ตอนที่แล้วบทที่ 29 : มู่หรงหยางซั่ว, มู่หรงซินซิน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 : ถ้ำลึกลับ​!

บทที่ 30 : ทำลายสถิติของเย่ซวง​หนิง​!


บทที่ 30 : ทำลายสถิติของเย่ซวง​หนิง​!

ในเวลานี้​มดปีศาจสามตาตื่นตระหนกสุดขีด

มันแค่บังเอิญผ่านมา แต่กลับถูกอัจฉริยะปีศาจ​ทั้งสองคนจับจ้อง

เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินยืนนิ่งสงบ, พวกเขา​ไม่ได้พูดคุยกันแม้แต่คำเดียว

แต่หากสายตาเปรียบได้กับคมดาบ ทั้งสองคงประลองกันไปสามร้อยยกเเล้ว

…..

ในห้องถ่ายทอดสด กล้องกำลังจับภาพทั้งสองคนแบบใกล้ๆ

หนึ่งคืออัจฉริยะสาวแห่งตระกูลมู่หรง อีกหนึ่งคือม้ามืดหนุ่มที่ผงาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

การแข่งขันระหว่างคนทั้งสอง ทำให้ผู้ชมต่างตื่นเต้น​เเละตั้งตารอคอย

หยางซู่มือซ้ายจับไมโครโฟน มือขวากำหมัดแน่น

“ท่านผู้ชมครับ แม้จะผ่านหน้าจอ ผมก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะของคนทั้งสอง”

“ใครกันหนอ ที่จะจัดการมดปีศาจสามตาได้ก่อน?”

“หืม…ดูสิครับ คุณเซียวซิงหยูลงมือแล้ว!”

ในชั่วพริบตา เซียวซิงหยูก็เป็นคนลงมือก่อน

หมาป่าวายุนรกของเขาเริ่มใช้ทักษะ [พันธนาการนรก] อย่างรวดเร็ว​

โซ่แปดเส้นที่ร้อนแรง พุ่งเข้าพันธนาการร่างของมดปีศาจสามตาในทันที

เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้, หยางซู่ก็บรรยาย​ด้วยความตื่นเต้น

“พลังของไฟนรกช่างน่ากลัว!”

“กระดองของมดปีศาจสามตาขึ้นชื่อว่าหนาและแข็งมาก, มันมีค่าป้องกันเป็นห้าเท่าของอสูรระดับเดียวกัน”

“แต่ไฟนรกของหมาป่าวายุนรกกลับสามารถทะลุเกราะ เเละสร้างความเสียหายที่แท้จริงให้กับศัตรูได้ในทันที​!”

…..

ตอนนี้ มดปีศาจสามตาถูกพันธนาการด้วยโซ่นรกจนต้องส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

“เฮยเฟิง ปิดฉากได้เลย!” เซียวซิงหยูออกคำสั่งทันที

เเต่ในขณะที่หมาป่าวายุนรกกำลังจะสังหารมดปีศาจสามตา มันก็มีคลื่นเสียงชุดหนึ่ง​พุ่งเข้ามา

คลื่นเสียงนี้พุ่งมาอย่างรวดเร็ว​เเละได้กลายเป็นใบมีดสายลมจำนวนนับไม่ถ้วน จนหมาป่าวายุนรกจึงต้องหลบฉากออกไป

สถานการณ์​นี้ทำให้หยางซู่ทุบโต๊ะแล้วตะโกน

“มู่หรงซินซินลงมือแล้วครับ!”

“ค้างคาวปีกกระดูกของเธอ ใช้ทักษะใบมีดสายลมขัดขวางท่าไม้ตายของหมาป่าวายุนรกได้ทันท่วงที​!”

“เเล้วดูนั่นครับ, ค้างคาวปีกกระดูกใช้ทักษะ [เพลิงเย็นกระดูกวิญญาณ] เพื่อโจมตีขั้นเด็ดขาด​เเล้ว!”

“มู่หรงซินซินจัดการมดปีศาจสามตาได้สำเร็จเเล้ว, นี่แหละที่เรียกว่าสตรีสมัยใหม่ พวกเธอไม่แพ้บุรุษหน้าใหนเลย!”

ภาพการถ่ายทอดสดที่ตื่นเต้นเร้าใจ ประกอบกับเสียงบรรยายที่เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น ทำให้ผู้ชมขนลุกไปทั่วทั้งร่าง

……

ที่หน้าผา

มดปีศาจสามตากลายเป็นเถ้าถ่านท่ามกลางเปลวไฟสีเขียว เเละเหลือไว้เพียงแกนอสูรในผืนดินที่ไหม้เกรียม

มู่หรงซินซินก้มลงเก็บแกนอสูร ก่อนจะมองไปยังเซียวซิงหยูที่อยู่ไม่ไกล

อย่างไร​ก็ตาม​ ถึงเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่ดูเหมือนสายตาของเธอจะสื่อความหมายได้ทุกอย่างเเล้ว

“คุณหนูมู่หรง เห็นคุณมีท่าที​เย็นชาแบบนี้ ฉันนึกว่าคุณจะไม่แคร์ผลการทดสอบนี้ซะอีก”

“ที่ใหนได้​ คุณก็ชอบการเเข่งขัน​เหมือน​กันนี่” เซียวซิงหยูเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้ม​

ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลบนกระดานคะแนนก็มีการอัปเดตอีกครั้​ง

จำนวนอสูรที่เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินล่าได้เท่ากันที่ 51 ตัว

…..

“ท่านผู้ชมครับ สถานการณ์เริ่มน่าสนใจแล้ว” หยางซู่ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี

“ตอนนี้ เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินคะแนนเท่ากัน พวกเขาอยู่อันดับหนึ่งร่วมกัน!”

“เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนการทดสอบจะจบลง ใครจะรักษาอันดับหนึ่งไว้ได้ มารอลุ้นกันครับ!”

เมื่อการทดสอบมาถึงจุดนี้ ความสนใจทั้งหมดจึงต่างจับจ้องไปที่เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซิน

มู่หรงซินซินเป็นตัวแทนของตระกูลใหญ่​ทั้งสี่

ส่วนเซียวซิงหยูเป็นตัวแทนของชนชั้นสามัญชนที่ไม่มีอำนาจหรือเส้นสายใดๆ

ตลอดประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีเรื่องราวที่เด็กหนุ่มธรรมดาๆสามารถเอาชนะอัจฉริยะจากตระกูลใหญ่ๆ ได้

หลังจาก​นั้น​ มู่หรงซินซินและเซียวซิงหยูก็ยังคงขับเคี่ยวกันต่อไป

เเละไม่ว่า​เซียวซิงหยูจะไปที่ไหน มู่หรงซินซินก็จะตามไปที่นั่น

ภูเขาหยินหนานแบ่งออกเป็นหลายโซน ยกตัวอย่างเช่น ทะเลสาบ น้ำตก ป่าทึบ และทุ่งหิมะ

อสูรที่อาศัยอยู่ในแต่ละโซนจึงมีลักษณะ​แตกต่างกันออกไป

เเต่ไม่ว่าเซียวซิงหยูจะไปล่าอสูรที่โซนไหน มู่หรงซินซินก็จะตามไป เพื่อแย่งชิงแต้มเสมอ

…..

พรวด!!!

หนามแหลมที่ลุกโชนด้วยเปลวไฟสีเขียวพุ่งออกจากตัวค้างคาวปีกกระดูก เเละทะลุหัวของเม่นขนโลหิต

สมองของเม่นขนโลหิตระเบิด​กระจายเต็มพื้น ภาพนี้ทำให้ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย​

หยางซู่หัวเราะแห้งๆเเล้วบรรยายภาพนี้ทันที​

“ดูเหมือนว่ามู่หรงซินซินจะแค้นฝังหุ่นจริงๆ, เธอสู้กับเซียวซิงหยูอย่างเอาเป็นเอาตาย แถมยังแย่งแต้มมาได้อีกแล้ว!”

ตอนนี้​ ข้อมูลบนกระดานคะแนนได้มีการอัปเดตอีกครั้ง

ที่หนึ่ง: มู่หรงซินซิน ล่าอสูรไปแล้ว 89 ตัว

ที่สอง: เซียวซิงหยู ล่าอสูรไปแล้ว 81 ตัว

……

ใต้ธารน้ำตกที่เชี่ยวกราก มันมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างกันประมาณ​ห้าเมตร

เซียวซิงหยูอยู่ทางซ้าย ส่วนมู่หรงซินซินอยู่ทางขวา

เเละในแอ่งน้ำใต้ธารน้ำตก

หมาป่าวายุนรกที่มีไฟนรกสีดำลุกท่วมทั่วร่างได้เผยเขี้ยวแหลมคมเเละขนลุกชันด้วยความโกรธ

ส่วนค้างคาวปีกกระดูกบินวนอยู่กลางอากาศ ส่งเสียงร้องอย่างดุร้ายและอวดดี

“คุณมู่หรง นี่มันแค่การทดสอบ คุณจะจริงจังอะไรขนาดนั้น”

มู่หรงซินซินไม่ได้​ตอบกลับ

เธอเหมือนเด็กสาวเก็บตัว เเละทำเพียงจ้องมองเซียวซิงหยูด้วยสายตาเย็นชา

ในช่องแสดงความคิดเห็น ผู้ชมต่างพากันพูดคุยอย่างสนุกสนาน​

[คนโบราณว่าไว้ ผู้หญิง​ด่าคือผู้หญิง​รัก~]

[ไม่รู้ทำไม…เเต่คู่นี้ดูน่าจิ้นให้คู่กันจัง!]

[ใช่ๆ…คนหนึ่งก็หล่อคนหนึ่งก็สวย เหมาะสมกันมาก!]

ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา เเละรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เซียวซิงหยูจึงดูเหมือนคาสโนว่าตัวพ่อ

ส่วนมู่หรงซินซินที่เงียบขรึม, เธอจึงเหมือนภรรยาที่ชอบงอนสามี

เเม้เเต่ผู้บรรยายมืออาชีพอย่างหยางซู่…ก็อดจิ้นคู่นี้ไม่ได้

“ต้องยอมรับเลยว่า ถึงแม้บรรยากาศจะตึงเครียด แต่มันก็มีความรู้สึกแปลกๆแฝงอยู่”

“คู่กัดคู่นี้ ผมขอจิ้นด้วยคน!”

……

ใต้ธารน้ำตก เซียวซิงหยูเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงก่อนการทดสอบจะจบลงแล้ว”

“คุณมู่หรง ต่อจากนี้ผมไม่ยอมอ่อนข้อให้คุณแล้วนะครับ”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ หยางซู่ก็ขมวดคิ้วเเล้วรีบบรรยาย​ทันที​

“ท่านผู้ชมครับ ที่เซียวซิงหยูพูดแบบนี้ หมายความว่าที่ผ่านมาเขายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ?”

เมื่อการทดสอบเริ่มนับถอยหลัง 30 นาที

เซียวซิงหยูก็เก็บรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาเทพ​อสูร​เริ่มเปิดใช้งาน จนดวงตาของเขาเเปล่งประกายสีแดงเลือด

“เฮยเฟิง ไปกันเลย!”

เซียวซิงหยูขี่หมาป่าวายุนรก ไล่ล่ากระต่ายน้ำแข็งที่กำลังหนีอย่างหัวซุกหัวซุน

มู่หรงซินซินก็สั่งการค้างคาวปีกกระดูก โดยหวังจะแย่งแต้มอีกครั้ง

ส่วนหยางซู่ยังคงบรรยายอย่างมืออาชีพด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

“ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ 30 นาที”

“พลังวิญญาณของทุกคนใกล้จะหมดแล้ว เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินก็เช่นกัน”

“เเละเพราะแบบนี้ ทุกครั้งที่อสูรใช้ทักษะมันจึงมีค่ามาก”

“ตอนนี้ มู่หรงซินซินจึงจะใช้แผนเดิมเพื่อแย่งแต้มอีกแล้ว!”

ภายใต้คำสั่งของมู่หรงซินซิน ค้างคาวปีกกระดูกกระพือปีก สร้างกระแสลมแรง ผลักหมาป่าวายุนรกออกไป

จากนั้น, ค้างคาวปีกกระดูกก็พ่นเปลวไฟสีเขียวออกมา ปกคลุมร่างของกระต่ายน้ำแข็ง

ตูมมม!!!

นี่คือทักษะประจำตัวของค้างคาวปีกกระดูก [เพลิงเย็นกระดูกวิญญาณ]

ในช่วงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ภายใต้การบังคับบัญชาที่แม่นยำของมู่หรงซินซิน ค้างคาวปีกกระดูกใช้ทักษะนี้แย่งแต้มมาได้ห้าถึงหกครั้ง

เเต่หยางซู่กลับสังเกตเห็นรอยยิ้ม​ของเซียวซิงหยูในภาพหน้าจอ

“แปลก เซียวซิงหยูเหมือนกำลังยิ้ม...”

“เดี๋ยว! สถานการณ์ไม่ปกติ!”

หยางซู่ตื่นเต้นจนเสียงของเขาสั่นเครือ

“กระต่ายน้ำแข็งยังไม่ตาย!”

“พลังโจมตีของค้างคาวปีกกระดูกไม่พอ มันยังขาดอีกนิดเดียว!”

มู่หรงซินซินตกตะลึง เธอไม่คิดว่าตัวเองจะตัดสินใจพลาด

กระต่ายน้ำแข็งถูกเพลิงเย็นกระดูกวิญญาณโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส…แต่มันยังมีลมหายใจรวยริน

เเละในขณะที่มู่หรงซินซินกำลังตกตะลึง

ฉัวะ!

รอยกรงเล็บหมาป่าก็ปรากฏขึ้นในเสี้ยววินาที เเละปลิดชีพกระต่ายน้ำแข็งตัวนี้

เซียวซิงหยูเดินมาเก็บแกนอสูรแล้วยกยิ้มหล่อเหลา​ให้มู่หรงซินซิน

“คุณมู่หรง ผมจะเริ่มจริงจังแล้วนะครับ”

……

ที่วิทยาลัยชิงหลง ณ ที่นั่งกรรมการ

ผู้อำนวยการซูหรูหยานจ้องมองหน้าจอถ่ายทอดสด เเละเธอได้เห็นทุกการกระทำของเซียวซิงหยู

“เจ้าเด็กนี่ คงรู้อยู่​แล้ว​ว่าพลังโจมตีของค้างคาวปีกกระดูกยังขาดไปอีกนิด ถึงได้เข้าไปปิดฉากได้อย่างแม่นยำ”

“ถ้าไม่มีประสบการณ์ในสนามรบมาหลายปี คงไม่มีความสามารถในการคาดการณ์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้เเน่ๆ”

“เซียวซิงหยู นายนี่มันอัจฉริยะ​ระดับ​ปีศาจ​จริงๆ...”

…..

ในขณะนี้

ดวงตาของเซียวซิงหยูเป็นสีแดงระเรื่อๆ

ในส่วนลึกของดวงตาเทพ​อสูร​มีเข็มสีดำสองเล่ม, มันเหมือนเข็มนาฬิกาที่กำลังหมุนทวนเข็มนาฬิกา

เเละนี่คือความสามารถหนึ่งของดวงตาเทพ​อสูร​ มันคือการมองเห็นพลังชีวิตที่แท้จริงของสัตว์​อสูรทุกตัว

ในมุมมองของเซียวซิงหยู เหนือหัวกระต่ายน้ำแข็งจะมีแถบพลังชีวิตปรากฏ​ขึ้น​

ส่วนพลังโจมตีของค้างคาวปีกกระดูก, เขาคำนวณ​จากพลังวิญญาณที่มู่หรงซินซินใช้ไป

เซียวซิงหยูจึงสามารถคาดการณ์ได้อย่างง่ายดายว่าหลังจากค้างคาวปีกกระดูกใช้ทักษะ​เพลิงเย็นกระดูกวิญญาณแล้ว, กระต่ายน้ำแข็งจะยังมีพลังชีวิตเหลืออยู่อีกเล็กน้อย

ด้วยความสามารถของดวงตาเทพ​อสูร​นี้ ตราบใดที่เซียวซิงหยูต้องการแย่งแต้ม มันก็จะไม่มีใครหยุดเขาได้

…..

“ท่านผู้ชมครับ สถานการณ์เริ่มพลิกผันแล้ว!”

“รอบนี้ เซียวซิงหยูแย่งแต้มของหมาป่าเพลิงพิโรธจากมู่หรงซินซินได้อีกครั้ง!”

“น่าเสียดาย พลังโจมตีของค้างคาวปีกกระดูกยังขาดไปอีกนิดหน่อยเช่นเคย!”

“อีกเเล้ว เสือดำค่ำคืนที่บาดเจ็บสาหัส ถูกหมาป่าวายุนรกปิดฉากด้วยกรงเล็บเดียว!”

“สรุปแล้ว มู่หรงซินซินโชคร้าย หรือเซียวซิงหยูมีความสามารถในการคาดการณ์ที่เหนือชั้นกันแน่?”

…..

จากนั้น​ เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้​เหลือเวลาอีก 5 นาทีก่อนการทดสอบจะสิ้นสุด

ข้อมูลบนกระดานคะแนนได้รับการอัปเดตอีกครั้ง

ที่หนึ่ง: เซียวซิงหยู ล่าอสูรไปแล้ว 110 ตัว

ที่สอง: มู่หรงซินซิน ล่าอสูรไปแล้ว 89 ตัว

ฉากนี้ทำให้ห้องถ่ายทอดสดคึกคักมาก

ข้อความแสดงความคิดเห็นขึ้นเต็มหน้าจออย่างที่ไม่เค​ยเป็น​มา​ก่อน​

หยางซู่กำไมโครโฟนแน่น เเล้วตะโกนสุดเสียง

“เหลือเชื่อ เหลือเชื่อ เหลือเชื่อ!”

“เซียวซิงหยูทำลายสถิติของเย่ซวงหนิงได้แล้ว!”

“เหลือเวลาอีก 5 นาทีก่อนการทดสอบจะจบลง เซียวซิงหยูได้ทำลายสถิติ เพราะเขาล่าอสูรไปแล้ว 110 ตัว!”

ในอดีต เย่ซวงหนิงเคยเข้าร่วมการทดสอบที่ภูเขาหยินหนาน เเละเธอสร้างสถิติระดับ​ตำนาน​ไว้ที่ 109 ตัว

ทุกคนคิดว่าสถิตินี้จะคงอยู่ไปอย่างน้อยห้าสิบปี…แต่เพียงหนึ่งปีต่อมา สถิตินี้ก็ถูกทำลายโดยเซียวซิงหยูเรียบร้อย​แล้ว​

อย่างไร​ก็ตาม, คนที่ซวยที่สุดไม่ใช่เย่ซวงหนิง แต่เป็นมู่หรงซินซิน

ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว จำนวนอสูรที่มู่หรงซินซินล่าได้ถูกหยุดอยู่ที่ 89 ตัว

หลังจากนั้น ทุกครั้งที่มู่หรงซินซินโจมตีอสูรจนบาดเจ็บสาหัส เซียวซิงหยูก็จะเป็นคนปิดฉาก

นี่คือเหตุผลที่เซียวซิงหยูสามารถทำลายสถิติของเย่ซวงหนิงได้ มู่หรงซินซินแอสซิสต์ให้เขาอย่างน้อยยี่สิบครั้ง

เซียวซิงหยูเก็บแกนอสูร พร้อมมุมปากที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์

“คุณหนูมู่หรง ขอบคุณที่ช่วยปูทางให้ผมนะครับ”

“การที่ผมทำลายสถิติของรุ่นพี่เย่ซวงหนิงได้ คุณมีส่วนร่วมไม่น้อยเลย!”

มู่หรงซินซินจ้องมองเซียวซิงหยูด้วยสายตาไม่พอใจ​

เเละในที่สุดเธอก็พูดขึ้น

“คนเจ้าเล่ห์!”

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่หรงซินซินพูดกับผู้ชายที่ไม่ใช่พี่ชายของเธอ

“คุณหนูมู่หรง ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ”

“…”

มู่หรงซินซินรู้สึกพูดไม่ออกกับคนแบบนี้อย่างมาก

………………..

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด