บทที่ 55 ธนูแห่งความตายที่กลับมาอีกครั้ง!
【-34661】
ตัวเลขความเสียหายสามหมื่นกว่าเด้งขึ้นบนหัวของสัตว์อัญเชิญอย่าง
"นักล่าแห่งความว่างเปล่า" เล่นเอาคนรอบข้างถึงกับตะลึง ขนาดซางหย่าหนาหนาที่เคยเห็นสัตว์อัญเชิญนี้ของหลี่เหยาแล้ว ยังรู้สึกอึ้งไม่หาย เธอเดินออกมาจากด้านหลังเจ้าตัวใหญ่อย่างระมัดระวัง ก่อนจะกระพริบตาแล้วกล่าวขอบคุณเบา ๆ
"ขอบคุณนะ เจ้าแมลงตัวใหญ่"
โชคดีที่เธอเชื่อคำแนะนำของหลี่เหยาก่อนหน้านี้ ในการล่าสนัขลาวา เธอไม่ได้ใช้ทักษะใด ๆ เพราะหากว่าเจ้าตัวนี้ไม่ได้อยู่ป้องกันไว้ ถึงแม้จะไม่โดนโจมตีตรง ๆ แรงระเบิดก็อาจทำให้เธอบาดเจ็บสาหัสได้เหมือนกัน! ความเสียหายระดับสามหมื่นนั่นไม่ใช่เล่น ๆ
“เสี่ยวหย่า!”
ซางห่าวถือโล่ปรี่เข้ามายืนเคียงข้างซางหย่าหนาทันที สายตาจับจ้องไปที่เจ้าสัตว์อัญเชิญอย่างตกตะลึง เกิดมาไม่เคยเห็นสัตว์อัญเชิญตัวไหนมีพลังขนาดนี้
สามหมื่นกว่าความเสียหาย แต่ยังทำให้พลังชีวิตของมันลดไปแค่สามส่วนหนึ่งเท่านั้น?! ความแข็งแกร่งระดับนี้ ถ้าไม่บอกว่าเป็นบอสก็คงจะไม่มีใครเชื่อ
ซางห่าวยังรู้สึกอึ้งทึ่งในใจ เขาที่ทุ่มแต้มทั้งหมดลงในพลังป้องกันและใส่อุปกรณ์ระดับสูงยังมีพลังชีวิตเพียงแค่สองหมื่นกว่า แต่สัตว์อัญเชิญนี่กลับมีพลังชีวิตเทียบเท่าบอสได้ตั้งแต่เมื่อไร?
นอกจากซางห่าวแล้ว ซางหมิงซวี่และซางเชี่ยนก็รีบเข้ามาหาซางหย่าหนาหนาด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกเขามาเพื่อแสดงความห่วงใย แต่ในใจลึก ๆ แล้วเป็นเพราะความรู้สึกปลอดภัยที่ได้เห็นเจ้าสัตว์ยักษ์ตัวนี้มากกว่า
“เสี่ยวหย่า เธอไม่เป็นอะไรนะ เดี๋ยวฉันจะรักษาให้” ซางเชี่ยนพูดเสียงอ่อน
“ใช่แล้ว พวกเราต่างกังวลมากเลยบทที่เธอโดนลอบโจมตีเมื่อครู่นี้” ซางหมิงซวี่เสริม
ซางหย่าหนากวาดตามองทั้งสามคน ความจริงแล้ว การที่ถูกโจมตีก่อนหน้านี้เธออยู่กลางพายุ แม้จะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายนอก แต่เธอก็รู้ดีว่าพวกเขาไม่ได้ขยับมาช่วยเหลือเธอแม้แต่น้อย หากพวกเขาห่วงใยจริง ก็คงไม่ยืนเฉยกันแบบนั้น
"ฉันไม่เป็นไร" ซางหย่าหนาหนาพยักหน้าอย่างสุภาพ แต่ยังคงรักษามารยาทเพื่อไม่ให้พวกเขาต้องเสี่ยงตายเพราะเธอ “เป้าหมายพวกนั้นน่าจะเป็นฉัน รีบไปเถอะ ตอนนี้ยังพอมีเวลา”
คำพูดนั้นทำให้ทั้งสามคนที่มารุมล้อมชะงักกึก หน้าซีดเผือด เป้าหมายของศัตรูคือซางหย่าหนาหนางั้นหรือ? แล้วพวกเขาที่ยืนใกล้ ๆ จะปลอดภัยได้อย่างไร?
ซางห่าวทำหน้าจริงจัง เอ่ยขึ้นราวกับตัดสินใจครั้งใหญ่ “ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเราคงช่วยอะไรไม่ได้ อยู่ไปก็มีแต่จะถ่วง ขอตัวไปแจ้งข่าวที่ตระกูลก่อนดีกว่า ฝากพวกเธอและคุณหลี่เหยาช่วยประคองไว้ก่อนนะ”
ซางหย่าหนาหนาถอนหายใจ แต่ยังคงก้าวเข้ามาใกล้หลี่เหยามากขึ้นเพื่อหาแผนการป้องกันตัวเอง ขณะนั้นเอง สีหน้าของหลี่เหยากลับเปลี่ยนไป
พลังคลื่นที่โจมตีเมื่อครู่นั้นกลับมาอีกครั้ง!
ระดับเลเวลสูงสุดเพียงแค่ 25 แต่กลับปล่อยความเสียหายระดับสามหมื่นออกมาได้ หลี่เหยาคิดว่าต้องใช้ไอเท็มพิเศษบางอย่างแน่นอน แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะสามารถใช้ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ดูเหมือนว่าหัวของนักรบระดับห้าที่เขาส่งไปจะสร้างความเดือดร้อนให้ตระกูลหยานไม่น้อยจริง ๆ
ทันใดนั้นเอง ลูกธนูที่รวบรวมพลังแห่งธาตุต่าง ๆ ก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง
เจ้า “นักล่าแห่งความว่างเปล่า” ที่เขาอัญเชิญออกมานั้นมีความคล่องตัวต่ำกว่ามาตรฐานมาก ครั้งก่อนหลี่เหยาสามารถป้องกันซางหย่าหนาหนาทัน แต่ครั้งนี้มันเร็วเกินไปจนเขาไม่มีเวลาตอบสนอง ร่างกายของซางหย่าหนาหนาถูกพลังของลูกธนูมหาศาลล็อคเป้าไว้จนรู้สึกถึงความหนาวเหน็บที่ไหลผ่านร่างกาย
ซางหมิงซวี่และซางเชี่ยนรีบกระโดดถอยหลัง พวกเขาไม่คิดจะเข้าไปช่วยกันเลยสักนิด โดนโจมตีด้วยความเสียหายระดับสามหมื่นนั้น ใครที่ปะทะตรง ๆ ก็มีแต่ตายเท่านั้น!
“กำแพงวายุ!”
“กระแสลมห่อหุ้ม!”
ซางหย่าหนาตอบสนองอย่างสงบในนาทีคับขัน เขสไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน จึงสร้างกำแพงวายุและกระแสลมห่อหุ้มตัวเองไว้เพื่อป้องกัน
เสียงแตกดังลั่น กำแพงวายุแตกละเอียดในพริบตาไม่อาจต้านทานลูกธนูแห่งธาตุได้ ส่วนกระแสลมห่อหุ้มที่ลดความเสียหายเวทมนตร์ได้ 15% ก็แทบไม่ช่วยอะไรเลย ดวงตาของซางหย่าหนาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความกลัว ความหนาวเหน็บปกคลุมเธอไปทั้งร่าง
หลบไม่ได้แล้ว ครั้งนี้คงต้องตายจริง ๆ
“ฟาดดาบคลื่นลม!”
ซางหย่าหนาหนาหยิบดาบบางเบาขึ้นมาตั้งท่า แม้จะต้องตายแต่ก็ไม่คิดจะยอมแพ้ ทันใดนั้น เธอรู้สึกถึงแรงกระชากเบา ๆ ที่ข้อมือก่อนที่ร่างจะถูกยกขึ้นจากพื้น
วินาทีถัดมา ซางหย่าหนาหนาก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของหลี่เหยา ดวงหน้าของเธอเต็มไปด้วยความงุนงง
“ตู้ม!”
พลังมหาศาลจากธาตุระเบิดขึ้นด้านหลังของหลี่เหยา แรงระเบิดก่อให้เกิดพายุพลังงานรอบทิศ เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองหลี่เหยาด้วยความเป็นห่วง
ก่อนพบว่าหลี่เหยายังคงสงบนิ่ง ราวกับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลย
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลี่เหยาถามขึ้นขณะวางซางหย่าหนาหนาลงบนพื้น
“ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ” ซางหย่าหนาหนาตอบด้วยใบหน้าแดงซ่านเหมือนแอปเปิ้ล
ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วรีบถามกลับอย่างกังวล “หลี่เหยา นายไม่เป็นอะไรแน่นะ?”
หลี่เหยามองเธอด้วยสีหน้าเหมือนดูคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย เป็นไปได้หรือที่เธอคิดว่าเขาจะเอาชีวิตตัวเองเข้าเสี่ยงเพื่อช่วยเธอ?
ซางหย่าหนาไม่ทันเข้าใจสีหน้าของหลี่เหยา กลับคิดไปว่าเขาใช้ไอเท็มพิเศษเพื่อช่วยเธอ แม้จะมีโอกาสที่จะปล่อยให้เธอตายแต่เขาก็เลือกที่จะช่วย นี่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงไม่หยุด รู้สึกถึงความซาบซึ้งเต็มเปี่ยม
ขณะเดียวกันนั้นเอง หลี่เหยาก็รับรู้ได้ถึงการมาของกลุ่มนักรบจำนวน 14 คน
ที่กำลังเดินตรงเข้ามาจากทุกทิศทาง สามคนจากตระกูลซางซึ่งยังไม่ทันได้ไปไหนไกลนัก เมื่อเห็นคนกลุ่มใหญ่เดินเข้ามาก็รีบถอยห่างออกไป
ซางห่าวที่จำบอสของกลุ่มนั้นได้ถึงกับอ้าปากค้าง
“ตระกูลหยาน...หยานเยว่ พวกแก...พวกแกคิดจะทำอะไร?”
“ทำไม ตระกูลเรามีปัญหากับพวกแกหรือไง?”
“ปัญหาเหรอ?” หยานเยว่ชายหนุ่มผมแดงในชุดถือธนูชำเลืองมองซางห่าวอย่างดูถูก “ดูท่าทางแกคงจะเป็นแค่ลูกหลานลำดับท้าย ๆ ในตระกูลสินะ อย่าเพิ่งมายุ่ง เดี๋ยวจะไปจัดการทีหลัง”
ซางหย่าหนามองไปที่หลี่เหยาด้วยความหวาดหวั่น เธอกระซิบเบา ๆ “พวกเขาเป็นนักล่าที่ตระกูลหยานฝึกมาเพื่อโจมตีดันเจี้ยนระดับฝันร้าย บอสกลุ่มคือหยานเยว่ ระดับอาชีพ s”
ซางหย่าหนาหนากวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างเคร่งเครียด “ถ้าฉันจำไม่ผิด พวกนี้น่าจะมีถึงหกคนที่เป็นระดับ s แปดคนที่เป็นระดับ A ดูท่าจะเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลที่เขาส่งมาแล้วล่ะ”
ความคิดพลันกระจ่างขึ้นว่าเหตุใดพี่สาวถึงได้ขอให้หลี่เหยาคุ้มครองเธอไว้ ทีมนี้แข็งแกร่งขนาดที่พี่สาวของเธอเองก็คงสู้ไม่ได้ แต่เธอกลับไม่เข้าใจเลย ตระกูลหยานกับตระกูลซางนั้นไม่เคยมีปัญหาใหญ่กันสักหน่อย เหตุใดถึงต้องส่งทีมนี้มาเพื่อตามล่าตัวเธอ?
หลี่เหยามองไปที่ซางหย่าหนาที่ยังสงสัยอยู่ ก่อนจะอดคิดถึงความจริงไม่ได้ ที่ว่าตัวการที่ทำให้เกิดการปะทะกันของทั้งสองตระกูลนั้นยืนอยู่ตรงหน้าเธอนี่เอง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาตกลงจะคุ้มครองเธอ
“ทั้งหมดเป็นระดับ A ขึ้นไปเหรอ?” คำพูดของซางหย่าหนาทำให้หลี่เหยาเริ่มระมัดระวังคนกลุ่มนั้นอย่างจริงจัง ถ้าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้แม้แต่คนเดียว เขาต้องเสียดายแน่ ๆ
“ไม่ใช่แค่นั้น” ซางหย่าหนากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “หากพวกเขามาทั้งหมด ฉันรู้แล้วว่าลูกธนูพลังงานที่พวกเขายิงมาคืออะไร มันคือลูกธนูรวมพลังของตระกูลหยาน ระดับอาวุธแพลตินัมที่ดูดซับพลังของสิบทักษะที่ทำความเสียหายได้เกิน 1,000 ขึ้นไป และปลดปล่อยออกมาเป็นลูกธนูพลังงานที่สามารถยิงได้สามครั้ง!”
“สามครั้ง?”
หลี่เหยาสั่งให้นักล่าแห่งความว่างเปล่ายืนคุ้มกันตัวเขาและซางหย่าหนาไว้
ธนูนั้นนอกจากความรุนแรงแล้ว สิ่งที่น่ากลัวคือความเร็ว ถ้าซางหย่าหนาไม่ยืนใกล้เขาตอนนั้น เขาคงต้องใช้ทักษะอมตะของเครื่องรางป้องกันไปแล้ว
ซางหย่าหนาก้มหน้าลงและพูดอย่างหนักแน่น “หลี่เหยา คุณมาเพื่อปกป้องฉันตามคำขอของพี่สาวใช่ไหม?”
หลี่เหยาพยักหน้า
“งั้นตอนนี้ไม่ต้องแล้ว” ซางหย่าหนายื่นม้วนคัมภีร์ให้เขา แม้หลี่เหยาจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่การรับมือกับนักล่าที่เตรียมการมากว่า 14 คนคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าต้องสละใครสักคนไป เธอเลือกที่จะปล่อยให้หลี่เหยาหนีออกไปคนเดียว
“แล้วคุณล่ะ?” หลี่เหยาถามพลางเลิกคิ้วขึ้น
“ฉันยังมี...”
……..