บทที่ 348 : ปิดฉาก (6)
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ]
[แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
บทที่ 348 : ปิดฉาก (6)
น้ำเสียงทุ้มต่ำของคังวูจินดังก้องกังวานไปทั่วพิธีปิดและมอบรางวัลอันทรงเกียรติของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ใบหน้าคมคายเรียบเฉย สงบนิ่ง และแฝงไว้ด้วยความเยือกเย็น ราวกับไม่ใช่ชายชาวเกาหลีผู้พิชิตคานส์เป็นคนแรก
ถ้อยคำภาษาเกาหลีที่เอ่ยออกมาสู่สายตาผู้ชม บุคคลสำคัญแห่งโลกภาพยนตร์ และกองทัพนักข่าวจากนานาประเทศต่างได้ยินกันถ้วนหน้า
“ผมเพิ่งได้บ้านที่แอลเอมา ปีหน้าผมว่าจะเล็งเป้าไปแสดงที่นั่น”
ประโยคเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความทะเยอทะยานอันแรงกล้า เปรียบประดุจประกาศสงครามครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายใหญ่หลวงคือทั่วทุกมุมโลก
มันเป็นคำพูดที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกได้อย่างแน่นอน แต่คังวูจินกลับไร้ซึ่งความตื่นเต้น หรือบางทีเขาอาจกำลังแสร้งแสดง การรักษาคอนเซปต์คือสมรภูมิในทุกห้วงขณะ ไม่ว่าสถานการณ์ใด เขาจะไม่ถอยหลัง ทว่าภายใต้ใบหน้าเย็นชาบนเวทีคานส์ ภายในใจของคังวูจินกลับกำลังปั่นป่วนวุ่นวาย
เขาจึงยึดมั่นกับการรักษาคอนเซปต์อันเย็นชาเช่นเคย
โดย 'ไม่สนหัวอะไรทั้งนั้น' ผสานกับมารยาทเล็กน้อย
“จับตารอดูผมได้เลยครับ”
วูจินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ขณะที่ดวงตาของล่ามข้างกายเบิกโพลงอย่างตกตะลึง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะประกาศท้าทายคนทั้งโลก ในทางตรงกันข้าม พิธีกรบนเวที คณะกรรมการทั้ง 10 คน นักข่าวหลายสิบคนที่อยู่เบื้องหน้า และผู้ชมนับพันที่ล้วนเป็นบุคคลสำคัญ รวมถึงทีมถ่ายทอดสดของคานส์ ยังคงนิ่งเฉยไร้ปฏิกิริยา
เป็นเรื่องธรรมดา เพราะยังไม่มีการแปลใด ๆ
“แอลเอ? เมื่อกี้เขาพูดว่าแอลเอใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันได้ยินคำว่าแอลเอชัดเจน”
แสงแฟลชจากกล้องของเหล่าสื่อมวลชนต่างชาติสาดส่องเข้าหาคังวูจินไม่หยุด เสียงซุบซิบดังกระหึ่มทั่วบริเวณ ผู้ชมนับพันต่างเอียงคอมองด้วยความฉงน บางคนก็จ้องมองคังวูจินราวกับต้องมนตร์ รอคอยคำแปลอย่างใจจดใจจ่อ ขณะเดียวกัน คอมเมนต์ภาษาเกาหลีใน Youtube Live ที่ถ่ายทอดสดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ก็เดือดพล่าน
-ถึงจะเห็นกับตาตัวเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลย
-คังวูจินพูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย?????
-จริงด้วย ฮ่า ๆ ๆ คังวูจินพูดภาษาฝรั่งเศสได้เก่งจัง?
-ใครจะสน ฮ่า ๆ ๆ ตอนนี้สิ่งสำคัญคือคังวูจินได้รับรางวัลนักแสดงนำชายจากเมืองคานส์ต่างหากล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
-ขอชมตัวเองหน่อยเถอะที่อุตส่าห์อดหลับอดนอน!!!
-โว้ว… คังวูจินนี่มันสร้างชื่อเสียงให้ประเทศสุดยอดไปเลย
-สำเนียงฝรั่งเศสของคังวูจินนี่มันสุดยอดมาก
-ทำไมฉันถึงรู้สึกปลื้มปริ่มขนาดนี้นะ??
-เถ้าแก่! ขอน้ำชาอุ่น ๆ สักถ้วย!!!!
-ไม่นะ ฮ่า ๆ ๆ แค่เดบิวต์ 2 ปี ก็ได้รางวัลนักแสดงนำชายจากเมืองคานส์ได้ด้วยเหรอเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
-ขนลุกเลย…
-พรุ่งนี้ ไม่ว่าจะที่เกาหลีหรือที่ไหนก็คงจะครึกครื้นน่าดู ฮ่า ๆ ๆ
-ยินดีด้วย!!
�
�
�
ท่ามกลางผู้ชมในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจคำกล่าวขอบคุณเป็นภาษาฝรั่งเศสของวูจิน และมีปฏิกิริยาตอบสนองในทันที พวกเขาก็คือทีมงานภาพยนตร์ “ปลิง” ผู้กำกับอันกาบผมขาวสั้นหัวเราะหึ ๆ ในลำคอพลางลูบคางอย่างพึงพอใจ
“ฮอลลีวูด รางวัลออสการ์สินะ ถึงจะเหมาะสมกับความทะเยอทะยานของเขา ยังไงซะคานส์ก็เป็นแค่บันไดขั้นแรกเท่านั้น”
ซิมฮันโฮที่กำลังนึกย้อนไปถึงภาพคังวูจินในงานประกาศรางวัลภาพยนตร์บลูดราก้อนเมื่อปีก่อน พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนั้น
“ผมก็แอบคาดหวังไว้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาได้อย่างหนักแน่นขนาดนี้ ทั้งยังไม่แสดงความกังวลออกมาเลยสักนิด”
“คงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ล่ะมั้ง”
“หรือไม่ก็มั่นใจว่าปีหน้าจะคว้ารางวัลนักแสดงนำชายมาครองได้อีก”
“ทั้งสองอย่างนั่นแหละ ทั้งสองอย่างเลย แต่ไม่ใช่การคุยโวหรอก ลองดูสีหน้ามุ่งมั่นของหมอนั่นสิ เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น”
“คังวูจินคว้ารางวัลนักแสดงนำชายที่เมืองคานส์ เป็นครั้งแรกของเกาหลี คนที่ทำอะไรแบบนี้ได้ ก็ต้องมีท่าทางแบบนี้สิ”
“ฮ่า ๆ ๆ แบบนี้สินะ วันที่ผมตามเขาไม่ทันก็มาถึงจนได้”
“ผมเองก็ต้องพยายามให้มากกว่านี้แล้วครับ”
ผู้กำกับอันกาบกดูเพลิดเพลินกับสถานการณ์ตรงหน้า ส่วนซิมฮันโฮ แม้จะเพิ่งถูกเด็กใหม่ ที่อ่อนหัดกว่าแซงหน้าไป แต่ก็ยังคงสงบนิ่ง แววตาของเขามั่นคงราวกับประกาศว่าปีหน้ารางวัลนี้จะเป็นของเขา จินแจจุนและฮันโซจินอ้าปากค้าง ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนโอฮีรยองผู้มีรอยยิ้มพิมพ์ใจ พึมพำออกมาเบา ๆ
“เยี่ยมมาก พรุ่งนี้คงไม่ใช่แค่เกาหลี แต่ทั่วโลกต้องฮือฮาแน่นอน”
แววตาที่ฉายแววคาดหวังมากกว่าความกังวล ผู้กำกับอันกาบกมองวูจินบนเวทีพลางไขว่ห้าง
“ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็วางใจได้เลยสิ”
ซิมฮันโฮตอบราวกับเข้าใจความหมายในน้ำเสียงของผู้กำกับอันกาบก
“คงงั้นแหละครับ เพราะเรา ‘ได้รางวัลนักแสดงนำชาย’ ไปแล้ว”
“อืม หมายความว่าที่คานส์ปีนี้ เรื่อง ‘ปลิง’ คงไม่ได้รางวัลอื่นอีกแล้ว”
