บทที่65
ที่ห้องทำงานของวิชาปรุงยา ปีเตอร์เคาะประตูแล้วเดินเข้าไป พบว่าเซเวอร์รัส สเนปเพิ่งเสร็จจากการต้มยาพอดี
ปีเตอร์มองของเหลวสีเขียวอ่อนในหม้ออย่างสนใจแล้วถามขึ้นว่า "ศาสตราจารย์ครับ นี่คือน้ำยาประเภทไหน?"
สเนปย้ายตะเกียงแอลกอฮอล์ออกแล้วใช้เวทย์เสกขวดแก้วมาหลายใบ ยื่นให้ปีเตอร์พร้อมกับพูดเรียบๆ ว่า "นี่คือน้ำยาสร้างกระดูก เตรียมไว้สำหรับการแข่งควิดดิชของพวกยักษ์น้อยในวันพรุ่งนี้ นายก็เอาน้ำยาใส่ขวดให้เต็ม ระวังอย่าให้หก มิฉะนั้นพวกที่จะกระดูกหักพรุ่งนี้คงอดดื่มยา"
ปีเตอร์รีบรับขวดแก้วมาแล้วใช้ช้อนตักน้ำยาใส่ทีละขวดอย่างระมัดระวัง
สเนปที่ตอนนี้ว่างแล้วมองดูปีเตอร์ที่กำลังทำงานอย่างตั้งใจและถามขึ้น "นายจะดวลกับนักเรียนปีสี่? ไม่คิดจะปิดบังอีกแล้วเหรอ?"
"หา?" ปีเตอร์เงยหน้าขึ้นมองสเนปด้วยความแปลกใจ แปลกใจว่าศาสตราจารย์รู้เรื่องนี้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร? เขาเพิ่งออกจากห้องโถงใหญ่และไม่เห็นใครที่เดินมาเร็วกว่าตนเลย
เห็นปีเตอร์ทำหน้างง สเนปหัวเราะเยาะก่อนพูดว่า "ดัมเบิลดอร์ดูจะใส่ใจนายมากนะ เขาเพิ่งส่งสารมาบอกให้ฉันระวังเรื่องการดวลของนาย อย่าให้ได้รับบาดเจ็บมากเกินไป"
เมื่อรู้ว่าเป็นดัมเบิลดอร์ ปีเตอร์ก็ไม่สงสัยอะไรต่อ รีบตั้งใจใส่น้ำยาและพูดไปด้วยว่า "บางทีสิ่งที่ดัมเบิลดอร์กังวลอาจจะไม่ใช่ผมก็ได้นะครับ ผมกล้าท้าเอิร์ลดวลแสดงว่าผมมั่นใจว่าตัวเองจะชนะ ผมเป็นสลิธีริน ศาสตราจารย์น่าจะรู้ดีว่าพวกเรามักจะอ่านเกมเป็น และไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงในสถานการณ์อันตรายหรอกครับ"
เมื่อได้ยินคำตอบของปีเตอร์ สเนปยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับหัวเราะเยาะเบาๆ "มั่นใจตัวเองจริงๆ ฉันหวังว่านายจะทำได้อย่างที่พูดนะ"
หลังจากใส่น้ำยาเสร็จ ปีเตอร์ลุกขึ้นพูดว่า "ศาสตราจารย์ครับ ผมใส่น้ำยาเสร็จแล้ว ยังมีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ?"
"ไปได้แล้ว ใช้เวลาไปคิดวิธีเอาชีวิตรอดจากการดวลในคืนนี้เถอะ!" สเนปตอบอย่างไม่สบอารมณ์
ปีเตอร์ยิ้มและกล่าว "ครับ ศาสตราจารย์ งั้นผมขอตัวก่อน" พูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป
"เดี๋ยวก่อน" ขวดน้ำยาบำบัดขวดหนึ่งลอยมาอยู่ตรงหน้าเขา "นี่คือน้ำยารักษา เผื่อเอาไว้ป้องกันไม่ให้นายต้องถูกหามเข้าไปในห้องพยาบาลจนสลิธีรินขายหน้า"
ปีเตอร์รับขวดน้ำยาไปด้วยรอยยิ้มจริงใจ "ขอบคุณครับ ศาสตราจารย์ หวังว่าจะไม่ได้ใช้น้ำยาขวดนี้นะครับ"
ถือขวดน้ำยาแล้ว ปีเตอร์ออกจากห้องทำงานของสเนป เขาไม่ได้กลับไปที่ห้องนั่งเล่นรวมของสลิธีรินทันทีเพราะตอนนี้เพิ่งจะทุ่มครึ่ง มีเวลาอีกกว่าชั่วโมง เขาไม่อยากให้ใครมารุมล้อมก่อนเวลา จึงไปที่ห้องสมุดแทน
ปีเตอร์หยิบสมุดบันทึกของศาสตราจารย์ฟลิตวิกเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ออกมา แม้ว่าเขาจะอ่านไปได้ครึ่งเล่มแล้ว แต่ที่จริงแล้วเขายังฝึกไม่มากนัก โดยเฉพาะเวทย์ขั้นสูงซึ่งยังค่อนข้างยากสำหรับเขา การที่เขาใช้คาถาป้องกันขั้นสูงได้ อาศัยดวงเล็กน้อยและพื้นฐานของคาถาป้องกันปกติที่เขาฝึกมานาน จึงทำให้เขาสามารถเรียนรู้คาถาขั้นสูงนี้ได้
ในบันทึกนั้นมีเวทย์บางส่วนที่เป็นเวทย์ธรรมดาๆ ที่พบในตำราเรียน แต่ศาสตราจารย์ฟลิตวิกได้ปรับปรุงวิธีใช้ให้แตกต่างจากที่สอนในตำรา ยกตัวอย่างคาถาลอย ของในตำราจะบอกว่าต้อง "โบกหนึ่งครั้งแล้วสะบัดหนึ่งครั้ง" แล้วเปล่งคำว่า "วิงการ์เดียม เลวีโอซา!" เพื่อทำให้สิ่งของลอยขึ้น
แต่หลังจากที่ฟลิตวิกปรับปรุงคาถานี้ การโบกไม้กายสิทธิ์เพียงครึ่งวงกลมก็สามารถทำให้สิ่งที่หนักลอยขึ้นได้ แถมยังประหยัดพลังเวทย์ได้ถึงหนึ่งในสาม อีกทั้งยังมีวิธีใช้คาถาลอยกับตัวเอง ให้สามารถลอยได้ แม้ว่าความเร็วจะไม่มากนัก แต่มันก็เป็นทักษะที่มีประโยชน์
ขณะที่ปีเตอร์กำลังจมอยู่ในความรู้เรื่องเวทมนตร์ในห้องสมุด บรรยากาศในห้องนั่งเล่นรวมของสลิธีรินก็คึกคักมาก เรื่องการดวลไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเป็นนักเรียนปีหนึ่งที่กล้าท้าทายนักเรียนปีสูงกว่า ดังนั้นทุกคนจึงพากันมาดูเหตุการณ์นี้อย่างสนุกสนาน
ส่วนใหญ่ต่างก็มาดูเพราะอยากเห็นเรื่องสนุก โดยเฉพาะบางคน แม้ว่าปีเตอร์จะทำให้สลิธีรินได้คะแนนเพิ่มไปหลายสิบคะแนนในเดือนนี้ แต่ก็ยังมีบางคนที่ติดขัดในใจเกี่ยวกับสถานะทางสายเลือดของเขา ต่อให้เป็นลูกครึ่งก็ยังพอรับได้ แต่ปีเตอร์กลับประกาศอย่างชัดเจนว่าพ่อแม่ของเขาเป็นมักเกิ้ลทั้งคู่ ซึ่งเป็นการทำลายเส้นแบ่งทางจิตใจของบางคนไป พวกเขาอาจจะไม่ถึงกับหาเรื่องปีเตอร์อย่างก้าวร้าว แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่เป็นมิตรเช่นกัน พวกเขาอยากรู้ว่าเด็กมักเกิ้ลเพียงหนึ่งเดียวในรอบร้อยปีนี้ มีความกล้าแค่ไหนที่จะท้าทายรุ่นพี่
คนที่น่าจะเป็นห่วงปีเตอร์จริงๆ ก็คงมีแค่อัลเลน ไวต์กับฟลอร่า แช็คเคิล คู่หูของเขาในชั้นปีเดียวกัน ซึ่งตอนนี้กำลังเบียดกันคุยเบาๆ ด้วยความกังวล ฟลอร่าพูดด้วยความเป็นห่วงว่า "ไวต์ นายแอบออกไปตามปีเตอร์เถอะ บอกเขาให้ไม่ต้องกลับมาคืนนี้ หนีไปก่อนดีกว่า เราแค่เด็กปีหนึ่ง ถ้าไม่มาดวลก็แค่ถูกล้อเลียนเท่านั้นเอง แต่มาถ้าดวลจริงๆ ล่ะก็แย่แน่ๆ! ฉันได้ยินเอิร์ลกับดีเร็กพูดกันว่าจะใช้คำสาปอันตรายที่บ้านสืบทอดมาใส่ปีเตอร์ มันแย่มาก!"
อัลเลน ไวต์ส่ายหัว "ฉันอยู่กับปีเตอร์มาสักพักแล้วพอจะรู้จักนิสัยเขาดี ถ้าเขาตัดสินใจที่จะดวลกับเอิร์ลแล้วล่ะก็ เขาจะไม่ถอยแน่ๆ เราต้องหาทางทำให้ปีเตอร์ปลอดภัยในระหว่างการดวลให้ได้!"
ฟลอร่าพูดอย่างร้อนรน "แต่ในระหว่างดวล ห้ามคนอื่นช่วยนะ! พวกเขาจะสร้างเขตคุ้มกันรอบๆ ป้องกันไม่ให้มีใครเข้าไปช่วยได้!"
"ห้ามคน?" อัลเลนทบทวนคำพูดนี้ก่อนที่ดวงตาจะเป็นประกายและพูดอย่างตื่นเต้นว่า "ฉันมีแผนแล้ว!"