ตอนที่แล้วบทที่ 69 การก่อสร้างใหม่ ทำลายแผนเดิมสิ้นเชิง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน

บทที่ 70 เก้าห้า มังกรเหินฟ้า + ประกาศยุติ


"คุณหนู ให้บ่าวดูบ้างสักหน่อยเถอะเจ้าคะ แค่แวบเดียว"

"จะดูอะไรกัน ไปเตรียมยาห้ามเลือด น้ำร้อน กับผ้าขนหนูมาดีกว่า"

"คุณหนูจะเอาไปทำอะไรหรือเจ้าคะ? ...ช่างเถอะ บ่าว...บ่าวไม่รบเร้าแล้ว ให้คุณหนูดูคนเดียวก็ได้"

"ไม่ใช่หรอก เดี๋ยวพี่เซี่ยกลับมาจะได้ใช้น่ะ"

"อะไรนะเจ้าคะ! เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูเซี่ยหรือ"

"นายอำเภอหนุ่มหล่อที่เจ้าชอบกำลังใช้แส้เฆี่ยนอยู่น่ะ"

"..." สาวใช้หน้ากลมเหมือนซาลาเปานิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกระโดดโลดเต้น "ว้าว! ตื่นเต้นจังเลย คุณหนู ขอดูหน่อยเถอะ ขอดูแวบเดียวนะเจ้าคะ!"

"?"

หญิงสาวร่างบางในชุดกี่เพ้าลายดอกเหมยไม่ได้ทำเหมือนสาวใช้หน้าซาลาเปาที่ถูกไล่ลงมาก่อนหน้านี้ ที่ยืนกอดอกพิงกำแพง

ราวกับรังเกียจความสกปรก นางวางมือซ้ายไว้ที่หลัง ใช้นิ้วชี้ขวาเพียงนิ้วเดียวยันระหว่างอกกับกำแพงแดง เพียงนิ้วเรียวบางนั้นก็ค้ำร่างที่เอนอยู่ได้ นางเชิดคอชะโงกหน้ามองข้ามกำแพง พูดโดยไม่หันหลังกลับมา:

"ไม่มีอะไรให้ดูหรอก"

"แต่คุณหนูยังแย่งที่บ่าวอยู่เลย ทั้งม้านั่งและก้อนหิน บ่าวจัดเตรียมไว้ทั้งนั้น แถมยังมีเมล็ดแตงโม... อึก"

"ฉันไม่กินเมล็ดแตงโมของเจ้าหรอก"

ซูกัวเอ่อร์แบะปาก: "ข้าแค่เบื่อๆ แต่พูดถึงเรื่องนี้ สาวใช้โง่เง่าอย่างเจ้า การเลือกที่นั่งกะเทาะเมล็ดแตงโมดูละครก็ไม่เลวนะ มองเห็นได้กว้างไกล... ยังมีพรสวรรค์ด้านการสอดแนมอยู่บ้าง น่าเสียดายที่เอามาใช้กับเรื่องพรรค์นี้"

"..."

ไฉ่ซูที่นั่งยองๆ อยู่บนพื้น เงยหน้าน้อยๆ ถามอย่างน้อยใจ:

"คุณหนูไม่ได้บอกหรือว่าวันนี้จะไปวัดตงหลิน?"

"ดูเสร็จค่อยไป..."

เสียงตอบของซูกัวเอ่อร์ค่อยๆ เบาลง ราวกับจิตใจล่องลอยไปที่อื่น

ใต้กิ่งเหมยที่ยื่นพ้นกำแพง ดวงตาของนางจ้องมองไปยังหน้าที่ว่าการอำเภอหลงเฉิงในระยะไม่ไกล สะท้อนภาพของนายอำเภอหนุ่มที่กำลังประกาศก้องอย่างชัดเจน

ในจังหวะหนึ่ง หลังจากที่นายอำเภอหนุ่มประกาศแผนก่อสร้างใหม่ที่สร้างความตกตะลึงให้ทุกคนแล้วจากไปอย่างสง่างาม

ภายในกำแพงแดง หญิงสาวในชุดกี่เพ้าลายดอกเหมยที่เขย่งปลายเท้าหรี่ตามองพยักหน้า นิ้วชี้ที่ยันระหว่างอกกับกำแพงแดงดันตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย อาศัยแรงนั้นหมุนตัว

หันหลังให้กำแพงแดง มือทั้งสองจับชายกระโปรงเบาๆ กระโดดลงจากม้านั่งที่รองด้วยก้อนหิน กลางอากาศ ชุดกี่เพ้าสีพีชอ่อนที่สวมวันนี้ ชายกระโปรงพลิ้วสะบัด

"คุณหนูระวังด้วยนะเจ้าคะ" ไฉ่ซูลุกขึ้นยืนยื่นมือออกไปรับท่า

ราวกับมีพื้นฐานการเต้นรำ รองเท้าปักของหญิงสาวแตะพื้น ขายาวใต้กระโปรงย่อตัวเล็กน้อยเพื่อรับแรง คล่องแคล่วและสวยงาม นางหันหน้า แขนปัดมือที่สาวใช้ยื่นมาช่วยพยุงออก ยิ้มน้อยๆ พลางท่อง: "นี่เรียกว่า เก้าห้า มังกรเหินฟ้า"

"ยังจะบินอีก คุณหนูไม่ได้บินมานานแล้วนะเจ้าคะ..."

ซูกัวเอ่อร์ประสานมือไว้ด้านหลัง เดินจากไปโดยไม่อธิบาย

ไฉ่ซูได้แต่ถอนหายใจ รีบวิ่งตามไป

คุณหนูของนางดูเรียบร้อยเช่นนี้เพราะโตแล้ว สมัยเด็กนั้น คุณหนูเป็นคนซุกซน เอาแต่ใจ อารมณ์ร้อน ปีนต้นไม้ กระโดดกำแพง เหาะเหินเดินอากาศ ราวกับเด็กผู้ชาย น่าสงสารไฉ่ซูที่ต้องวิ่งตามก้นคุณหนูทั้งวัน

แต่ภายหลังคงเบื่อแล้ว พออายุมากขึ้น คุณหนูก็เริ่มเรียบร้อยเงียบขรึมลง เริ่มเปิดตำราอ่าน ขมวดคิ้วใจจดใจจ่อ อ่านหนังสือวาดภาพ ต่อมา หีบหนังสือในห้องก็สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ลานตากหนังสือของไฉ่ซูก็ต้องย้ายไปที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนนิสัยเอาแต่ใจดื้อรั้นแต่เดิมก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชาและห่างเหินมากขึ้น ไม่รู้ว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงหรือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาลึกซึ้งกันแน่

แต่สาวใช้หน้าซาลาเปาก็ยังชอบนิสัยแบบแรกมากกว่า เพราะตอนเด็กๆ คุณหนูแม้จะเอาแต่ใจชอบรังแกนาง แต่อย่างน้อยก็จริงใจไร้เดียงสา นางพอจะเข้าใจความคิดคุณหนูได้

แต่คุณหนูทุกวันนี้พูดน้อยลงเรื่อยๆ นิสัยยิ่งสูงส่งเย็นชา ไฉ่ซูมักตามจังหวะไม่ทัน นางคิดว่าท่านพ่อท่านแม่ก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน

แต่...ใครใช้ให้คุณหนูเป็นที่รักของทุกคนในจวนสกุลซูตั้งแต่เด็กล่ะ

ท่านพ่อ ท่านแม่ และคุณชายใหญ่ต่างก็หมุนรอบตัวนาง

ได้ยินว่าที่คุณหนูมีชื่อเล่นว่ากั๋วเอ้อร์ เพราะตอนนั้นตระกูลตกต่ำ ระหว่างย้ายไปเมืองเจียงโจว เส้นทางขรุขระ ฮูหยินใหญ่สกุลเหวยพลาดพลั้งกระทบกระเทือนคลอดก่อนกำหนด พอคุณหนูลืมตาดูโลก ท่านพ่อก็รีบถอดเสื้อคลุมห่อตัวนางไว้ทันที

อาจเพราะเป็นลูกสาว หรืออาจรู้สึกผิดที่คุณหนูเกิดมาตอนตระกูลตกต่ำต้องลำบาก ท่านพ่อท่านแม่จึงตามใจทุกอย่างตั้งแต่เด็ก ไม่เคยขัดใจ

ไฉ่ซูแม้จะไม่ได้ปีนกำแพงไปดู แต่ก็ตั้งใจฟังเสียงความเคลื่อนไหวอยู่

"ไม่ค่อยแน่ใจ ข้าก็เพิ่งเคยได้ยินเรื่องชลประทานแบบนี้เป็นครั้งแรก"

"ยังมีเรื่องที่คุณหนูไม่รู้ด้วยหรือเจ้าคะ?"

"การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ละวิชาล้วนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ชายผู้นี้มีความสามารถโดดเด่นในการจัดการน้ำ อีกทั้งยังมีความสามารถในการปฏิบัติจริง นอกจากท่านอาจารย์ตี๋แล้ว นายอำเภอหลงเฉิงคนก่อนๆ ล้วนสู้เขาไม่ได้ การเป็นเพียงนายอำเภอเล็กๆ นับว่าเสียของ"

ไฉ่ซูครุ่นคิดแล้วพึมพำถาม: "งั้นก็ไม่ใช่แค่หน้าตาดีสินะเจ้าคะ? อย่างน้อยก็คงไม่ใช่คนหน้าไหว้หลังหลอกแล้วใช่ไหมเจ้าคะ..."

หญิงสาวรูปโฉมงดงามที่เดินนำหน้าอยู่พลันหยุดฝีเท้า หันกลับมาดึงแก้มกลมป้อมของสาวใช้ที่เบรกไม่ทันชนหลังนาง

"โอ๊ย เจ็บๆๆ" ไฉ่ซูรีบขอความเมตตายอมจำนน

"เป็นไง... ดีใจที่คนรักมีความสามารถสินะ?" ซูกัวเอ่อร์ชำเลืองมองเธอ

"อุ๊ย คนรักอะไรกันเจ้าคะ คุณหนูอย่าพูดเหลวไหลสิ"

"ไม่ใช่คนรัก แล้วเจ้าพร่ำพูดถึงเขาทำไม ข้าเห็นแม้แต่พี่สาวตระกูลเซี่ยยังไม่ได้พูดถึงบ่อยเท่าเจ้าเลย"

"อู้ฮู ไม่ใช่บ่าวคนเดียวที่พูดนะเจ้าคะ พวกพี่สาวในจวนต่างก็กระซิบกระซาบกันว่านายอำเภอคนใหม่ข้างๆ หล่อ บ่าวแค่พูดตามเท่านั้นเองเจ้าค่ะ"

สาวใช้หน้าซาลาเปารีบโบกมือปฏิเสธ

ซูกัวเอ่อร์ไม่พูดอะไร หลุบตาลง บีบแก้มนุ่มนิ่มนั่นอีกครั้ง แล้วหมุนตัวกลับเข้าห้อง

"ไปเตรียมยาห้ามเลือด น้ำร้อน ผ้าขนหนูเถอะ อีกอย่าง เอาชาลู่ซานในตู้ห้องตะวันตกออกมาก่อน อีกไม่กี่วันเจ้าคงได้พบ 'คนรัก' แล้ว"

ไฉ่ซูชะงักงัน

ซูกัวเอ่อร์กลับเข้าห้อง ก้มหน้าพลิกอ่านรวมบทกวีของเถาหยวนหมิงสักพัก ระหว่างนั้นก็ปิดหนังสือบ่อยครั้ง ราวกับจิตใจไม่ได้อยู่กับการอ่าน

ประโยคหนึ่งของไฉ่ซพูดถูก

ก่อนหน้านี้นางไม่เคยคิดว่า บัณฑิตเอกดอกเหมยที่รุ่งโรจน์ไร้ขีดจำกัด แท้จริงแล้วเป็นขุนนางที่มีความสามารถสูง สามารถอยู่ในหอหลินไท่แห่งกรมอักษรในเมืองหลวงได้อย่างสุขสบาย 'บัณฑิตซ่อนความสามารถ' ทำไมถึงต้องมาทำตัวเป็นขุนนางที่กล้าเสนอความเห็นต่อจักรพรรดิโดยตรง เอาชีวิตเข้าแลกกับชื่อเสียงเช่นนี้? เอาอนาคตมาเล่นๆ หรือ?

หรือว่าตั้งใจ? ไม่ว่าจะอย่างไร ความรู้สึกที่ต้องปรับเปลี่ยนการประเมินขีดจำกัดของเขาใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้

ทำให้นางที่ไม่เคยพลาดพลั้งรู้สึกพ่ายแพ้เล็กน้อย

"หรือว่าจะยังเปลี่ยนไปได้อีก?"

ในศาลาริมน้ำ หญิงสาวในชุดกี่เพ้าลายดอกเหมยที่ทั้งหยิ่งในศักดิ์ศรีและเย็นชาปิดหนังสือกัดริมฝีปาก ชั่วขณะนั้นรู้สึกขัดใจกับบางคนเล็กน้อย

...

หลังจากคดีไถ่ทาสหมิงจูที่ดึงดูดสายตาชาวเมืองทั้งหมดจบลงอย่างสมบูรณ์

ที่ว่าการอำเภอหลงเฉิงบนถนนลู่หมิงทั้งในและนอกยังคงคึกคักอย่างยิ่ง

ข่าวที่ว่านายอำเภอหนุ่มจะตัดโค้งให้ตรงในลำธารผีเสื้อที่ไม่เคยเปลี่ยนเส้นทางมาร้อยปี แพร่สะพัดไปทั่วเมืองโบราณพันปีแห่งนี้ พร้อมกับการแยกย้ายของชาวบ้านที่มาดูการพิจารณาคดีวันนี้

ทั้งตามท้องถนน ตรอกซอย ตลาดสด โรงเตี๊ยม และร้านน้ำชา ต่างพูดคุยกันไม่หยุด การพิจารณาคดีและแผนก่อสร้างใหม่ของนายอำเภอหนุ่มกลายเป็นหัวข้อสนทนายามว่างของชาวหลงเฉิงในช่วงนี้

ตามคำสั่งของนายอำเภอหนุ่ม ที่ว่าการอำเภอหลงเฉิงได้นำแบบจำลองการจัดการน้ำที่แสดงความหวังอันงดงามนั้น มาตั้งไว้บนถนนลู่หมิง จัดแสดงตลอดทั้งวัน ให้ชาวหลงเฉิงที่สนใจมาชมได้

บางคนตื่นเต้น บางคนมองไปข้างหน้า และบางคนก็กังวลสงสัย

เสียงตอบรับจากทุกฝ่าย อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ปฏิกิริยาหลากหลาย ไม่ว่าจะมองโลกในแง่ดีหรือร้าย ล้วนทยอยส่งมาถึงโต๊ะทำงานในที่ว่าการอำเภอหลงเฉิง ถูกกดไว้ด้วยมือใหญ่เรียวยาว ข้อนิ้วชัดเจนคู่หนึ่ง

เอกสารที่เกี่ยวข้องกับแผนก่อสร้างใหม่ทยอยออกจากมือบนโต๊ะทำงานนี้อย่างต่อเนื่อง ดำเนินการอย่างมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว...

ไม่ว่าอย่างไร

ในช่วงธรรมดาหลังเทศกาลตวนอู่และก่อนเข้าฤดูเซี่ยวซู่ ผู้คนค่อยๆ ตระหนักว่า เมืองโบราณพันปีแห่งเจียงหนานในมณฑลเจียงโจวนี้ กำลังค่อยๆ เปลี่ยนแปลงท่ามกลางสายฝนพรำในฤดูเหมย

...

(จบบท)

หนิงหนิงต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านนะคะ เรื่อง “ผู้ดีจอมปลอมอย่างข้า คือโชคชะตาที่ดีที่สุด” ขอยุติการแปลเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ

ทางเราไม่อยากเทเลย แต่ยอดอ่านเรื่องนี้น้อยมาก(ทั้งที่ยังไม่ติดเหรีญ)บวกกับจำนวนคำต่อตอนที่ค่อนข้างเยอะ ทางผู้แปลกับทีมงานไปต่อไม่ไหว🥹 ต้องขอโทษทุกคนอีกทีนึงนะคะ

ชื่อจีน “不是吧君子也防

เรื่องนี้ยังไม่จบ

ปัจจุบันมี 700++ ตอนค่า

💖💖💖

0 0 โหวต
Article Rating
4 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด