ตอนที่แล้วตอนที่ 46 : เธอคืออุดมคติของโลกใบนี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48 : ประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตอนที่ 47 : ชีวิตประจำวันของเฟิงหนานซู


ที่ชั้นล่างของหอพักหญิงในยามพลบค่ำค่อนข้างคึกคัก เต็มไปด้วยคู่หนุ่มสาวที่กำลังหวานชื่นกันอยู่ คู่หนึ่งไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้ อีกคู่ไปอยู่ในโรงจอดรถ พวกเขาทั้งหมดต่างคนต่างอยู่ ไม่รบกวนกันเหมือนกับว่าตกลงไว้แล้วล่วงหน้า

เจียงฉินเฝ้าดูเฟิงหนานซูเดินขึ้นไปชั้นบน จากนั้นจึงนั่งยองๆ อยู่ข้างทาง มองไปยังคู่รักที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสนใจ

ทั้งสองคนนั่งคุยกันจนกระทั่งลงเอยด้วยการจูบ มือแต่ละข้างต่างก็เคลื่อนที่ไปมา ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีก็พันกันเป็นเกลียวราวกับว่าจะรวมร่างเข้าด้วยกัน

แต่สายตาของเจียงฉินก็ถูกสังเกตเห็นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นฝ่ายชายจึงดึงฝ่ายหญิงเข้ามาในอ้อมอกแล้วสลับข้างกัน หันก้นไปทางเจียงฉิน แถมยังใช้มือดึงกางเกงที่เข้าวินให้เขาดูอีกด้วย

เมื่อเห็นฉากนี้ เจียงฉินก็อดไม่ได้ที่จะถ่มน้ำลายใส่ นักศึกษามหาวิทยาลัยหมาเยิ้บแม่พวกนี้รู้จักแต่เก็บไว้กินคนเดียว

ในขณะนี้เอง มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งลงมาจากชั้นบน ไม่พูดไม่จาก็เดินดุ่มๆ มาหาเขาทันที

เจียงฉินดูคุ้นหน้าคุ้นตาเธอ เพราะเธอเป็นคนแรกที่เห็นเขาตรงประตูหลังห้องเรียนในวันนั้น

“แฟนของเฟิงหนานซูใช่ไหม ฉันชื่อเกาเหวินฮุ่ย”

“ฉันชื่อเจียงฉิน ชายหนุ่มรูปงามที่อยากเป็นหนุ่มหน้าขาวให้เสี่ยวฟู่โผเลี้ยงดู”

เกาเหวินฮุ่ยได้ยินประโยคหลังไม่ชัดเท่าไหร่ เธอเอ่ยขึ้นเหมือนไม่มีอะไร: “รอให้นายมาเลี้ยงข้าวนี่มันไม่ง่ายเลย ดอกไม้ในหอพักของเราเหี่ยวเฉาไปหมดแล้ว”

เจียงฉินยืนขึ้นพลางปัดฝุ่นที่กางเกง: “ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก เลยต้องเลื่อนมาหลายวันหน่อย เดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงเต็มที่เลย จะกินอะไรก็ได้ไม่ต้องเกรงใจ”

“นายยุ่งตั้งแต่เปิดเทอมเลยเนี่ยนะ? นายไม่รู้ใช่ไหมว่าเฟิงหนานซูเอาแต่คิดถึงนายอยู่ทุกวันในหอพัก”

“คิดถึงฉัน?”

เจียงฉินไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เด็กสาวซื่อบื้อคนนั้นคงไม่เข้าใจหรอกว่าความคิดถึงคืออะไร: “อายุแค่นี้ก็หัดโกหกแล้ว ต่อไปห้ามทำให้เฟิงหนานซูเสียคนเด็ดขาดเลยนะ”

เกาเหวินฮุ่ยขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน: “ฉันพูดเรื่องจริง”

“ไร้สาระ เธอไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน?”

“ตอนที่เราคุยกัน เธอมักจะบอกว่าเจียงฉินพาฉันไปแช่บ่อน้ำพุร้อน เจียงฉินพาฉันไปที่บาร์ เจียงฉินกับฉันอ่านหนังสือด้วยกัน แต่ทุกครั้งที่พูดถึงก็มีอยู่แค่นี้ ไม่เคยมีอะไรใหม่ๆ เลย แค่เห็นพวกเราก็รู้แล้วว่าเธอกำลังรอให้นายพาไปเที่ยวอยู่!”

