ตอนที่20 กลุ่มนักบุญแห่งสำนักฉือหางจิ้งไจ้! ทุกคนคุกเข่าลง!
ในตอนที่ต้วนมู่หลิงยังไม่เกิดการรู้แจ้ง นางยังสามารถพูดได้ แต่พอคิดออกว่าทำไมถึงมีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นตรงหน้า นางก็รีบจดจ่อจิตใจไปยังพลังอันยิ่งใหญ่นั้นทันที
จากนั้น นางก็ตกอยู่ในสภาวะรู้แจ้งเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
ความวุ่นวายที่กลุ่มนักบุญหญิงแห่งสำนักฉือหางจิ้งไจ้สร้างขึ้นนั้นไม่น้อยเลย ตอนนี้พวกนางยืนแข็งทื่อไม่ขยับ ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างก็สงสัย
พวกเขามองกลุ่มหญิงสาวที่ยืนนิ่ง หลับตาทำท่าเหมือนซ่อนความลับบางอย่างไว้
มีคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก เมื่อเห็นพวกนางในสภาพเช่นนี้ก็อยากเข้าไปถามว่ากำลังทำอะไรกันแน่
แต่พอยังไม่ทันเข้าไปใกล้ ก็ได้ยินเสียงเหมือนคมมีดนับไม่ถ้วนตัดผ่านอากาศดังสนั่นขึ้นรอบตัว
ฟู่ ฟู่ ฟู่!
เสียงต่อเนื่องเหล่านั้นทำให้เขาตกใจจนก้าวถอยหลังแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เกือบล้มลงก้นจ้ำเบ้าไปเสียแล้ว
"อะไรเนี่ย?"
ด้วยความตกใจ เขามองซ้ายขวา แต่กลับไม่เห็นอะไรเลย
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้นเหมือนกับภาพลวงตาที่เกิดขึ้นจากความคิดบ้าๆ ของตัวเอง
เขารู้สึกเหมือนโดนแกล้ง จึงลุกขึ้นด้วยความโกรธ ตั้งใจจะด่าพวกนางเสียหน่อย
แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็รู้สึกถึงลมที่พัดผ่านเข้ามา ให้ความรู้สึกเย็นสบายอย่างประหลาด
"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?"
เขาสงสัยจึงก้มลงมอง
โอ้โห!
เสื้อผ้าของเขารอบตัวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กลายเป็นชุดขอทานไปเสียแล้ว
มีรอยขาดแหว่งเป็นทาง เหมือนถูกคนฟันขาดออก
นี่มันอะไรกัน!
เขามองดูสภาพตัวเองอย่างงุนงง แต่แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าถูกเหล่าจอมยุทธ์หญิงข้างหน้านั่นสั่งสอนเข้าให้
พวกนางเป็นยอดฝีมือในยุทธภพ สามารถฟันจนชุดของเขาขาดเป็นริ้วไปทั้งตัว โดยที่เขาไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ!
เมื่อรู้เช่นนี้ เขาก็เข้าใจถึงคำว่า "ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมว" เขาไม่กล้าสืบสาวต่ออีก
ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย จนสุดท้ายต้องก้มหน้าวิ่งหนีไป
คนที่อยู่รอบๆ เมื่อเห็นเขาปิดหน้าแล้ววิ่งหนี ต่างก็หวาดกลัวอยู่ในใจ
แม้ว่าจะสงสัยว่าเหล่านักบุญแห่งสำนักฉือหางจิ้งไจ้กำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้
ความจริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับชายคนนั้นไม่ใช่การลงมือของกลุ่มนักบุญหญิง
พวกนางยังคงจดจ่ออยู่กับการสัมผัสถึงเจตนากระบี่ของโจวหยวนที่แผ่ออกมา
การได้รับพลังจากเนื้อหัวหมูก่อนหน้านี้ก็ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาแบบนี้ขึ้นด้วยเช่นกัน
เพี่ยงแต่ซือเฟยเสวียนที่สั่งสมพลังมาจนถึงจุดและสัมผัสได้ทันทีหลังจากทานเข้าไป
ส่วนฝานชิงฮุ่ย, เหยียนจิ้งอัน, ต้วนมู่หลิง, ฉินเมิ่งเหยา และจิ้นปิงอวิ๋น ต่างก็มีพลังที่ซ่อนอยู่
ตอนนี้
แม้ว่าพวกนางจะเคยฝึกฝนกันมาอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่อาจก้าวข้ามสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงได้
ทว่าตอนนี้
หลังจากพวกนางกลับมาอย่างโกรธแค้นและตั้งใจจะสร้างปัญหากับโจวหยวน
โจวหยวนถึงแม้จะมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่เพื่อความมั่นใจ เขาจึงลองเสี่ยงโชค และครั้งนี้โชคดีมาก เขาได้รวมเข้ากับ “การ์ดตัวละครหงเหม่า”
จากนั้น โจวหยวนก็บรรลุสู่ขั้นเทพเซียนแห่งพิภพ สัมผัสพลังกระบี่ลึกล้ำทั่วร่าง เจตนากระบี่แผ่กระจายไปทั่วสี่ทิศ
กลุ่มของฝานชิงฮุ่ยที่ได้รับพลังจากผลลัพธ์ของหัวหมูมาก่อนหน้านี้ก็ได้รับโอกาสตามไปด้วย ทำให้พวกนางเข้าสู่สภาวะรู้แจ้งทันที
การรู้แจ้งในครั้งนี้แตกต่างจากการที่ซือเฟยเสวียนสัมผัสพลังด้วยตัวเองก่อนหน้านี้
เพราะในครั้งนี้เกิดจากพลังกระบี่เชื่อมโยงพวกนาง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ขณะนี้ทั่วทั้งร่างของฉินเมิ่งเหยาและกลุ่มของนาง เต็มไปด้วยเจตนากระบี่ที่คุกกรุ่น
ในฐานะยอดฝีมือที่มีพลังภายในลึกล้ำ เมื่อจิตวิญญาณตื่นขึ้น พลังอันยิ่งใหญ่ก็เผยตัว
ดังนั้น จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงภายในร่างพวกนางเท่านั้น แต่ยังเกิดการขยายพลังที่คล้ายกับ “อาณาเขต” ขึ้นรอบๆ
ในยามสงบ คนอื่นอาจมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงรอบๆ พวกนาง
แต่เมื่อผู้ชมคนนั้นพยายามก้าวล้ำเข้าไป การตอบสนองตามธรรมชาติของ “อาณาเขต” ก็กระตุ้นขึ้นทันที
เจตนากระบี่พุ่งพล่านขึ้นมาในพริบตา
การที่เขาถูกตัดเสื้อผ้าให้กลายเป็นชุดแปลกๆ นั่นก็เพราะเขาไหวตัวทันและหนีออกมาอย่างรวดเร็ว
ถ้าช้าไปอีกนิด คงไม่ใช่แค่เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเท่านั้น
ทั้งตัวเขา แขนขาจะครบถ้วนหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชคแล้ว
ไม่ต้องพูดอะไรมาก
ระหว่างที่ฝานชิงฮุ่ยและพรรคพวกอยู่ในภาวะรู้แจ้ง พวกนางสัมผัสได้ว่าระดับกระบี่ของตนกำลังพุ่งทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ขั้นกระบี่ที่เคยได้แค่มองอยู่ไกลๆ ราวกับเงาจันทร์ในน้ำหรือดอกไม้ในกระจก แต่ตอนนี้ประตูสู่ภาวะจิตกระบี่ใสกระจ่างกลับเปิดกว้างให้พวกนาง
ความปีติยินดีไม่อาจระงับได้ ท่วมท้นอยู่ในใจของพวกนางแต่ละคน
จนกระทั่งพวกนางรู้สึกตัวและตื่นขึ้นจากภาวะรู้แจ้ง แต่จิตใจยังคงไม่สามารถละออกจากความสุขนั้นได้ง่ายๆ
เวลาผ่านไปนาน จู่ๆ เสียงของต้วนมู่หลิงก็ทำลายความเงียบขึ้นมา
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
เสียงที่ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้สายตาของคนอื่นๆ หันมามองนาง
ต้วนมู่หลิงเผชิญสายตาของศิษย์พี่น้อง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า
“ข้ารู้แล้วว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้!”
นางย้ำด้วยความหนักแน่น
“ที่ทำให้ซือเฟยเสวียนรู้แจ้งก่อน แล้วพวกเราได้ยกระดับขึ้นพร้อมกัน สิ่งที่ไม่น่าเชื่อพวกนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะหัวหมูนั้น!”
“หัวหมูนั้นไม่เพียงแต่ไม่มีปัญหา แต่มันยังเป็นของวิเศษที่ช่วยให้พวกเรารู้แจ้งได้!”
เมื่อพูดเช่นนี้ ทุกคนก็รู้สึกตัวทันที
ใช่แล้ว
หากถามว่าอะไรคือจุดร่วมที่ทำให้พวกนางได้โอกาสอันล้ำค่านี้
ก็ต้องเป็นหัวหมูที่เพิ่งกินในโรงเตี๊ยมแน่นอน
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทุกอย่างก็เริ่มสอดคล้องกันเป็นอย่างดี
ซือเฟยเสวียนรู้แจ้งก่อน เพราะนางกินเยอะกว่าใคร
และด้วยความสามารถและโชคของนางเองที่สะสมมาถึงจุดสำคัญพอดี
หลังจากที่ย่อยเนื้อหัวหมูแล้ว พวกเขาก็สามารถบรรลุได้ทันที
ส่วนพวกเราเองแม้จะได้รับผลดีบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นบรรลุได้สำเร็จ
คาดว่าภายหลังนั้นเพราะผู้อาวุโสในโรงเตี๊ยมคงทนไม่ไหว จึงได้ปล่อยเจตนากระบี่ออกมา เพื่อชี้นำพวกเราให้ได้เห็นถึงเส้นทางกระบี่อันไร้เทียมทาน!!
เมื่อเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ต้วนมู่หลิงจะตื่นเต้น คนอื่นๆ ก็รู้สึกถึงความรู้สึกที่คล้ายกัน
ในเวลานี้ พวกนางไม่สนใจเรื่องท้องเสียอีกต่อไปแล้ว
ตามตำนาน การชำระร่างกายมักจะต้องมีสิ่งปฏิกูลถูกขับออกมา เหมือนพวกนางที่เพิ่งจะปั่นป่วนท้องไส้ไปเมื่อครู่ ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่คล้ายกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ไม่ใช่ความจริง
แค่ท้องเสียครั้งเดียว แต่ได้รับโอกาสบรรลุ นี่ถ้าเรื่องนี้ถูกเล่าต่อออกไป ผู้ฝึกวรยุทย์ทั่วหล้าคงต้องแย่งกันจนคลั่ง!
ด้วยความปลื้มปีติ พวกนางยังได้ยืนยันข้อสงสัยแรกเริ่มของพวกนางด้วย:
“เทพเซียนแห่งพิภพ!”
“ผู้อาวุโสในโรงเตี๊ยม ท่านต้องเป็นเทพเซียนแห่งพิภพจริงๆ!”
เรียกได้ว่าด้วยการคิดไปเอง พวกนางก็ได้ข้อสรุป พร้อมทั้งความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
ผู้อาวุโสได้มอบโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา พวกเรากลับไม่รู้จักบุญคุณ ยังกล้าคิดไปสร้างปัญหากับท่าน?
ช่างไม่ควรนัก
ทั้งหวาดกลั
ว ทั้งโล่งใจ
ครั้งนี้พวกนางไม่สนสิ่งอื่นใดอีกต่อไป คุกเข่าลงทันที
ตามความหมายตรงตัว—
ฝานชิงฮุ่ย ฉินเมิ่งเหยา และเหล่านักบุญจากสำนักฉือหาง ต่างคุกเข่าลงกับพื้น…