ตอนที่แล้วบทที่ 28 : เริ่มต้น​การทดสอบ​
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 : ทำลายสถิติของเย่ซวง​หนิง​!

บทที่ 29 : มู่หรงหยางซั่ว, มู่หรงซินซิน!


บทที่ 29 : มู่หรงหยางซั่ว, มู่หรงซินซิน!

ณ ภูเขาหยินหนาน ริมแอ่งน้ำแห่งหนึ่ง เด็กหนุ่มผมขาวยืนพิงต้นไม้อยู่ ใบหน้าของเขานิ่งสงบราวกับผืนน้ำ

ใกล้ๆตัวเขา, กรงเล็บอันแหลมคมของกริ​ฟฟินตัวใหญ่กำลังฉีกเนื้อหนังของงูเขี้ยวเงินอยู่

งูเขี้ยวเงินนี้เป็นสัตว์อสูรระดับเริ่มต้น (ขั้น 3) ที่ใกล้จะเลื่อนขั้นเป็นระดับเติบโตแล้ว

หากนักเรียนใหม่คนอื่นมาเจองูเขี้ยวเงินตัวนี้, พวกเขา​คงจะวิ่งหนีไปไกลมากเเล้ว

"เสี่ยว​ไป๋ ไม่ต้องทรมานมันแล้ว เอาแค่แกนอสูรออกมาก็พอ"

เมื่อ​ได้ยิน​คำสั่ง​ของเจ้านาย ​กริ​ฟฟินก็ร้องเสียงแหลมคม

จากนั้น​ ปากของมันที่คมเหมือนมีดก็กรีดเนื้อของงูเขี้ยวเงินแล้วดึงแกนอสูรออกมา

เมื่อสูญเสีย​เเกนผลึกเเล้ว งูเขี้ยวเงินก็นอนแน่นิ่งลงกับพื้น เเละสิ้นใจตาย

…..

ที่ลานกว้างของวิทยาลัยชิงหลง

บนหน้าจอขนาดใหญ่ที่ฉายผลการทดสอบ มีการอัปเดตคะแนนอีกครั้ง

มู่หรงหยางซั่ว: 41 ตัว

ทันใดนั้น​ หยางซู่ที่โต๊ะผู้บรรยาย​ก็ตะโกนด้วยความตื่นเต้น

"มู่หรงหยางซั่ว ล่าสัตว์อสูรไปได้ 41 ตัวเเล้ว”

“มู่หรงหยางซั่วสมกับเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของตระกูลมู่หรงจริงๆ, นอกจากนี้​สัตว์อสูรคู่หูของเขา [กริ​ฟฟินขาว]​ ยังเป็นสัตว์อสูรสายพลังจิตเพียงตัวเดียวในการทดสอบครั้งนี้ด้วย!”

กริ​ฟฟินที่อยู่ข้างกายมู่หรงหยางซั่วมีขนสีขาวทั่วทั้งตัว บนหน้าผากมีอัญมณีสีแดงประดับอยู่ ทำให้​โดยรวม​เเล้วมันดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างมาก

ในระบบสัตว์อสูร สัตว์อสูรสายพลังจิตเป็นสายพันธุ์ที่หายากที่สุดเเละกริ​ฟฟินขาวก็จัดอยู่ในสายพันธุ์นี้

ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของสัตว์​อสูร​สายพลังจิต​คือ “ทะลุมิติ”

โดยปกติแล้ว สัตว์อสูรมากมาย​จะมีเกราะและพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง

ดังนั้น​ความสามารถ “ทะลุมิติ” ของกริ​ฟฟินขาวจึงมีประโยชน์​มากมาย​

มันไม่เพียงแต่จะทำให้เคลื่อนที่ไปหาอีกฝ่ายได้ในพริบตาเท่านั้น เเต่การโจมตีใดๆก็ตามที่กริฟฟิน​ขาวปล่อยออกมาก็จะมีคุณสมบัติทะลุทะลวงด้วย

ความสามารถนี้สามารถเจาะเกราะของสัตว์อสูรได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถ​ยับยั้งความสามารถในการฟื้นฟูของสัตว์อสูรอื่นๆได้อีกด้วย

งูเขี้ยวเงินเป็นสัตว์อสูรที่มีความสามารถในการฟื้นฟูสูง แต่มันกลับถูกเล่นงาน​ด้วยความสามารถพิเศษ​ของกริ​ฟฟินขาว, จุดจบของมันจึงลงเอยอย่างน่าอนาถ

มู่หรงหยางซั่วเก็บแกนอสูรของงูเขี้ยวเงินใส่แหวนมิติ แล้วหันไปลูบหัวกริ​ฟฟินขาว

"เสี่ยว​ไป๋ ทำได้ดีมาก"

ปกติมู่หรงหยางซั่วเป็นคนพูดน้อย เเละไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เขาจะพูดก็ต่อเมื่อคุยกับสัตว์อสูรคู่หูของเขาเท่านั้น

…..

ด้านนอก, หยางซู่เหลือบมองช่องแสดงความคิดเห็น แล้วพูดด้วยความรู้สึกทึ่ง

"ดูเหมือนว่าคุณชายมู่หรงหยางซั่วของเราจะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆผู้หญิงมากเลยนะครับเนี่ย!"

สาวๆในช่องแสดงความคิดเห็นด้วยการพากันบอกว่าอยากมีลูกกับมู่หรงหยางซั่ว

"เอาล่ะ​ หลังจากที่ได้เห็นผลงานของมู่หรงหยางซั่วกันไปแล้ว เรามาดูผลงานของมู่หรงซินซินกันบ้างดีกว่าครับ!"

ทันใดนั้น​ ภาพในห้องส่งก็เปลี่ยนไป

ณ หน้าผาแห่งหนึ่ง สิงโตคลั่งกระหายเลือดได้เดินโซซัดโซเซด้วยร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล

แววตาของมัน ณ เวลานี้​ฉายแววเเห่งความหวาดกลัวออกมา​อย่างปิดไม่มิด

จากนั้น​ มันก็มีเด็กสาวผมขาวย่างสามขุมเข้าหาสิงโตคลั่งกระหายเลือดอย่างเชื่องช้า

ใบหน้าของเธอสวยหวานบริสุทธิ์, ดวงตาและคิ้วของเธอดูคล้ายกับมู่หรงหยางซั่ว เเน่นอนว่าเด็กสาวผมขาวคนนี้คือมู่หรงซินซิน น้องสาวของมู่หรงหยางซั่ว

ตอนนี้ ข้างกายมู่หรงซินซินมีค้างคาวขนาดยักษ์อยู่ตัวหนึ่ง

เมื่อค้างคา​วตัวนี้กางปีกออก ปีกของมันก็เหมือนกับตาข่ายขนาดใหญ่ที่สามารถ​สร้างแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวได้

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือร่างกายของค้างคาวตัวนี้ไม่มีเนื้อหนังเหลืออยู่เลย…มันมีเพียงแต่โครงกระดูก เเละในเบ้าตาของมันมีเปลวไฟสีเขียวลุกโชนอยู่

ผู้บรรยาย​หยางซู่ใช้เสียงอันดังกังวานแนะนำที่มาของสัตว์อสูรตัวนี้ในห้องถ่ายทอดสดอย่าง​รวดเร็ว​

"ท่านผู้ชมทุกท่านครับ นี่คือสัตว์อสูรคู่หูของมู่หรงซินซิน ค้างคาวปีกกระดูกสายเลือดระดับตำนาน! และยังเป็นสัตว์อสูรสายวิญญาณ เพียงตัวเดียวในการทดสอบครั้งนี้ด้วยครับ​!"

สัตว์อสูรสายวิญญาณนั้นหายากยิ่งกว่าสัตว์อสูรสายพลังจิตเสียอีก

เเละข้อได้เปรียบของสายวิญญาณ​ที่เหนือกว่าสัตว์อสูรสายพันธุ์อื่นๆคือมันมีพรสวรรค์ในการต้านทานการโจมตีทางกายภาพ

ต่อให้ร่างกายของค้างคาวปีกกระดูกถูกสัตว์อสูรอื่นๆฉีกออกเป็นชิ้นๆ หรือแม้แต่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด มันก็สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ด้วยพรสวรรค์นี้ มันจึงสามารถปราบสัตว์อสูรที่เน้นการโจมตีทางกายภาพได้ทั้งหมด

"สิงโตคลั่งกระหายเลือดเป็นสัตว์อสูรระดับเริ่มต้น (ขั้น 2) มีสายเลือดระดับมหากาพย์ที่มีเกราะหนามาก, นอกจากนี้​ยังมีการโจมตีทางกายภาพที่มีพลังโจมตีคริติคอล 5 เท่า ถือว่ามีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งมากทีเดียว”

“แต่น่าเสียดายที่มันต้องมาเจอกับค้างคาวปีกกระดูก วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายของมันแล้วล่ะครับ”

“เเละถ้าหากมู่หรงซินซินสามารถจัดการสิงโตคลั่งกระหายเลือดได้ จำนวนสัตว์อสูรที่เธอล่าได้ทั้งหมดก็จะเพิ่มเป็น 51 ตัวครับ!”

ตอนนี้ บนกระดานคะแนนที่ฉายบนหน้าจอขนาดใหญ่มู่หรงซินซินอยู่อันดับหนึ่ง เเละเธอล่าสัตว์อสูรไปแล้ว 50 ตัว

เมื่อเห็น​เเบบนี้, ในห้องถ่ายทอดสดก็มีคนแสดงความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก

[คุณหนูมู่หรงคือเทพธิดาของฉัน!]

[พรสวรรค์แบบนี้ เธอแข็งแกร่งกว่ามู่หรงหยางซั่ว พี่ชายของเธออีกนะ!]

[ใครที่แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ คงไม่กล้าสู้ภรรยา​อย่าง​เเน่นอน!]

ตอนนี้​ มู่หรงซินซินดูแข็งแกร่งมาก

พลังของเธอบดบังรัศมีของมู่หรงหยางซั่ว พี่ชายของเธอไปเลย

แต่อันที่จริง​แล้ว มู่หรงหยางซั่วยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด

เขาเป็นคนไม่ชอบโอ้อวด สำหรับผลการทดสอบ…แค่ดีพอประมาณก็พอแล้ว

ในการทดสอบนี้ นักเรียนใหม่ทุกคนที่เข้าร่วมการทดสอบจะต้องสวมนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์

บนหน้าปัดนาฬิกาจะแสดงข้อมูลคะแนนแบบเรียลไทม์ เเละเมื่อเห็นว่าน้องสาวอยู่อันดับหนึ่ง ใบหน้าที่เย็นชาของมู่หรงหยางซั่วก็เผยรอยยิ้มออกมา

"ดูท่าแล้ว การทดสอบครั้งนี้น้องสาวน่าจะได้ที่หนึ่ง ในฐานะพี่ชาย ฉันก็จะไม่ไปแย่งกับน้องหรอก"

เห็นได้ชัดว่า เด็กหนุ่มผมขาวที่ดูเย็นชาและไร้หัวใจคนนี้ จริงๆแล้วเป็นคนอบอุ่นและรักน้องสาวมาก

ทันใดนั้น สีหน้าของมู่หรงหยางซั่วก็เปลี่ยนไป

มุมปากของเขาหดลง เพราะบนหน้าปัดนาฬิกาแสดงให้เห็นว่า อันดับของมู่หรงซินซินตกลงมาอยู่อันดับที่สองเรียบร้อย​แล้ว​

"มีคนแซงหน้าน้องสาวฉันงั้นเหรอ?"

"ตอนนี้ ที่หนึ่งคือใคร..."

"หืม….เซียวซิงหยู"

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่หรงหยางซั่วรู้จัก​ชื่อนี้

……..

ย้อนกลับไปเมื่อสักครู่

ณ หน้าผาแห่งนั้น ตอนที่สิงโตคลั่งกระหายเลือดที่บาดเจ็บสาหัสกำลังจะถูกมู่หรงซินซินต้อนจนมุม เเละค้างคาวปีกกระดูกกางปีกเพื่อเตรียมปล่อยท่าไม้ตาย

เเต่ ณ เวลานั้น มันก็มีเงาของใครบางคนปรากฏขึ้น

"เฮยเฟิง จัดการ!"

บู๊ววววว~

เสียงหอนของหมาป่าดังกึกก้องไปทั่วหน้าผา

ฉัวะ!

เเละในทันใดนั้น บนร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลของสิงโตคลั่งกระหายเลือดก็มีรอยกรงเล็บหมาป่าที่ลุกเป็นไฟปรากฏขึ้น

พรู่ดดดดด!!!

เลือดพุ่งออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุ

สิงโตคลั่งกระหายเลือดล้มลงกับพื้น เเละนอนตายตาไม่หลับ

ตอนนี้​ เซียวซิงหยูที่ขี่หมาป่าวายุนรกได้ปรากฏตัวขึ้นที่ขอบหน้าผา

มู่หรงซินซินเงยหน้าขึ้นมอง เเละได้สบตากับเซียวซิงหยูเป็นครั้งแรก

ที่โต๊ะผู้บรรยาย หยางซู่ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับตะโกนเสียงดังผ่านไมโครโฟน

"ฉากนี้ช่างน่าทึ่งจริงๆ, ม้ามืดประจำรุ่นอย่างเซียวซิงหยู ได้ฉกสัตว์อสูรที่มู่หรงซินซินกำลังจะจัดการไปครับ!”

“เเละผมขอเเจ้งให้ทราบ ตอนนี้เซียวซิงหยูได้ขึ้นเป็นที่หนึ่งแล้ว!”

ณ เวลานี้​บนกระดานคะแนนอิเล็กทรอนิกส์

ที่หนึ่ง: เซียวซิงหยู ล่าสัตว์อสูรไปแล้ว 51 ตัว

ที่สอง: มู่หรงซินซิน ล่าสัตว์อสูรไปแล้ว 50 ตัว

ที่สาม: มู่หรงหยางซั่ว ล่าสัตว์อสูรไปแล้ว 41 ตัว

เซียวซิงหยูขึ้นเป็นที่หนึ่ง ด้วยการฉกสัตว์อสูรจากมู่หรงซินซินไปเพียงตัวเดียว

ผู้ชมในช่องแสดงความคิดเห็นต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างเมามัน​

[ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจจริงๆ!]

[สิงโตคลั่งกระหายเลือดมันใกล้ตายอยู่แล้ว เซียวซิงหยูแค่เข้าไปซ้ำแค่นั้นเอง]

[มู่หรงซินซินระวังหน้าระวังหลังหน่อย, สุดท้ายเเล้วจะไม่พ้นเเพ้ให้เซียวซิงหยูคนนี้นะ!]

[ว่าเเต่ทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นอัจฉริยะที่น่าทึ่ง​มาก​นะ, พวกเขา​จะตีกันไหมเนี่ย?]

…….

ณ หน้าผาแห่งนั้น บรรยากาศเริ่มตึงเครียดอย่างถึงที่สุด​

เซียวซิงหยูยิ้มอย่างมีเลศนัยเเล้วเอ่ยออกมา

"คุณหนูมู่หรง ขอบคุณสำหรับสัตว์อสูรตัวนี้นะ"

สีหน้าของมู่หรงซินซินดูเย็นชาและแข็งกระด้างเหมือนกับพี่ชายของเธอ

เธอจ้องมองเซียวซิงหยูโดยไม่พูดตอบกลับอะไร

เเต่ในตอนนั้นเอง มันก็มีเสียงบางอย่างดังมาจากพุ่มไม้ จากนั้น​มดปีศาจสามตาตัวหนึ่งก็ได้คลานออกมาจากพุ่มนั้น

เมื่อ​เห็น​เเบบนี้, หยางซู่ก็รีบบรรยายด้วยความตื่นเต้น

"เอาล่ะครับ เป็นเรื่องเเล้ว…"

"เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินกำลังสบตากัน"

"จากที่ผมสังเกต​แววตาที่ปะทะกัน, ดูเหมือนว่าทั้งคู่ต้องการจะจัดการมดปีศาจสามตาตัวนี้ให้ได้นะ!"

……………………

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด