ตอนที่ 675 ข่าวนี้ช่างน่าตกใจ

ซู หนิงซวง เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง และขึ้นนั่งบนที่นั่งด้านหลังของ เย่เฉิน จากนั้นเธอก็โบกมือลา จาง เชี่ยนเชี่ยน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ขี่จักรยานออกไป

เมื่อมองตามหลังทั้งคู่ จาง เชี่ยนเชี่ยน ก็ถอนหายใจ ทำไมคนเราถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้นะ?

เธอทำงานทั้งชีวิต อาจจะยังซื้อจักรยานของเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เฮ้อออ..

เย่เฉิน พา ซู หนิงซวง ปั่นจักรยานไปรอบๆ ในรั้วมหาวิทยาลัย ขณะที่ผ่านใกล้ที่ลานจอดรถ จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งจำ เย่เฉิน ได้

แต่พอมองเห็น เย่เฉิน ที่ขี่จักรยานผ่านหน้าไป เขาก็ถึงกับตะลึง

“เย่เฉิน ประธานสโมสรซูเปอร์คาร์ ‘YSWD’?”

ชายหนุ่มคนนั้นพึมพำด้วยความประหลาดใจ

“ไม่ใช่สิ ทำไมเขาถึงขี่จักรยานล่ะ?”

เมื่อมองดู เย่เฉิน ที่ขี่จักรยานจากไป ชายหนุ่มคนนั้นก็ถึงกับงงงวยแล้ว

เขารู้ว่า เย่เฉิน เป็นประธานสโมสรซูเปอร์คาร์ ‘YSWD’ และได้ยินมาว่าเพื่อดึงดูดคนเข้าร่วมสโมสร เย่เฉิน ถึงกับแจก Bugatti หลายคันให้เป็นรางวัล

คนที่มีความมั่งคั่งเหนือชั้นแบบนี้ทำไมถึงมาขี่จักรยานได้กันล่ะ?

ในแวดวงของเขา ไม่มีใครขี่จักรยานเลย นั่นเพราะมันเสียศักดิ์ศรีมาก

แต่ เย่เฉิน ที่รวยกว่าพวกเขา ทำไมถึงกลับขี่จักรยาน?

ชายหนุ่มคนนั้นครุ่นคิดอยู่นาน จนในที่สุดก็คิดอะไรออก

“อย่าบอกนะว่า เย่เฉิน ล้มละลายแล้ว?!”

เขาเกิดสมมติฐานที่กล้าหาญขึ้นมาในใจ

ถ้า เย่เฉิน ล้มละลายแล้วจริงๆ เขาถึงจะต้องขี่จักรยาน

ตอนเด็กๆ พ่อของเขาเคยมีเพื่อนคนหนึ่งที่ล้มละลาย หลังจากนั้นก็เขาขายรถหรูทิ้งแล้วหันไปขี่จักรยานทำงาน

เรื่องนี้ทำให้เขาประทับใจไม่รู้ลืม..

ในวัยนี้ของพวกเขา ในแวดวงของพวกเขาไม่มีคุณชายคนไหนขี่จักรยานเลย

ถ้าพวกเขายังไม่ขี่จักรยานเลย เย่เฉิน ที่เป็นมหาเศรษฐีก็ยิ่งไม่ขี่จักรยานแน่นอน

การขี่จักรยานมันเหนื่อย แถมยังช้า ใครล่ะจะไปอยากขี่?

ดังนั้น การที่ เย่เฉิน ล้มละลายจึงเป็นคำตอบที่สมเหตุสมผลที่สุด

ประธานสโมสรซูเปอร์คาร์ ‘YSWD’ ที่เป็นคนใหญ่คนโตอย่าง เย่เฉิน ล้มละลายแล้ว

นี่ถือเป็นข่าวใหญ่มากแน่นอน

และเขาอาจเป็นคนแรกที่รู้ข่าวนี้

เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มคนนั้นก็รีบกระจายข่าวล้มละลายของ เย่เฉิน ลงไปในหลายกลุ่ม

หนึ่งในกลุ่มที่มีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วที่สุด ก็มีคนมาตอบกลับทันที

กลุ่มนั้นเป็นกลุ่มของชายหนุ่มในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ที่สนิทกัน

ตู้ เกาจั๋ว ผู้ที่เคยจัดงานสารภาพรัก ซู หนิงซวง อย่างใหญ่โต ก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย

“ว่าอะไรนะ เย่เฉิน ล้มละลายแล้ว?!”

“โอ้โห ข่าวนี้ช่างน่าตกใจจริงๆ”

“แล้ว เหล่าหลิว นายไปรู้มาได้ยังไงล่ะ? ฉันไม่เคยได้ยินข่าวมาก่อนเลยนะ”

พอข่าวล้มละลายของ เย่เฉิน ถูกโพสต์ลงไป กลุ่มที่เงียบสงบอยู่ก็เริ่มคึกคัก ทุกคนปรากฏตัวออกมา รวมถึง ตู้ เกาจั๋ว ด้วย

“ฉันเพิ่งเห็นกับตาเมื่อกี้นี้เอง”

ชายหนุ่มคนนั้นตอบอย่างมั่นใจ

ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปี พวกเขาย่อมเชื่อในคำพูดของชายหนุ่มคนนั้น

“ล้มละลายแล้ว หึหึ.. ชีวิตคนเราช่างไม่แน่นอนจริงๆ”

“ฮ่าฮ่า ขำจริงๆ เลย ไอ้แซ่เย่ ที่เคยโอ้อวดแบบนั้นต้องเจอแบบนี้ สมควรแล้ว!”

“ใช่เลย ตอนที่ เกาจั๋ว สารภาพรักสุดอลังการ ก็ถูก เย่เฉิน มันทำลายเสียหมด เกาจั๋ว นี่ถือเป็นโอกาสล้างแค้นของนายแล้ว”

มีคน @ตู้ เกาจั๋ว ให้เขาไปเอาคืน

“ช่างมันเถอะ…”

ตู้ เกาจั๋ว ที่ถูกแท็กกลับปฏิเสธ

คราวก่อนที่ถูก เย่เฉิน บดขยี้จนเสียหน้า กลับบ้านไปก็โดนพ่อของเขา ‘อบรม’ ให้คุกเข่าอยู่ทั้งคืนในห้องหนังสือ

เย่เฉิน แทบจะกลายเป็นฝันร้ายของเขา

แม้จะมีโอกาส เขาก็ยังไม่กล้า พอเจอ เย่เฉิน เข้า ขาของเขาคงจะอ่อนแรง

“ขี้ขลาดจริงๆ”

“เหล่าตู้ นายขี้ขลาดเกินไปแล้ว ฉันจะช่วยนายเอง”

“ใช่ ฉันจะช่วยนายเอาคืนให้เอง”

ตอนนั้นเอง อีกหนึ่งหนุ่มเสเพล ชื่อ เฉิน ลี่เฟย ที่มีพื้นเพในตระกูลร่ำรวยที่สุดในกลุ่มก็ลุกขึ้นมา

เขาเป็นเพื่อนสนิทกับ ตู้ เกาจั๋ว

เหล่าตู้ ขี้ขลาด แต่เขาไม่ใช่ ครั้งนี้ เขาจะช่วย เหล่าตู้ แก้แค้น เย่เฉิน ให้หลาบจำ

ถ้า เย่เฉิน ไม่ล้มละลาย เขาคงไม่กล้าหรอก แต่ตอนนี้ เย่เฉิน ล้มละลายไปแล้ว เขามีอะไรต้องให้กลัวอีกล่ะ?

“เรามาทำแบบนี้…”

ภายใต้การนำของ เฉิน ลี่เฟย กลุ่มเพื่อนเริ่มปรึกษาหารือถึงวิธีการสั่งสอน เย่เฉิน

ขณะเดียวกัน ข่าวการล้มละลายของ เย่เฉิน ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งเห็นว่าเขาขี่จักรยานก็แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้

ทันใดนั้นก็ทำให้เกิดกระแสการถกเถียงกันมากมาย

มีทั้งคนที่เสียดาย และเสียใจกับเรื่องนี้ แต่ก็มีไม่น้อยนักที่ดีใจ และรอชมเรื่องสนุก

แต่ เย่เฉิน และซู หนิงซวง ที่กำลังปั่นจักรยานออกไปนั้นไม่รู้เรื่องเลย

เพราะถนนค่อนข้างขรุขระ ซู หนิงซวง จึงโอบรอบเอว เย่เฉิน ไว้ และเอียงหน้าแนบชิดกับแผ่นหลังของเขา มองดูทิวทัศน์ระหว่างทางด้วยความรู้สึกสงบสุขใจ

ตอนนี้ ซู หนิงซวง รู้สึกอบอุ่นอย่างมาก ความสุขอบอวลโดยรอบตัวเธอ

ขณะที่ทั้งสองกำลังจะออกจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ จู่ๆ ก็มีรถ Lamborghini คันหนึ่งขับมาจอดขวางหน้า เย่เฉิน

ชายหนุ่มรูปร่างสูงหน้าตาดีคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถ

เมื่อเส้นทางถูกปิด เย่เฉิน จึงหยุดจักรยานเช่นกัน

หลังจากชายหนุ่มคนนั้นลงจากรถเขามอง เย่เฉิน ด้วยสีหน้าล้อเลียน แฝงไปด้วยความดูถูก

“เฮ้อ… ชีวิตคนเราช่างไม่แน่นอนเลย เย่เฉิน นายเคยเย่อหยิ่งนัก ตอนนี้ทำไมถึงล้มละลายได้ล่ะ?”

ชายหนุ่มคนนั้นพูดจาเหน็บแนมในทันทีที่เปิดปาก

ตอนขับรถกลับมหาวิทยาลัย เขาบังเอิญเห็นข่าวล้มละลายของ เย่เฉิน ในเว็บบอร์ด

เขาคิดว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว

คาดไม่ถึงว่าเขาจะเจอ เย่เฉิน และซู หนิงซวง ตรงหน้าอาคารเรียนนี้

เย่เฉิน ล้มละลายแล้วเหรอ?!

ได้ยินคำพูดนี้ ซู หนิงซวง ถึงกับอึ้งไป

ไม่เพียงแค่ ซู หนิงซวง แต่ เย่เฉิน เองก็สับสนเหมือนกัน

เขาล้มละลายตั้งแต่เมื่อไหร่?

เขาล้มละลายได้อย่างไร?

ทำไมแม้ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ แล้วชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้เขารู้ได้อย่างไร?

“ดอกไม้งาม ซู เย่เฉิน ล้มละลายแล้ว จากนี้เขาก็เป็นแค่คนจน ไม่มีอนาคตอะไรหรอกถ้าเธอยังคิดจะอยู่กับเขา”

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ชื่นชอบ ซู หนิงซวง ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าทำอะไรเพราะมี เย่เฉิน อยู่

แต่ตอนนี้ เย่เฉิน ล้มละลายแล้ว เขาจึงรีบแสดงความรักต่อ ซู หนิงซวง อย่างเปิดเผยทันที

“ดอกไม้งาม ซู เลิกกับเขาไปเถอะ”