ตอนที่ 50 : ดูเหมือนปูนซีเมนต์จะหลวมนิดหน่อย
หลังจากพาเฟิงหนานซูออกไปเดินเล่นเสร็จ เจียงฉินก็กลับไปที่หอพักในยามกลางคืน ทันทีที่เปิดประตู กลุ่มควันหนาทึบก็พวยพุ่งมาปะทะใบหน้าเขา ทำให้เขาสำลักและถึงกับต้องถอยหลังไปสองสามก้าวทันที
“นี่พวกนายใช้จังหวะที่ฉันไม่อยู่แอบเผาหอพักกันหรือไง?” เจียงฉินเลิกคิ้วขึ้น
โจวเชาหัวเราะเบาๆ: “พี่เจียง ทำไมนายกลับมาช้าจัง?”
“ฉันไปทำธุระ แล้วก็ออกไปกินข้าวต่อ”
เจียงฉินเดินเข้าไปในห้อง โบกมือไปมาสองสามครั้งแล้วสังเกตอย่างระมัดระวัง เขาพบว่าโจวเชากำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ ขณะที่เฉากวงอวี่ยังคงโพสต์อย่างเมามัน และแหล่งที่มาของควันก็คือเหรินจื้อเฉียง
ชายคนนี้กำลังนั่งไขว้ขาอยู่บนเก้าอี้ มองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนที่นอกหน้าต่างด้วยสายตาเหม่อลอย ในมือคีบบุหรี่ครึ่งมวนที่เหลือจากการเผาไหม้ รองเท้าแตะห้อยต่องแต่งอยู่ที่ปลายเท้าซ้าย ตรงพื้นใต้ฝ่าเท้าเต็มไปด้วยขี้บุหรี่ สภาพดูกระเซอะกระเซิงราวกับคนหมดอาลัยตายอยาก
ฉากนี้ดูคุ้นตานิดหน่อย นี่มันเทพเมฆาอัคคีไม่ใช่เหรอ?
เจียงฉินมองไปที่โจวเชาด้วยสีหน้าแปลกๆ: “ทำไมเหล่าเหรินถึงมีสภาพนี้ล่ะ? ฝึกตนเป็นเซียนอยู่หรือไง?”
“วันนี้เขาตั้งใจว่าจะชวนพานซิ่วไปเที่ยว แต่ดันไปเห็นว่าพานซิ่วกำลังคุยกับรุ่นพี่ปีสามในคณะอย่างสนิทสนม ท่าทางของพวกเขาดูคลุมเครือมาก จากนั้น…”
“พอๆๆ หยุดเดี๋ยวนี้”
เจียงฉินรีบหยุดเขาทันทีด้วยสีหน้าจริงจัง: “ตอนนี้เหล่าเหรินคงจะรู้สึกขมขื่นมาก นายยังอยากจะให้เขาจำภาพนั้นได้อีกเหรอ แบบนี้มันไร้ศีลธรรมเกินไป!”
