OS ตอนที่ 52 ความจริงถูกเปิดเผย
ข้อความระบบจำนวนมากปรากฏบนหน้าจอของทั้งคู่ ซึ่งระบุว่าพวกเขาจัดการกับมอนสเตอร์กลุ่มหนึ่งเสร็จแล้ว
[แจ้งเตือนผู้เล่น: อีควิน็อกซ์เลเวลอัป เลวินคลาวด์เลเวลอัป ซิริอุสเลเวลอัป คันลาออนเลเวลอัป เซน่าเลเวลอัป]
โดยเซน่าเพิ่มขึ้นสี่เลเวล คันลาออนสองเลเวล ส่วนอีควิน็อกซ์ เลวินคลาวด์ และซิริอุสเพิ่มขึ้นอย่างละหนึ่งเลเวล
นอกจากนี้ อีควิน็อกซ์กับเลวินคลาวด์ยังได้รับแปดเหรียญทองแดง และเปลือกไม้ต้องสาปสองชิ้นตามลำดับ
ตอนนี้เซน่าเลเวล 14 ซิริอุส เลเวล 18 และคันลาออน 17 แล้ว
ทางด้านอีควิน็อกซ์เอง เลเวลของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 21 มันทำให้เขารู้สึกดีใจที่ประสบการณ์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากนั้น อีควิน็อกซ์ก็มองดูพวกสัตว์อัญเชิญของเขา เขาสังเกตเห็นว่าพวกมันมีหลอดค่าประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ดูเหมือนว่ายิ่งระดับสูงมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งต้องการค่าประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เซน่ากลับมีหลอดค่าประสบการณ์ต่ำ เขาสันนิฐานว่าอาจเป็นเพราะมันยังไม่วิวัฒนาการ ด้วยเหตุนี้ แม้มันจะมีเชื้อสายในตำนาน แต่มันก็ไม่ได้ใช้ค่าประสบการณ์มากนัก
ตอนนี้อีควิน็อกซ์เข้าใจแล้วว่าทำไมนักอัญเชิญบางคนจึงชอบให้ความสำคัญกับสัตว์อัญเชิญหนึ่งหรือสองตัวก่อนสัตว์อัญเชิญตัวอื่น ๆ
โชคดีที่อีควิน็อกซ์ไม่มีปัญหากับการสะสมประสบการณ์ แต่ถึงอย่างไร เขาก็ต้องพิจารณษอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะผูกมัดวิญาณกับสัตว์อัญเชิญตัวต่อไป
อีควิน็อกซ์กับเลวินคลาวด์ใช้เวลานานในการจัดการกับเทรนท์ต้องสาปที่เหลืออยู่ เนื่องจากการต่อสู้ที่กินเวลานานถึงห้าชั่วโมง ทั้งสองจึงเหนื่อยล้าและพลังกายแทบไม่เหลือ แม้แต่ซิริอุสกับคันลาออนก็ยังเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าพวกเขาจะมีค่าสถานะสูงก็ตาม
อีควิน็อกซ์กับเลวินคลาวด์ยังใช้มานาจนหมด ซึ่งทำให้รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย
เมื่อผู้เล่นใช้มานาจนหมด พวกเขาจะเข้าสู่สถานะที่เรียกว่า ‘ขาดมานา’ ซึ่งจะทำให้พวกเขามึนหัว ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากที่ NPC ในเกม
หากพวกเขาขากมานา มันไม่เพียงแต่จะทำให้พวกเขาปวดหัวเท่านั้น แต่ยังทำให้มีเลือดไหลออกมาจากรูทวารทั้งหกอีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่อาณาจักรบางแห่งไม่ชอบผู้เล่น
เนื่องจากพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากเหล่าเทพเจ้า แถมยังไม่มีวันตาย ในขณะที่พวกเขายังต้องแบกรับความเสี่ยงต่าง ๆ และมีโอกาสตายอีกด้วย
พวกเขากำลังพักผ่อนเพื่อให้พลังกายของพวกเขาได้รับการฟื้นฟูตามธรรมชาติ พวกเขาสามารถทานขนมปังแข็ง ๆ และเนื้อเค็มเพื่อให้กระบวนการดำเนินไปเร็วขึ้น
ในระหว่างนั้นเอง เลวินคลาวด์ก็ถามถึงสิ่งที่ค้างคาในใจของเขามาตลอดการต่อสู้
“นายไม่คิดจะบอกฉันหน่อยเหรอว่านายไปได้พวกสัตว์อัญเชิญมาได้ยังไง? ฉันหมายถึงนายได้มังกรมาได้ยังไง? นายรู้มั้ยนายเป็นคนเดียวที่ฉันรู้จักที่มีมังกรเลือดบริสุทธิ์ ในขณะที่ผู้เล่นชั้นนำเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีมังกร แต่ก็เป็นแค่มังกรชั้นต่ำเท่านั้น
บอกฉันหน่อยสิว่าคันลาออนเป็นผู้อุปถัมภ์ของเผ่ามังกรหรือเปล่า? นายรู้จักบรรพบุรุษของเผ่ามังกรไหม? แล้วมันเป็นมังกรสายพันธุ์ไหน?
แล้วซิริอุสล่ะ มันเป็นอะไร? มันดูไม่เหมือนสายพันธุ์หมาป่าทั่วไปเลย นายเปลี่ยนขนาดพวกมันได้ยังไง? นายเปลี่ยนขนาดของตัวนายเองด้วยรึเปล่า?
นอกจากนี้ ฉันยังได้รับการแจ้งเตือนแปลก ๆ เมื่อฉันช่วยนายจากเทรนท์ต้องสาปเหล่านั้นด้วย”
เลวินคลาวด์ถามด้วยความตื่นเต้น
“ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ถามทีละคำถามก็ได้... อืม... อย่างแรกเลย ซิริอุสเป็นหมาป่าปีศาจ ส่วนคันลาออนเป็นมังกรไฟ และไม่เหมือนกับบรรพบุรุษของเผ่ามังกร ซึ่งเป็นมังกรสีแดงตามประวัติอย่างเป็นทางการที่โพสต์ไว้ในเว็ปบอร์ด
พวกมันสามารถเปลี่ยนขนาดได้เพราะคาถาที่ฉันร่ายใส่พวกมัน เนื่องจากพวกมันดึงดูดสายตาคนอื่นมากเกินไป ฉันเกรงว่ามันจะดึงดูดปัญหาที่ไม่จำเป็นตามมา
ส่วนฉันไปเจอคันลาออนที่ไหนนั้น พอดีว่าฉันบังเอิญไปเจอมันในดันเจี้ยนที่ฉันเคยไป ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นไข่มังกรในตอนแรก เพราะฉันได้ไข่มาจากดันเจี้ยนซาลาแมนเดอร์แดง”
อีควิน็อกซ์พูดอย่างต่อเนื่องซึ่งเกือบทำให้เขาหายใจไม่ทัน
“แล้วการแจ้งเตือนที่นายได้รับคืออะไรเหรอ? ทำไมนายถึงคิดว่ามันแปลกล่ะ?” อีควิน็อกซ์ถาม
“มันแปลกเพราะมันบอกฉันว่านายเป็นเหมือนคนโปรดของไกอาหรืออะไรทำนองนั้น และฉันยังได้รับค่าความภักดีจากการที่รักษานายให้รอดพ้นจากอันตรายถึงชีวิตอีกด้วย อย่างกับว่านายเป็นผู้ถูกเลือกอย่างนั้นแหละ” เลวินคลาวด์พูดอย่างขบขัน
“ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น” อีควิน็อกซ์พูดในขณะที่เขากำลังคิดกับตัวเองว่าเขาควรบอกความจริงกับเพื่อนรักดีหรือไม่?
“งั้นลองบอกฉันมาสิ” เลวินคลาวด์พูด เพราะเขาอยากรู้อยากเห็นมาก
“ฉันคิดว่านายเห็นด้วยตาจะเข้าใจง่ายกว่า”
อีควิน็อกซ์พูดขณะที่ยกเลิกทักษะเสน่ห์ เมื่อเอฟเฟกต์หมดลง ตั้งแต่หัวจรดเท้าและเผยให้เห็นผมสีขาวครึ่งศีรษะ เขาแหลม และสีผิวของเขา
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของเพื่อนรัก เลวินคลาวด์ตกใจมากจนต้องสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพยายามพูดออกมา
“เพื่อน! นายเป็นปีศาจ! เจ๋งมาก! นายกลายเป็นปีศาจได้ยังไง!? แล้วทำไมผู้เล่นคนอื่นถึงเลือกเป็นเผ่าพันธุ์แบบนายไม่ได้!? ไม่เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับเผ่ามังกรเลย!” เลวินคลาวด์ยิงคำถามออกไปทีละคำถามจนอีควิน็อกซ์รู้สึกอึดอัด
อีควิน็อกซ์สงบสติอารมณ์ลง ก่อนจะเริ่มเล่าสิ่งที่เขาพบเจอในช่วงหลายสัปดาห์นที่ผ่านมา เมื่อเลวินคลาวด์ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เขาก็รู้สึกทึ่งและอิจฉาเล็กน้อย ซึ่งอีควิน็อกซ์สังเกตเห็นสิ่งนั้น และบอกเขาว่าถ้าเขาพบเจอไอเทมที่จะเปลี่ยนเผ่าพันธุ์ เขาจะเอามาให้เลวินคลาวด์เป็นคนแรก
“งั้นนายก็เป็นสายพันธุ์อิมป์จากเผ่าเดมอส เผ่าของนายถือว่าเป็นปีศาจที่แตกต่างจากปิศาจ แต่โบสถ์ที่อยู่ในสังกัด 'ความดี' ทั้งหมดกลับปฏิบัติกับนายเหมือนเป็นปีศาจ ซึ่งหมายความว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโบสถ์ไม่รู้เรื่องนี้สินะ” เลวินคลาวด์กล่าว
“ฉันคิดว่าพวกเขาคงจะรู้เรื่องนี้ แต่จงใจไม่พูดอะไร การที่ปีศาจสังกัด ‘ความชั่วร้าย’ เพราะเผ่าพันธุ์ของพวกเขาชอบใช้เล่ห์เหลี่ยม และสร้างความโกลาหลแก่คนทั่วไป” อีควิน็อกซ์พูดอย่างจริงจัง
“โอ้! มีการแจ้งเตือนบอกว่า จากหลักคำสอนของโบสถ์แห่งชีวิต เกอาไม่มีเทพคู่แฝด” เลวินคลาวด์กล่าวอีกครั้ง
ข้อเท็จจริงง่าย ๆ นี้ทำให้อีควิน็อกซ์ตะลึง เพราะนี่เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ที่แท้จริงชิ้นแรกที่เขาได้มาเมื่อเขาเริ่มเล่นเกม จากสิ่งที่เลวินคลาวด์กล่าว หมายความว่าโลกไม่รู้จักเทพแห่งความตาย ดาบาดอน หรือพูดให้เจาะจงกว่านั้นก็คือเลือกที่จะลบตัวตนของเขาไป
จากนั้น อีควิน็อกซ์ก็เล่าประวัติของเทพเจ้าที่เขารู้จักให้เลวินคลาวด์ฟัง แม้ว่ามันจะน่าเบื่อ แต่เพื่อนรักของเขากลับคิดว่ามันน่าสนใจมาก เพราะมันหมายความว่าแม้แต่องค์กรที่มีชื่อเสียงด้วยความซื่อสัตย์ก็ยังฝังความจริงบางอย่างเอาไว้
“พวกเขาอาจซ่อนมันไว้ เพราะพวกเขาอาจจะกลัวว่ามีคนคิดจะบูชาเทพเจ้าแห่งความตายก็ได้ แม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงฝังข้อมูลพวกนั้นไว้ เพราะผู้เล่นที่เป็นนักบวชจะเก็บความลับเกี่ยวกับหลักคำสอนของตนไว้เพื่อไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นรู้ความลับของพวกเขา”
อีควิน็อกซ์พูดราวกับว่ามันเป็นข้อตกลงที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ไม่กี่วินาทีต่อมาหลังจากที่เลวินคลาวด์ได้ยินเรื่องราวดังกล่าว ระบบก็ปรากฏขึ้นในอินเทอร์เฟซของเขา
[คุณได้เรียนรู้ความลับอันดำมืดของโบสถ์แห่งชีวิตแล้ว ระวังอย่าแจ้งให้พระสันตปาปาทราบถึงความจริงที่คุณได้รับ เทพธิดาแห่งชีวิต เกอา ได้เห็นความทุกข์ยากของคุณและต้องการคุยกับคุณ]
[บุตรของข้า เพื่อนแท้ของผู้กล้าของพวกเรา ตอนนี้เจ้าได้เรียนรู้ความลับที่ลูกหลานที่หลงทางของข้าเก็บซ่อนเอาไว้ เจ้าจะตกอยู่ในอันตรายหากพวกเขารู้เรื่องนี้ นั่นเป็นสาเหตุที่พี่ชายของข้ากับข้าจึงตัดสินใจส่งเจ้าไปทำภารกิจเพื่อเปิดเผยความจริงที่ถูกลืมเลือน]
[คุณได้ยินเสียงของเทพธิดาแห่งชีวิต เกอา ค่าความภักดี +100]
เสียงของเทพธิดาช่างไพเราะเหลือเกิน มันคล้ายกับน้ำเสียงของแม่ผู้ห่วงใย ซึ่งได้ขับไล่ให้คลายความสงสัย และความกังวลไปทั้งหมด
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที การแจ้งเตือนภารกิจก็ปรากฏขึ้นในหน้าต่างภารกิจของเลวินคลาวด์
==
[แจ้งเตือนภารกิจ: เปิดเผยความจริง ตอนที่ 1 (ภารกิจต่อเนื่อง)]
โบสถ์แห่งชีวิตได้ปกปิดบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างโลกไว้ ค้นหาบันทึกเหล่านี้และตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้บริหารระดับสูงของโบสถ์จะไม่รู้ตัวตนของคุณ
เงื่อนไขการผ่าน: ค้นหาบันทึกประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของโลกโดยไม่ถูกสงสัย
รางวัล: หนังสือทักษะมหากาพย์แบบสุ่ม (สายอาชีพนักบวช)
ความล้มเหลว: ถูกขับออกจากโบสถ์ที่อยู่ในสังกัด 'ความดี'
รางวัลภารกิจต่อเนื่องสุดท้าย: สายอาชีพพิเศษ 'ทูตแห่งเทพเจ้าคู่แฝด'
เวลาจำกัด: ไม่มี
==
เลวินคลาวด์ขยี้ตาด้วยความไม่เชื่อ เพราะเขาไม่คิดว่าจะมีภารกิจโผล่ขึ้นมา แม้แต่การได้ยินเสียงเทพธิดา เขาก็ไม่คาดฝันเช่นกัน เพราะมีเพียงพระสันตปาปาเท่านั้นที่ได้ยินเสียงเทพธิดา ตามที่ผู้บริหารระดับสูงของโบสถ์บอก แต่เขาได้ยินมันด้วยตัวเองและเขาได้รับค่าความภักดี 100 แต้มจากการได้ยินมัน
ในขณะที่เลวินคลาวด์กำลังอึ้งทำอะไรไม่ถูก ทางด้านอีควิน็อกซ์เองก็สับสนกับการกระทำของเพื่อนรักของเขาเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าเลวินคลาวด์กำลังทำอะไรอยู่ เขาจึงปลุกเขาจากอาการมึนงง
"นายโอเครึเปล่า?" อีควิน็อกซ์พูดด้วยท่าทางกังวล
เลวินคลาวด์เพิ่งฟื้นจากภวังค์ และกอดเอเดรียนทันทีพร้อมกับบอกว่าอีควิน็อกซ์คือดวงดาวนำโชคของเขา จากนั้น อีควิน็อกซ์ดันตัวเองออกจากเลวินคลาวด์ และทำให้เขาสงบลง พร้อมกับให้เขาอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเลวินคลาวด์ก็เล่าอย่างว่าง่าย
ไม่กี่วินาทีต่อมาแม้แต่ดวงตาของอีควิน็อกซ์ก็เบิกกว้าง เขาไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะสร้างภารกิจขึ้นมาได้เพียงแค่บอกเขาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของการกำเนิดโลกและเหล่าเทพเจ้า
‘นั่นหมายความว่าถ้าฉันเลือกนักบวช ฉันอาจจะได้สายอาชีพพิเศษ 'ทูตแห่งเทพเจ้าคู่แฝด' ก็ได้ แต่ว่าฉันไม่เสียใจหรอก สาเหตุที่ฉันเลือกนักอัญเชิญก็เพราะฉันต้องการสนุกกับการเล่นเกมเท่านั้น’ อีควิน็อกซ์คิด
การคาดเดาของอีควิน็อกซ์ถูกต้อง ถ้าเขาเป็นนักบวช เขาคงได้สายอาชีพลับ แต่เขาก็ไม่สนับสนุนทฤษฎีนั้น เพราะเขาได้เป็นเผ่าเดมอสเพราะซิริอุส เจ้าหมาป่าเป็นตัวจุดชนวนเหตุการณ์ในเมืองเจเนซิส
สำหรับเขา รางวัลที่เทียบเท่ากับสายอาชีพพิเศษที่อีควิน็อกซ์ได้รับน่าจะเป็นทักษะติดตัว อำนาจแห่งแอสโมเดียน ที่ช่วยในการเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์สำหรับนักอัญเชิญ
สิ่งที่อีควิน็อกซ์ไม่รู้ก็คือมีทริกเกอร์ที่แตกต่างกันตามแต่ละสายอาชีพเพื่อให้ได้เครื่องรางแห่งความโกลาหล แต่ทว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างตื่นเต้นกับการเล่นเกม และรีบร้อนออกจากเมืองเจเนซิสจนไม่มีเวลาสนใจที่จะสังเกตสิ่งนั้น
ถึงพวกเขาจะไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อย ๆ การไม่รู้ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง
“มาโฟกัสที่ดันเจี้ยนกันดีกว่า ไว้เราค่อยคุยกันหลังจากเสร็จเรื่องทั้งหมดนี้แล้ง”
อีควิน็อกซ์พูดขณะที่เขาโบกมือเรียกเลวินคลาวด์ให้เขาออกสำรวจในดันเจี้ยนต่อไป