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีกฎเกณฑ์มากมาย แต่สิ่งที่ผู้กำกับอันกาบกพูดถึงคือกฎที่ว่า ‘ผลงานหนึ่งจะได้รับรางวัลหลักเพียงรางวัลเดียว’ หากภาพยนตร์ที่เข้าชิงเรื่องใดได้รับ ‘รางวัลผู้กำกับ’ ไปแล้ว ก็ถือว่าสิ้นสุดเพียงเท่านั้น
นั่นหมายความว่าเมื่อ ‘ปลิง’ ได้รับรางวัล ‘นักแสดงนำชาย’ ของคังวูจินไปแล้ว ก็ปิดโอกาสสำหรับรางวัลอื่น ๆ โดยสมบูรณ์
ย้อนมองอดีตอันรุ่งโรจน์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 'เคยมีภาพยนตร์ที่กวาดรางวัลใหญ่หลายรางวัลพร้อมกัน' แต่เหตุการณ์นั้นก็ผ่านมาเนิ่นนานในช่วงต้นยุค 2000 ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ไม่มีภาพยนตร์เรื่องใดสามารถทำได้อีกเลย น่าเสียดายนัก แต่สำหรับอันกาบกแล้ว เขากลับไม่ดูใส่ใจเรื่องนี้สักนิด
“แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว 'ปลิง' ทำให้วูจินจารึกชื่อตัวเองในประวัติศาสตร์คานส์ แถมยังเป็นเกียรติประวัติแรกของเกาหลีใต้อีก เพียงเท่านี้ก็เกินพอแล้ว” อันกาบกเอ่ย รอยยิ้มบนใบหน้าที่ร่วงโรยกลับยิ่งบาดลึก
“สำหรับผลงานชิ้นที่ร้อยของฉัน แค่นี้ก็ถือว่าหรูหราเกินคาดแล้ว”
สิ้นคำ เขาก็ดื่มน้ำชาเข้าไปอึกใหญ่
วูจินยังคงนิ่งขรึม ก่อนจะเอื้อนเอ่ยความรู้สึกของเขาเป็นภาษาฝรั่งเศส พร้อมกันนั้น เสียงแปลภาษาอังกฤษก็ดังผ่านหูฟังของผู้ชมมากมาย ไม่นานนัก เหล่าผู้สื่อข่าว ทีมงานถ่ายทอดสด และผู้ชมอีกนับพันต่างรับรู้ถึงคำประกาศอันแสนทะเยอทะยานของคังวูจิน ดวงตาของคนส่วนใหญ่เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
“ว่ายังไงนะ?”
“หมายความว่าเขาหมายตา... หมายถึงรางวัลออสการ์งั้นหรือ?”
“แบบนี้มัน... คงก่อให้เกิดข้อถกเถียงไม่น้อย”
“ไม่น่าเรียกว่ากล้าหาญ น่าจะเรียกว่าอวดดีเสียมากกว่า คานส์ก็ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว แต่จู่ ๆ มาพูดอ้อม ๆ ถึงรางวัลออสการ์แบบนี้...”
“พูดความรู้สึกแบบนั้นออกมาหน้าตาเฉย ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?”
“ดูไม่เหมือนคิดขึ้นได้แล้วพูดเลยนะ? พูดได้คล่องขนาดนี้... แสดงว่าเตรียมตัวมาแล้วแน่ ๆ”
“...เตรียมคำประกาศแบบนั้นไว้ล่วงหน้างั้นสิ?”
เสียงซุบซิบดังกระจายไปทั่วทั้งห้องโถง ราวกับผึ้งแตกรัง
“แต่... แต่นักแสดงคนนั้นพูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องปรื๋อมากเลย”
“จริงด้วย เคยอยู่ที่นี่มาก่อนรึเปล่านะ?”
“ดูจากสำเนียงแล้ว น่าจะเคยอยู่ในฝรั่งเศสมาก่อน”
“แต่ไม่เคยมีข้อมูลแบบนี้นี่”
"มาเรียนต่อที่นี่งั้นเหรอ?"
"อ่า เรียนการแสดงที่นี่เหรอ"
ความรู้สึกหลากหลาย ทั้งงุนงง สับสน ตกใจ และประหลาดใจ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหล่าบุคคลสำคัญมากมาย
สิ่งที่แปลกคือ
"คังวูจินงั้นเหรอ นักแสดงที่น่าสนใจทีเดียว แต่แบบนี้จะไหวเหรอ"
"คำพูดรับรางวัลวันนี้น่าจะตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิตเลยล่ะ"
กว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ชมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เข้าใจ แต่คนที่เหลือกลับมีปฏิกิริยาตรงกันข้ามอย่างน่าประหลาด บางคนพยักหน้าเห็นด้วย บางคนยิ้มบาง ๆ แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง สีหน้าราวกับกำลังให้กำลังใจ เหตุผลนั้นเรียบง่าย
พวกเขาได้ดู 'ปลิง'
เพราะได้เห็นการแสดงของคังวูจินใน 'ปลิง' คำประกาศกร้าวของเขาจึงไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนความอวดดีหรือความไร้เดียงสาของเด็กแต่อย่างใด
'การแสดงที่สะกดทุกสายตาบนพรมแดงขนาดนั้น ไปฮอลลีวูดก็ต้องรุ่งโรจน์อยู่แล้ว'
'ถ้าได้ผลงานดี ๆ รางวัลออสการ์ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้'
'ถ้าฝีมือการแสดงของเขายังพัฒนาขึ้นไปได้อีก ก็มีความเป็นไปได้สูง'
ทันใดนั้นคังวูจินก็กล่าวคำรับรางวัลต่อไป โดยหันไปทางห้องโถงที่คึกคัก
"ขอบคุณพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ๆ เพื่อนร่วมงาน ผู้กำกับและทีมงานทุกคุณที่ช่วยเหลือผมมาโดยตลอด ขอบคุณท่านประธานบริษัทและพนักงานทุกคน และขอบคุณแฟน ๆ ทุกคน ผมขออุทิศช่วงเวลานี้ให้กับทุกคนครับ"
เขากล่าวจบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม
"ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับเกียรติอันสูงส่งในครั้งนี้"
คังวูจินเริ่มแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสทันที ในตอนนั้นเอง ผู้กำกับฮอลลีวูดชื่อดังในกลุ่มผู้ชม แดนนี่ แลนดิส กำลังยิ้มน้อย ๆ
“จิตใจเข้มแข็งถึงเพียงนี้เชียวเหรอ? นี่มันไม่น่าจะใช่แค่ปีที่สองในวงการบันเทิงแล้ว การที่เขาไม่ได้มาเดบิวต์มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ต้องมีเบื้องหลังอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่”
และความโลภก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจเขา
“นักแสดงคนนี้... พลังดึงดูดผู้คนแบบนี้ ฉันอยากจะปั้นเจ้าหนุ่มคนนี้ไปคว้ารางวัลออสการ์เสียเองซะจริง”
คาร่า สาวผมบลอนด์ก็ยกมือขึ้นปิดปาก พยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้นที่พลุ่งพล่านอยู่ในอก
‘บนเวทีใหญ่โตระดับนี้ มีผู้ชายสักกี่คนที่ไม่ใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเอง แล้วปลดปล่อยความปรารถนาออกมาอย่างบริสุทธิ์ใจได้ถึงเพียงนี้? รางวัลออสการ์… เขาคนนี้ต้องไปถึงจุดนั้นได้แน่’
ดวงตาของบุคคลสำคัญในฮอลลีวูดอย่างโจเซฟและเมแกนก็ฉายแววคาดหวังอันแรงกล้าเช่นกัน ทว่าในอีกมุมหนึ่ง ผู้ชมหลายคนกำลังซุบซิบถึงถ้อยคำบางคำในสุนทรพจน์ของคังวูจินที่พวกเขาไม่เข้าใจ
“เมื่อกี้เขาบอกว่าได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ปีที่แล้วใช่มั้ย? หมายความว่าพึ่งได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ปุ๊บ ปีนี้ก็ได้รางวัลนักแสดงนำชายเลยเหรอ?”
“······พระเจ้า!”
“เขาเดบิวต์มานานแล้วเหรอ?”
“น่าจะนานแล้วไหม? แต่คงเดบิวต์มานานแล้วแต่เพิ่งมาโด่งดังตอนนี้มากกว่า”
ไม่นานนัก วูจินที่ถือถ้วยรางวัลนักแสดงนำชายอยู่บนเวทีก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการคำนับผู้ชม
-กึก
ในขณะเดียวกันนั้น
-แปะ แปะ!
ผู้ชมหลายสิบคนลุกขึ้นปรบมือให้เขาอีกครั้ง เสียงปรบมือเริ่มแผ่ขยายออกไป
-แปะ แปะ!