โจวเชาหุบปากทันทีหลังจากที่ได้ยิน ขณะที่เหรินจื้อเฉียงหันกลับมามองด้วยสีหน้าขอบคุณ
การชอบใครสักคนไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่การได้เห็นคนที่ตัวเองชอบไปทำตัวสนิทสนมกับคนอื่นแล้วยังมาถูกเพื่อนร่วมห้องล้อเลียนแบบนี้ เป็นใครก็ต้องรู้สึกไม่สบายใจ
เจียงฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ ล็อกอินเข้าสู่ระบบหลังบ้านผู้ดูแล จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบเว็บไซต์
สือเหมี่ยวเหมี่ยวได้รับบัญชีแล้ว เธอเริ่มลงต้นฉบับนิยายรายตอนของตัวเองโดยที่เปิดตัวครั้งแรกด้วยสามหมื่นคำ แต่เนื่องจากบนแพลตฟอร์มยังไม่มีผู้ใช้จริงจึงไม่ได้รับการตอบรับเท่าไหร่
นอกจากนี้ ชมรมวรรณกรรมที่นำโดยต่งเหวินห่าวได้เปิดบัญชีภายในแล้วเช่นกัน พวกเขากำลังทยอยอัปโหลดต้นฉบับกันอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือเฉากวงอวี่ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รับค่าตอบแทนเลย แต่ซีรีส์ [ชีวิตประจำวันที่เรียบง่ายของคนรวยรุ่นสอง] ได้รับการอัปเดตเป็นกระทู้ที่สามสิบห้าแล้ว
เจียงฉินคลิกเข้าไปอ่านคร่าวๆ
เจ้าเหรียญสุนัขเฉากวงอวี่ไม่พอใจกับการแสร้งทำเป็นเจ๋งในชีวิตจริงอีกต่อไป เขาเริ่มขโมยรูปภาพจากอินเทอร์เน็ตมาอวด
ในกระทู้ที่พูดถึงการชิมไวน์ เหล่าเฉากล่าวว่าลาฟิตก็เป็นแค่ของทั่วไปสำหรับเขา ปกติดื่มทีก็ยกดื่มเป็นขวดๆ ลูกผู้ชายตัวจริงต้องดื่มโรมานี กงติซึ่งเป็นไวน์แดงชั้นยอดจากโรงกลั่นไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศสต่างหาก
ในกระทู้ที่พูดถึงนาฬิกาหรู เหล่าเฉากล่าวว่าโรเล็กซ์นั้นเป็นนาฬิกาที่คนรวยส่วนใหญ่ชอบใส่ ในขณะที่เขาชอบซื้อปาเต็ก ฟิลิปป์มากกว่า ซึ่งมันมีสโลแกนประจำแบรนด์ว่า คุณไม่ได้เป็นเจ้าของนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์หรอก คุณแค่เพียงเก็บรักษามันไว้เพื่อคนรุ่นต่อไป
ในกระทู้ที่พูดถึงดาวมหา’ลัย เหล่าเฉาเล่าว่าเขาถูกดาวโรงเรียนสมัยมัธยมปลายตามจีบอย่างบ้าคลั่ง และมันทำให้เขารู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก เพราะเขาชอบสาวน้อยน่ารักที่ดูเหมือนเทพธิดามากกว่า แต่ดาวโรงเรียนกลับตามรังควานและไม่ยอมปล่อยเขาไป จึงอยากขอคำปรึกษาจากชาวเน็ตว่าควรทำยังไงดี
เจียงฉินอึ้งเล็กน้อยพลางคิดกับตัวเองในใจ แมร่งเอ้ย ทำไมฉันเหมือนเห็นตัวเองในกระจกอีกแล้ว?
“เหล่าเจียง เว็บไซต์นี้จะโพสต์วิดีโอได้เมื่อไหร่ ฉันอยากอัปโหลดวิดีโอฟิตเนสโชว์กล้ามหน้าท้องให้ชาวโลกดู” จู่ๆ เฉากวงอวี่ก็หันศีรษะมาถาม
ทันทีที่ได้ยินเจียงฉินก็ตกตะลึง: “นายมีกล้ามหน้าท้องเหรอ?”
“ฉันมีมือให้กดดาวน์โหลด”
“อ่า แม่มันเถอะ เป็นลูกผสมระหว่างจีนกับอังกฤษนี่เอง แสร้งทำเป็นเจ๋งได้เก่งจริงๆ เรื่องฟังก์ชั่นวิดีโอคงต้องรอไปก่อน มันยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา”
เฉากวงอวี่เม้มริมฝีปาก ท่าทางดูเสียใจเล็กน้อยที่ตัวเองไม่สามารถโพสต์วิดีโอได้
เจียงฉินเลิกสนใจเขา หันกลับไปตรวจสอบข้อมูลเบื้องหลัง ขณะที่กำลังไล่ดูจู่ๆ เขาก็ค้นพบบัญชีผู้ใช้จริงที่เพิ่งลงทะเบียนเมื่อนาทีที่แล้ว—เฟิงหนานซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์
“?”
โอ้ ใช่แล้ว ระหว่างทานอาหารเย็นเขาได้ขอให้คนในห้องพักของเธอช่วยทดสอบเว็บไซต์ เฟิงหนานซูคงได้ยินเรื่องนี้เข้าก็เลยลงทะเบียนบัญชีทันทีที่กลับถึงห้อง
เจียงฉินนั่งไขว่ห้าง จ้องมองไปที่หน้าจอขณะยกโค้กขึ้นดื่ม พยายามดูว่าเสี่ยวฟู่โผจะโพสต์อะไร
นี่คือโลกของอินเทอร์เน็ต และสำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึง ไม่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตคนใดมีสิทธิ์ในความเป็นส่วนตัวทางโลกออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็นการซ่อน ทำให้เฉพาะบางคนมองไม่เห็น หรือมีแค่ตัวเองเท่านั้นที่เห็นได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระในสายตาของผู้ดูแลระบบ
เฟิงหนานซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์: “จะทำยังไงถ้ารู้สึกกลัวคนอื่นนิดหน่อย?”
เมื่อเรียกใช้คำหลัก [ทำยังไง] โปรแกรมตอบกลับอัตโนมัติก็เริ่มทำงานทันที
ตอบกลับที่ 1: “ไม่ต้องกังวล คุณเก่งขนาดนั้นต้องทำได้แน่! สู้ๆ!”
ตอบกลับที่ 2: “เชื่อมั่นในตัวเอง อย่าลังเล!”
เฟิงหนานซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์: “ฉันควรทำยังไงถ้าหากไม่รู้วิธีพูดคุยกับคนอื่น?”
ตอบกลับที่ 1: “ไม่ต้องกังวล คุณเก่งขนาดนั้นต้องทำได้แน่! สู้ๆ!”
ตอบกลับที่ 2: “เชื่อมั่นในตัวเอง อย่าลังเล!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้โค้กที่เจียงฉินเพิ่งดื่มเข้าไปก็แทบจะพุ่งออกมาทางรูจมูก
เขาพบว่าโปรแกรมตอบกลับอัตโนมัติที่เหมือนยาหม่องเหล่านี้มีช่องโหว่ที่ชัดเจน กล่าวคือ หากคำหลักเดียวกันถูกเรียกใช้อย่างต่อเนื่อง คำตอบที่ได้ก็แทบจะเหมือนเดิมเลย
ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ต้องให้ซูไน่รีบแก้ไขก่อนที่จะเริ่มโปรโมต
ในเวลาเดียวกัน เสี่ยวฟู่โผยังคงตั้งกระทู้คำถามต่อไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของคำตอบ หรือบางทีเธออาจจะยังไม่เห็นคำตอบเนื่องจากความล่าช้าของระบบ
เฟิงหนานซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์: “ฉันควรทำยังไงหากต้องการออกไปเที่ยวกับผู้ชายทุกวัน?”
เฟิงหนานซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์: “ทำไมถึงรู้สึกคันยิบๆ ในใจเวลาที่ออกไปเที่ยวกับผู้ชาย?”
เมื่อเห็นสิ่งนี้เจียงฉินก็วางขาที่ไขว้กันอยู่ลงทันที ดวงตาเผยให้เห็นแววมึนงงเล็กน้อย และภายในใจก็เหมือนจะมีความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้น ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายนิดหน่อย
เฟิงหนานซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์: “เพื่อนสนิทสามารถอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตได้ไหม?”
เฟิงหนานซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์: “คุณคิดว่าชื่อเจียงฉินฟังดูดีหรือเปล่า?”
