บทที่ 31 : ถ้ำลึกลับ!
บทที่ 31 : ถ้ำลึกลับ!
“ท่านผู้ชมครับ การทดสอบใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว”
“หากไม่มีอะไรผิดพลาด เซียวซิงหยูน่าจะรักษาอันดับหนึ่งเอาไว้ได้”
“เเต่พูดก็พูดเถอะครับ, ถ้าไม่ได้เห็นกับตา คงยากจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มจากเมืองเล็กๆจะสามารถทำลายสถิติของอัจฉริยะในตำนานอย่างเย่ซวงหนิงได้!”
“เเละผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นผู้บรรยายการถ่ายทอดสดการทดสอบครั้งนี้!”
…..
เหลือเวลาอีกสามนาทีก่อนการทดสอบจะสิ้นสุดลง
ตอนนี้ พลังวิญญาณของทุกคนแทบจะหมดแล้ว อันดับจึงแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง
เซียวซิงหยูทิ้งห่างคู่แข่งได้ระดับหนึ่ง จำนวนอสูรที่เขาล่าได้ตอนนี้สูงถึง 110 ตัว
ส่วนมู่หรงซินซินอยู่อันดับสอง จำนวนอสูรที่เธอล่าได้หยุดอยู่ที่ 89 ตัว
ช่องว่างระหว่างคนทั้งสอง เกิดจากการที่เซียวซิงหยูสามารถแย่งแต้มมาได้สำเร็จ
…..
ณ อพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัว
เซียวรั่วเสวี่ยและเย่ซือเหมิงนั่งดูการถ่ายทอดสดอยู่หน้าโทรทัศน์อย่างตื่นเต้น
เย่ซือเหมิงกระโดดขึ้นจากโซฟา ฮัมเพลงและ ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน
“พี่ชายสุดยอด มีพี่ชายเก่งขนาดนี้ เหมิงเหมิงมีความสุขที่สุดเลย!”
เซียวรั่วเสวี่ยลูบผมเปียสองข้างที่แกว่งไปมาของเย่ซือเหมิง พลางยิ้มอย่างอ่อนโยน
“เหมิงเหมิง เซียวหยูทำลายสถิติของพี่สาวเธอได้แล้วนะ, เเบบนี้เธอยังมีความสุขอีกเหรอ”
“ฮึ…เมื่อเทียบกับพี่สาวที่เย็นชา ฉันชอบพี่ชายมากกว่า!”
เย่ซวงหนิงเป็นคนเย็นชา ถึงแม้เธอจะเป็นพี่สาวแท้ๆของเย่ซือเหมิง แต่ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยหรือสนิทกันมากนัก
ส่วนเซียวซิงหยูรักและตามใจเย่ซือเหมิงมาก, นอกจากนี้เขายังมีนิสัยร่าเริง เเละไม่เคยทำหน้าบึ้งตึง
เมื่อเห็นเซียวซิงหยูทำผลงานได้ดีในการทดสอบ เย่ซือเหมิงจึงรู้สึกยินดีและภูมิใจกับเซียวซิงหยูจากใจจริง
“ว่าเเต่พี่รั่วเสวี่ย พี่ชายได้ผลงานได้ดีเเบบนี้ พี่ดูไม่ดีใจเลยนะคะ”
“เอ่อ….ฉันก็ต้องดีใจสิ”
“แต่พี่ดูไม่ตื่นเต้นเลย แถมยังไม่ค่อยยิ้มอีก”
เด็กๆมักจะมีความเฉียบแหลมในการสังเกตมากกว่าผู้ใหญ่
ตอนนี้เย่ซือเหมิงพูดตรงจุดทุกคำ
, เพราะตอนนี้เซียวรั่วเสวี่ยมีท่าทีผิดปกติจริงๆ
เมื่อเห็นน้องชายทำผลงานได้ดี เธอกลับไม่รู้สึกตื่นเต้นใดๆ, เเถมสีหน้ายังดูเคร่งเครียดอีกด้วย
เซียวรั่วเสวี่ยจ้องมองหน้าจอโทรทัศน์ที่ตอนนี้ กล้องกำลังจับภาพใบหน้าของเซียวซิงหยูแบบใกล้ๆ
“เซียวหยูของฉัน…ทำไมตอนนี้ฉันถึงรู้สึกทั้งคุ้นเคยและรู้สึกแปลกหน้านายในเวลาเดียวกันได้นะ”
“เเถมในการทดสอบ เขาสามารถแย่งแต้มจากเด็กสาวตระกูลมู่หรงได้หลายครั้ง นี่แสดงให้เห็นว่าเขามีความสามารถในการคาดการณ์ที่ยอดเยี่ยม”
“แต่ผนึกในตัวเขายังไม่มีทีท่าว่าจะคลาย แล้วพรสวรรค์ที่เหนือมนุษย์เหล่านี้มาจากไหนกัน” เซียวรั่วเสวี่ยเท้าคาง ขณะครุ่นคิด
……
ในป่าลึกของภูเขาหยินหนาน
เซียวซิงหยูเหลือบมองนาฬิกาเเล้วพึมพำ
“เหลือเวลาอีกแค่นาทีเดียวก่อนการทดสอบจะจบลง”
“คุณหนูมู่หรง ตำแหน่งที่หนึ่ง ผมขอรับไว้นะครับ”
ดวงตาสวยของมู่หรงซินซินจ้องมองเซียวซิงหยูเขม็ง
“คนเจ้าเล่ห์!”
“เอ่อ คุณเปลี่ยนคำอื่นได้ไหม”
“คนเจ้าเล่ห์!”
“ในพจนานุกรมของคุณมีแค่สองคำนี้หรือไง”
“คนเจ้าเล่ห์!!!”
เมื่อเห็นเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็อดขำกับนิสัยของมู่หรงซินซินไม่ได้จริงๆ
“ผู้หญิงคนนี้ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ ดูภายนอกเย็นชา แต่จริงๆแล้วค่อนข้างเปิ่นอยู่นะ”
ทันใดนั้นเอง เสียงประกาศก็ดังก้องไปทั่วหุบเขา
“การทดสอบใกล้จะสิ้นสุดแล้ว นักเรียนทุกคนโปรดมารวมตัวกันที่เชิงเขา”
“คุณมู่หรง เราไปกันเถอะ”
“คนเจ้าเล่ห์!”
“ขอร้องล่ะ เปลี่ยนคำอื่นได้ไหม”
“คนเจ้าเล่ห์!”
“คุณหนูมู่หรง ชาติที่แล้วคุณคงเป็นเครื่องบันทึกเสียงแน่ๆ” เซียวซิงหยูพึมพำข้อสรุปอย่างเงียบๆ
เเต่ในขณะที่เซียวซิงหยูกำลังจะลงจากเขา มันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น!
ก็าาาาซซซซ!!!!
เสียงคำรามดังสนั่นป่า ทำเอาเซียวซิงหยูหูแทบแตก
“เฮยเฟิง!” เซียวซิงหยูตะโกน
หมาป่าวายุนรกเข้าสู่สถานะต่อสู้ในทันที
ปัง!
เกิดเสียงปะทะดังสนั่น
หมาป่าวายุนรกลอยกระเด็นเหมือนว่าวขาดหลุด
จากนั้น มันก็ตกลงกองกับพื้นเเละบาดเจ็บจนขยับไม่ได้
“นี่มัน…สัตว์อสูรระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3)!” เซียวซิงหยูขมวดคิ้วเคร่งเครียด
เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนสัญญาณการถ่ายทอดสดขาดๆหายๆ
ภาพบนหน้าจอมีสัญญาณรบกวน จนภายนอกมองเห็นภาพไม่ชัด
ในตอนนี้ มีสัตว์ร้ายตัวใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเซียวซิงหยู
มันคือสิงโตขนาดยักษ์ มีเขี้ยวยาวกว่าดาบ มีสามหัวเเละในปากแต่ละหัวมีลาวาเดือดพล่าน!
“แย่แล้ว นี่มันราชสีห์เพลิงลาวา!”
“ทำไมในเขตทดสอบถึงมีสัตว์อสูรระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3) ได้”
“เรียกผู้รับผิดชอบเขตทดสอบมา ถามว่าเกิดอะไรขึ้น!”
“อย่าเพิ่งสนใจเรื่องนั้น การปกป้องนักเรียนสำคัญที่สุด!”
“เริ่มขั้นตอนการช่วยเหลือฉุกเฉิน…ด่วน!”
ภูเขาหยินหนานเป็นสถานที่ทดสอบสำหรับนักเรียนใหม่ทุกปี
เพื่อให้สอดคล้องกับระดับความแข็งแกร่งของนักเรียนใหม่ ภูเขาหยินหนานจึงถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่ามีเพียงอสูรระดับเริ่มต้นเท่านั้นที่อาศัยอยู่บนภูเขา
แต่ราชสีห์เพลิงลาวาที่ปรากฏตัวต่อหน้าเซียวซิงหยู เป็นถึงสัตว์อสูรระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3)!
ระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3) นั้นหมายความว่ามันใกล้จะทะลวงขีดจำกัดไปสู่ระดับเหนือธรรมชาติ…ดังนั้นมันมีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว
อย่างน้อยก็ต้องเป็นปรมาจารย์อสูรระดับสี่ดาว ถึงจะสามารถรับมือกับสัตว์อสูรระดับนี้ได้
เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินเป็นปรมาจารย์อสูรระดับหนึ่งดาว, แม้ว่าทั้งคู่จะมีพรสวรรค์มากมาย แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะช่องว่างของระดับที่แตกต่างกันขนาดนี้ได้
“เฮยเฟิง ลุกขึ้น!”
หมาป่าวายุนรกพยายามยันตัวขึ้น
ตอนนี้, หน้าอกของมันถูกน้ำร้อนลวก จนต้องกัดฟันแน่น
ด้านเซียวซิงหยูก็เปิดใช้งานดวงตาเทพอสูร
เเละแผงข้อมูลของราชสีห์เพลิงลาวาก็ปรากฏขึ้น
“บ้าจริง พลังชีวิตของมันเยอะมาก!”
ในมุมมองของเซียวซิงหยู เหนือหัวของราชสีห์เพลิงลาวาจะแสดงแถบพลังชีวิตที่ยาวมาก
นอกจากนี้ หมาป่าวายุนรกเป็นเพียงอสูรระดับเริ่มต้น (ขั้น 1)
ส่วนระดับของราชสีห์เพลิงลาวาคือระดับสมบูรณ์ (ขั้น 3)...พลังของทั้งสองแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ช่องว่างของระดับที่มหาศาลเช่นนี้ ไม่สามารถชดเชยได้ด้วยสายเลือด, พรสวรรค์, หรือทักษะใดๆ
กรรรรร!!!!
ราชสีห์เพลิงลาวาคำราม จนก่อให้เกิดพายุเฮอริเคนขนาดมหึมา
เซียวซิงหยูถูกพายุพัดจนล้มลงกับพื้น เสื้อผ้าขาดวิ่น ใบหน้ามีรอยขีดข่วนจากคมมีดลม
หมาป่าวายุนรกถอยหลังกรูด เปลวไฟบนตัวของมันดับลงในทันที
ณ เวลานี้…ความแตกต่างของระดับได้แสดงผลให้เห็นอย่างชัดเจน!
ในเวลาเดียวกัน, เสียงของซูหรูหยานก็ดังออกมาจากลำโพง
“เซียวซิงหยู มู่หรงซินซิน พวกเธอรีบหนีออกจากพื้นที่อันตราย เราจะรีบดำเนินมาตรการช่วยเหลือเดี๋ยวนี้!”
เซียวซิงหยูตั้งสติ แล้วพูดอย่างร้อนรน
“คุณมู่หรง เราหนีกันเถอะ!”
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ทั้งคู่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกันอีกต่อไป แต่เป็นสหายร่วมรบกัน
…..
ในป่าลึกอีกด้าน
หวังเยี่ยนซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ เเละเขาได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง
เมื่อเขาเห็นเซียวซิงหยูวิ่งหนีอย่างร้อนรน หวังเยี่ยนก็ยิ้มเยาะอย่างสะใจ
“เซียวซิงหยู ฉันบอกแล้วว่าที่นี่จะเป็นที่ฝังศพของแก!”
เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะมาถึง
ตอนนี้ เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินจึงต้องวิ่งผ่านป่าทึบ เเต่สุดท้ายก็โชคร้ายเพราะข้างหน้าคือหน้าผาสูงร้อยจ้าง
กรรรร!!!!
ราชสีห์เพลิงลาวาไล่ตามมาติดๆ
ร่างกายที่ใหญ่โตของมันเหมือนเครื่องจักรตัดไม้ ทุกที่ที่มันผ่านไป ต้นไม้ล้วนล้มระเนระนาดเเละถูกทำลาย
มู่หรงซินซินกระโดดขึ้นขี่หลังค้างคาวปีกกระดูก เเล้วบินขึ้นไปบนฟ้า
นี่คือข้อได้เปรียบของอสูรบินได้, เเต่ทางด้านเซียวซิงหยูโชคไม่ดีเท่าเธอ
วูบบบบ!!!
ราชสีห์เพลิงลาวาใช้ทักษะพายุคำราม เพื่อทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
ด้วยทักษะนี้ เซียวซิงหยูและหมาป่าวายุนรกตกอยู่ใจกลางพายุทอร์นาโด เเละถูกคมมีดลมโจมตีจนเลือดสาด
….
ณ ที่นั่งกรรมการของวิทยาลัยชิงหลง
เฉินฉีเหนียนไม่สามารถรักษาความสงบได้อีกต่อไป
“ท่านผู้อำนวยการ ผมจะไปช่วยนักเรียนของผมด้วยตัวเอง!”
ซูหรูยานก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
“ฉันก็จะไปด้วย, ทั้งเซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินล้วนเป็นอัจฉริยะของวิทยาลัยชิงหลง ในฐานะอธิการบดี ฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาเป็นอะไร!”
หยางซู่จ้องมองหน้าจอถ่ายทอดสด ด้วยดวงตาแดงก่ำ
“สถานการณ์ไม่ดี!”
“แย่แล้ว!”
“เซียวซิงหยูและหมาป่าวายุนรก...ตกลงไปในหน้าผาแล้ว!”
…..
ที่ขอบหน้าผา
เซียวซิงหยูและหมาป่าวายุนรกถูกพายุพัดจนตกหน้าผา
มู่หรงซินซินรีบขี่ค้างคาวปีกกระดูกพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
“จับมือฉันไว้!”
นี่เป็นครั้งแรกที่มู่หรงซินซินพูดประโยคที่สมบูรณ์กับเซียวซิงหยู
ก่อนหน้านี้เธอจะพูดแค่ “คนเจ้าเล่ห์” เท่านั้น
เซียวซิงหยูพยายามยื่นมือไปจับมือของมู่หรงซินซิน แต่ด้วยพลังของพายุ…มันจึงทำให้เขาทำพลาด
เสียงลมหวีดหวิว เเละใบหน้าของมู่หรงซินซินก็พร่าเลือนขึ้นเรื่อยๆ
ความเงียบกลับคืนสู่ขอบหน้าผา
ค้างคาวปีกกระดูกบินวนอยู่บนท้องฟ้า
มู่หรงซินซินนั่งอยู่บนหลังค้างคาวปีกกระดูก ดวงตาเลื่อนลอยขณะมองลงไปยังหน้าผาที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง
“เราช่วยเขาไม่ได้”
“เขา…ตายแล้วงั้นเหรอ?”
ราชสีห์เพลิงลาวายืนอยู่ที่ขอบหน้าผา แลบลิ้นออกมา
มันไม่ได้โจมตีมู่หรงซินซินต่อ, เเละเดินหันหลังกลับไป
เห็นได้ชัดว่าราชสีห์เพลิงลาวาหมายหัวแค่เซียวซิงหยูเท่านั้น!
ในเงามืดของป่าอีกด้าน
“อัจฉริยะอะไรกัน”
“ม้ามืดบ้าบออะไร”
“แค่ฉันใช้วิธีเล็กๆน้อยๆ แกก็ต้องไปรายงานตัวกับยมบาลแล้ว”
“เซียวซิงหยูเอ๋ย นี่แหละผลของการที่แกตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉัน ฮ่าๆๆๆๆ!” หวังเยี่ยนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
…..
ในค่ำคืนนี้
สามอันดับแรกของเทรนด์ข่าวในประเทศได้มีการอัปเดต
1: [จักรพรรดินีประกาศจับอสูรอันน่าหวาดหวั่น: จิ้งจอกเก้าหาง·เดลลู]
2: [เจ้าหญิงซ่างกวนเฉียน เลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์อสูรระดับห้าดาว!]
3: [เซียวซิงหยู อัจฉริยะจากวิทยาลัยชิงหลงตกหน้าผา, ยังไม่รู้ชะตากรรม!]
สองอันดับแรกเป็นข่าวเกี่ยวกับจักรพรรดินีและเจ้าหญิง
ส่วนเซียวซิงหยู เด็กหนุ่มธรรมดาๆคนหนึ่ง กลับติดเทรนด์อันดับสามของข่าวประเทศ
“ผม ผู้สื่อข่าวซีเหมินต้าชิ่ง ตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าผาที่เซียวซิงหยูได้ตกลงไป”
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นอุบัติเหตุร้ายแรง”
“นับตั้งแต่ก่อตั้งวิทยาลัยชิงหลง ไม่เคยมีข้อผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน”
“ปกติแล้ว มันไม่น่าจะมีสัตว์อสูรระดับสมบูรณ์ปรากฏตัวที่ภูเขาหยินหนาน”
“เเต่เอาล่ะ เรามาอธิษฐานเผื่อเซียวซิงหยูกันเถอะ!”
….
ณ เวลาดึกสงัด, ขณะที่ฝนกำลังเทกระหน่ำ
เซียวซิงหยูค่อยๆลืมตา เเละพบว่าตัวเองนอนอยู่บนท้องนุ่มๆของหมาป่าวายุนรก
“เฮยเฟิง นายเอาตัวบังฉันไว้เหรอ”
อิ๋งงงง~~~
หมาป่าวายุนรกบาดเจ็บสาหัส ลมหายใจของมันแผ่วเบาอย่างมาก
เซียวซิงหยูรู้สึกซาบซึ้งและสงสารมันอย่างเเท้จริง
เขารีบเปิดตราอสูร เเล้วนำสิ่งของออกมา
“เฮยเฟิง ดื่มเครื่องดื่มรักษาพวกนี้ แล้วเข้าไปในตราอสูรเพื่อพักผ่อนซะนะ”
เซียวซิงหยูหยิบเครื่องดื่มบำรุงธาตุไฟออกมาจากแหวนมิติ ป้อนให้หมาป่าวายุนรก จากนั้นก็เก็บมันเข้าไปในตราอสูร เพื่อให้มันได้พักผ่อน
“อวัยวะภายในได้รับความกระทบกระเทือนเล็กน้อย ซี่โครงหักสองซี่ ข้อเท้าซ้ายร้าว...”
“โชคดีที่เฮยเฟิงเอาตัวบังเอาไว้ ฉันถึงรอดตายมาได้”
เซียวซิงหยูเปิดใช้งานดวงตาเทพอสูรเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตัวเองอย่างรวดเร็ว
อาการบาดเจ็บของเขาถือว่าไม่น้อย แต่ก็ไม่ถึงชีวิต
“ดูเหมือนจะมีคนจงใจเล่นงานฉัน แถมยังเอาถึงชีวิตด้วย!”
“เเต่ไม่มีเวลามาคิดมากแล้ว ฉันต้องหาที่หลบฝนก่อน”
เซียวซิงหยูลากร่างกายที่บาดเจ็บ เดินกะเผลกๆผ่านป่าไปเรื่อยๆจนพบถ้ำที่สามารถหลบฝนได้
เเต่ที่ส่วนลึกของถ้ำ
มันมีแสงสีม่วงสองจุด เหมือนดวงตาของสิ่งมีชีวิตลึกลับบางอย่าง
…………………