บทที่ 50 พายุหิมะที่ปกคลุมทั้งทุ่งน้ำแข็ง!
“เอาล่ะ ในเมื่อพี่จื่อจินเรียกมาเอง ฉันก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก แค่อยู่ในทีมดี ๆ แล้วอย่าก่อปัญหาก็พอ”
ซางหาวพูดพลางนำทีมออกจากเมือง มุ่งหน้าไปยังทางออกของหมู่บ้าน
เมื่อออกมานอกเมือง พวกเขามองไปยังกลุ่มผู้เล่นอาชีพที่กำลังรวมตัวกันล่าอสูรปูอยู่
หลี่เหยาตามหลังกลุ่มไปเงียบ ๆ
คำพูดที่พวกเขาว่ากล่าวกัน เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพราะอาชีพผู้อัญเชิญถูกมองว่าเป็นอาชีพระดับล่างที่ไม่มีใครให้ความสำคัญ ซึ่งเขาเองก็ปฏิเสธความจริงนี้ไม่ได้
ตราบใดที่ไม่มีใครมาหาเรื่อง เขาก็ปล่อยผ่านได้
จากนั้นหลี่เหยาเรียกตั๊กแตนแห่งตวามว่างเปล่าออกมาให้มันทำงานเองตามอัธยาศัย
เงื่อนไขการผ่านด่านแรกคือการล่าอสูรให้ครบ 100 ตัวแบบเดี่ยว
สำหรับปูเดินดินเลเวล 15 พวกนี้เป็นเพียงอสูรทั่วไป แค่พอขบเคี้ยวเล่นให้ตั๊กแตนแห่งตวามว่างเปล่าก็ยังไม่พอ
【สังหารปูเดินดินในสภาพทีม, EXP +0.004%】
“ยังได้ประสบการณ์น้อยเหมือนเดิม รีบ ๆ ลุยกันให้เสร็จดีกว่า ช่วยให้น้องเสี่ยวหย่าจัดการครบ 100 ตัวก่อน”
เมื่อเห็นค่าประสบการณ์บนหน้าจอระบบที่พุ่งขึ้นมาเล็กน้อย ซางหาวไม่ได้แปลกใจนักและเอ่ยออกมา
ทุกคนต่างเห็นว่า หลี่เหยาเรียกสัตว์อัญเชิญของเขาออกมา แม้จะเป็นผู้อัญเชิญ
แต่การล่าอสูรที่เลเวลต่ำกว่าตัวเอง 5 เลเวลก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา
ทีมของพวกเขามีความเข้าขาอย่างมาก นับว่าเป็นทีมที่จัดการอสูรในชั้นแรกได้เร็วที่สุด
เพียงไม่ถึงสองชั่วโมง ก็สามารถจัดการปูเดินดินไปได้ถึงสี่ร้อยตัว
ซางหาวหันไปมองหลี่เหยา “นายได้ครบจำนวนหรือยัง ต้องการให้ช่วยไหม”
สัตว์อัญเชิญของหลี่เหยาล่าอสูรอยู่ตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจจำนวนของหลี่เหยามากนัก
“ครบแล้ว”
“ไม่เลว” ซางหาวพยักหน้า ก่อนเลือกผ่านด่านไปชั้นที่สองในหน้าต่างทีม
ทันใดนั้นเอง กระแสน้ำวนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา
“ก่อนจะเข้าไป ขอพูดอะไรสักหน่อย”
พวกเขาเป็นคนพื้นถิ่น เคยมาเยือนหอคอยเทวะนี้หลายครั้ง ดังนั้นคำพูดเหล่านี้
ซางหาวจึงตั้งใจพูดให้หลี่เหยาฟัง
“ชั้นที่สองมีอสูรระดับ 20 นกอินทรีหิมะพลังไม่สูงนัก แต่มีความสามารถในการบิน เรามีแค่ซางหมิงซวีคนเดียวที่โจมตีพวกมันได้ ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย”
“หลี่เหยา นายยังมีสัตว์อัญเชิญอีกตัวใช่ไหม ถ้ามีสกิลโจมตีระยะไกลก็เรียกออกมาเลย เราจะช่วยให้เสี่ยวหย่าเก็บครบ 50 ตัวก่อน”
“ไม่ต้องห่วง เราไม่ลืมนายแน่”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่หาว ช่วยหลี่เหยาก่อนก็ได้ ไม่ต้องรีบหรอก” ซางหยาน่ารีบส่ายหน้า
หลี่เหยาเป็นแขกที่พี่จื่อจินให้ความสำคัญ จะให้เขาช่วยตัวเองก่อนก็เกรงใจ
“ผมได้หมด เข้าไปก่อนเถอะ” หลี่เหยาพูดอย่างใจเย็น
“เอาล่ะ ไม่ต้องห่วง ถ้าเข้าทีมพวกเราแล้ว ไม่มีทางขาดทุนแน่”
ซางหาวพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ก่อนจะก้าวเข้าสู่น้ำวน
เห็นได้ชัดว่า ซางหาวคิดว่าหลี่เหยาเป็นเหมือนลูกค้าที่จ้างทีมพวกเขาคุ้มกันไปถึงปลายทาง
ร่างของพวกเขาปรากฏขึ้นท่ามกลางทุ่งน้ำแข็ง ลมหนาวพัดกระหน่ำใส่จนเย็นเยือก
หลี่เหยากวาดตามองโดยรอบ
ในทุ่งน้ำแข็งแห่งนี้แทบจะไม่มีร่องรอยของผู้เล่นคนอื่น
อสูรเลเวล 20 ที่บินได้ ใครจะอยากเสียเวลามาต่อสู้อสูรแบบนี้กัน?
หลี่เหยาเรียกนกสีครามออกจากมิติของเขา
เมื่ออยู่ในทุ่งน้ำแข็ง นกสีครามก็ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ มันบินวนรอบ ๆ ตัวหลี่เหยาด้วยเสียงเบา ๆ
เมื่อเห็นหลี่เหยาเรียกสัตว์อัญเชิญระยะไกลออกมา ซางหาวก็ส่งสัญญาณให้
ซางหมิงซวีเริ่มล่ออสูร
ลูกไฟพุ่งออกไปทันที สี่นกอินทรีหิมะก็บินตรงเข้าหาพวกเขา
ซางหาวที่เป็นอาชีพอัศวินทำหน้าที่ได้ดีมาก เขายืนขวางหน้าพวกเขาไว้ทันที
“ซางเชี่ยน เปิดวงแหวนลดความเร็ว!”
“ซางหมิงซวีกับหลี่เหยา พวกนายสองคนยิงได้เลย อย่าลืมให้เสี่ยวหย่าลงดาบสุดท้ายด้วย”
“เข้าใจแล้ว” ซางหมิงซวีพยักหน้า ในฐานะจอมเวทย์ไฟ ทักษะของเขาสามารถโจมตีนกอินทรีหิมะได้รุนแรงกว่าอสูรทั่วไปอยู่พอสมควร
ลูกไฟพุ่งเข้าหานกอินทรีหิมะหลายลูก
【-486】
【-455】
【-482】
“พลังโจมตีไม่เลวเลยนะ!”
ซางหาวอารมณ์ดีขึ้นมาก ด้วยพลังโจมตีแบบนี้ คงไม่ต้องใช้เวลานานนักในชั้นนี้
ในขณะเดียวกัน ซางหมิงซวีถือคทาไว้ในมือ สวดคาถาเบา ๆ อย่างต่อเนื่อง
ไม่กี่อึดใจต่อมา...
รอยแยกหนึ่งปรากฏบนพื้น ก่อนที่เสาเพลิงจะพุ่งขึ้นมาจากรอยนั้นทันที!
นกอินทรีหิมะหลายตัวถูกปกคลุมด้วยเสาเพลิง ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด
【-954】
【-884】
【-921】
ด้วยค่าความเสียหายที่รุนแรงเช่นนี้ ซางเชี่ยนถึงกับแอบชื่นชมด้วยความประทับใจ
“ไม่เลวนะ เสี่ยวซวี! พลังโจมตีขนาดนี้ในระดับนักเวท A ก็น่าจะติดอันดับท็อป ๆ แล้วใช่ไหม?”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก ก็แค่พลังธาตุเข้ากันเท่านั้นเอง”
ซางหมิงซวียิ้มอย่างถ่อมตัว แม้สีหน้าจะฉายแววภาคภูมิใจอยู่ไม่น้อย
สายตาของเขาก็หันไปมองทางหลี่เหยาอย่างไม่ตั้งใจ
ตอนนี้มีเพียงพวกเขาที่มีทักษะโจมตีระยะไกล เลยอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบความเสียหายของตนกับหลี่เหยา
“หลี่เหยา สัตว์อัญเชิญของนายอยู่ไหน?” ซางหาวถามขึ้น
“อีกสักครู่”
หลี่เหยาได้ออกคำสั่งให้เจ้านกสีครามใช้【พายุหิมะ】 แต่เป้าหมายไม่ใช่นกอินทรีหิมะตรงหน้าเขา
แต่เป็นจุดศูนย์กลางของทุ่งน้ำแข็ง
เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่า เมื่อเจ้านกสีครามอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การใช้พลังเวทย์สำหรับ【พายุหิมะ】ก็ลดลงอย่างมาก
เขามั่นใจว่าจะใช้พายุหิมะครอบคลุมทั้งทุ่งน้ำแข็งได้
“ดี ไม่รีบหรอก หมิงซวี ไปล่ออสูรมาอีกสักหน่อยสิ”
ซางหาวไม่ถือสาอะไร แม้ว่าหลี่เหยาจะไม่มีทักษะโจมตีระยะไกล แต่แค่พลังโจมตีของซางหมิงซวีก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ในเวลาเดียวกัน โล่ในมือของซางหาวก็เปล่งแสงเพิ่มขนาดขึ้นเล็กน้อย
นกอินทรีหิมะโจมตีใส่โล่ของเขาได้เพียงความเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น
ด้วยอาชีพระดับ A และชุดเกราะสุดแกร่งของเขา การรับมืออสูรเลเวล 20 ทั่วไปนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย
หากไม่ใช่อสูรที่บินได้ คงจัดการด่านนี้แบบสบาย ๆ ได้เหมือนชั้นแรกไปแล้ว
“ไม่มีปัญหาพี่หาว”
ซางหมิงซวีพยักหน้า ก่อนจะร่ายคาถาลูกไฟอีกหลายครั้ง ล่อให้นกอินทรีหิมะบริเวณรอบ ๆ บินเข้ามาใกล้พวกเขา
เขาคิดต่างจากซางหาว ในฐานะนักเวท เขารู้สึกถึงพลังธาตุเข้มข้นจากเจ้านกสีครามของหลี่เหยา นั่นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นสัตว์อัญเชิญที่ถนัดการโจมตีระยะไกล
ที่หลี่เหยาบอกว่าให้รอ แสดงว่าคงเพราะเขาทำดาเมจได้ไม่มากพอ เลยกลัวหน้าแตก
ซางหมิงซวียิ้มพอใจเล็กน้อย ก่อนจะบ่นตัวเองที่อดเปรียบเทียบกับผู้อัญเชิญไม่ได้
ภายใต้รัศมีลดความเร็วของซางเชี่ยน
ลูกไฟของซางหมิงซวีเกือบจะโดนเป้าหมายทุกครั้ง และไม่นานนักนกอินทรีหิมะตัวแรกก็ร่วงลงสู่พื้น
ซางหยาน่ามองหลี่เหยาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไป ฟันนกอินทรีหิมะจนมันสิ้นชีวิต
ซางเชี่ยนก้มมองเวลาบนหน้าจอก่อนจะยิ้ม “ถ้าทำความเร็วแบบนี้ บ่ายนี้น่าจะเก็บครบ 250 ตัวแล้วผ่านไปด่านต่อไปได้”
“เสี่ยวซวี น่าจะเหนื่อยหน่อยนะ”
“ไม่ใช่ปัญหาครับ” ซางหมิงซวีตอบรับ ควงคทาอย่างคล่องแคล่ว ในกลุ่มของพวกเขา เขาอยู่ในตำแหน่งต่ำที่สุด ดังนั้นจึงพยายามเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
ความจริงก็ต้อบอกว่าขอบคุณหลี่เหยาด้วย
เพราะเขามาเทียบกัน ช่วยขับให้ค่าความเสียหายของซางหมิงซวีดูดีขึ้นเยอะ
แต่แล้วก็เกิดสิ่งผิดปกติขึ้น
ซางหยาน่าพูดเสียงเบาว่า “ทุกคนรู้สึกไหมคะ อากาศเหมือนจะเย็นลงมากขึ้นนะ”
“รู้สึกเหมือนกัน” ซางหาวขมวดคิ้ว “หรือจะมีบอส?”
“ไม่ใช่สิ นี่แค่ชั้นที่สอง จะมีบอสได้ยังไง!”
เกล็ดหิมะโปรยปรายจากฟ้า ก่อนที่ความเย็นยะเยือกจะซึมลึกเข้าไปถึงกระดูก
ซางหาวรีบขยับเข้าไปใกล้ซางหยาน่าและเตือนให้ทุกคนระวังตัว
บริเวณที่หิมะตกเริ่มขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
ซางหยาน่าเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นสิ่งแปลก ๆ
“ดูนั่นสิ ทุกคน มองไปที่หัวของนกอินทรีหิมะพวกนั้น!”
ทุกคนหันไปตามคำบอก และสิ่งที่เห็นก็ทำเอาแทบหยุดหายใจ
เกล็ดหิมะทุกเกล็ดที่ตกลงบนตัวนกอินทรีหิมะ ทำให้ค่าความเสียหายปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นกอินทรีหิมะจำนวนมาก ค่าความเสียหายปรากฏถี่ราวกับฝน
พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ แต่เหล่าอสูรกลับถูกความเย็นเล่นงานอย่างหนัก
ทันใดนั้นทุกคนหันกลับไป มองหลี่เหยาโดยไม่ได้นัดหมาย
สายตาจับจ้องเขาแน่น
ส่วนหลี่เหยา สีหน้าเรียบนิ่งไร้การเปลี่ยนแปลง
“ฉันบอกแล้วไง ให้รออีกสักนิด”