หลังจากที่ถามสองคำถามล่าสุดออกมา เฟิงหนานซูก็ดูเหมือนว่าจะสังเกตเห็นความผิดปกติของการตอบกลับบนเว็บไซต์ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ถามคำถามใหม่ๆ อีก
เจียงฉินมองดูคำถามเหล่านั้นพลางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็เหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรีบปัดคลื่นความรู้สึกที่ผุดขึ้นมาในหัวใจทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
เรื่องอย่างความรักแม้แต่สุนัขก็ไม่สนใจ การหาเงินต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ อย่ามัวแต่คิดเรื่องยุ่งยากพวกนั้นเลย
เจียงฉินเปิด QQ ขึ้นมา แจ้งให้ซูไน่ทราบเกี่ยวกับปัญหาที่เขาพบและบอกให้เธอปรับปรุงระบบตอบกลับอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้คำหลักถูกเรียกใช้ซ้ำๆ แล้วได้คำตอบแบบเดียวกัน
หลังจากพูดคุยเสร็จแล้ว เจียงฉินก็วางแผนที่จะปิดคอมพิวเตอร์และเข้าสู่โหมดสลีป แต่เขากลับพบว่าบัญชีของเฟิงหนานซูออนไลน์ขึ้นอีกครั้ง
เฟิงหนานซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์: “คุณบอกฉันได้ไหมว่าอะไรคือการชอบ?”
ลมหายใจของเจียงฉินหยุดชะงักไปทันที เขารีบปิดคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว
จบแล้ว ผนึกในใจฉันดูเหมือนจะหลวมมาก
ไม่ได้ๆ ฉันต้องหาปูนมาโบกเพิ่ม
“เหล่าโจว เมื่อกี้นายบอกว่าเหรินจื้อเฉียงไปเจออะไรมานะ เล่าให้ฉันฟังที ยิ่งมีรายละเอียดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี และยิ่งบีบคั้นหัวใจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น!”
เหรินจื้อเฉียงเงยหน้าขึ้นมาทันที ใบหน้าของเขาถึงกับเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ: “ฉันแมร่งเสียใจเสียใจจะตายอยู่แล้ว เหล่าเจียง นายยังมียางอายอยู่บ้างไหม ไม่มีศีลธรรมเลย!”
เจียงฉินถ่มน้ำลายใส่เขา: “แล้วตอนนายบอกกับพานซิ่วว่าฉันตามจีบคนอื่นมาสามปี นายเคยนึกถึงเรื่องศีลธรรมบ้างไหม? รีบหน่อยเหล่าโจว เร็วเข้า!”
“โอเค!” โจวเชารู้สึกตื่นเต้นมาก
เขามาจากทางใต้ ดังนั้นภาษาถิ่นของเขาจึงมีสำเนียงที่รุนแรงกว่า แต่ต้องบอกจริงๆ ว่าสำเนียงแบบนี้มีเสน่ห์มากเวลาเล่าเรื่อง
ตามที่เขาเล่าให้ฟัง เมื่อเช้าเหรินจื้อเฉียงโบกเจลเซ็ทผมไปครึ่งกิโลกรัม จากนั้นก็รวบรวมความกล้าเพื่อชวนพานซิ่วออกไปเที่ยว แต่พอไปถึงชั้นล่างของหอพักหญิงเขากลับเห็นพานซิ่วและรุ่นพี่กำลังหยอกล้อกันอยู่ที่หน้าประตู หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน และแม้กระทั่งสายชุดชั้นในก็ยังแทบโผล่ให้เห็น
เหรินจื้อเฉียงจิตใจแหลกสลาย พอกลับมาถึงห้องพักเขาก็เริ่มสูบบุหรี่อย่างหนัก ทำให้ทั้งห้องเหมือนจะลุกเป็นไฟ
“พานซิ่วก็ไม่เบาเลยนี่ การฝึกทหารยังไม่จบด้วยซ้ำ เธอไปรู้จักกับรุ่นพี่แล้วเหรอ?”
หลังจากที่เจียงฉินได้ยินเขาก็กลับมารู้สึกมั่นคงอีกครั้ง หัวใจของเขาถูกผนึกด้วยปูนซีเมนต์แล้ว ความรักเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน การหาเงินต่างหากเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง
รู้สึกดีสุดๆ!
พรุ่งนี้เช้าคงต้องให้เหล่าโจวเล่าให้ฟังอีกครั้ง บางทีมันอาจทำให้ฉันสดชื่นไปตลอดทั้งวันได้เลย
(จบตอน)