูแน่นอน แค่เบียคุยะกำลังฝึกวิชานินจาของเขาเท่านั้น ไปดูสถานการณ์ที่นั่น แล้วบอกเขาว่าหลังจากนี้ให้มาพบฉัน"

"รับทราบ!"

เหล่านินจาแสงอุษาขานตอบ พร้อมความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามฝึก

ไม่นานนัก สมาชิกแสงอุษาหลายคนก็มาถึงพื้นที่ใกล้สนามฝึก แต่กลับถูกคาเรนสกัดไว้ พวกเขาจำเธอได้ในทันทีว่าเป็นสมาชิกใหม่ขององค์กร และจ้องมองเธอด้วยความสงสัย

"รอก่อน ท่านเบียคุยะกับรุ่นพี่นางาโตะกำลังฝึกประลองกันอยู่ การเข้าไปใกล้เกินไปอาจเป็นอันตรายได้!"         คาเรนกล่าวเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง

คำเตือนของเธอถูกขัดจังหวะด้วยแสงเจิดจ้าที่ปะทุขึ้นใกล้ๆ ก่อนที่เหล่านินจาจะปรับสายตาให้ชินกับแสงได้ เสียงระเบิดดังสนั่นก็ดังก้องขึ้น พื้นดินสั่นสะเทือนจากแรงระเบิดอย่างรุนแรง

สมาชิกแสงอุษาที่ตกอยู่ในอาการตกตะลึงหลังจากเห็นการปะทะรุนแรง สบตากันด้วยความตกใจ พวกเขาที่เข้าร่วมแสงอุษาด้วยความเชื่อว่าเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นสันติภาพ ไม่มีทางรู้เลยว่าองค์กรแห่งนี้แฝงไว้ด้วยพลังอันมหาศาล การเปิดเผยนี้ทำลายความคาดหวังของพวกเขาลงอย่างสิ้นเชิง

อีกฟากหนึ่งของสนามฝึก นางาโตะซึ่งหอบหนัก ยืนจ้องมองเบียคุยะที่อยู่อีกฟากด้วยสายตาแน่วแน่ เขาถูกบังคับให้ใช้ข่ายเทพพิชิตฟ้า เพื่อต้านกระแสของยันต์ระเบิด ขณะที่เบียคุยะเองก็แสดงให้เห็นถึงอาการเหนื่อยล้าจากการใช้   จักระอย่างหนัก

การต่อสู้ที่ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทั้งคู่ต้องใช้เทคนิคที่ทรงพลังที่สุดของตนเอง ผลที่ตามมาคือภาพของความเสียหายที่ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับ

เบียคุยะหยิบผ้าขนหนูจากพื้นขึ้นมา ซับเลือดที่ไหลออกจากหน้าผากของตนพร้อมกับหายใจอย่างหนัก

"รุ่นพี่นางาโตะ พลังของคุณเกินกว่าที่ผมคาดคิดไว้ นี่คือพลังของเนตรสังสาระใช่ไหม?"

นางาโตะที่ยังคงรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อยจากกระแสยันต์ระเบิดที่เผชิญมา กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย

"ทำไมกัน เบียคุยะ? ทำไมถึงบังคับให้ฉันต้องใช้เนตรสังสาระ? ฉันไม่ได้อยากใช้พลังนี้ และฉันก็ยังไม่ได้ควบคุมความสามารถของมันได้ดีนัก"

"รุ่นพี่นางาโตะ การเผชิญหน้ากับพลังนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การปรับตัวเข้ากับศักยภาพของเนตรสังสาระตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อเปิดเผยพลังอย่างเต็มที่ ย่อมดีกว่ารอให้ถึงช่วงเวลาสิ้นหวังหรือเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรม"

เบียคุยะเดินเข้าหานางาโตะพร้อมรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า นางาโตะยังคงเงียบ ผมของเขาปกปิดดวงตาเนตรสังสาระไว้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เบียคุยะพูดถึงแนวทางเช่นนี้

ขณะนั้นเอง ความวุ่นวายในสนามฝึกเริ่มสงบลง ความเงียบนี้ดึงดูดความสนใจของสมาชิกแสงอุษาและคาเรนที่พากันรีบไปยังจุดเกิดเหตุ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด