บทที่ 94 เป็นคน ต้องรู้จักที่จะพยายาม
บทที่ 94 เป็นคน ต้องรู้จักที่จะพยายาม
มืออาชีพ ยังไงก็ต่างกันอยู่ดี
วิธีการและแนวคิดค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่
หลี่จิ้งไม่รู้ว่าหลี่ฉีเต้าเข้ามาในพื้นที่ลี้ลับเมื่อไหร่
แต่ตามที่เฉินจิ้งจัดการ เขาน่าจะเพิ่งเข้ามาไม่นาน
ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ หลี่ฉีเต้าก็ได้งาน "ตรวจร่างกาย" ให้คนอื่น นับว่ามีประสิทธิภาพมาก
เห็นหลี่ฉีเต้าถือเครื่องสแกนเดินมาสแกนจากคอลงมาด้านล่าง แล้วจะไปด้านหลัง หลี่จิ้งจึงหยิบบัตรประจำตัวสำนักจัดการภัยพิบัติออกมา พูดเสียงเบา
"พี่ครับ เราพวกเดียวกัน"
?
หลี่ฉีเต้าชะงักไป
คำว่า "พี่" นี้ทำให้เขางงไปชั่วขณะ
แถมยังมีคำว่า "พวกเดียวกัน" ทำให้เขายิ่งงงหนักขึ้น
เขาก้มลงมองโดยไม่รู้ตัว เห็นบัตรประจำตัวที่หลี่จิ้งเปิดให้ดู
เมื่อเห็นชื่อ "ลู่หยางเฉิง" บนบัตร หลี่ฉีเต้าขมวดคิ้ว
ลู่หยางเฉิง เขาจำได้แน่นอน
ก่อนหน้านี้ในคดีสินค้าต้องห้ามรูปแบบใหม่ ไต้หงได้จัดกลุ่ม 3 คนจากกลุ่มเทียนหวังของแผนกผู้ช่วยตรวจการที่นำโดยหลี่จิ้ง ในฐานะสมาชิกหน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
ตอนนั้นลู่หยางเฉิงที่หน้าดำเหมือนถ่านนั่งอยู่ในห้องประชุม สะดุดตามาก
มองดูหลี่จิ้งแล้ว สีหน้าของหลี่ฉีเต้าเริ่มแปลกไป
คนตรงหน้าเขาไม่ใช่ลู่หยางเฉิงแน่นอน
ความจำและการสังเกตของนักสืบหน่วยสืบสวนคดีพิเศษไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ใบหน้าอาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยวิธีการต่างๆ
แต่ไม่น่าจะถึงขั้นส่วนสูงและรูปร่างไม่ตรงกัน
เมื่อมีชื่อลู่หยางเฉิงเป็นจุดอ้างอิง และมีส่วนสูงรูปร่างให้เทียบ หลี่ฉีเต้าก็นึกออกได้ง่ายๆ
สายตากวาดมองซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว หลี่ฉีเต้าเอ่ยเสียงประหลาด
"หลี่จิ้ง?"
"ใช่ครับ"
หลี่จิ้งพยักหน้า
ที่เขาตั้งใจหยิบบัตรประจำตัวออกมาก็เพื่อให้รู้จักกัน
หลี่ฉีเต้านึกถึงเขาได้ทันที ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร
เมื่อได้รับการยืนยันจากตัวหลี่จิ้งเอง หลี่ฉีเต้าถอนหายใจเบาๆ
นึกว่าโชคดีเพิ่งเข้ามาก็เจอคนที่ทำตัวน่าสงสัย ที่แท้ก็เป็นพวกเดียวกัน
แกล้งทำเป็นสแกนหลี่จิ้งต่อ หลี่ฉีเต้าถาม
"นายเพิ่งเข้ามา?"
"ใช่ เข้ามาได้ไม่กี่นาทีเอง"
หลี่จิ้งตอบพลางยืนนิ่งทำท่าให้ความร่วมมือการตรวจสอบ
"พี่เข้ามานานแค่ไหนแล้ว?"
"ชั่วโมงกว่าๆ"
หลี่ฉีเต้าตอบ
"ตอนนี้สถานการณ์ในฐานที่มั่นค่อนข้างมั่นคง แต่โดยรวมทุกคนอารมณ์ตึงเครียดมาก ปรสิตโผล่มาโดยไม่คาดคิด ทุกคนต่างระวังตัว"
พูดจบ เขาก็พูดต่อ
"รวมนายด้วย คนของสำนักตรวขการมาทั้งหมด 9 คน พวกเราบอกข่าวกันไม่เป็นไร แต่อย่าติดต่อกันมากเกินไป พวกเราไม่ใช่สมาชิกสำนักจัดการภัยพิบัติตัวจริง การดึงดูดความสนใจมากเกินไปจะส่งผลต่อการสืบสวนได้"
"อืม"
หลี่จิ้งรับคำ
คำสั่งของเฉินจิ้ง เขาจำได้
เขาก็เข้าใจว่าหลี่ฉีเต้าพูดเช่นนั้นเพราะกังวลอะไร
การติดต่อและรู้จักกัน
อย่างหนึ่งคือบังเอิญ อีกอย่างก็คือ...
สายตาเหลือบมองเครื่องสแกนอุณหภูมิในมือหลี่ฉีเต้า หลี่จิ้งยิ้ม
"มีเครื่องสแกนแบบนี้เหลือไหม?"
"..."
หลี่ฉีเต้า
เขาคิดว่าหลี่จิ้งติดต่อเขาเพื่อบอกข่าวกัน ใครจะรู้ว่าคนคิ้วดกตาโตนี่จ้องเครื่องสแกนของเขา
มองอีกฝ่ายอย่างเฉยชาแล้วกวาดตามองรอบๆ
เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครสนใจตรงนี้ หลี่ฉีเต้าก็ยัดเครื่องสแกนใส่มือหลี่จิ้ง พูดเสียงต่ำ
"เพื่อให้แน่ใจว่าในฐานที่มั่นไม่มีคนที่ถูกปรสิตแฝงตัวอยู่ สำนักจัดการภัยพิบัติจึงตั้งทีมลาดตระเวนตรวจสอบ ฉันใช้ความพยายามอย่างมากถึงได้เข้าไปอยู่ในทีม เครื่องสแกนนี้เป็นของนาย ฉันมีอุปกรณ์ที่ฝ่ายสนับสนุนให้มา"
พูดจบ เขาพยักหน้าให้แล้วเดินไปทางด้านหลังของหลี่จิ้ง
หลี่จิ้งก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิม เก็บเครื่องสแกนเข้าไปในพื้นที่เก็บของ เดินไปทางทิศที่เมื่อกี้เห็นแถบพลังชีวิต
...
ไม่นาน หลี่จิ้งก็มาถึงบริเวณเต็นท์ที่คนที่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะเดินเข้าไป
หยุดอยู่ไม่ไกล หลี่จิ้งไม่ได้เดินเข้าไปในเต็นท์โดยตรง
เต็นท์ที่ตั้งอยู่ในฐานที่มั่นมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน
เมื่อครู่ที่เขาเจอหลี่ฉีเต้า อยู่ใต้ทางเข้าพื้นที่ลี้ลับพอดี
เต็นท์ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่บัญชาการ สนับสนุน ประชุม เป็นต้น มีคนเข้าออกมากมาย
ส่วนบริเวณที่เขาอยู่ตอนนี้ เป็นเต็นท์สำหรับพักผ่อนทั้งหมด
คนที่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะเป็นผู้หญิง เขาไม่อาจหลับตาบุกเข้าไปในเต็นท์
ถ้าจะบุกเข้าไป ยังไม่ทันได้เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร คนอาจจะตะโกนจับคนลวนลามเสียก่อน
ยืนอยู่ใกล้เต็นท์ หลี่จิ้งหยิบเครื่องสแกนออกมา
กำลังคิดว่าจะหาเจ้าหน้าที่สำนักจัดการภัยพิบัติที่เดินผ่านมาตรวจร่างกายดีไหม ผู้หญิงที่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะก็เดินออกมาจากเต็นท์
เห็นผู้หญิงออกมา หลี่จิ้งก็เดินเข้าไปอย่างเป็นธรรมชาติ
"เพื่อนร่วมงาน ขอตรวจสอบหน่อยครับ"
ผู้หญิงได้ยินแล้วชะงักฝีเท้า ให้ความร่วมมืออย่างดี
"รบกวนเร็วหน่อย ฉันมีธุระต้องจัดการ"
"ได้ครับ"
หลี่จิ้งยิ้ม ยกเครื่องสแกนขึ้นสแกนจุดที่ปรสิตอาจเข้าไปแฝงตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังของผู้หญิง
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ถูกปรสิตเข้าร่าง
ผลลัพธ์นี้ หลี่จิ้งคาดไว้แล้ว
ผู้หญิงให้ความร่วมมือขนาดนี้ ย่อมไม่ใช่คนที่ถูกปรสิตเข้าร่าง
ปรสิตฉลาดมาก และเจ้าเล่ห์มาก
ถ้าเป็นร่างที่ถูกเข้า จะไม่มีทางยอมรับการตรวจสอบง่ายๆ
เก็บเครื่องสแกน หลี่จิ้งถอยหลัง
"เสร็จแล้วครับ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ"
ผู้หญิงพยักหน้า เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
หลี่จิ้งมองเธอเดินห่างออกไป ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย
ยืนยันแล้วว่าไม่ได้ถูกปรสิตเข้าร่าง แต่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะ ทำให้เขาสรุปง่ายๆ ได้ข้อหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้เป็นปีศาจร่างมนุษย์
เมื่อครู่ตอนสแกนให้เธอ เขาตั้งใจสังเกตเข็มกลัดที่อกของเธอ
ระดับตำแหน่งและวรยุทธ์ของสำนักจัดการภัยพิบัติ ไม่สามารถตัดสินได้ชัดเจนเหมือนผู้ตรวจการ
สำนักจัดการภัยพิบัติไม่เหมือนสำนักตรวจการที่ใช้พลังเป็นมาตรฐานบังคับในการเลื่อนตำแหน่ง
เมื่อเทียบกับพลัง พวกเขาให้ความสำคัญกับระยะเวลาการทำงานและคุณความดีที่สะสมมามากกว่า ยิ่งทำงานนาน ยิ่งสะสมคุณความดีได้มาก ตำแหน่งในสำนักจัดการภัยพิบัติก็ยิ่งสูง
สิ่งเหล่านี้สามารถตัดสินได้จากเส้นริ้วและตัวเลขที่จารึกบนเข็มกลัดที่อกของเจ้าหน้าที่สำนักจัดการภัยพิบัติ
เข็มกลัดที่อกของผู้หญิงมีริ้ว 3 เส้น
นี่แสดงว่าเธอเป็นสมาชิกของสำนักจัดการภัยพิบัติมา 3 ปีแล้ว
ตัวเลขที่จารึกบนเข็มกลัดคือ 118
นี่หมายความว่าคะแนนค่าคุณความดีของเธอมีอย่างน้อย 1.18 ล้านแล้ว
สามปีสะสมค่าคุณความดี 1.18 ล้าน ในสำนักจัดการภัยพิบัตินับว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม
ค่าคุณความดีของสำนักจัดการภัยพิบัติคำนวณจากอัตราส่วนการส่งมอบของวิเศษและผลงานปฏิบัติการ ไม่ได้เทียบเป็นเงินทองโดยตรง
ถ้าจะคำนวณ คะแนนคุณความดี 1 คะแนนเทียบเท่าประมาณหนึ่งหมื่นหยวน
ก็คือ...
ผู้หญิงคนนี้ทำเงินให้สำนักจัดการภัยพิบัติไปแล้ว 11.8 พันล้าน! ตัวเลขที่น่าตกใจนี้ พูดตามตรงทำให้หลี่จิ้งสะเทือนใจ ถึงขั้นอยากย้ายไปอยู่สำนักจัดการภัยพิบัติเลย
แน่นอน
เขาไม่ได้จะทำแบบนั้นจริงๆ
สำนักจัดการภัยพิบัติ ใช้ชีวิตแบบสามวันจับปลาสามวันตากแห
พื้นที่ลี้ลับนานๆ ถึงจะเจอสักครั้ง
ไม่แน่ว่าจะอยู่ในเขตที่สำนักจัดการภัยพิบัติที่ตนสังกัดดูแลหรือไม่ และไม่แน่ว่าจะได้เข้าร่วมทีมสำรวจหรือไม่
ผู้หญิงคนนี้สามารถทำค่าคุณความดีได้ 1.18 ล้านในสามปี บ่งบอกปัญหาเพียงอย่างเดียว
เธอโชคดีมาก เคยเจอของวิเศษที่มีมูลค่ามหาศาลส่งมอบแลกคุณความดีที่เหมาะสม
จากนั้นก็ได้เลื่อนตำแหน่งเพราะสะสมคุณความดี เข้าร่วมปฏิบัติการที่มีผลตอบแทนมากขึ้นจึงสะสมถึงระดับนี้
ด้วยคุณความดีของเธอในตอนนี้ แน่นอนว่าเธอเป็นผู้บริหารระดับกลางของสำนักจัดการภัยพิบัติในท้องที่
ปีศาจร่างมนุษย์ที่แทรกซึมเข้าสำนักจัดการภัยพิบัตินับว่ากล้าหาญมาก และถือว่ามีความสามารถสูงส่งด้วย
สำนักจัดการภัยพิบัติมักปฏิบัติการเป็นกลุ่ม แม้แยกย่อยก็ต้องมีทีมเล็กอย่างน้อยสิบคนขึ้นไป
อย่างเช่นการสำรวจพื้นที่ลี้ลับ ยิ่งต้องเจอช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้แน่นอน
พอต่อสู้ พลังปีศาจก็จะรั่วไหลให้คนสังเกตเห็น
ปีศาจร่างมนุษย์ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในสำนักจัดการภัยพิบัติได้
แต่ผู้หญิงคนนี้กลับแทรกซึมเข้าไปในสำนักจัดการภัยพิบัติได้สำเร็จ และยังรุ่งเรืองมาก
ไม่กี่วันก่อน เขายังต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อเงินหนึ่งล้าน
ปีศาจร่างมนุษย์ที่ควรจะหาเงินยากลำบาก มีชีวิตอยู่ในช่องว่างของสังคมมนุษย์ ระมัดระวังทุกย่างก้าว กลับมีชีวิตที่ดีกว่าเขานับพันนับหมื่นเท่า!
พี่สาวคนนี้...
ทำได้ยังไง? หลี่จิ้งรู้สึกงงงวยมาก
เห็นผู้หญิงเดินห่างออกไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าไปยังกลางค่ายใกล้ด้านล่างทางเข้าพื้นที่ลี้ลับ หลี่จิ้งครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วแอบตามไปห่างๆ
สำหรับการสืบสวนลับเรื่องสายลับ เรื่องตรงหน้านี้พูดไม่ได้ว่าเป็นความสำเร็จ
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางเป็นสายลับที่เขาต้องหา
เธออยู่ในสำนักจัดการภัยพิบัติสบายขนาดนี้ แทบจะมีคอลลาเจนเต็มหน้าแล้ว
บนโลกนี้ปีศาจร่างมนุษย์ที่มีชีวิตดีกว่าเธอ คงหาไม่ได้สักกี่คน
เธอจะทำอะไรไม่ดี ถึงต้องทรยศทำร้ายสำนักจัดการภัยพิบัติ?
อยู่ถึงระดับของเธอ พูดอะไรก็มีน้ำหนักมาก
ถ้าได้ติดต่อกับอารยธรรมที่มีปัญญาแต่ไม่เป็นมิตร การขายข้อมูลให้สำนักจัดการภัยพิบัติถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา
หลี่จิ้งไม่คิดจะรบกวนชีวิตของผู้หญิง แต่เพื่อรางวัล 50 ล้าน เขาต้องใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้
เวลาของเขาไม่มาก มีแค่สามวัน
ช่องทางพื้นที่ลี้ลับมั่นคง ก็จะไม่คงอยู่นาน
นอกจากนี้คนที่ได้รับคำสั่งให้เข้ามาสืบสวนลับในพื้นที่ลี้ลับไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว ยังมีอีกเก้าคนรวมถึงหลี่ฉีเต้าด้วย
พูดถึงความโลภ หลี่จิ้งไม่ได้โลภขนาดนั้น
แต่การเป็นคน ต้องรู้จักที่จะพยายาม
เมื่อเทียบกับนักสืบที่เฉินจิ้งเลือกอย่างหลี่ฉีเต้า เขาแค่มือสมัครเล่น
ถ้าไม่ทำอะไรแพรวพราว จะเอาอะไรไปแข่งกับคนอื่น? ผู้หญิงที่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะคนนี้เป็นผู้บริหารระดับกลางของสำนักจัดการภัยพิบัติ ต้องติดต่อจริงจังสักหน่อย
ไม่หวังว่าจะได้ผลโดยตรง แต่ขอแค่ได้ความสะดวกสบาย
...
แอบตามผู้หญิงมาถึงใกล้ใจกลางฐานที่มั่น หลี่จิ้งเห็นเธอเข้าไปในเต็นท์หลังหนึ่ง เขาเข้าไปใกล้แอบมองผ่านช่องผ้าใบเต็นท์
ในเต็นท์มีโต๊ะประชุมตั้งอยู่
เพียงแค่หลี่จิ้งมองเห็น ก็มีเจ็ดแปดคนนั่งอยู่ข้างใน
เห็นได้ชัดว่า
คนกลุ่มนี้เหมือนผู้หญิงคนนั้น เป็นระดับผู้บริหาร กำลังจะประชุม
แอบดูสถานการณ์ในเต็นท์แล้ว หลี่จิ้งหามุมอับสายตายืน รอด้วยความอดทน
ถ้าจะติดต่อกับคนจริงจัง แน่นอนต้องรอให้คนว่างก่อนค่อยติดต่อ
ที่เขาไม่ลองติดต่อลึกซึ้งทันที ก็เพราะผู้หญิงบอกว่ามีธุระต้องจัดการ
...
ประมาณครึ่งชั่วโมง การประชุมในเต็นท์ก็เสร็จสิ้น
เจ้าหน้าที่สำนักจัดการภัยพิบัติที่ร่วมประชุมทยอยเดินออกมา เดินออกมาเรื่อยๆ ยี่สิบกว่าคน ผู้หญิงคนนั้นออกมาเป็นคนสุดท้าย
เธอยิ้มสดใสสนทนากับเจ้าหน้าที่ชายของสำนักจัดการภัยพิบัติ จนทำให้สายตาของเขาแทบจะจับจ้องอยู่ที่เธอไม่วางตา
หลี่จิ้งเห็นภาพนั้นก็ไม่แปลกใจ
ในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้คน ผู้หญิงมักจะได้เปรียบกว่า
โดยเฉพาะคนที่มีรูปโฉมงดงาม
ผู้หญิงคนนี้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสำนักจัดการภัยพิบัติได้ขนาดนี้ คงเป็นคนที่รู้จักใช้จุดเด่นของตัวเองเป็นอย่างดี
คนที่โชคดีได้รับความสนใจจากเธอคนนี้ ดูท่าจะมีตำแหน่งไม่ต่ำ
มองดูทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะกันเดินจากไป หลี่จิ้งก็ออกมาจากมุมอับสายตาแล้วแอบตามไปเงียบๆ
หลังจากตามไปได้ระยะหนึ่ง ในที่สุดทั้งสองคนก็แยกจากกัน
หลี่จิ้งเห็นดังนั้นจึงฉวยโอกาสที่หญิงสาวอยู่ตามลำพัง กระโดดลงมาตรงหน้าเธอทันที
หญิงสาวเห็นเขาลงมาก็ชะงักเล็กน้อย ขมวดคิ้วหยุดเดิน
เพิ่งถูกตรวจร่างกายเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เธอจะจำไม่ได้อย่างไร? การที่เขามาปรากฏตัวตรงหน้าเธอพอดี ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ในฐานะปีศาจที่อยู่ในร่างมนุษย์ เธอไวต่อความรู้สึกมากกว่าคนทั่วไป
หลี่จิ้งเห็นหญิงสาวมีท่าทีรู้ตัวแล้ว จึงแสร้งทำเป็นคนคุ้นเคยยิ้มน้อยๆ
"ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย สะดวกไปหาที่คุยกันหน่อยไหม?"
"......"
หญิงสาวไม่ตอบ
เห็นได้ชัดว่าหลี่จิ้งมาหาเธอโดยเฉพาะ เธอรู้สึกสับสน
คนคนนี้ ทำไมถึงมาสนใจเธอ? สนใจเธอ มาทำความรู้จัก?
หรือว่า...?
ก่อนที่เธอจะคิดอะไรต่อ หลี่จิ้งก็เข้ามาใกล้ พูดเสียงเบา
"ไม่ต้องกังวล ฉันไม่มีเจตนาร้ายต่อคุณหรอก ถ้ามี ตอนที่เจอกันครั้งแรกฉัรก็คงเปิดโปงเรื่องที่คุณเป็นปีศาจในร่างมนุษย์ไปแล้ว"
หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็แข็งทื่อไปทั้งตัว สีหน้าเปลี่ยนไปหลายครั้ง พยายามควบคุมตัวเองอย่างยากลำบากไม่ให้แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา
เหลือบมองซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว เธอกัดริมฝีปากแดง
"คุณต้องการอะไร? เงิน? หรือว่า...?"
???
หลี่จิ้ง