ตอนที่แล้วบทที่ 30 : ทำลายสถิติของเย่ซวง​หนิง​!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 : จิ้งจอกเก้าหาง!

บทที่ 31 : ถ้ำลึกลับ​!


บทที่ 31 : ถ้ำลึกลับ​!

“ท่านผู้ชมครับ การทดสอบใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว”

“หากไม่มีอะไรผิดพลาด เซียวซิงหยูน่าจะรักษาอันดับหนึ่งเอาไว้ได้”

“เเต่พูดก็พูดเถอะ​ครับ, ถ้าไม่ได้เห็นกับตา คงยากจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มจากเมืองเล็กๆจะสามารถทำลายสถิติของอัจฉริยะในตำนาน​อย่างเย่ซวงหนิงได้!”

“เเละผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นผู้บรรยายการถ่ายทอดสดการทดสอบครั้งนี้!”

…..

เหลือเวลาอีกสามนาทีก่อนการทดสอบจะสิ้นสุดลง

ตอนนี้ พลังวิญญาณของทุกคนแทบจะหมดแล้ว อันดับจึงแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง

เซียวซิงหยูทิ้งห่างคู่แข่งได้ระดับ​หนึ่ง​ จำนวนอสูรที่เขาล่าได้ตอนนี้สูงถึง 110 ตัว

ส่วนมู่หรงซินซินอยู่อันดับสอง จำนวนอสูรที่เธอล่าได้หยุดอยู่ที่ 89 ตัว

ช่องว่างระหว่างคนทั้งสอง เกิดจากการที่เซียวซิงหยูสามารถ​แย่งแต้มมาได้สำเร็จ

…..

ณ อพาร์ตเมนต์สำหรับ​ครอบครัว​

เซียวรั่วเสวี่ยและเย่ซือเหมิงนั่งดูการถ่ายทอดสดอยู่หน้าโทรทัศน์อย่างตื่นเต้น​

เย่ซือเหมิงกระโดดขึ้นจากโซฟา ฮัมเพลงและ ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน

“พี่ชายสุดยอด มีพี่ชายเก่งขนาดนี้ เหมิงเหมิงมีความสุขที่สุด​เลย!”

เซียวรั่วเสวี่ยลูบผมเปียสองข้างที่แกว่งไปมาของเย่ซือเหมิง พลางยิ้มอย่างอ่อนโยน

“เหมิงเหมิง เซียวหยู​ทำลายสถิติของพี่สาวเธอได้แล้วนะ, เเบบนี้​เธอยังมีความสุขอีกเหรอ”

“ฮึ…เมื่อเทียบกับพี่สาวที่เย็นชา ฉันชอบพี่ชายมากกว่า!”

เย่ซวงหนิงเป็นคนเย็นชา ถึงแม้เธอจะเป็นพี่สาวแท้ๆของเย่ซือเหมิง แต่ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยหรือสนิท​กันมากนัก

ส่วนเซียวซิงหยูรักและตามใจเย่ซือเหมิงมาก, นอกจากนี้​เขายังมีนิสัยร่าเริง เเละไม่เคยทำหน้าบึ้งตึง

เมื่อเห็นเซียวซิงหยูทำผลงานได้ดีในการทดสอบ เย่ซือเหมิงจึงรู้สึกยินดีและภูมิใจกับเซียวซิงหยูจากใจจริง

“ว่าเเต่พี่รั่วเสวี่ย พี่ชายได้ผลงานได้ดีเเบบนี้​ พี่ดูไม่ดีใจเลยนะคะ”

“เอ่อ….ฉันก็ต้องดีใจสิ”

“แต่พี่ดูไม่ตื่นเต้นเลย แถมยังไม่ค่อยยิ้มอีก”

เด็กๆมักจะมีความเฉียบแหลมในการสังเกตมากกว่าผู้ใหญ่

ตอนนี้เย่ซือเหมิงพูดตรงจุดทุกคำ

, เพราะ​ตอนนี้​เซียวรั่วเสวี่ยมีท่าทีผิดปกติจริงๆ

เมื่อเห็นน้องชายทำผลงานได้ดี เธอกลับไม่รู้สึกตื่นเต้นใดๆ, เเถมสีหน้ายังดูเคร่งเครียดอีกด้วย

เซียวรั่วเสวี่ยจ้องมองหน้าจอโทรทัศน์ที่ตอนนี้​ กล้องกำลังจับภาพใบหน้าของเซียวซิงหยูแบบใกล้ๆ

“เซียวหยูของฉัน…ทำไมตอนนี้ฉันถึงรู้สึกทั้งคุ้นเคยและรู้สึก​แปลกหน้านายในเวลาเดียวกันได้นะ”

“เเถมในการทดสอบ เขาสามารถ​แย่งแต้มจากเด็กสาวตระกูลมู่หรงได้หลายครั้ง นี่แสดงให้เห็นว่าเขามีความสามารถในการคาดการณ์ที่ยอดเยี่ยม”

“แต่ผนึกในตัวเขายังไม่มีทีท่าว่าจะคลาย แล้วพรสวรรค์ที่เหนือมนุษย์เหล่านี้มาจากไหนกัน” เซียวรั่วเสวี่ยเท้าคาง ขณะครุ่นคิด

……

ในป่าลึกของภูเขาหยินหนาน

เซียวซิงหยูเหลือบมองนาฬิกาเเล้วพึมพำ​

“เหลือเวลาอีกแค่นาทีเดียวก่อนการทดสอบจะจบลง”

“คุณหนู​มู่หรง ตำแหน่งที่หนึ่ง ผมขอรับไว้นะครับ”

ดวงตาสวยของมู่หรงซินซินจ้องมองเซียวซิงหยูเขม็ง

“คนเจ้าเล่ห์!”

“เอ่อ คุณเปลี่ยนคำอื่นได้ไหม”

“คนเจ้าเล่ห์!”

“ในพจนานุกรมของคุณมีแค่สองคำนี้หรือไง”

“คนเจ้าเล่ห์!!!”

เมื่อ​เห็น​เช่นนี้, เซียวซิงหยูก็อดขำกับนิสัยของมู่หรงซินซินไม่ได้จริงๆ

“ผู้หญิงคนนี้ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ ดูภายนอกเย็นชา แต่จริงๆแล้วค่อนข้างเปิ่น​อยู่​นะ”

ทันใดนั้น​เอง​ เสียงประกาศก็ดังก้องไปทั่วหุบเขา

“การทดสอบใกล้จะสิ้นสุดแล้ว นักเรียนทุกคนโปรดมารวมตัวกันที่เชิงเขา”

“คุณมู่หรง เราไปกันเถอะ”

“คนเจ้าเล่ห์!”

“ขอร้องล่ะ เปลี่ยนคำอื่นได้ไหม”

“คนเจ้าเล่ห์!”

“คุณหนู​มู่หรง ชาติที่แล้วคุณคงเป็นเครื่องบันทึกเสียงแน่ๆ” เซียวซิงหยูพึมพำ​ข้อสรุปอย่างเงียบๆ

เเต่ในขณะที่เซียวซิงหยูกำลังจะลงจากเขา มันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น!

ก็าาาาซซซซ!!!!

เสียงคำรามดังสนั่นป่า ทำเอาเซียวซิงหยูหูแทบแตก

“เฮยเฟิง!” เซียวซิงหยูตะโกน

หมาป่าวายุนรกเข้าสู่สถานะต่อสู้ในทันที

ปัง!

เกิดเสียงปะทะดังสนั่น

หมาป่าวายุนรกลอยกระเด็นเหมือนว่าวขาดหลุด

จากนั้น​ มันก็ตกลงกองกับพื้นเเละบาดเจ็บ​จนขยับไม่ได้

“นี่มัน…สัตว์​อสูรระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3)!” เซียวซิงหยูขมวดคิ้วเคร่งเครียด​

เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัว​นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนสัญญาณการถ่ายทอดสดขาดๆหายๆ

ภาพบนหน้าจอมีสัญญาณรบกวน จนภายนอกมองเห็นภาพไม่ชัด

ในตอนนี้ มีสัตว์ร้ายตัวใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเซียวซิงหยู

มันคือสิงโตขนาดยักษ์ มีเขี้ยวยาวกว่าดาบ มีสามหัวเเละในปากแต่ละหัวมีลาวาเดือดพล่าน!

“แย่แล้ว นี่มันราชสีห์เพลิงลาวา!”

“ทำไมในเขตทดสอบถึงมีสัตว์​อสูร​ระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3) ได้”

“เรียกผู้รับผิดชอบเขตทดสอบมา ถามว่าเกิดอะไรขึ้น!”

“อย่าเพิ่งสนใจเรื่องนั้น การปกป้องนักเรียนสำคัญที่สุด!”

“เริ่มขั้นตอนการช่วยเหลือฉุกเฉิน…ด่วน!”

ภูเขาหยินหนานเป็นสถานที่ทดสอบสำหรับนักเรียนใหม่ทุกปี

เพื่อให้สอดคล้องกับระดับความแข็งแกร่งของนักเรียนใหม่ ภูเขาหยินหนานจึงถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงอสูรระดับเริ่มต้นเท่านั้นที่อาศัยอยู่บนภูเขา

แต่ราชสีห์เพลิงลาวาที่ปรากฏตัวต่อหน้าเซียวซิงหยู เป็นถึงสัตว์​อสูร​ระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3)!

ระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3) นั้นหมายความว่ามันใกล้จะทะลวงขีดจำกัดไปสู่ระดับเหนือธรรมชาติ…ดังนั้น​มันมีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว

อย่างน้อยก็ต้องเป็นปรมาจารย์​อสูรระดับสี่ดาว ถึงจะสามารถรับมือกับสัตว์​อสูร​ระดับนี้ได้

เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินเป็นปรมาจารย์​อสูรระดับหนึ่งดาว, แม้ว่าทั้งคู่จะมีพรสวรรค์มากมาย แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะช่องว่างของระดับที่แตกต่างกันขนาดนี้ได้

“เฮยเฟิง ลุกขึ้น!”

หมาป่าวายุนรกพยายามยันตัวขึ้น

ตอนนี้, หน้าอกของมันถูกน้ำร้อนลวก จนต้องกัดฟันแน่น

ด้านเซียวซิงหยูก็เปิดใช้งานดวงตาเทพ​อสูร

เเละแผงข้อมูลของราชสีห์เพลิงลาวาก็ปรากฏขึ้น

“บ้าจริง พลังชีวิตของมันเยอะมาก!”

ในมุมมองของเซียวซิงหยู เหนือหัวของราชสีห์เพลิงลาวาจะแสดงแถบพลังชีวิตที่ยาวมาก

นอกจากนี้​ หมาป่าวายุนรกเป็นเพียงอสูรระดับเริ่มต้น (ขั้น 1)

ส่วนระดับของราชสีห์เพลิงลาวาคือระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3)...พลังของทั้งสองแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ช่องว่างของระดับที่มหาศาลเช่นนี้ ไม่สามารถชดเชยได้ด้วยสายเลือด, พรสวรรค์, หรือทักษะใดๆ

กรรรรร!!!!

ราชสีห์เพลิงลาวาคำราม จนก่อให้เกิดพายุเฮอริเคนขนาดมหึมา

เซียวซิงหยูถูกพายุพัดจนล้มลงกับพื้น เสื้อผ้าขาดวิ่น ใบหน้ามีรอยขีดข่วนจากคมมีดลม

หมาป่าวายุนรกถอยหลังกรูด เปลวไฟบนตัวของมันดับลงในทันที

ณ เวลานี้…ความแตกต่างของระดับได้แสดงผลให้เห็นอย่างชัดเจน!

ใน​เวลา​เดียวกัน, เสียงของซูหรูหยานก็ดังออกมาจากลำโพง

“เซียวซิงหยู มู่หรงซินซิน พวกเธอรีบหนีออกจากพื้นที่อันตราย เราจะรีบดำเนินมาตรการช่วยเหลือเดี๋ยว​นี้!”

เซียวซิงหยูตั้งสติ แล้วพูดอย่างร้อนรน

“คุณมู่หรง เราหนีกันเถอะ!”

ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ทั้งคู่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกันอีกต่อไป แต่เป็นสหายร่วมรบกัน

…..

ในป่าลึกอีกด้าน

หวังเยี่ยนซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ เเละเขาได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง

เมื่อเขาเห็นเซียวซิงหยูวิ่งหนีอย่างร้อนรน​ หวังเยี่ยนก็ยิ้มเยาะอย่างสะใจ​

“เซียวซิงหยู ฉันบอกแล้วว่าที่นี่จะเป็นที่ฝังศพของแก!”

เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะมาถึง

ตอนนี้ ​เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินจึงต้องวิ่งผ่านป่าทึบ เเต่สุดท้าย​ก็โชคร้าย​เพราะข้างหน้าคือหน้าผาสูงร้อยจ้าง

กรรรร!!!!

ราชสีห์เพลิงลาวาไล่ตามมาติดๆ

ร่างกายที่ใหญ่โตของมันเหมือนเครื่องจักรตัดไม้ ทุกที่ที่มันผ่านไป ต้นไม้ล้วนล้มระเนระนาดเเละถูกทำลาย​

มู่หรงซินซินกระโดดขึ้นขี่หลังค้างคาวปีกกระดูก เเล้วบินขึ้นไปบนฟ้า

นี่คือข้อได้เปรียบของอสูรบินได้, เเต่ทางด้านเซียวซิงหยูโชคไม่ดีเท่าเธอ

วูบบบบ!!!

ราชสีห์เพลิงลาวาใช้ทักษะพายุคำราม เพื่อทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

ด้วยทักษะ​นี้ เซียวซิงหยูและหมาป่าวายุนรกตกอยู่ใจกลางพายุทอร์นาโด เเละถูกคมมีดลมโจมตีจนเลือดสาด

….

ณ ที่นั่งกรรมการของวิทยาลัยชิงหลง

เฉินฉีเหนียนไม่สามารถรักษาความสงบได้อีกต่อไป

“ท่านผู้อำนวยการ ผมจะไปช่วยนักเรียนของผมด้วยตัวเอง!”

ซูหรูยานก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน​

“ฉันก็จะไปด้วย, ทั้งเซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินล้วนเป็นอัจฉริยะของวิทยาลัยชิงหลง ในฐานะอธิการบดี​ ฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาเป็นอะไร!”

หยางซู่จ้องมองหน้าจอถ่ายทอดสด ด้วยดวงตาแดงก่ำ

“สถานการณ์ไม่ดี!”

“แย่แล้ว!”

“เซียวซิงหยูและหมาป่าวายุนรก...ตกลงไปในหน้าผาแล้ว!”

…..

ที่ขอบหน้าผา

เซียว​ซิง​หยู​และหมาป่า​วายุ​นรก​ถูกพายุพัดจนตกหน้าผา

มู่หรงซินซินรีบขี่ค้างคาวปีกกระดูกพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว

“จับมือฉันไว้!”

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่หรงซินซินพูดประโยคที่สมบูรณ์กับเซียวซิงหยู

ก่อนหน้านี้เธอจะพูดแค่ “คนเจ้าเล่ห์” เท่านั้น

เซียวซิงหยูพยายามยื่นมือไปจับมือของมู่หรงซินซิน แต่ด้วยพลังของพายุ…มันจึงทำให้เขาทำพลาด

เสียงลมหวีดหวิว เเละใบหน้าของมู่หรงซินซินก็พร่าเลือนขึ้นเรื่อยๆ

ความเงียบกลับคืนสู่ขอบหน้าผา

ค้างคาวปีกกระดูกบินวนอยู่บนท้องฟ้า

มู่หรงซินซินนั่งอยู่บนหลังค้างคาวปีกกระดูก ดวงตาเลื่อนลอยขณะมองลงไปยังหน้าผาที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง

“เราช่วยเขาไม่ได้​”

“เขา…ตายแล้วงั้นเหรอ?”

ราชสีห์เพลิงลาวายืนอยู่ที่ขอบหน้าผา แลบลิ้นออกมา

มันไม่ได้โจมตีมู่หรงซินซินต่อ, เเละเดินหันหลังกลับไป

เห็นได้ชัดว่าราชสีห์เพลิงลาวาหมายหัวแค่เซียวซิงหยูเท่านั้น​!

ในเงามืดของป่าอีกด้าน

“อัจฉริยะอะไรกัน”

“ม้ามืดบ้าบออะไร”

“แค่ฉันใช้วิธีเล็กๆน้อยๆ แกก็ต้องไปรายงานตัวกับยมบาลแล้ว”

“เซียวซิงหยูเอ๋ย นี่แหละผลของการที่แกตั้งตัวเป็น​ศัตรู​กับฉัน ฮ่าๆๆๆๆ!” หวังเยี่ยนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

…..

ในค่ำคืน​นี้

สามอันดับแรกของเทรนด์ข่าวในประเทศได้มีการอัปเดต​

1: [จักรพรรดินีประกาศจับ​อสูรอันน่า​หวาดหวั่น​: จิ้งจอกเก้าหาง·เดลลู]

2: [เจ้าหญิงซ่างกวนเฉียน เลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์​อสูรระดับห้าดาว!]

3: [เซียวซิงหยู อัจฉริยะจากวิทยาลัยชิงหลงตกหน้าผา, ยังไม่รู้​ชะตา​กรรม!]

สองอันดับแรกเป็นข่าวเกี่ยวกับจักรพรรดินีและเจ้าหญิง

ส่วนเซียวซิงหยู เด็กหนุ่มธรรมดาๆคนหนึ่ง กลับติดเทรนด์อันดับสามของข่าวประเทศ

“ผม ผู้สื่อข่าวซีเหมินต้าชิ่ง ตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าผาที่เซียวซิงหยูได้ตกลงไป”

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นอุบัติเหตุร้ายแรง”

“นับตั้งแต่ก่อตั้งวิทยาลัยชิงหลง ไม่เคยมีข้อผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน”

“ปกติ​แล้ว​ มันไม่น่าจะมีสัตว์​อสูร​ระดับสมบูรณ์ปรากฏตัวที่ภูเขาหยินหนาน”

“เเต่เอาล่ะ​ เรามาอธิษฐานเผื่อเซียวซิงหยูกันเถอะ!”

….

ณ เวลาดึกสงัด, ขณะที่​ฝนกำลังเทกระหน่ำ

เซียวซิงหยูค่อยๆลืมตา เเละพบว่าตัวเองนอนอยู่บนท้องนุ่มๆของหมาป่าวายุนรก

“เฮยเฟิง นายเอาตัวบังฉันไว้เหรอ”

อิ๋งงงง~~~

หมาป่าวายุนรกบาดเจ็บสาหัส ลมหายใจของมันแผ่วเบาอย่าง​มาก

เซียวซิงหยูรู้สึกซาบซึ้งและสงสารมันอย่างเเท้จริ​ง

เขารีบเปิดตราอสูร เเล้วนำสิ่งของ​ออกมา​

“เฮยเฟิง ดื่มเครื่องดื่มรักษา​พวกนี้ แล้วเข้าไปในตราอสูร​เพื่อพักผ่อนซะนะ”

เซียวซิงหยูหยิบเครื่องดื่มบำรุงธาตุไฟออกมาจากแหวนมิติ ป้อนให้หมาป่าวายุนรก จากนั้นก็เก็บมันเข้าไปในตราอสูร​ เพื่อให้มันได้พักผ่อน

“อวัยวะภายในได้รับความกระทบกระเทือนเล็กน้อย ซี่โครงหักสองซี่ ข้อเท้าซ้ายร้าว...”

“โชคดีที่เฮยเฟิงเอาตัวบังเอาไว้​ ฉันถึงรอดตายมาได้”

เซียวซิงหยูเปิดใช้งานดวงตาเทพ​อสูร​เพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตัวเองอย่างรวดเร็ว​

อาการบาดเจ็​บของเขาถือว่าไม่น้อย​ แต่ก็ไม่ถึงชีวิต

“ดูเหมือนจะมีคนจงใจเล่นงานฉัน แถมยังเอาถึงชีวิต​ด้วย!”

“เเต่ไม่มีเวลามาคิดมากแล้ว ฉันต้องหาที่หลบฝนก่อน”

เซียวซิงหยูลากร่างกายที่บาดเจ็บ เดินกะเผลกๆผ่านป่าไปเรื่​อยๆจนพบถ้ำที่สามารถหลบฝนได้

เเต่ที่ส่วนลึกของถ้ำ

มันมีแสงสีม่วงสองจุด เหมือนดวงตาของสิ่งมีชีวิตลึกลับ​บางอย่าง

…………………

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด