บทที่ 29 : มู่หรงหยางซั่ว, มู่หรงซินซิน!
บทที่ 29 : มู่หรงหยางซั่ว, มู่หรงซินซิน!
ณ ภูเขาหยินหนาน ริมแอ่งน้ำแห่งหนึ่ง เด็กหนุ่มผมขาวยืนพิงต้นไม้อยู่ ใบหน้าของเขานิ่งสงบราวกับผืนน้ำ
ใกล้ๆตัวเขา, กรงเล็บอันแหลมคมของกริฟฟินตัวใหญ่กำลังฉีกเนื้อหนังของงูเขี้ยวเงินอยู่
งูเขี้ยวเงินนี้เป็นสัตว์อสูรระดับเริ่มต้น (ขั้น 3) ที่ใกล้จะเลื่อนขั้นเป็นระดับเติบโตแล้ว
หากนักเรียนใหม่คนอื่นมาเจองูเขี้ยวเงินตัวนี้, พวกเขาคงจะวิ่งหนีไปไกลมากเเล้ว
"เสี่ยวไป๋ ไม่ต้องทรมานมันแล้ว เอาแค่แกนอสูรออกมาก็พอ"
เมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านาย กริฟฟินก็ร้องเสียงแหลมคม
จากนั้น ปากของมันที่คมเหมือนมีดก็กรีดเนื้อของงูเขี้ยวเงินแล้วดึงแกนอสูรออกมา
เมื่อสูญเสียเเกนผลึกเเล้ว งูเขี้ยวเงินก็นอนแน่นิ่งลงกับพื้น เเละสิ้นใจตาย
…..
ที่ลานกว้างของวิทยาลัยชิงหลง
บนหน้าจอขนาดใหญ่ที่ฉายผลการทดสอบ มีการอัปเดตคะแนนอีกครั้ง
มู่หรงหยางซั่ว: 41 ตัว
ทันใดนั้น หยางซู่ที่โต๊ะผู้บรรยายก็ตะโกนด้วยความตื่นเต้น
"มู่หรงหยางซั่ว ล่าสัตว์อสูรไปได้ 41 ตัวเเล้ว”
“มู่หรงหยางซั่วสมกับเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของตระกูลมู่หรงจริงๆ, นอกจากนี้สัตว์อสูรคู่หูของเขา [กริฟฟินขาว] ยังเป็นสัตว์อสูรสายพลังจิตเพียงตัวเดียวในการทดสอบครั้งนี้ด้วย!”
กริฟฟินที่อยู่ข้างกายมู่หรงหยางซั่วมีขนสีขาวทั่วทั้งตัว บนหน้าผากมีอัญมณีสีแดงประดับอยู่ ทำให้โดยรวมเเล้วมันดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างมาก
ในระบบสัตว์อสูร สัตว์อสูรสายพลังจิตเป็นสายพันธุ์ที่หายากที่สุดเเละกริฟฟินขาวก็จัดอยู่ในสายพันธุ์นี้
ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของสัตว์อสูรสายพลังจิตคือ “ทะลุมิติ”
โดยปกติแล้ว สัตว์อสูรมากมายจะมีเกราะและพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง
ดังนั้นความสามารถ “ทะลุมิติ” ของกริฟฟินขาวจึงมีประโยชน์มากมาย
มันไม่เพียงแต่จะทำให้เคลื่อนที่ไปหาอีกฝ่ายได้ในพริบตาเท่านั้น เเต่การโจมตีใดๆก็ตามที่กริฟฟินขาวปล่อยออกมาก็จะมีคุณสมบัติทะลุทะลวงด้วย
ความสามารถนี้สามารถเจาะเกราะของสัตว์อสูรได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถยับยั้งความสามารถในการฟื้นฟูของสัตว์อสูรอื่นๆได้อีกด้วย
งูเขี้ยวเงินเป็นสัตว์อสูรที่มีความสามารถในการฟื้นฟูสูง แต่มันกลับถูกเล่นงานด้วยความสามารถพิเศษของกริฟฟินขาว, จุดจบของมันจึงลงเอยอย่างน่าอนาถ
มู่หรงหยางซั่วเก็บแกนอสูรของงูเขี้ยวเงินใส่แหวนมิติ แล้วหันไปลูบหัวกริฟฟินขาว
"เสี่ยวไป๋ ทำได้ดีมาก"
ปกติมู่หรงหยางซั่วเป็นคนพูดน้อย เเละไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เขาจะพูดก็ต่อเมื่อคุยกับสัตว์อสูรคู่หูของเขาเท่านั้น
…..
ด้านนอก, หยางซู่เหลือบมองช่องแสดงความคิดเห็น แล้วพูดด้วยความรู้สึกทึ่ง
"ดูเหมือนว่าคุณชายมู่หรงหยางซั่วของเราจะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆผู้หญิงมากเลยนะครับเนี่ย!"
สาวๆในช่องแสดงความคิดเห็นด้วยการพากันบอกว่าอยากมีลูกกับมู่หรงหยางซั่ว
"เอาล่ะ หลังจากที่ได้เห็นผลงานของมู่หรงหยางซั่วกันไปแล้ว เรามาดูผลงานของมู่หรงซินซินกันบ้างดีกว่าครับ!"
ทันใดนั้น ภาพในห้องส่งก็เปลี่ยนไป
ณ หน้าผาแห่งหนึ่ง สิงโตคลั่งกระหายเลือดได้เดินโซซัดโซเซด้วยร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล
แววตาของมัน ณ เวลานี้ฉายแววเเห่งความหวาดกลัวออกมาอย่างปิดไม่มิด
จากนั้น มันก็มีเด็กสาวผมขาวย่างสามขุมเข้าหาสิงโตคลั่งกระหายเลือดอย่างเชื่องช้า
ใบหน้าของเธอสวยหวานบริสุทธิ์, ดวงตาและคิ้วของเธอดูคล้ายกับมู่หรงหยางซั่ว เเน่นอนว่าเด็กสาวผมขาวคนนี้คือมู่หรงซินซิน น้องสาวของมู่หรงหยางซั่ว
ตอนนี้ ข้างกายมู่หรงซินซินมีค้างคาวขนาดยักษ์อยู่ตัวหนึ่ง
เมื่อค้างคาวตัวนี้กางปีกออก ปีกของมันก็เหมือนกับตาข่ายขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวได้
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือร่างกายของค้างคาวตัวนี้ไม่มีเนื้อหนังเหลืออยู่เลย…มันมีเพียงแต่โครงกระดูก เเละในเบ้าตาของมันมีเปลวไฟสีเขียวลุกโชนอยู่
ผู้บรรยายหยางซู่ใช้เสียงอันดังกังวานแนะนำที่มาของสัตว์อสูรตัวนี้ในห้องถ่ายทอดสดอย่างรวดเร็ว
"ท่านผู้ชมทุกท่านครับ นี่คือสัตว์อสูรคู่หูของมู่หรงซินซิน ค้างคาวปีกกระดูกสายเลือดระดับตำนาน! และยังเป็นสัตว์อสูรสายวิญญาณ เพียงตัวเดียวในการทดสอบครั้งนี้ด้วยครับ!"
สัตว์อสูรสายวิญญาณนั้นหายากยิ่งกว่าสัตว์อสูรสายพลังจิตเสียอีก
เเละข้อได้เปรียบของสายวิญญาณที่เหนือกว่าสัตว์อสูรสายพันธุ์อื่นๆคือมันมีพรสวรรค์ในการต้านทานการโจมตีทางกายภาพ
ต่อให้ร่างกายของค้างคาวปีกกระดูกถูกสัตว์อสูรอื่นๆฉีกออกเป็นชิ้นๆ หรือแม้แต่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด มันก็สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ด้วยพรสวรรค์นี้ มันจึงสามารถปราบสัตว์อสูรที่เน้นการโจมตีทางกายภาพได้ทั้งหมด
"สิงโตคลั่งกระหายเลือดเป็นสัตว์อสูรระดับเริ่มต้น (ขั้น 2) มีสายเลือดระดับมหากาพย์ที่มีเกราะหนามาก, นอกจากนี้ยังมีการโจมตีทางกายภาพที่มีพลังโจมตีคริติคอล 5 เท่า ถือว่ามีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งมากทีเดียว”
“แต่น่าเสียดายที่มันต้องมาเจอกับค้างคาวปีกกระดูก วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายของมันแล้วล่ะครับ”
“เเละถ้าหากมู่หรงซินซินสามารถจัดการสิงโตคลั่งกระหายเลือดได้ จำนวนสัตว์อสูรที่เธอล่าได้ทั้งหมดก็จะเพิ่มเป็น 51 ตัวครับ!”
ตอนนี้ บนกระดานคะแนนที่ฉายบนหน้าจอขนาดใหญ่มู่หรงซินซินอยู่อันดับหนึ่ง เเละเธอล่าสัตว์อสูรไปแล้ว 50 ตัว
เมื่อเห็นเเบบนี้, ในห้องถ่ายทอดสดก็มีคนแสดงความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก
[คุณหนูมู่หรงคือเทพธิดาของฉัน!]
[พรสวรรค์แบบนี้ เธอแข็งแกร่งกว่ามู่หรงหยางซั่ว พี่ชายของเธออีกนะ!]
[ใครที่แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ คงไม่กล้าสู้ภรรยาอย่างเเน่นอน!]
ตอนนี้ มู่หรงซินซินดูแข็งแกร่งมาก
พลังของเธอบดบังรัศมีของมู่หรงหยางซั่ว พี่ชายของเธอไปเลย
แต่อันที่จริงแล้ว มู่หรงหยางซั่วยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด
เขาเป็นคนไม่ชอบโอ้อวด สำหรับผลการทดสอบ…แค่ดีพอประมาณก็พอแล้ว
ในการทดสอบนี้ นักเรียนใหม่ทุกคนที่เข้าร่วมการทดสอบจะต้องสวมนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์
บนหน้าปัดนาฬิกาจะแสดงข้อมูลคะแนนแบบเรียลไทม์ เเละเมื่อเห็นว่าน้องสาวอยู่อันดับหนึ่ง ใบหน้าที่เย็นชาของมู่หรงหยางซั่วก็เผยรอยยิ้มออกมา
"ดูท่าแล้ว การทดสอบครั้งนี้น้องสาวน่าจะได้ที่หนึ่ง ในฐานะพี่ชาย ฉันก็จะไม่ไปแย่งกับน้องหรอก"
เห็นได้ชัดว่า เด็กหนุ่มผมขาวที่ดูเย็นชาและไร้หัวใจคนนี้ จริงๆแล้วเป็นคนอบอุ่นและรักน้องสาวมาก
ทันใดนั้น สีหน้าของมู่หรงหยางซั่วก็เปลี่ยนไป
มุมปากของเขาหดลง เพราะบนหน้าปัดนาฬิกาแสดงให้เห็นว่า อันดับของมู่หรงซินซินตกลงมาอยู่อันดับที่สองเรียบร้อยแล้ว
"มีคนแซงหน้าน้องสาวฉันงั้นเหรอ?"
"ตอนนี้ ที่หนึ่งคือใคร..."
"หืม….เซียวซิงหยู"
นี่เป็นครั้งแรกที่มู่หรงหยางซั่วรู้จักชื่อนี้
……..
ย้อนกลับไปเมื่อสักครู่
ณ หน้าผาแห่งนั้น ตอนที่สิงโตคลั่งกระหายเลือดที่บาดเจ็บสาหัสกำลังจะถูกมู่หรงซินซินต้อนจนมุม เเละค้างคาวปีกกระดูกกางปีกเพื่อเตรียมปล่อยท่าไม้ตาย
เเต่ ณ เวลานั้น มันก็มีเงาของใครบางคนปรากฏขึ้น
"เฮยเฟิง จัดการ!"
บู๊ววววว~
เสียงหอนของหมาป่าดังกึกก้องไปทั่วหน้าผา
ฉัวะ!
เเละในทันใดนั้น บนร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลของสิงโตคลั่งกระหายเลือดก็มีรอยกรงเล็บหมาป่าที่ลุกเป็นไฟปรากฏขึ้น
พรู่ดดดดด!!!
เลือดพุ่งออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุ
สิงโตคลั่งกระหายเลือดล้มลงกับพื้น เเละนอนตายตาไม่หลับ
ตอนนี้ เซียวซิงหยูที่ขี่หมาป่าวายุนรกได้ปรากฏตัวขึ้นที่ขอบหน้าผา
มู่หรงซินซินเงยหน้าขึ้นมอง เเละได้สบตากับเซียวซิงหยูเป็นครั้งแรก
ที่โต๊ะผู้บรรยาย หยางซู่ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับตะโกนเสียงดังผ่านไมโครโฟน
"ฉากนี้ช่างน่าทึ่งจริงๆ, ม้ามืดประจำรุ่นอย่างเซียวซิงหยู ได้ฉกสัตว์อสูรที่มู่หรงซินซินกำลังจะจัดการไปครับ!”
“เเละผมขอเเจ้งให้ทราบ ตอนนี้เซียวซิงหยูได้ขึ้นเป็นที่หนึ่งแล้ว!”
ณ เวลานี้บนกระดานคะแนนอิเล็กทรอนิกส์
ที่หนึ่ง: เซียวซิงหยู ล่าสัตว์อสูรไปแล้ว 51 ตัว
ที่สอง: มู่หรงซินซิน ล่าสัตว์อสูรไปแล้ว 50 ตัว
ที่สาม: มู่หรงหยางซั่ว ล่าสัตว์อสูรไปแล้ว 41 ตัว
เซียวซิงหยูขึ้นเป็นที่หนึ่ง ด้วยการฉกสัตว์อสูรจากมู่หรงซินซินไปเพียงตัวเดียว
ผู้ชมในช่องแสดงความคิดเห็นต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างเมามัน
[ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจจริงๆ!]
[สิงโตคลั่งกระหายเลือดมันใกล้ตายอยู่แล้ว เซียวซิงหยูแค่เข้าไปซ้ำแค่นั้นเอง]
[มู่หรงซินซินระวังหน้าระวังหลังหน่อย, สุดท้ายเเล้วจะไม่พ้นเเพ้ให้เซียวซิงหยูคนนี้นะ!]
[ว่าเเต่ทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นอัจฉริยะที่น่าทึ่งมากนะ, พวกเขาจะตีกันไหมเนี่ย?]
…….
ณ หน้าผาแห่งนั้น บรรยากาศเริ่มตึงเครียดอย่างถึงที่สุด
เซียวซิงหยูยิ้มอย่างมีเลศนัยเเล้วเอ่ยออกมา
"คุณหนูมู่หรง ขอบคุณสำหรับสัตว์อสูรตัวนี้นะ"
สีหน้าของมู่หรงซินซินดูเย็นชาและแข็งกระด้างเหมือนกับพี่ชายของเธอ
เธอจ้องมองเซียวซิงหยูโดยไม่พูดตอบกลับอะไร
เเต่ในตอนนั้นเอง มันก็มีเสียงบางอย่างดังมาจากพุ่มไม้ จากนั้นมดปีศาจสามตาตัวหนึ่งก็ได้คลานออกมาจากพุ่มนั้น
เมื่อเห็นเเบบนี้, หยางซู่ก็รีบบรรยายด้วยความตื่นเต้น
"เอาล่ะครับ เป็นเรื่องเเล้ว…"
"เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินกำลังสบตากัน"
"จากที่ผมสังเกตแววตาที่ปะทะกัน, ดูเหมือนว่าทั้งคู่ต้องการจะจัดการมดปีศาจสามตาตัวนี้ให้ได้นะ!"
……………………