ตอนที่แล้วบทที่ 93 การสอบสวนลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 95 ปีศาจสุนัข

บทที่ 94 เป็นคน ต้องรู้จักที่จะพยายาม


บทที่ 94 เป็นคน ต้องรู้จักที่จะพยายาม

มืออาชีพ ยังไงก็ต่างกันอยู่ดี

วิธีการและแนวคิดค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่

หลี่จิ้งไม่รู้ว่าหลี่ฉีเต้าเข้ามาในพื้นที่ลี้ลับเมื่อไหร่

แต่ตามที่เฉินจิ้งจัดการ เขาน่าจะเพิ่งเข้ามาไม่นาน

ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ หลี่ฉีเต้าก็ได้งาน "ตรวจร่างกาย" ให้คนอื่น นับว่ามีประสิทธิภาพมาก

เห็นหลี่ฉีเต้าถือเครื่องสแกนเดินมาสแกนจากคอลงมาด้านล่าง แล้วจะไปด้านหลัง หลี่จิ้งจึงหยิบบัตรประจำตัวสำนักจัดการภัยพิบัติออกมา พูดเสียงเบา

"พี่ครับ เราพวกเดียวกัน"

?

หลี่ฉีเต้าชะงักไป

คำว่า "พี่" นี้ทำให้เขางงไปชั่วขณะ

แถมยังมีคำว่า "พวกเดียวกัน" ทำให้เขายิ่งงงหนักขึ้น

เขาก้มลงมองโดยไม่รู้ตัว เห็นบัตรประจำตัวที่หลี่จิ้งเปิดให้ดู

เมื่อเห็นชื่อ "ลู่หยางเฉิง" บนบัตร หลี่ฉีเต้าขมวดคิ้ว

ลู่หยางเฉิง เขาจำได้แน่นอน

ก่อนหน้านี้ในคดีสินค้าต้องห้ามรูปแบบใหม่ ไต้หงได้จัดกลุ่ม 3 คนจากกลุ่มเทียนหวังของแผนกผู้ช่วยตรวจการที่นำโดยหลี่จิ้ง ในฐานะสมาชิกหน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร

ตอนนั้นลู่หยางเฉิงที่หน้าดำเหมือนถ่านนั่งอยู่ในห้องประชุม สะดุดตามาก

มองดูหลี่จิ้งแล้ว สีหน้าของหลี่ฉีเต้าเริ่มแปลกไป

คนตรงหน้าเขาไม่ใช่ลู่หยางเฉิงแน่นอน

ความจำและการสังเกตของนักสืบหน่วยสืบสวนคดีพิเศษไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

ใบหน้าอาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยวิธีการต่างๆ

แต่ไม่น่าจะถึงขั้นส่วนสูงและรูปร่างไม่ตรงกัน

เมื่อมีชื่อลู่หยางเฉิงเป็นจุดอ้างอิง และมีส่วนสูงรูปร่างให้เทียบ หลี่ฉีเต้าก็นึกออกได้ง่ายๆ

สายตากวาดมองซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว หลี่ฉีเต้าเอ่ยเสียงประหลาด

"หลี่จิ้ง?"

"ใช่ครับ"

หลี่จิ้งพยักหน้า

ที่เขาตั้งใจหยิบบัตรประจำตัวออกมาก็เพื่อให้รู้จักกัน

หลี่ฉีเต้านึกถึงเขาได้ทันที ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร

เมื่อได้รับการยืนยันจากตัวหลี่จิ้งเอง หลี่ฉีเต้าถอนหายใจเบาๆ

นึกว่าโชคดีเพิ่งเข้ามาก็เจอคนที่ทำตัวน่าสงสัย ที่แท้ก็เป็นพวกเดียวกัน

แกล้งทำเป็นสแกนหลี่จิ้งต่อ หลี่ฉีเต้าถาม

"นายเพิ่งเข้ามา?"

"ใช่ เข้ามาได้ไม่กี่นาทีเอง"

หลี่จิ้งตอบพลางยืนนิ่งทำท่าให้ความร่วมมือการตรวจสอบ

"พี่เข้ามานานแค่ไหนแล้ว?"

"ชั่วโมงกว่าๆ"

หลี่ฉีเต้าตอบ

"ตอนนี้สถานการณ์ในฐานที่มั่นค่อนข้างมั่นคง แต่โดยรวมทุกคนอารมณ์ตึงเครียดมาก ปรสิตโผล่มาโดยไม่คาดคิด ทุกคนต่างระวังตัว"

พูดจบ เขาก็พูดต่อ

"รวมนายด้วย คนของสำนักตรวขการมาทั้งหมด 9 คน พวกเราบอกข่าวกันไม่เป็นไร แต่อย่าติดต่อกันมากเกินไป พวกเราไม่ใช่สมาชิกสำนักจัดการภัยพิบัติตัวจริง การดึงดูดความสนใจมากเกินไปจะส่งผลต่อการสืบสวนได้"

"อืม"

หลี่จิ้งรับคำ

คำสั่งของเฉินจิ้ง เขาจำได้

เขาก็เข้าใจว่าหลี่ฉีเต้าพูดเช่นนั้นเพราะกังวลอะไร

การติดต่อและรู้จักกัน

อย่างหนึ่งคือบังเอิญ อีกอย่างก็คือ...

สายตาเหลือบมองเครื่องสแกนอุณหภูมิในมือหลี่ฉีเต้า หลี่จิ้งยิ้ม

"มีเครื่องสแกนแบบนี้เหลือไหม?"

"..."

หลี่ฉีเต้า

เขาคิดว่าหลี่จิ้งติดต่อเขาเพื่อบอกข่าวกัน ใครจะรู้ว่าคนคิ้วดกตาโตนี่จ้องเครื่องสแกนของเขา

มองอีกฝ่ายอย่างเฉยชาแล้วกวาดตามองรอบๆ

เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครสนใจตรงนี้ หลี่ฉีเต้าก็ยัดเครื่องสแกนใส่มือหลี่จิ้ง พูดเสียงต่ำ

"เพื่อให้แน่ใจว่าในฐานที่มั่นไม่มีคนที่ถูกปรสิตแฝงตัวอยู่ สำนักจัดการภัยพิบัติจึงตั้งทีมลาดตระเวนตรวจสอบ ฉันใช้ความพยายามอย่างมากถึงได้เข้าไปอยู่ในทีม เครื่องสแกนนี้เป็นของนาย ฉันมีอุปกรณ์ที่ฝ่ายสนับสนุนให้มา"

พูดจบ เขาพยักหน้าให้แล้วเดินไปทางด้านหลังของหลี่จิ้ง

หลี่จิ้งก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิม เก็บเครื่องสแกนเข้าไปในพื้นที่เก็บของ เดินไปทางทิศที่เมื่อกี้เห็นแถบพลังชีวิต

...

ไม่นาน หลี่จิ้งก็มาถึงบริเวณเต็นท์ที่คนที่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะเดินเข้าไป

หยุดอยู่ไม่ไกล หลี่จิ้งไม่ได้เดินเข้าไปในเต็นท์โดยตรง

เต็นท์ที่ตั้งอยู่ในฐานที่มั่นมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน

เมื่อครู่ที่เขาเจอหลี่ฉีเต้า อยู่ใต้ทางเข้าพื้นที่ลี้ลับพอดี

เต็นท์ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่บัญชาการ สนับสนุน ประชุม เป็นต้น มีคนเข้าออกมากมาย

ส่วนบริเวณที่เขาอยู่ตอนนี้ เป็นเต็นท์สำหรับพักผ่อนทั้งหมด

คนที่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะเป็นผู้หญิง เขาไม่อาจหลับตาบุกเข้าไปในเต็นท์

ถ้าจะบุกเข้าไป ยังไม่ทันได้เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร คนอาจจะตะโกนจับคนลวนลามเสียก่อน

ยืนอยู่ใกล้เต็นท์ หลี่จิ้งหยิบเครื่องสแกนออกมา

กำลังคิดว่าจะหาเจ้าหน้าที่สำนักจัดการภัยพิบัติที่เดินผ่านมาตรวจร่างกายดีไหม ผู้หญิงที่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะก็เดินออกมาจากเต็นท์

เห็นผู้หญิงออกมา หลี่จิ้งก็เดินเข้าไปอย่างเป็นธรรมชาติ

"เพื่อนร่วมงาน ขอตรวจสอบหน่อยครับ"

ผู้หญิงได้ยินแล้วชะงักฝีเท้า ให้ความร่วมมืออย่างดี

"รบกวนเร็วหน่อย ฉันมีธุระต้องจัดการ"

"ได้ครับ"

หลี่จิ้งยิ้ม ยกเครื่องสแกนขึ้นสแกนจุดที่ปรสิตอาจเข้าไปแฝงตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังของผู้หญิง

ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ถูกปรสิตเข้าร่าง

ผลลัพธ์นี้ หลี่จิ้งคาดไว้แล้ว

ผู้หญิงให้ความร่วมมือขนาดนี้ ย่อมไม่ใช่คนที่ถูกปรสิตเข้าร่าง

ปรสิตฉลาดมาก และเจ้าเล่ห์มาก

ถ้าเป็นร่างที่ถูกเข้า จะไม่มีทางยอมรับการตรวจสอบง่ายๆ

เก็บเครื่องสแกน หลี่จิ้งถอยหลัง

"เสร็จแล้วครับ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ"

ผู้หญิงพยักหน้า เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

หลี่จิ้งมองเธอเดินห่างออกไป ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย

ยืนยันแล้วว่าไม่ได้ถูกปรสิตเข้าร่าง แต่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะ ทำให้เขาสรุปง่ายๆ ได้ข้อหนึ่ง

ผู้หญิงคนนี้เป็นปีศาจร่างมนุษย์

เมื่อครู่ตอนสแกนให้เธอ เขาตั้งใจสังเกตเข็มกลัดที่อกของเธอ

ระดับตำแหน่งและวรยุทธ์ของสำนักจัดการภัยพิบัติ ไม่สามารถตัดสินได้ชัดเจนเหมือนผู้ตรวจการ

สำนักจัดการภัยพิบัติไม่เหมือนสำนักตรวจการที่ใช้พลังเป็นมาตรฐานบังคับในการเลื่อนตำแหน่ง

เมื่อเทียบกับพลัง พวกเขาให้ความสำคัญกับระยะเวลาการทำงานและคุณความดีที่สะสมมามากกว่า ยิ่งทำงานนาน ยิ่งสะสมคุณความดีได้มาก ตำแหน่งในสำนักจัดการภัยพิบัติก็ยิ่งสูง

สิ่งเหล่านี้สามารถตัดสินได้จากเส้นริ้วและตัวเลขที่จารึกบนเข็มกลัดที่อกของเจ้าหน้าที่สำนักจัดการภัยพิบัติ

เข็มกลัดที่อกของผู้หญิงมีริ้ว 3 เส้น

นี่แสดงว่าเธอเป็นสมาชิกของสำนักจัดการภัยพิบัติมา 3 ปีแล้ว

ตัวเลขที่จารึกบนเข็มกลัดคือ 118

นี่หมายความว่าคะแนนค่าคุณความดีของเธอมีอย่างน้อย 1.18 ล้านแล้ว

สามปีสะสมค่าคุณความดี 1.18 ล้าน ในสำนักจัดการภัยพิบัตินับว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม

ค่าคุณความดีของสำนักจัดการภัยพิบัติคำนวณจากอัตราส่วนการส่งมอบของวิเศษและผลงานปฏิบัติการ ไม่ได้เทียบเป็นเงินทองโดยตรง

ถ้าจะคำนวณ คะแนนคุณความดี 1 คะแนนเทียบเท่าประมาณหนึ่งหมื่นหยวน

ก็คือ...

ผู้หญิงคนนี้ทำเงินให้สำนักจัดการภัยพิบัติไปแล้ว 11.8 พันล้าน! ตัวเลขที่น่าตกใจนี้ พูดตามตรงทำให้หลี่จิ้งสะเทือนใจ ถึงขั้นอยากย้ายไปอยู่สำนักจัดการภัยพิบัติเลย

แน่นอน

เขาไม่ได้จะทำแบบนั้นจริงๆ

สำนักจัดการภัยพิบัติ ใช้ชีวิตแบบสามวันจับปลาสามวันตากแห

พื้นที่ลี้ลับนานๆ ถึงจะเจอสักครั้ง

ไม่แน่ว่าจะอยู่ในเขตที่สำนักจัดการภัยพิบัติที่ตนสังกัดดูแลหรือไม่ และไม่แน่ว่าจะได้เข้าร่วมทีมสำรวจหรือไม่

ผู้หญิงคนนี้สามารถทำค่าคุณความดีได้ 1.18 ล้านในสามปี บ่งบอกปัญหาเพียงอย่างเดียว

เธอโชคดีมาก เคยเจอของวิเศษที่มีมูลค่ามหาศาลส่งมอบแลกคุณความดีที่เหมาะสม

จากนั้นก็ได้เลื่อนตำแหน่งเพราะสะสมคุณความดี เข้าร่วมปฏิบัติการที่มีผลตอบแทนมากขึ้นจึงสะสมถึงระดับนี้

ด้วยคุณความดีของเธอในตอนนี้ แน่นอนว่าเธอเป็นผู้บริหารระดับกลางของสำนักจัดการภัยพิบัติในท้องที่

ปีศาจร่างมนุษย์ที่แทรกซึมเข้าสำนักจัดการภัยพิบัตินับว่ากล้าหาญมาก และถือว่ามีความสามารถสูงส่งด้วย

สำนักจัดการภัยพิบัติมักปฏิบัติการเป็นกลุ่ม แม้แยกย่อยก็ต้องมีทีมเล็กอย่างน้อยสิบคนขึ้นไป

อย่างเช่นการสำรวจพื้นที่ลี้ลับ ยิ่งต้องเจอช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้แน่นอน

พอต่อสู้ พลังปีศาจก็จะรั่วไหลให้คนสังเกตเห็น

ปีศาจร่างมนุษย์ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในสำนักจัดการภัยพิบัติได้

แต่ผู้หญิงคนนี้กลับแทรกซึมเข้าไปในสำนักจัดการภัยพิบัติได้สำเร็จ และยังรุ่งเรืองมาก

ไม่กี่วันก่อน เขายังต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อเงินหนึ่งล้าน

ปีศาจร่างมนุษย์ที่ควรจะหาเงินยากลำบาก มีชีวิตอยู่ในช่องว่างของสังคมมนุษย์ ระมัดระวังทุกย่างก้าว กลับมีชีวิตที่ดีกว่าเขานับพันนับหมื่นเท่า!

พี่สาวคนนี้...

ทำได้ยังไง? หลี่จิ้งรู้สึกงงงวยมาก

เห็นผู้หญิงเดินห่างออกไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าไปยังกลางค่ายใกล้ด้านล่างทางเข้าพื้นที่ลี้ลับ หลี่จิ้งครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วแอบตามไปห่างๆ

สำหรับการสืบสวนลับเรื่องสายลับ เรื่องตรงหน้านี้พูดไม่ได้ว่าเป็นความสำเร็จ

ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางเป็นสายลับที่เขาต้องหา

เธออยู่ในสำนักจัดการภัยพิบัติสบายขนาดนี้ แทบจะมีคอลลาเจนเต็มหน้าแล้ว

บนโลกนี้ปีศาจร่างมนุษย์ที่มีชีวิตดีกว่าเธอ คงหาไม่ได้สักกี่คน

เธอจะทำอะไรไม่ดี ถึงต้องทรยศทำร้ายสำนักจัดการภัยพิบัติ?

อยู่ถึงระดับของเธอ พูดอะไรก็มีน้ำหนักมาก

ถ้าได้ติดต่อกับอารยธรรมที่มีปัญญาแต่ไม่เป็นมิตร การขายข้อมูลให้สำนักจัดการภัยพิบัติถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา

หลี่จิ้งไม่คิดจะรบกวนชีวิตของผู้หญิง แต่เพื่อรางวัล 50 ล้าน เขาต้องใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้

เวลาของเขาไม่มาก มีแค่สามวัน

ช่องทางพื้นที่ลี้ลับมั่นคง ก็จะไม่คงอยู่นาน

นอกจากนี้คนที่ได้รับคำสั่งให้เข้ามาสืบสวนลับในพื้นที่ลี้ลับไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว ยังมีอีกเก้าคนรวมถึงหลี่ฉีเต้าด้วย

พูดถึงความโลภ หลี่จิ้งไม่ได้โลภขนาดนั้น

แต่การเป็นคน ต้องรู้จักที่จะพยายาม

เมื่อเทียบกับนักสืบที่เฉินจิ้งเลือกอย่างหลี่ฉีเต้า เขาแค่มือสมัครเล่น

ถ้าไม่ทำอะไรแพรวพราว จะเอาอะไรไปแข่งกับคนอื่น? ผู้หญิงที่มีแถบพลังชีวิตเหนือศีรษะคนนี้เป็นผู้บริหารระดับกลางของสำนักจัดการภัยพิบัติ ต้องติดต่อจริงจังสักหน่อย

ไม่หวังว่าจะได้ผลโดยตรง แต่ขอแค่ได้ความสะดวกสบาย

...

แอบตามผู้หญิงมาถึงใกล้ใจกลางฐานที่มั่น หลี่จิ้งเห็นเธอเข้าไปในเต็นท์หลังหนึ่ง เขาเข้าไปใกล้แอบมองผ่านช่องผ้าใบเต็นท์

ในเต็นท์มีโต๊ะประชุมตั้งอยู่

เพียงแค่หลี่จิ้งมองเห็น ก็มีเจ็ดแปดคนนั่งอยู่ข้างใน

เห็นได้ชัดว่า

คนกลุ่มนี้เหมือนผู้หญิงคนนั้น เป็นระดับผู้บริหาร กำลังจะประชุม

แอบดูสถานการณ์ในเต็นท์แล้ว หลี่จิ้งหามุมอับสายตายืน รอด้วยความอดทน

ถ้าจะติดต่อกับคนจริงจัง แน่นอนต้องรอให้คนว่างก่อนค่อยติดต่อ

ที่เขาไม่ลองติดต่อลึกซึ้งทันที ก็เพราะผู้หญิงบอกว่ามีธุระต้องจัดการ

...

ประมาณครึ่งชั่วโมง การประชุมในเต็นท์ก็เสร็จสิ้น

เจ้าหน้าที่สำนักจัดการภัยพิบัติที่ร่วมประชุมทยอยเดินออกมา เดินออกมาเรื่อยๆ ยี่สิบกว่าคน ผู้หญิงคนนั้นออกมาเป็นคนสุดท้าย

เธอยิ้มสดใสสนทนากับเจ้าหน้าที่ชายของสำนักจัดการภัยพิบัติ จนทำให้สายตาของเขาแทบจะจับจ้องอยู่ที่เธอไม่วางตา

หลี่จิ้งเห็นภาพนั้นก็ไม่แปลกใจ

ในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้คน ผู้หญิงมักจะได้เปรียบกว่า

โดยเฉพาะคนที่มีรูปโฉมงดงาม

ผู้หญิงคนนี้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสำนักจัดการภัยพิบัติได้ขนาดนี้ คงเป็นคนที่รู้จักใช้จุดเด่นของตัวเองเป็นอย่างดี

คนที่โชคดีได้รับความสนใจจากเธอคนนี้ ดูท่าจะมีตำแหน่งไม่ต่ำ

มองดูทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะกันเดินจากไป หลี่จิ้งก็ออกมาจากมุมอับสายตาแล้วแอบตามไปเงียบๆ

หลังจากตามไปได้ระยะหนึ่ง ในที่สุดทั้งสองคนก็แยกจากกัน

หลี่จิ้งเห็นดังนั้นจึงฉวยโอกาสที่หญิงสาวอยู่ตามลำพัง กระโดดลงมาตรงหน้าเธอทันที

หญิงสาวเห็นเขาลงมาก็ชะงักเล็กน้อย ขมวดคิ้วหยุดเดิน

เพิ่งถูกตรวจร่างกายเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เธอจะจำไม่ได้อย่างไร? การที่เขามาปรากฏตัวตรงหน้าเธอพอดี ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ในฐานะปีศาจที่อยู่ในร่างมนุษย์ เธอไวต่อความรู้สึกมากกว่าคนทั่วไป

หลี่จิ้งเห็นหญิงสาวมีท่าทีรู้ตัวแล้ว จึงแสร้งทำเป็นคนคุ้นเคยยิ้มน้อยๆ

"ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย สะดวกไปหาที่คุยกันหน่อยไหม?"

"......"

หญิงสาวไม่ตอบ

เห็นได้ชัดว่าหลี่จิ้งมาหาเธอโดยเฉพาะ เธอรู้สึกสับสน

คนคนนี้ ทำไมถึงมาสนใจเธอ? สนใจเธอ มาทำความรู้จัก?

หรือว่า...?

ก่อนที่เธอจะคิดอะไรต่อ หลี่จิ้งก็เข้ามาใกล้ พูดเสียงเบา

"ไม่ต้องกังวล ฉันไม่มีเจตนาร้ายต่อคุณหรอก ถ้ามี ตอนที่เจอกันครั้งแรกฉัรก็คงเปิดโปงเรื่องที่คุณเป็นปีศาจในร่างมนุษย์ไปแล้ว"

หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็แข็งทื่อไปทั้งตัว สีหน้าเปลี่ยนไปหลายครั้ง พยายามควบคุมตัวเองอย่างยากลำบากไม่ให้แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา

เหลือบมองซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว เธอกัดริมฝีปากแดง

"คุณต้องการอะไร? เงิน? หรือว่า...?"

???

หลี่จิ้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด