ตอนที่ 676 ซู หนิงซวง : เย่เฉิน ไม่มีเงิน ฉันจะสนับสนุนเขาเอง
ชายหนุ่มร่างสูงยังคงพยายามเกลี้ยกล่อม พร้อมพูดอย่างมั่นใจว่า :
“ดอกไม้งาม ซู โดยทั่วไปแล้วคนที่ล้มละลายมักจะมีหนี้สินติดตัว เย่เฉิน ต้องมีหนี้ก้อนโตแน่ๆ”
“ถ้าคุณจะอยู่กับเขา อนาคตของคุณต้องลำบากแน่นอน”
“คุณป่วยหรือเปล่า!”
ซู หนิงซวง ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เธอยืนขึ้นโต้กลับชายหนุ่มร่างสูงทันที
“ฉันอยู่กับ เย่เฉิน ไม่เคยสนว่าเขาจะมีเงินหรือไม่”
“เย่เฉิน มีเงิน ฉันก็อยู่กับเขา”
“เย่เฉิน ไม่มีเงิน ฉันก็จะอยู่กับเขาไปทั้งชีวิต!”
“หาก เย่เฉิน ไม่มีเงิน ฉันจะสนับสนุนเขาเอง!!!”
ซู หนิงซวง พูดอย่างเด็ดขาด
ความรักของเธอ กับเย่เฉิน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องเงิน
หลังจากพูดจบ ซู หนิงซวง ก็หยิบบัตรธนาคารของตัวเองออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ เย่เฉิน
“เย่เฉิน นี่คือเงินที่ฉันเก็บสะสมมาตลอดหลายปี ทั้งเงินค่าขนม และเงินอั่งเปา มันอาจจะไม่มาก ประมาณ 3 ล้านหยวนเท่านั้น คุณเอาไปเถอะ”
ซู หนิงซวง ยัดบัตรธนาคารใส่มือ เย่เฉิน ไปอย่างแน่วแน่
“ฉันรู้ว่าเงินนี้อาจไม่พอ ของขวัญทั้งหมดที่คุณเคยให้ฉัน ฉันเก็บรักษาไว้อย่างดี เราจะเอาไปขาย มันต้องได้เงินก้อนใหญ่มาอีกแน่ๆ”
“ถ้ายังไม่พอจริงๆ ฉันจะไปขอเงินพ่อฉัน หรือคุณปู่ฉัน”
ในชั่วพริบตา ซู หนิงซวง คิดแผนทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
“ถ้าพวกท่านไม่ช่วย ฉันจะขู่ตัดความสัมพันธ์กับครอบครัว ถ้าพวกเขายังไม่ช่วยเราอีกนะ”
“เรายังมีทั้งชีวิต เราจะค่อยๆ ช่วยกันใช้หนี้”
“ไม่ว่าจะอย่างไร เราต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต”
ซู หนิงซวง พูดอย่างหนักแน่น
เย่เฉิน ตั้งใจจะอธิบายว่าเขาไม่ได้ล้มละลาย ไม่รู้ว่าข่าวลือที่ว่านี้มันมาจากไหน
แต่แล้วเขายังไม่ทันพูดอะไรเลย หนิงซวง ก็แสดงความรู้สึกทั้งหมดออกมาแล้ว
คำพูดของเธอทำให้ เย่เฉิน ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
“หนิงซวง เก็บบัตรนี้ไว้เถอะ”
เย่เฉิน คืนบัตรธนาคารให้เธอ เพราะเขาไม่ได้ล้มละลาย
และถึงแม้จะล้มละลายจริงๆ มีหนี้สิน เขาก็ไม่มีวันปล่อยให้ หนิงซวง ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากแน่..
แม้ในอนาคตหากมีวิกฤตเศรษฐกิจ หรือเหตุไม่คาดฝันจนเขาล้มละลาย ไม่มีทรัพย์สินใดเหลืออยู่ แต่เขายังมีความสามารถระดับสูงที่ได้มาจากเกม
เพียงแค่ [ทักษะการออกแบบสถาปัตยกรรมระดับสูง] ที่เพิ่งได้รับมาไม่นาน เย่เฉิน ก็สามารถสร้างรายได้มหาศาลภายในไม่กี่ปี
และถ้าเพิ่มความสามารถ และทักษะอื่นๆ เข้าไปด้วย เขามั่นใจว่าเขาจะกลายเป็นเศรษฐีพันล้านได้อย่างแน่นอน
ความสามารถเหล่านี้เป็นสิ่งที่ เย่เฉิน มีติดตัวไปตลอดชีวิต และไม่มีใครเอาไปจากเขาได้
เมื่อเห็น เย่เฉิน คืนบัตรธนาคารมา ซู หนิงซวง นิ่งไปครู่หนึ่ง
เธอคิดว่า เย่เฉิน คงจะรู้สึกอายที่จะรับบัตรไปเพราะศักดิ์ศรีของผู้ชาย ดังนั้นเธอจึงรับบัตรคืนมาแต่โดยดี
แต่พอไม่มีใครอยู่ เธอจะแอบยัดบัตรใส่กระเป๋าเสื้อของ เย่เฉิน อย่างแน่นอน
“หนิงซวง ขึ้นรถเถอะ เราไปขี่จักรยานต่อกัน”
เย่เฉิน ไม่อยากเสียเวลากับชายหนุ่มร่างสูงที่มาทำลายบรรยากาศดีๆ ของเขา กับหนิงซวง
“ค่ะ”
ซู หนิงซวง พยักหน้ารับ และขึ้นไปนั่งบนเบาะหลัง โอบเอวของ เย่เฉิน อีกครั้ง
เย่เฉิน ขี่จักรยาน ‘สตาร์ไบค์’ คันหรูออกไปอย่างช้าๆ
คำพูดของ ซู หนิงซวง ที่หนักแน่น และมุ่งมั่นนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่มร่างสูง ใบหน้าของเขาเองก็พลันรู้สึกร้อนผ่าว
คำตอบนี้.. ของ ซู หนิงซวง เป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดเลย
เย่เฉิน ล้มละลาย แต่ ซู หนิงซวง ไม่เพียงไม่รังเกียจ แต่เธอยังนำเงินทั้งหมดของเธอออกมาเพื่อสนับสนุนเขาอีกด้วย
เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อ เย่เฉิน แม้จะต้องแตกหักกับครอบครัว
ทำไมถึงเป็นแบบนี้..ไปได้?
คำพูดที่ว่า ‘ยอมร้องไห้อยู่ในรถ BMW, ดีกว่าหัวเราะอยู่บนจักรยาน’ ไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ? (คำพูดนี้เปรียบเปรยถึง ผู้หญิงบูชาเงิน)
ดอกไม้งาม ซู ยอมยิ้มหัวเราะบนจักรยานของ เย่เฉิน แต่กลับไม่ยอมขึ้นรถ Lamborghini ของเขา
เมื่อ เย่เฉิน มีเงิน เขาก็อิจฉา ..เย่เฉิน
ตอนนี้ เย่เฉิน ล้มละลายแล้ว เขาก็ยังอิจฉา เย่เฉิน ..อยู่ดี
เย่เฉิน ช่างเก่งจริงๆ
ชายหนุ่มร่างสูงถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความอิจฉา
อีกด้านหนึ่ง เย่เฉิน ปั่นจักรยานพา ซู หนิงซวง มาถึงศูนย์การค้าเหิงหลง พลาซ่า ในที่สุด
เย่เฉิน หลังจากซื้อกิจการ เหิงหลง พลาซ่า เขาเองยังไม่เคยมีโอกาสแวะมาเลย
พอมีเวลาว่างครั้งนี้ เลยพา ซู หนิงซวง มาเดินเล่นที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ เพื่อซื้อของนิดหน่อย แล้วเดี๋ยวค่อยไปหาอะไรทานกัน
เย่เฉิน และซู หนิงซวง เดินเข้าไปในเหิงหลง พลาซ่า
ผ่านไปยี่สิบนาที เฉิน ลี่เฟย ที่ตั้งใจมาเอาคืนแทน ตู้ เกาจั๋ว ก็มาถึงพร้อมกับลูกน้องสองสามคนของเขา
“แน่ใจนะว่า เย่เฉิน เข้าไปแล้ว?”
เฉิน ลี่เฟย ถามลูกน้อง
“แน่ใจครับ”
ลูกน้องพยักหน้า
“พี่เฉิน ดูนั่นสิ จักรยานเก่าๆ คันนั้นน่าจะเป็นของ เย่เฉิน”
ลูกน้องชี้ไปที่จักรยาน ‘สตาร์ไบค์’ ซึ่งจอดอยู่ในระยะไกลออกไป
เฉิน ลี่เฟย มองตามที่ลูกน้องชี้ไป และเมื่อเห็นจักรยานคันนั้นเขาก็ยกยิ้มกว้างขึ้นบนใบหน้า
“ดูเหมือนว่า เย่เฉิน คงล้มละลายจริงๆ แล้วล่ะ”
เฉิน ลี่เฟย ยิ่งมั่นใจว่า เย่เฉิน ล้มละลายจริงๆ
เย่เฉิน จนถึงขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงซูเปอร์คาร์ แม้แต่รถธรรมดาอย่าง Audi หรือ BMW เขาก็ยังไม่มีปัญญาขับ ต้องหันมาขี่จักรยานแทน
ฮ่าฮ่าๆๆ มันน่าสมเพชขนาดนี้ จะไม่ล้มละลายได้อย่างไร?
“เย่เฉิน ไม่มีเงินแล้ว เขามาที่ห้างหรูๆ อย่าง เหิงหลง พลาซ่า ทำไมกัน?”
เฉิน ลี่เฟย พูดอย่างงุนงง
“พี่เฉิน จะไปสนใจเขาทำไม”
“จริงครับ พี่เฉิน ไอ้หมอนี่ไม่มีเงินแล้วยังกล้ามาเดินที่นี่ เราไปดูมันดิ้นกันเถอะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉิน ลี่เฟย ก็พยักหน้า
“ไป.. ไปดูมันแสดงตลกกันเถอะ!”
เฉิน ลี่เฟย สะบัดมือนำพาลูกน้องเดินตรงเข้าไปในศูนย์การค้า เตรียมตัวดูเรื่องสนุก
พวกเขาแยกย้ายกันเดินหา เย่เฉิน จนทั่วห้าง และสุดท้ายก็เจอเขาเข้าที่แถวๆ เคาน์เตอร์ Chanel
“Hermès เนี่ยนะ? คนล้มละลายยังกล้าเข้าร้าน Hermès อีกเหรอ?”
เฉิน ลี่เฟย ยิ้มหัวเราะ
Hermès เป็นแบรนด์ในดวงใจของคุณนายไฮโซ และผู้หญิงบ้านตระกูลใหญ่ๆ แค่กระเป๋าใบเดียวราคาก็แตะเลขหกหลักแล้ว
เย่เฉิน ที่ล้มละลายแล้วยังกล้าเข้ามาซื้อของในร้าน Hermès แบบนี้ไม่เรียกว่า ‘หาเรื่องใส่ตัว’ แล้วจะให้เรียกว่าอะไร?
“ไป ดูมันสร้างเรื่องกันเถอะ”
เฉิน ลี่เฟย และลูกน้องทำทีเป็นลูกค้าแล้วเดินเข้าในร้าน Hermès
เนื่องจากตอนนี้ ซู หนิงซวง ไปซื้อเครื่องดื่ม เย่เฉิน จึงกำลังเลือกของอยู่คนเดียว
“กระเป๋าใบนี้”
“และกระเป๋าใบนี้”
“แล้วก็อันนี้...”
พนักงานขายเดินตาม เย่เฉิน ไป พร้อมจดรายการของที่ เย่เฉิน เลือกไว้
สุดท้าย เย่เฉิน เลือกกระเป๋าหลายใบที่ตั้งใจจะซื้อให้ ซู หนิงซวง และเลือกเสื้อผ้าอีกหลายชุดสำหรับตัวเอง
“ทั้งหมดนี้ เอาไปใส่ถุงให้ผมด้วย”
หลังจากเรื่องเสร็จ เย่เฉิน หันไปพูดกับพนักงานขาย
“ได้เลยค่ะ คุณลูกค้า”
พนักงานขายพยักหน้ารับ และรีบไปจัดการตามคำสั่งทันที
เฉิน ลี่เฟย และลูกน้องมอง เย่เฉิน ที่ทำตัวเหมือนเศรษฐีผู้มีเงินไม่อั้น ถึงกับหลุดขำออกมา
“เย่เฉิน คงโดนประตูหนีบหัวมาแล้วมั้ง ของที่เขาเลือกทั้งหมดนี่รวมกันก็สองถึงสามล้านหยวนแล้ว เขาล้มละลายแล้วยังจะเอาอะไรที่ไหนไปจ่าย?”
เฉิน ลี่เฟย กระซิบกับลูกน้อง
“รอดูเถอะ ตอนมันเลือกเสร็จแล้วไม่มีเงินจ่าย จะทำหน้ายังไง?”
เฉิน ลี่เฟย ตั้งหน้าตั้งตารอดู
เขาอยากเห็น เย่เฉิน ที่เคยใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยโดยไม่สนอะไร ต้องเจอเหตุการณ์ที่ไม่มีเงินจ่าย ดูสิว่าเขาจะทำหน้าอย่างไรในตอนนั้น
อีกสักครู่ ท่าทางที่กระอักกระอ่วนเคอะเขินของ เย่เฉิน ต้องน่าดูมากแน่ๆ!!!
ภายใต้สายตาที่จับจ้องของ เฉิน ลี่เฟย และลูกน้อง เย่เฉิน เดินไปที่แคชเชียร์เพื่อชำระเงิน...