ผู้ชมหลายพันคนส่วนใหญ่ลุกขึ้นยืนปรบมือ แน่นอนว่ามีคนที่ยินดีกับเขาอย่างจริงใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังมีคนที่งุนงงและสงสัยมากกว่า อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เลือกที่จะปรบมือไปตามบรรยากาศ
-แปะ แปะ!
เสียงปรบมือดังกึกก้องราวกับมหาสมุทรคำชม คังวูจินก้าวลงจากเวทีอย่างสง่างาม ทันใดนั้น กล้องจากทีมถ่ายทอดสดของเมืองคานส์หลายตัวก็กรูเข้ามาหาเขาราวกับผึ้งแตกรัง พร้อมด้วยกองทัพนักข่าวต่างประเทศนับสิบที่รัวชัตเตอร์ราวกับกลองรบ สำหรับสื่อแล้ว นี่คือข่าวใหญ่สะเทือนวงการ นักแสดงชาวเกาหลีคนแรกที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ พร้อมคำกล่าวรับรางวัลที่แสนพิเศษสุด
เสียงปรบมือยังคงดังสนั่นราวกับฟ้าถล่ม แสงแฟลชสาดส่องไม่หยุดหย่อน แต่สีหน้าเรียบเฉยของคังวูจินก็ยังคงนิ่งสงบ
“······”
เขากลับไปยังที่นั่งของตนอย่างใจเย็น ถึงแม้ในใจจะกำลังโห่ร้องด้วยความปิติยินดี
‘อูวว จบแล้วสินะ? จบแล้วจริง ๆ ใช่มั้ย? โอ๊ย สับสนไปหมด! จำไม่ได้เลยว่าพูดอะไรออกไปบ้าง! ช่างเถอะ ขอนั่งพักก่อนเถอะ เหนื่อยเหลือเกิน’
คังวูจินยังคงรักษาท่าทางภายนอกอย่างแนบเนียน ในที่สุดเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ ทีมงานก็พร้อมใจกันแสดงความยินดีอีกครั้ง ท่ามกลางสายตาของผู้ชมนับพันที่ยังคงจับจ้องมาที่เขาไม่วางตา จินแจจุน นักแสดงชื่อดังจากเกาหลีใต้ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง
“เอ่อ ขอดูถ้วยรางวัลนักแสดงนำชายหน่อยได้ไหม?”
คังวูจินเปิดกล่องถ้วยรางวัลอย่างไม่ยี่หระ จินแจจุนและฮันโซจินอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นสุดขีด
“โอ้โห-”
“ว้าว นี่สินะ”
ซิมฮันโฮ ที่มีบุคลิกเคร่งขรึมราวกับพยัคฆ์ ก็เหลือบมองถ้วยรางวัลด้วยสีหน้าจริงจัง ในขณะนั้น ผู้กำกับอันกาบกผู้มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ก็เอ่ยกับคังวูจินด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์
“พรุ่งนี้ คำพูดของนายจะทำให้โลกต้องสั่นสะเทือน บางทีครึ่งโลกอาจจะโจมตีนาย แต่นายคงไม่ใส่ใจสินะ?”
คังวูจินตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่มีปัญหาครับ”
ในอีกด้านหนึ่ง ณ ประเทศเกาหลีใต้
ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่งานปิดและพิธีมอบรางวัลกำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก ทว่าในเวลาตีสี่ครึ่งของเกาหลีใต้ กลับเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้น ตามรายงานข่าวจากสื่อมวลชน สำนักข่าวส่วนใหญ่ในประเทศที่เฝ้ารอต่างทยอยเผยแพร่ข่าวสารออกไปอย่างรวดเร็ว
『[ข่าวเด่น]คังวูจินคว้ารางวัลนักแสดงนำชาย เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ / ภาพ』
『[ข่าวแรงทันเหตุการณ์] ‘คังวูจินทำได้!’ ‘ปลิง’ คว้ารางวัลนักแสดงนำชาย เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์』
ขณะที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์กำลังดำเนินไป ข่าวพาดหัวทำนองเดียวกันนี้ถูกเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่องทุกวินาที
『[ภาพถ่ายดารา]นักแสดงชาวเกาหลีคนแรกที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชาย ทั้งในเมืองคานส์และเกาหลีใต้! คังวูจินกล่าวสุนทรพจน์ด้วยภาษาฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่ว / ภาพ』
『 ‘ปีที่ 2’ คังวูจินสร้างประวัติศาสตร์···ชาวเกาหลีคนแรกที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชาย เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์』
『พูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องแคล่วถึงเพียงนี้เชียวเหรอ? ‘คังวูจิน’ ผู้กลายเป็นตำนาน คว้า ‘รางวัลนักแสดงนำชาย’ เป็นคนแรกของเกาหลี กล่าวสุนทรพจน์รับรางวัลด้วยภาษาฝรั่งเศสราวกับเป็นเจ้าของภาษา / ภาพ』
ไม่เพียงแต่เว็บไซต์พอร์ทัล 3 อันดับแรกของเกาหลีใต้เท่านั้น ชื่อของคังวูจินยังปรากฏให้เห็นอย่างท่วมท้นในโซเชียลมีเดียมากมาย ทั้งในชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ และ Youtube
『 ‘คังวูจิน’ ชาวเกาหลีคนแรกที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชาย เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งนี้สุนทรพจน์รับรางวัลก็ไม่ธรรมดาอีกแล้ว! “ปีหน้าเล็งฮอลลีวูด” 』
『 ‘นักแสดงอสูร’ คังวูจินกล่าวถึง ‘รางวัลภาพยนตร์บลูดราก้อน’ เมื่อปีที่แล้วในสุนทรพจน์ “ซื้อบ้านที่ LA แล้ว เล็งรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชาย” 』
แม้ฟ้ายังไม่ทันสาง สื่อและกระแสสังคมก็โหมกระหน่ำดุจเปลวเพลิงผลาญ คังวูจินไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ หากยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้โลกได้จารึก
ยิ่งไปกว่านั้น เขาทำได้ภายในเวลาเพียงสองปีหลังเดบิวต์ในวงการบันเทิงเกาหลี
ด้วยกระแสแรงกล้าขนาดนี้ตั้งแต่เช้ามืด ย่อมชัดเจนว่าเมื่อถึงรุ่งอรุณ เปลวเพลิงแห่งความนิยมจะยิ่งโหมกระพือรุนแรงขึ้นอีกหลายสิบเท่า ทีมข่าวจากสถานีโทรทัศน์มากมายต่างเร่งมือทำงานกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง
“ข้อมูลมาแล้ว!! ข้อมูล ๆ !!”
“นี่ครับ!!!”
“คลิปวิดีโอคังวูจินกล่าวรับรางวัล!! เอาแบบที่มีภาษาฝรั่งเศสด้วย!!”
“กำลังตัดต่อครับ!”
“นักข่าวที่ฝรั่งเศสล่ะ!!”
“ติดต่อได้แล้วครับ!”
เพราะข่าวการสร้างตำนานของคังวูจินต้องออกอากาศเป็นข่าวเด่นในช่วงเช้า
“มีรูปแค่นี้เองเหรอ?!! เอาภาพที่คมชัดกว่านี้มา!”
“ครับ ๆ !!”
“ไม่มีเวลาแล้ว! เตรียมให้เร็ว! ไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ‘ปลิง’ ใช่มั้ย?!”
“ไม่มีหรอกครับ! เพราะเขาได้รางวัลนักแสดงนำชายแล้ว ตามกฎก็ไม่ได้รางวัลอื่นแล้วครับ!”
“โอเค!! ช่วงเช้าเอาข่าวคังวูจินได้รางวัลนักแสดงนำชายที่เมืองคานเป็นข่าวหลัก! ช่วงบ่ายเอาภาพหลังจากพิธีปิดและมอบรางวัลออกอากาศ! สั่งให้ไปสัมภาษณ์คังวูจินให้ได้!!”
“รับทราบครับ!”
ทุกวินาที ทุกนาที ชื่อของคังวูจินปรากฏไปทั่วทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ของเกาหลีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เวลาผ่านไปราวสี่สิบห้านาที
ขณะที่เกาหลีกำลังคึกคัก ห้องประชุมใหญ่ของบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ “ปลิง” ก็เต็มไปด้วยความยินดีราวกับงานรื่นเริงสุดเหวี่ยง
“ว้าว!! คังวูจิน! คังวูจิน!!”
“ได้แล้ว!! ได้แล้ว!! แค่นี้ก็ดังไปทั่วโลกแล้ว!!”
กระแสข่าวถล่มทลายราวกับพายุ!
"ยอดเยี่ยม! รีบติดต่อทีมงานที่คานส์! ให้ประสานงานกับคุณวูจินทันทีหลังเสร็จสิ้นพิธีปิดและมอบรางวัล!"
"จะผลักดันให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ฉายที่ญี่ปุ่นและฝรั่งเศสด้วยครับ!"
"ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสิ!"
ภาพของเหล่าผู้บริหารบริษัทภาพยนตร์และจัดจำหน่ายที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ในเกาหลีอย่างใกล้ชิดราวกับเงาตามตัว สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พวกเขามารวมตัวกันตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อรับชมการถ่ายทอดสดเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ผ่านทางจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ความตื่นเต้นนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่คังวูจินถูกประกาศชื่อให้ได้รับรางวัลนักแสดงนำชาย
"แจ้งทีมงานที่คานส์ ให้ติดตามคุณวูจินทันทีที่พิธีมอบรางวัลเสร็จสิ้น! บันทึกภาพทุกอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ระลึก บทสัมภาษณ์ งานเลี้ยงฉลอง อะไรก็ตามที่สามารถบันทึกได้! ต้องได้ภาพต้นฉบับกลับมาให้ได้!"
"รับทราบครับ!"
"และอีกอย่าง! ถ่ายภาพคุณวูจินขณะถือถ้วยรางวัลนักแสดงนำชายทั้งแบบเต็มตัวและครึ่งตัวอย่างละร้อยภาพ! สอบถามคุณวูจินเกี่ยวกับภาษาฝรั่งเศสด้วย!"
ขณะนั้น การถ่ายทอดสดพิธีปิดและมอบรางวัลของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ยังคงปรากฏอยู่บนจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าห้องประชุม ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสผู้เพิ่งคว้ารางวัลรองชนะเลิศกล่าวสุนทรพจน์จบลงไปแล้ว และเวลานี้ก็ถึงคิวของรางวัลใหญ่ที่สุดแห่งเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ รางวัลปาล์มทองคำ
ทว่าเหล่าผู้บริหารบริษัทภาพยนตร์และจัดจำหน่ายในห้องประชุมกลับไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
พวกเขาทราบกฎของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เป็นอย่างดีอยู่แล้ว "รางวัลนักแสดงนำชาย" ที่ 'ปลิง' คว้าไปได้ หมายความว่าจะไม่มีการประกาศชื่อรางวัลนี้ซ้ำอีก ดังนั้นในเวลานี้ คังวูจินจึงกลายเป็นตัวเอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้การคว้ารางวัลพร้อมกันจะสร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลก แต่ทุกคนก็ตระหนักดีว่าเรื่องเช่นนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น
“แต่วาทกรรมรับรางวัลของคุณวูจินมันเรียบร้อยดีเหรอครับ? ผมรู้สึกว่ามันดูรุนแรงไปสักหน่อย”
“แล้วไงเล่า! ต้องขอบคุณเสียอีกที่ทำให้เรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโลก!”
ในตอนนั้นเอง
-[ ‘ฉันปลาบปลื้มใจที่จะได้ประกาศ "รางวัลปาล์มทองคำ" อันทรงเกียรติของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 74 อืม… คานส์ปีนี้มีเรื่องราวเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นมากมายจริง ๆ ’ ]
ขณะที่ทุกคนกำลังเหม่อลอย นักแสดงหญิงหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินทั้ง 10 คนของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ก็ประกาศ "รางวัลปาล์มทองคำ" ผ่านทางทีวีจอใหญ่ด้านหน้าห้องประชุม
-[ ‘ขอแสดงความยินดี! "รางวัลปาล์มทองคำ" แห่งคานส์ปีนี้ ได้แก่! 'ปลิง' !’ ]
ทันใดนั้น เสียงเชียร์และท่าทางดีอกดีใจของบรรดาผู้บริหารบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ 'ปลิง' ก็พลันหยุดชะงักลง ทุกคนหันไปจ้องมองทีวีราวกับต้องมนตร์
“เอ๊ะ? เมื่อกี้ว่าอย่างไรนะ…”
บนหน้าจอทีวีปรากฏใบหน้าที่ฉายแววตกตะลึงของผู้กำกับอันกาบก
-จบ-
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_