“จริงเหรอ?” เจียงฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะคำโกหกไม่น่าจะสามารถพูดออกมาได้ลื่นไหลขนาดนี้

“แน่นอนสิ ฉันไม่เคยเจอแฟนหนุ่มแบบนายเลย เปิดเทอมมาจะสัปดาห์แล้ว นายยังไม่เคยมาหาเธอเลยสักครั้ง เธอเองก็ไม่กล้าไปหานายด้วย มันมากเกินไปจริงๆ”

“เดี๋ยวก่อน ทำไมเธอถึงไม่กล้าไปหาฉันล่ะ?”

เกาเหวินฮุ่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว: “ไม่รู้เหมือนกัน ถามไปเธอก็ไม่บอก พอพูดเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกแปลกจริงๆ เธอไม่ได้เย็นชา แต่เป็นคนที่กลัวสังคม!”

เจียงฉินยังคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้อยู่ หลังจากที่ได้ยินเขาจึงตอบโดยไม่รู้ตัว: “ใช่ เธอไม่เคยมีเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้ว เพราะงั้นอย่าไปกลั่นแกล้งเธอล่ะ”

“ใครจะไปแกล้งเธอ พวกเราน่ะเรียนด้วยกันแล้วก็กินข้าวด้วยกัน” เกาเหวินฮุ่ยโต้แย้ง

“แค่ไปเรียนกับกินข้าวเองเหรอ พวกเธอไม่พาเธอออกไปเที่ยวไหนเลยหรือไง?”

เกาเหวินฮุ่ยส่ายหัวทันทีแล้วรีบกล่าวเสริมว่า: “ไม่ใช่ว่าเราไม่พาเธอไปด้วย แต่เธอต่างหากที่ไม่ไป คืนก่อนเราชวนกันไปดู [แวมไพร์ทไวไลท์] ที่ว่านซิงเฉิงเธอก็ไม่ไป เธอยังบอกอีกว่าเดี๋ยวเจียงฉินจะพาไปดูเอง”

เจียงฉินเงยหน้ามองเธอ: “เธอแต่งเรื่องมาหลอกฉันใช่ไหม?”

“ฉันจะไปหลอกนายทำลูกสุนัขอะไร ต้นขั้วตั๋วหนังฉันยังมีอยู่เลย!”

เจียงฉินอึ้งไปชั่วขณะ คล้ายกับว่าเขาเห็นเสี่ยวฟู่โผผู้น่าสงสารนั่งอยู่คนเดียวในห้องพักมืดๆ จากนั้นโบกมือให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังจะไปดูหนังแล้วพูดพึมพำว่า “วันหลังเจียงฉินจะพาฉันไป”

เขายกมือขึ้นเช็ดมุมปาก สายตาเหมือนหลุดลอยออกไปไกล

การเกิดใหม่ของตัวเองทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในเส้นเวลาเดิม และเฟิงหนานซูก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

ในอดีต เฟิงหนานซูไม่มีเพื่อน และมหาวิทยาลัยที่เธอสมัครเข้าก็อยู่ในเมืองหลวง ไม่ใช่มหาวิทยาลัยหลินชวน หากไม่มีเจียงฉินเธอก็คงไม่มาที่นี่ และก็คงไม่ได้รู้จักกับคนเหล่านี้เหมือนในปัจจุบัน ชีวิตของเธอก็อาจจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

แต่ทำไมเธอถึงมาที่มหาวิทยาลัยหลินชวน?

อันที่จริงแทบไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเฟิงหนานซูตามเจียงฉินมาที่นี่ เพราะเขาคือเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ เขาพาเธอไปแช่บ่อน้ำพุร้อน นั่งรถหยอดเหรียญ กินอาหารขยะ ไปเที่ยวที่บาร์ ทำให้เธอได้รู้ว่าความเหงาคืออะไร ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่เธอจะติดเขา

แต่บางทีความปรารถนาในการหาเงินมันก็แข็งแกร่งเกินไป นอกเหนือจากการฝึกทหารแล้วเขาก็คิดถึงแค่การสร้างเว็บไซต์ และไม่เคยพาเฟิงหนานซูออกไปเที่ยวเล่นที่ไหนอีกเลย

แล้วทำไมถึงไม่คิดจะพาเธอออกไปเที่ยวเล่นบ้างล่ะ?

เจียงฉินคิดอย่างละเอียดแล้วพบว่าเป็นเพราะเขาคิดว่าเฟิงหนานซูมีเพื่อนสนิทแล้ว จึงมีคนให้ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นธรรมดา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆ จะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

เจียงฉินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิดดูรายชื่อกับ QQ จากนั้นก็พบว่าตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมเขาแทบไม่เคยติดต่อไปหาเฟิงหนานซูก่อนเลย

“เจียงฉิน นายยืนเหม่อทำไม?”

“ไม่มีไร พอดีดูโทรศัพท์แล้วเห็นเงาสะท้อนอันหล่อเหลาของตัวเองก็เลยตกใจนิดหน่อย คนอื่นๆ ล่ะไปไหน ทำไมยังไม่ลงมาอีก?” เจียงฉินถามหลังจากได้สติ

เกาเหวินฮุ่ยเงยหน้าขึ้นมองไปที่ชั้นห้า: “น้ำร้อนในห้องน้ำจะไม่ไหลตอนสี่ทุ่ม พวกเธอน่าจะกลัวว่าอาจกลับมาไม่ทัน ก็เลยเตรียมสำรองน้ำเก็บไว้ก่อน”

ทันทีที่เธอพูดจบ ตามทางเดินก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เฟิงหนานซูเดินนำอยู่ด้านหน้า ผมยาวสลวยพลิ้วไหวเบาๆ ภูเขาสองลูกที่งดงามแกว่งไปมาเล็กน้อยตามจังหวะก้าวลงบันได

ข้างหลังเธอคือเพื่อนร่วมห้องอีกสี่คน คนแรกคือฟ่านซูหลิงพี่ใหญ่สุดในห้องพัก หยางหมิ่นที่มีสำเนียงทางใต้ ไช่ฟางที่ร่างอวบหน่อยๆ และหวังไห่หนี่ สาวร่างเล็กจากทางภาคใต้

หลังจากที่แนะนำตัวกันคร่าวๆ เจียงฉินก็ค่อยๆ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอ

ความสัมพันธ์ของเกาเหวินฮุ่ยและเฟิงหนานซูดูจะสนิทที่สุด รองลงมาเป็นฟ่านซูหลิง หยางหมิ่นกับไช่ฟางเป็นคู่ซี้กัน ส่วนหวังไห่หนี่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เธอชอบออกไปพบปะผู้คนบ่อยๆ

“เจียงฉิน วันนี้พวกเราตั้งใจจะจัดการนาย อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ” เกาเหวินฮุ่ยพูดพร้อมกับคล้องแขนเฟิงหนานซู

เจียงฉินไม่สนใจ: “อย่างอื่นอาจไม่มี แต่เงินน่ะเหลือเฟือ ไม่ต้องพูดถึงอาหาร จรวดฉันก็ยังเลี้ยงได้”

เฟิงหนานซูมองเขาอย่างเงียบๆ: “เจียงฉิน ฉันอยากกินจรวด”

“...”

“หน้าร้อนแบบนี้จะมากินจรวดอะไร กินหม้อไฟดีกว่า”

“หม้อไฟก็ร้อนเหมือนกัน กินอะไรเย็นๆ เป็นไง ฉันอยากกินอาหารทะเลอยู่พอดี”

“แถวมหาวิทยาลัยไม่มีร้านอาหารทะเล กินอะไรง่ายๆ แต่แพงๆ ก็พอ”

สาวๆ เริ่มส่งเสียงคุยกันจอแจ เลือกรายการอาหารพลางเดินออกไปนอกมหาวิทยาลัย

พอเดินมาถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัย เกาเหวินฮุ่ยก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างออก: “หนานซู เก็บน้ำร้อนในห้องน้ำไว้แล้วใช่ไหม เดี๋ยวต้องกลับมาสระผมทีหลังนะ”

“ฉันไม่ได้เก็บน้ำไว้นะ” เฟิงหนานซูเอ่ยด้วยความสับสน

“ไม่ได้เก็บน้ำไว้? แล้วทำไมพวกเธอถึงอยู่ข้างบนนานนัก?”

“ซูหลิงกับคนอื่นๆ ไปเก็บน้ำ ส่วนฉันกำลังล้างเท้าอยู่”

หลังจากได้ยินสิ่งนี้เกาเหวินฮุ่ยก็ถึงกับอึ้ง: “กินมื้อเย็นเสร็จเราก็ต้องเดินกลับอยู่ดี ล้างเท้าตอนนี้จะไม่เสียเปล่าเหรอ?”

เฟิงหนานซูย่นจมูกเล็กน้อย: “ล้างแล้วมีประโยชน์”

“?????”

จิตใจของเกาเหวินฮุ่ยหมุนติ้วแบบสามร้อยหกสิบองศา เธอพยายามเค้นสมองอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถเข้าใจคำธรรมดาสี่คำนี้ได้

(จบตอน)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด