ตอนที่แล้วก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 27 ประตูหยินหยางไร้ขอบเขต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 29 แผนล่อลวง

ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 28 ปลาที่ติดเบ็ด


ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 28 ปลาที่ติดเบ็ด

“เช่นนี้ก็เสร็จสิ้นแล้วหรือ?”

“ถูกต้อง ประตูหยินหยางไร้ขอบเขตได้ประทับตราประทับแห่งมหามรรคไว้บนแก่นแท้ของสิ่งนี้แล้ว”

“ในเมื่อเรื่องราวเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นก็เดินทางไปยังเขตเฉวียนสุ่ยก่อน ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้สุ่มในภายหลัง”

……

หนึ่งวันให้หลัง

ราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน เมืองเทียนหยุน

เมืองเทียนหยุนมีขนาดใหญ่โต ความเจริญรุ่งเรืองเทียบเท่าเมืองหลวงของราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน

ส่วนเหตุผลที่ที่แห่งนี้เจริญรุ่งเรืองเช่นนี้ ก็เพราะที่นี่คือที่ตั้งของตระกูลหลิว หนึ่งในสองตระกูลใหญ่ของราชวงศ์ราชันซุ่ยหยวน

ณ จวนตระกูลหลิว

“เขามิใช่ได้ทำสัญญากับศาลาสังหารโลหิตแล้วหรือ ตามหลักเหตุผลแล้ว มิใช่ควรจะกักขังเขาไว้ที่นี่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือ”

“แต่ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงปล่อยสารเลวน้อยผู้นั้นไป? ยิ่งไปกว่านั้น ยังมอบทรัพย์สมบัติของตระกูลหลิวให้เขาอีก?”

หลิวฟานเจี้ยง บุตรชายคนโตของเจ้าตระกูลหลิว หลิวชิงเฟิง กล่าวถามบิดาของตนด้วยความไม่เข้าใจ

เมื่อหลิวชิงเฟิงได้ยินเช่นนั้น จึงมองดูบุตรชายที่อายุน้อย แต่กลับมีระดับตบะระดับรวมวิญญาณระยะปลายด้วยรอยยิ้ม

“หลิวชือหยุนผู้นั้น สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงสารเลวน้อยที่เกิดจากความเจ้าชู้ของน้องชายข้าในอดีต ตามหลักเหตุผลแล้ว ก็นับว่าเป็นคนของตระกูลหลิว ตอนที่เด็กนั่นตัดขาดกับตระกูลหลิว ก็ทำให้เมืองใหญ่หลายแห่งต้องวุ่นวาย”

“ตอนนี้ฮ่องเต้ซุ่ยหยวนไม่พอใจตระกูลหลิวอย่างยิ่ง ต้องการหาข้อผิดพลาดของพวกเรา หากตอนนี้พวกเราลงมือกับหลิวชือหยุน ข่าวสารจะต้องรั่วไหลออกไป สุดท้ายแล้วก็จะตกเป็นเครื่องมือของราชสำนักและตระกูลฟาง”

เมื่อได้ฟังคำอธิบายนี้ หลิวฟานเจี้ยงจึงเข้าใจ ป้องมือกล่าวว่า “ท่านพ่อยังคงมองการณ์ไกล ฟานเจี้ยงผู้นี้ได้รับความรู้แล้ว”

“หากเจี้ยงเอ๋อร์ไม่พอใจเด็กนั่นจริง ๆ หลังจากเสร็จเรื่องราว เมื่อตระกูลหลิวของพวกเราขึ้นครองราชย์ การจัดการคนเพียงคนเดียวเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก”

ภายใต้แววตาที่อ่อนโยนของหลิวชิงเฟิง แฝงไว้ด้วยความเย็นชา

……

เขตเฉวียนสุ่ย

ภายในจวนที่จินหยวนเจิ้งจัดเตรียมไว้ให้มือสังหารศาลาสังหารโลหิต

“โอ้ ตระกูลหลิวปล่อยเจ้ากลับมาง่ายดายเช่นนี้หรือ? ข้ายังคงคิดอยู่ว่าจะช่วยเจ้าออกมาจากตระกูลหลิวได้อย่างไร”

โหยวหวู่เจี้ยนนอนอยู่บนหลังคากระเบื้องบ้านอย่างสบายอารมณ์

เมื่อเห็นหลิวชือหยุนที่สีหน้าเรียบเฉย เดินเข้ามาในจวน ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

หลายวันก่อน

หลิวชือหยุนไม่รู้ว่าได้ยินข่าวสารมาจากที่ใด

เมื่อรู้ว่ามรดกของมารดายังคงอยู่ที่ตระกูลหลิว จึงรีบเดินทางกลับไปยังสถานที่ที่เขาเกลียดชังมากที่สุด

แม้แต่คำพูดของโหยวหวู่เจี้ยนก็มิอาจหยุดเขาได้

ส่วนโหยวหวู่เจี้ยนก็มิใช่คนธรรมดาสามัญ

หากเป็นคนอื่น ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใดขึ้น ก็จะต้องหยุดหลิวชือหยุน

แต่โหยวหวู่เจี้ยนเห็นว่าหลิวชือหยุนไม่ฟังคำพูดของเขา จึงปล่อยให้อีกฝ่ายเดินทางไป

หลิวชือหยุนพยายามอดกลั้นความคับข้องใจ กัดฟันเล็กน้อย เงยหน้าขึ้น “ข้า……”

เรื่องที่เขาต้องการกล่าว ก็คือเรื่องของกระดาษธุรกรรมเป็นตาย

แม้ว่าเขาจะได้มรดกกลับคืนมา แต่กลับถูกคนของตระกูลหลิวบังคับให้เซ็นสัญญาลึกลับของศาลาสังหารโลหิต

เขาก็เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสัญญานี้

กล่าวกันว่า หากผู้ใดทำธุรกรรมกับศาลาสังหารโลหิตแล้วไม่ทำตามสัญญา ไม่ยอมจ่ายค่าตอบแทน หรือค่าตอบแทนไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้

ไม่ถึงหนึ่งเค่อ บุคคลผู้นั้นก็จะถูกเปลวเพลิงลึกลับเผาไหม้ทั้งเป็น!

ตั้งแต่ที่เซ็นสัญญา หลิวชือหยุนก็รู้แล้ว

ตระกูลหลิวต้องการผิดสัญญากับศาลาสังหารโลหิต และให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบ!

แต่หลิวชือหยุนมิได้เสียใจ

เพราะความปรารถนาตลอดชีวิตของเขาก็คือการได้อัฐิของมารดากลับคืนมาจากตระกูลหลิว

โหยวหวู่เจี้ยนเคลื่อนไหวร่างกายในพริบตา ปรากฏตัวขึ้นข้างกายหลิวชือหยุน

ใช้มือขวาลูบไหล่ของหลิวชือหยุน กล่าวว่า “เรื่องที่เจ้าต้องการกล่าว ข้ารู้แล้ว”

“ตอนนี้มีโอกาสหนึ่งวางอยู่เบื้องหน้าเจ้า หากเจ้าสามารถคว้ามันเอาไว้ได้ ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่ตาย แต่ยังสามารถทำลายล้างตระกูลหลิวได้ หากเจ้าทำไม่ได้ ชีวิตของเจ้าก็ต้องจบสิ้นเพราะความหุนหันพลันแล่น”

ไม่รอให้หลิวชือหยุนเข้าใจความหมาย

หลิวชือหยุนก็รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว

ในพริบตา หลิวชือหยุนรู้สึกตัว

เขารู้สึกตกใจอย่างยิ่ง!

ตนเองมิใช่อยู่ที่จวนหรือ? เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่?

หลิวชือหยุนมองไปรอบ ๆ โดยรอบมืดมิด

“เจ้าคือหลิวชือหยุนหรือ?”

เสียงหนึ่งที่ราวกับเสียงสวรรค์ดังขึ้นอย่างกะทันหัน

“ท่านคือ?”

หลิวชือหยุนกอดกล่องไม้อัฐิเอาไว้แน่น ถามด้วยความลังเล

“อย่าได้หวาดกลัว ข้าคือเจ้าศาลาแห่งศาลาสังหารโลหิต”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

หลิวชือหยุนก็ตกใจอย่างยิ่ง

กลืนน้ำลายลงคอ ตอนนี้ผู้คนมากมายกำลังตามหาเบาะแสของเจ้าศาลาศาลาสังหารโลหิต

กระทั่งราชสำนักก็ยังคงส่งผู้ตรวจการมามากมาย

แต่ผลลัพธ์ก็คือ พวกเขามิสามารถสืบหาได้ว่าศาลาสังหารโลหิตปรากฏตัวขึ้นได้อย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

ไม่คิดเลยว่า บุคคลสำคัญเช่นนี้จะมาพบเจอเขา

หลิวชือหยุนตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน

รีบพยักหน้า “ข้าคือหลิวชือหยุน ผู้ยิ่งใหญ่เรียกข้ามา มีเรื่องอันใดหรือไม่?”

“เจ้า……ต้องการแก้แค้นหรือไม่?”

น้ำเสียงที่ราวกับเสียงสวรรค์ของเยี่ยหมิง แฝงไว้ด้วยการยั่วยุ

“แก้……แก้แค้น……” หลิวชือหยุนตกตะลึง

ภาพเหตุการณ์ที่ตระกูลหลิวทำกับเขาและมารดาปรากฏขึ้นในห้วงสมุทรแห่งปัญญา

มือทั้งสองข้างกำแน่น กัดฟัน “ต้องการ! ข้าฝันว่าจะทำลายล้างตระกูลหลิวที่พรากชีวิตมารดาของข้า!”

“ดีมาก……”

เยี่ยหมิงยิ้มกว้างในใจ

ปลาติดเบ็ดแล้ว

“เจ้าเพียงแค่ทำตามที่ข้า……”

ครึ่งเค่อให้หลัง

หลิวชือหยุนรู้สึกตัว

พบว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายกลับมาเป็นปกติ ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงภาพลวงตา

“โอ้ สนทนากันเสร็จสิ้นแล้วหรือ”

โหยวหวู่เจี้ยนมองดูหลิวชือหยุนที่รู้สึกตัว ยิ้มเล็กน้อย

หลิวชือหยุนเห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกาย

ตระกูลหลิว! พวกเจ้าจะต้องชดใช้สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไป!

กลับมายังเยี่ยหมิง

เขตเฉวียนสุ่ย ณ สาขาหนึ่งของศาลาสังหารโลหิต

“เจ้าศาลา ท่านตื่นแล้ว”

มือสังหารระดับมนุษย์ชั้นโทคนหนึ่งมองดูเยี่ยหมิงที่ตื่นขึ้น กล่าวด้วยความเคารพ

“อืม พวกเจ้าออกไปก่อน”

“ขอรับ”

มองดูอีกฝ่ายจากไป

เยี่ยหมิงที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน

มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย

เหตุผลที่เขาสามารถใช้กระบวนท่าแปลกประหลาด ดึงหลิวชือหยุนเข้าไปยังมิติจิตวิญญาณได้……

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด