ตอนที่ 683 ง่ายมาก เพราะของจริงมันอยู่ที่บ้านผม
“ขอโทษด้วย เหล่าหลิว แต่พวกเราไม่ได้ขึ้นเครื่องลำเดียวกันแน่นอน”
พ่อของ ซู หนิงซวง พูดพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายหัวโล้นก็ขมวดคิ้วทันที
“เหล่าซู ทำไมถึงมั่นใจนักว่าเราไม่ได้ขึ้นเครื่องลำเดียวกัน?”
เรื่องแบบนี้ใครจะบอกได้แน่นอนล่ะ?
ในเมื่อจุดหมายปลายทางคือหางโจว และทุกคนก็มาที่สนามบินช่วงเวลาเดียวกัน ความเป็นไปได้ที่จะอยู่บนเครื่องลำเดียวกันก็สูงมาก
ชายหัวโล้นไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของ ซู หนิงซวง ถึงได้พูดแบบนั้น
“พวกเรากำลังจะขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่ลูกเขยของเราจัดเตรียมไว้ให้”
พ่อของ ซู หนิงซวง ตอบพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากพูดจบ พ่อแม่ของ ซู หนิงซวง ก็เดินจากไป
ทิ้งให้ชายหัวโล้นยืนอึ้งอยู่กับที่ ..ตรงนั้น
เครื่องบินส่วนตัว?!
เหล่าซู มีเครื่องบินส่วนตัว และเครื่องบินลำนั้นเป็นของลูกเขยที่จัดเตรียมให้?
นี่…
เรื่องนี้ทำเอาชายหัวโล้นสับสนไปหมด
เครื่องบินส่วนตัวไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมีได้ง่ายๆ
แม้แต่ในหมู่เศรษฐีจำนวนมาก เครื่องบินส่วนตัวยังถือเป็นของฟุ่มเฟือย
นอกจากราคาซื้อจะสูงลิ่วแล้ว ค่าใช้จ่ายรายปี เช่น ค่าบำรุงรักษา และค่าจอด ก็เป็นจำนวนเงินมหาศาลแล้ว
ที่สำคัญคือ หลายครั้งเครื่องบินอาจแทบไม่ได้ใช้งานเลย ซึ่งนั่นยิ่งทำให้มันดูไม่มีความคุ้มค่า
เฉพาะคนที่ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีเท่านั้นถึงจะมีเครื่องบินส่วนตัว
ลูกเขยของตระกูลซูเก่งกาจขนาดนี้เชียวหรือ?
“เหล่าซู รอฉันด้วย!”
เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหัวโล้นก็รีบวิ่งตามไปเพื่อพยายามลดท่าที และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองใหม่อีกครั้ง
ช่วงเที่ยง เย่เฉิน ได้รับข้อความจากกัปตัน
เขารายงานว่าพ่อแม่ของ ซู หนิงซวง เดินทางถึงหางโจวอย่างปลอดภัยแล้ว
ตอนบ่าย หลังเลิกเรียน เย่เฉิน กลับไปที่คฤหาสน์ ถานกง
ในระหว่างจอดรถ เขาได้พบกับ คุณปู่โจว ที่กำลังเดินผ่านมา
“เสี่ยวเฉิน อยู่พอดีเลย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
คุณปู่โจว เอ่ยขึ้นมา
“ได้สิครับ คุณปู่โจว มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?”
เย่เฉิน ตอบรับทันที เพราะช่วงนั้นเขาก็ยังว่างๆ อยู่
“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก เสี่ยวเฉิน เธอไม่ใช่เก่งเรื่องการประเมินของโบราณเหรอ?”
“ฉันเองอยากซื้อสมบัติชิ้นหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นของจริงหรือเปล่า เลยอยากขอให้เธอช่วยไปดูให้หน่อย”
คุณปู่โจว อธิบาย
ไม่นานนัก เย่เฉิน และคุณปู่โจว ก็เดินมาถึงคฤหาสน์ของเขา
ภายในคฤหาสน์ มีชายชราในชุดถังจวงผมขาว และชายวัยกลางคนที่สวมแว่นตานั่งอยู่
“ผู้เฒ่าโจว นี่เหรอที่คุณเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมิน?”
ชายชราผมขาวมอง เย่เฉิน ที่ดูอายุน้อยมากก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ใช่”
คุณปู่โจว พยักหน้า
เมื่อแน่ใจว่า เย่เฉิน คือผู้เชี่ยวชาญที่ว่าจริงๆ ชายชราผมขาวก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
‘ผู้เชี่ยวชาญที่อายุน้อยขนาดนี้ ประสบการณ์ และความรู้คงจำกัดมาก..’
ถัดจากเขา ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คุณปู่โจว ของที่จะให้ผมประเมินอยู่ที่ไหนครับ?”
เย่เฉิน เปิดประเด็นทันที
“เสี่ยวเฉิน นั่นไง คือ ‘ตราประทับหยกขาว แกะสลักลายมังกรไขว้สมบัติล้ำค่าของจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง’ นั่นแหละ”
คุณปู่โจว ชี้ไปยังสมบัติชิ้นหนึ่ง แล้วอธิบาย
“คุณปู่โจว ไม่ต้องประเมินหรอกครับ ของชิ้นนั้นเป็นของปลอม”
เย่เฉิน แค่เหลือบมองจากระยะไกล ก็พูดในเชิงยืนยันได้ทันที
“หา?”
คุณปู่โจว อึ้งไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้นของ เย่เฉิน
ชายชราผมขาว และชายวัยกลางคนที่สวมแว่นก็ตกใจไม่แพ้กัน
ของปลอม? มันคือของปลอมงั้นเหรอ?
ชายชราผมขาวหันไปมองชายสวมแว่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“หนุ่มน้อย คุณ..อย่าพูดอะไรลอยๆ แบบนี้”
ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นทนไม่ไหว รีบแย้ง เย่เฉิน ทันที
ตราประทับหยกขาวของจักรพรรดิเฉียนหลงที่อยู่ตรงนี้เป็นของที่เขานำมาเอง
เขาเองก็ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการประเมินสมบัติ
และเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะประเมินผิดพลาด!
“คุณแค่ดูจากระยะไกล โดยไม่แม้แต่จะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ หรือศึกษารายละเอียด แล้วบอกว่ามันเป็นของปลอม ใครให้ความมั่นใจคุณกัน?!”
ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นตั้งคำถามกับ เย่เฉิน ว่า :
“คุณมีหลักฐานอะไรที่จะบอกได้ว่าตราประทับหยกขาว แกะสลักลายมังกรไขว้ของจักรพรรดิเฉียนหลงชิ้นนี้เป็นของปลอม?!!”
เย่เฉิน ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายมากว่า :
“ง่ายมาก เพราะของจริงมันอยู่ที่บ้านผม”
เมื่อคำพูดนี้ของ เย่เฉิน หลุดออกมา ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทันที
คำตอบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ใครในห้องคาดคิดมาก่อน
โดยเฉพาะชายวัยกลางคนที่สวมแว่นที่ถึงกับตะลึง
เขาคิดว่า เย่เฉิน จะใช้ความรู้เชิงลึก และการวิเคราะห์อย่างมืออาชีพเพื่ออธิบาย
แต่ เย่เฉิน กลับพูดออกมาเพียงว่า ‘ของจริงอยู่ที่บ้านเขา’?
แบบนี้จะให้เขาใช้ความรู้มืออาชีพแย้งได้อย่างไร?
“สหายน้อย คุณพูดจริงๆ เหรอ?”
ชายชราผมขาวถามด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้
“แน่นอนครับ”
เย่เฉิน พยักหน้ายืนยัน
สินค้าในเกมไม่มีทางเป็นของปลอม
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคืนเขาเพิ่งจับต้องมันมาเองด้วย [ทักษะการประเมินของโบราณ และงานศิลปะระดับสูง] หากเป็นของปลอมคงรู้ได้ในทันที
“ฉันไม่เชื่อ”
ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นยังคงยืนยันความเชื่อของตนเอง
ชายชราผมขาวเองก็ดูเหมือนจะยังไม่ปักใจเชื่อ แต่ในห้องนี้มีเพียง คุณปู่โจว เท่านั้นที่เชื่อในตัว เย่เฉิน
“เสี่ยวเฉิน เช่นนั้นเราขอไปเยี่ยมที่บ้านเธอเพื่อดูของจริงได้ไหม?”
คุณปู่โจว ถามด้วยความสุภาพ
“ได้แน่นอนครับ”
เย่เฉิน พยักหน้า
“ไปกันเถอะ”
เย่เฉิน พาทุกคนไปยังคฤหาสน์ของเขา
ทันทีที่เข้ามาในบ้าน ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นสังเกตเห็นภาพวาดที่แขวนอยู่ในห้องรับแขกของ เย่เฉิน ได้จากระยะไกล
เป็นภาพ ‘Boy with a Pipe’
ในวินาทีนั้น ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นถึงกับหน้าถอดสี
แม้ชายชราผมขาว และท่านผู้เฒ่าโจว จะไม่คุ้นเคยกับภาพนี้ แต่ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นรู้จักมันดี
‘Boy with a Pipe’ คือผลงานระดับโลก และถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ ปิกัสโซ
ราคาประเมินอย่างต่ำของภาพวาดนี้ก็อยู่ที่พันล้าน หรืออาจจะมากกว่านั้น
ในอดีตไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้ประมูลภาพวาด ‘Boy with a Pipe’ นี้ไป
ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นเริ่มสงสัยว่าเจ้าของภาพนี้คือตัว เย่เฉิน เองหรือไม่?
แต่ไม่น่าเป็นไปได้ ภาพนี้อาจจะเป็นของปลอม
เขาส่ายศีรษะเบาๆ และพยายามสงบสติอารมณ์ลง
“ตามผมมาครับ”
เย่เฉิน พาทุกคนไปที่ห้องหนังสือ
“นี่คือตราประทับหยกขาว แกะสลักลายมังกรไขว้ของจักรพรรดิเฉียนหลงของจริง”
เมื่อเดินเข้ามาในห้องหนังสือ เย่เฉิน พลันชี้ไปที่ชั้นวางหนังสือ และหลายคนก็ได้เห็นตราประทับหยกขาวของจักรพรรดิเฉียนหลงจากระยะไกล
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทุกคนจึงรีบเดินไปดูของที่ เย่เฉิน ชี้ทันทีโดยไม่สนใจสิ่งอื่นในห้อง
เมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าตราประทับ ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นหยิบแว่นขยายสำหรับประเมินของโบราณออกมา และเริ่มตรวจสอบมันอย่างละเอียด
“อาจารย์จ้าว มันของจริงหรือเปล่า?”
ไม่กี่นาทีต่อมา ชายชราผมขาวถามอย่างสงสัย
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีนั้น ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นพลันถอนหายใจเบาๆ
“มัน... มันน่าจะเป็นของจริงครับ ของที่ก่อนหน้านี้ผมน่าจะดูผิดไปเอง”
“ขอโทษครับ ผมมันสายตาคับแคบเกินไป”
ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นเอ่ยขอโทษ เย่เฉิน ด้วยความรู้สึกผิด
คุณปู่โจว และชายชราผมขาวจ้องมองตราประทับหยกขาว แกะสลักลายมังกรไขว้ของจักรพรรดิเฉียนหลงด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความอิจฉา
สำหรับผู้ที่หลงใหลในโบราณวัตถุแล้ว การได้เห็นของระดับนี้เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก
หลังจากชื่นชมตราประทับหยกอยู่พักใหญ่ ทุกคนก็ละสายตาออกอย่างไม่เต็มใจ
แต่ในวินาทีต่อมา เมื่อพวกเขาได้เห็นสมบัติล้ำค่าอย่างตราประทับหยกขาว แกะสลักลายมังกรไขว้ของจักรพรรดิเฉียนหลงในห้องหนังสือของ เย่เฉิน แล้วพวกเขาดันหันไปเห็นโบราณวัตถุอีกชิ้นที่วางอยู่ไม่ไกลกัน
ทุกคนก็ถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปทันที
โอ้พระเจ้า!
นี่..พวกเขาเพิ่งเห็นอะไรไป?!!!