บทที่ 6 อาหารระดับกลาง: หัวหมูตุ๋น!
ในโรงเตี๊ยม โจวหยวนย่อมรู้สึกได้ถึงสภาพของเหล่าหวงที่ล้มลุกคลุกคลานทุกครั้งที่เดิน
แต่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดจะหัวเราะเยาะอะไร เพราะจริงๆ แล้วโจวหยวนเข้าใจดีถึงสาเหตุที่ทำให้เหล่าหวงต้องเจอสถานการณ์นี้
เขามองกลับไปยังสุราหมักที่เพิ่งทำขึ้นมาพลางพิจารณาอย่างละเอียด
สิ่งที่เขามองดูไม่ใช่สี กลิ่น หรือรสของสุรา แต่เป็นคุณสมบัติของสุรา ซึ่งมีเพียงเขาที่มองเห็น
【สุราหมักระดับต้น】
【ล้างไขกระดูก +1】
【เพิ่มระดับพลัง +1】
【ล้มในที่ราบ +5】
คุณสมบัติเหล่านี้ โจวหยวนสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนที่เขาหมักสุราแล้ว
แต่ในตอนนั้น เขายังไม่เข้าใจว่าค่า +1 หรือ +5 เหล่านี้มีอิทธิพลมากน้อยเพียงใด
จนกระทั่งได้เห็นเหล่าหวงบรรลุขั้นเซียนเทียนในทันที เขาถึงเริ่มมีมาตรฐานในการเปรียบเทียบที่ชัดเจน
“เหล่าหวงเดิมอยู่ในขั้นจิตวิญญาณ การที่เขาทะลุไปได้ในคราวเดียว แม้จะเป็นเพราะเขาใกล้ถึงจุดนั้นอยู่แล้ว แต่ค่า +1 ก็ทรงพลังไม่น้อยเลย”
“และหลังจากที่เขาทะลุไปถึงขั้นเซียนเทียน กลายเป็นยอดฝีมือ แต่ก็ยังได้รับผลจากคุณสมบัติ ‘ล้มในที่ราบ’ ที่ทำให้เขาล้มทุกสองสามก้าว ดูจะมีพลังของค่า +5 อยู่จริงๆ”
โจวหยวนครุ่นคิดและเข้าใจได้อย่างถ่องแท้แล้ว
สำหรับผู้ฝึกวิทยายุทธที่ใกล้จะบรรลุขั้น สุรานี้ถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่หายากยิ่ง
หลังจากพิจารณาเสร็จ โจวหยวนก็เงยหน้าขึ้น มองผ่านอุปสรรคต่างๆ ราวกับสามารถมองทะลุไปถึงกลุ่มลูกค้าที่ภายนอก ซึ่งยังคงครึกครื้นกันอย่างไม่หยุดหย่อน
“ตอนนี้มีแค่เหล่าหวงกับสวี่เฟิงเหนียนที่ได้ลองดื่มสุราหมักนี้ ผู้ฝึกวิทยายุธท์คนอื่นๆ ในยุทธภพยังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมัน”
“ไม่อย่างนั้นล่ะก็ โรงเตี๊ยมที่ไม่ค่อยจะเงียบสงบอยู่แล้วแห่งนี้ คงจะยิ่งวุ่นวายขึ้นอีกหลายเท่า”
โจวหยวนพูดกับตัวเองพร้อมรอยยิ้ม เขาไม่ได้ปฏิเสธพายุที่อาจตามมา กลับกัน เขารู้สึกตื่นเต้นเสียด้วยซ้ำ
เหตุผลนั้นเรียบง่าย:
เช่นเดียวกับระดับของอาหาร ระดับฝีมือการทำอาหารของโจวหยวนก็มีการจัดลำดับในระบบเช่นกัน
ตั้งแต่ระดับต้นไปจนถึงระดับสูงสุด “สวรรค์” ยิ่งระดับฝีมือสูงเท่าไร โจวหยวนก็ยิ่งสามารถทำอาหารที่มีคุณภาพสูงได้มากขึ้น
อาหารคุณภาพสูง ย่อมทำให้ลูกค้าพึงพอใจง่ายขึ้น
และยิ่งลูกค้าพอใจมากเท่าไร โจวหยวนก็ยิ่งมีโอกาสได้รับสิทธิ์ “จับรางวัล” มากขึ้นเท่านั้น
ใช่แล้ว การจับรางวัล!
เมื่อใดที่ลูกค้าได้ลิ้มรสอาหารและรู้สึกพึงพอใจอย่างแท้จริง แม้ว่าพวกเขาอาจไม่ได้พูดชื่นชมออกมา โจวหยวนก็จะได้รับสิทธิ์ในการจับรางวัลหนึ่งครั้ง
รางวัลจากการจับรางวัลนั้นมีตั้งแต่ตำราวิชา การ์ดตัวละคร และการ์ดอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น
นี่จึงเป็นเหตุผลที่โจวหยวนพยายามพัฒนาฝีมือการทำอาหารของเขา
การ์ดตัวละครถือเป็นรางวัลพิเศษที่สุด เพราะเมื่อโจวหยวนหลอมรวมการ์ดตัวละครเข้ากับตัวเอง เขาจะได้รับพลังและความสามารถที่แนบมาพร้อมกับการ์ดนั้นโดยสมบูรณ์
ในยุทธภพ การมีฝีมือการทำอาหารอย่างเดียวไม่ใช่สิ่งที่มั่นคงพอ
พลังที่แข็งแกร่งต่างหากที่เป็นรากฐานของการยืนหยัดอยู่ได้!
โจวหยวนจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง
โดยทั่วไปแล้ว ระดับฝีมือการทำอาหารของโจวหยวนเป็นระดับไหน เขาก็สามารถทำอาหารระดับนั้นออกมาได้
แต่ข้อจำกัดนี้ก็ไม่ได้ตายตัว
เพราะในบางสถานการณ์พิเศษ หากโจวหยวนอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์แบบ และทุกขั้นตอนการทำอาหารก็ไร้ที่ติ อาหารที่ทำออกมาก็อาจเกิด “คริติคอล” ได้
ส่งผลให้เกิดอาหารที่มีคุณภาพสูงขึ้นอีกระดับ
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ก็ขึ้นอยู่กับดวงเป็นหลัก หากต้องการผลิตอาหารที่มีคุณสมบัติพิเศษอย่างสม่ำเสมอ เขายังจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาฝีมือการทำอาหารให้สูงขึ้น
และการเพิ่มระดับฝีมือทำอาหารก็มีวิธีที่ไม่ซับซ้อนนัก
เพียงแค่ให้มีผู้ฝึกวิทยายุทธมากขึ้นเรื่อยๆ มาลิ้มรสอาหารของเขา ยิ่งผู้ที่ลิ้มรสมีโชคชะตา พลัง และชื่อเสียงสูงเท่าใด โจวหยวนก็จะได้รับค่าประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือ การทำอาหารที่มีคุณสมบัติเพิ่มพลังนั้น ใช้พลังจิตอย่างมาก
ที่ผ่านมา โจวหยวนจึงสามารถทำอาหารด้วยความใส่ใจได้แค่วันละหนึ่งจานเท่านั้น
และนั่นก็ขึ้นอยู่กับดวงเช่นกัน หากทำแล้วไม่เกิดคุณสมบัติพิเศษก็เท่ากับว่าเสียพลังงานไปทั้งวันโดยเปล่าประโยชน์
ดังนั้น โรงเตี๊ยมแห่งนี้ นอกจากอาหารจานแรกที่โจวหยวนลงมือทำเองแล้ว อาหารอื่นๆ…
ที่ผ่านมา โจวหยวนเพียงแค่ชี้แนะให้พ่อครัวคนอื่นทำตาม
ก่อนหน้านี้ อาหารที่โจวหยวนทำแม้จะอร่อย แต่ก็ไม่มีคุณสมบัติเสริมพลังใดๆ
จะเรียกได้ว่าเหล่าหวงกับสวี่เฟิงเหนียนโชคดีที่มาในช่วงเวลาที่เหมาะสมก็ว่าได้
โจวหยวนสามารถทำสุราหมักระดับต้นออกมาได้จากการ “คริติคอล” ในระดับฝีมือที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ จนเกิดเป็นเรื่องราวเมื่อครู่
เมื่อเหล่าหวงและสวี่เฟิงเหนียนได้ดื่มสุราหมักนี้แล้วเกิดความพึงพอใจ โจวหยวนจึงได้รับค่าประสบการณ์และเลื่อนระดับฝีมือทำอาหารเป็นระดับต้นได้ในคราวเดียว
นอกจากนี้ ด้วยความที่เหล่าหวงพึงพอใจกับสุรามาก โจวหยวนยังได้รับสิทธิ์ในการจับรางวัลอีกหนึ่งครั้ง
เขาควรจะจับรางวัลในทันที
แต่เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีสถานการณ์เร่งด่วนอะไร และฝีมือการทำอาหารของเขาเพิ่งพัฒนาขึ้นเป็นระดับต้น เขาจึงอยากจะลองเสี่ยงดูอีกสักครั้ง
หากเขาอยู่ในสภาวะที่ดี และได้ “คริติคอล” อีกครั้ง เขาอาจทำอาหารระดับกลางขึ้นมาได้ด้วยฝีมือระดับต้น
ขณะที่กำลังคิดอยู่ เสี่ยวเอ้อก็เดินเข้ามา
“ท่านเจ้าของร้าน เมื่อครู่มีพรานจากหมู่บ้านใกล้เคียงนำหมูป่ามาส่ง”
ขณะที่พูด เสี่ยวเอ้อยังดูมึนๆ เหมือนยังไม่ตื่นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
แต่ไม่ว่าเสี่ยวเอ้อจะมีสติหรือไม่ โจวหยวนก็สนใจแค่คำว่า “หมูป่า”
“หมูป่า?”
“ดีเลยๆ ข้ากำลังคิดอยู่ว่าจะใช้วัตถุดิบอะไรดีในการลองฝีมือหลังจากเลื่อนระดับ”
“นี่เหมือนง่วงอยู่แล้วมีหมอนมาส่งให้พอดี เทพสวรรค์ช่วยข้าจริงๆ!”
โจวหยวนสั่งให้เสี่ยวเอ้อเรียกคนมาช่วยนำหมูป่าเข้ามา จากนั้นจึงบอกให้พวกเขาไปทำงานของตนต่อ แล้วเขาก็เริ่มครุ่นคิดว่าจะทำอาหารอะไรจากวัตถุดิบนี้ดี
ตอนนี้ฝีมือการทำอาหารของโจวหยวนเพิ่งเลื่อนขึ้นมาเป็นระดับต้น ซึ่งหมายความว่าหากต้องการทำอาหารที่มีคุณสมบัติพิเศษ เขาจะทำได้เพียงหนึ่งจานเท่านั้น
หลังจากคิดไตร่ตรอง เขาก็ตัดสินใจเลือกส่วนหัวของหมู
“วันนี้ข้าจะทำหัวหมูตุ๋น!”
เมื่อวางแผนเสร็จ โจวหยวนก็ลงมือทันที
เขาทำความสะอาดหัวหมูให้เรียบร้อย จากนั้นนำลงหม้อต้มน้ำเย็น
ใส่ต้นหอม ขิง และสุราหมักที่เพิ่งทำขึ้นใหม่ลงไป—
แน่นอนว่าสุราหมักนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ขวดเดียว เขามีสุราหมักทั่วไปไว้ใช้งาน จึงไม่รู้สึกเสียดายที่จะใช้ในครั้งนี้
เขานำต้นหอม ขิง และสุราหมักใส่ลงไปในหม้อพร้อมกับหัวหมู แล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อนเพื่อขจัดกลิ่นคาวของเนื้อหมู
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ น้ำในหม้อเริ่มเดือด เสียงน้ำเดือดดัง “ปุด ปุด” ก้องอยู่ในครัว
มีฟองขุ่นๆ ลอยขึ้นมาในหม้อ นั่นคือสิ่งสกปรกที่ออกมาจากเนื้อหัวหมู
ด้วยการเคี่ยวด้วยไฟอ่อนทำให้เนื้อหมูได้รับความร้อนอย่างสม่ำเสมอ จนค่อยๆ ขับสิ่งสกปรกออกมา
โจวหยวนค่อยๆ ช้อนฟองเหล่านั้นออกด้วยความตั้งใจ ราวกับมีความเคารพอย่างลึกซึ้ง
หลังจากหมูตุ๋นสุกแล้ว โจวหยวนก็ตักขึ้นมาล้างด้วยน้ำอุ่นหลายครั้ง
จากนั้นนำลงหม้ออีกครั้ง พร้อมกับใส่ต้นหอม ขิง พริกแห้ง สุราจีน น้ำตาลกรวด และเครื่องตุ๋นแบบต่างๆ เติมน้ำสะอาดลงไป และเริ่มเคี่ยวด้วยไฟอ่อน
ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาไม่น้อย แต่โจวหยวนก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่าย เขาตั้งใจทำอย่างเต็มที่
ในที่สุด เมื่อกลิ่นหอมอบอวลในครัว โจวหยวนสูดลมหายใจลึกๆ…
เปิดหม้อ!
ในชั่วพริบตานั้น เขาราวกับเห็นแสงวาบขึ้นมา
แต่แน่นอนว่าเป็นเพียงภาพลวงตา
แม้ว่าจะมีแสงเจิดจ้าราวกับในอนิเมะเช่น “เชฟกระทะเหล็ก” แต่ก็คงไม่เกิดขึ้นกับอาหารในระดับนี้
“รู้สึกว่าออกมาสมบูรณ์แบบ หวังว่าจะมีคริติคอลนะ!”
โจวหยวนคิดในใจและตรวจดูอย่างละเอียด
ทันใดนั้น ข้อความที่มีเพียงเขามองเห็นก็ลอยขึ้นมา:
【หัวหมูตุ๋นระดับกลาง】
ยอดเยี่ยม สมบูรณ์แบบจริงๆ
เมื่อดูคุณสมบัติแล้ว สีหน้าของโจวหยวนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
หัวหมูตุ๋นนี้มีผลข้างเคียงเล็กน้อย
“ถ้าลูกค้ากินเข้าไป…เอ่อ…”
โจวหยวนพึมพำ แต่เมื่อคิดว่าอาหารระดับเงินจานแ
รกที่เขาทำขึ้นมานี้อาจช่วยให้เขาเลื่อนระดับได้ เขาจึงเสียดายเกินกว่าจะเก็บไว้เฉยๆ
ในที่สุด เขาอดทนกับความรู้สึกประหลาดๆ ในใจ แล้วเรียกเสี่ยวเอ้อมาให้ช่วยนำหัวหมูตุ๋นออกไปเสิร์ฟ