บทที่ 84 สกิลเดียวเก็บมอนสเตอร์เป็นร้อย
บทที่ 84 สกิลเดียวเก็บมอนสเตอร์เป็นร้อย
หลังจากพูดคุยกันจนจบมอนสเตอร์ในแผนที่ก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
“คราวนี้พวกคุณไปช่วยกันล่อมอนสเตอร์ออกมา 100 ตัว” ลู่หยางกล่าว
“ทำไมล่ะ?” ฉิงชางกับเหมาชิวถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“หัวหน้าหรือว่า…” ซุนหยูถามขึ้นมาด้วยสีหน้าอันตื่นเต้น
ลู่หยางพยักหน้ารับเป็นคำตอบว่าสิ่งที่ซุนหยูกำลังคิดคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
“เยี่ยมไปเลย!” ซุนหยูตะโกนอย่างดีใจ
ฉิงชางฟังบทสนทนาของทั้งสองด้วยความสับสน ก่อนที่เขาจะยกมือถามด้วยความสงสัย
“อาจารย์ นี่พวกคุณกำลังคุยอะไรกัน? ทำไมมันถึงต้องลึกลับขนาดนั้นด้วย?”
“ฉันมีสกิลพิเศษสกิลหนึ่งที่สามารถใช้งานได้ทุก ๆ 6 ชั่วโมงตอนนี้ระยะเวลาคูลดาวน์ของสกิลหมดลงแล้ว พวกคุณไปช่วยกันล่อมอนสเตอร์มาเถอะ” ลู่หยางกล่าว
สีหน้าของฉิงชางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะเริ่มถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“ในเกมมันมีสกิลที่สามารถฆ่ามอนสเตอร์นับร้อยได้ด้วยเหรอ?”
เนื่องมาจากเกมยังไม่มีคู่มือพวกฉิงชางจึงรู้เรื่องข้อมูลเกมน้อยมาก และพวกเขาก็ยังไม่รู้ด้วยว่าภายในเกมนี้มีสิ่งที่เรียกว่าสกิลต้องห้ามอยู่
“พวกคุณรีบไปล่อมอนสเตอร์มาเถอะ คราวนี้ให้ล่อมอนสเตอร์มารวมตัวกันแถว ๆ บริเวณข้างหน้าฉันนะ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ครับ” ฉิงชางกับเหมาชิวพยักหน้ารับ ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งเข้าไปภายในป่าโดยมีซุนหยูวิ่งไล่ตามไปติด ๆ
ทั้งสามแบ่งพื้นที่ล่อมอนสเตอร์กันเอาไว้แล้วและในคราวนี้เมื่อต้องหลอกล่อมอนสเตอร์พร้อม ๆ กัน การทำงานจึงเป็นไปอย่างไม่มีปัญหา ไม่นานโทรลล์ทั้ง 100 ตัวก็ถูกทั้งสามคนหลอกล่อมาจากสามทิศทาง
ทั้งสามได้มารวมกลุ่มกันห่างจากลู่หยางประมาณ 100 เมตร ก่อนที่พวกโทรลล์ที่อยู่ด้านหลังจะรวมกลุ่มเข้าด้วยกันเป็นกลุ่มเดียว
เมื่อโทรลล์ 100 ตัววิ่งพร้อมกันมันก็ทำให้พื้นดินบริเวณแถวนั้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด ซึ่งถ้าหากว่ามีผู้เล่นคนไหนมาเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพวกเขาคงจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ในทางกลับกันผู้เล่นทั้งสามที่กำลังหลอกล่อมอนสเตอร์อยู่นั้นกลับกำลังเต็มไปด้วยความรู้สึกอันตื่นเต้น
ซุนหยูกับเหมาชิวผลัดกันใช้สกิลยิงกระจายไปด้านหลังไม่หยุด ขณะที่ฉิงชางคอยใช้สกิลเซคคริฟายในการดึงดูดความเกลียดชังมาที่ตัวของเขา
เมื่อทั้งสามเข้ามาใกล้ลู่หยางในระยะ 50 เมตร เหมาชิวก็อดที่จะถามซุนหยูที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาไม่ได้
“หัวหน้าของนายมีไพ่เด็ดอะไรซ่อนเอาไว้กันแน่หรือว่ามันจะเป็นเวทมนตร์ต้องห้าม?”
“อือ” ซุนหยูตอบพร้อมกับพยักหน้า
เหมาชิวนิ่งอึ้งไปอย่างตกตะลึง เพราะเขาเพียงแค่โยนคำถามออกไปเล่น ๆ ไม่คิดว่าซุนหยูจะตอบรับกลับมาอย่างง่ายดายแบบนี้
ในตอนนั้นเองพลังงานอันบ้าคลั่งอย่างที่เหมาชิวไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนก็เริ่มถูกแพร่ออกมาจากร่างของลู่หยาง ขณะที่เสียงของชายหนุ่มให้ความรู้สึกราวกับเสียงโบราณที่ดังขึ้นมาจากสมัยเมื่อหลายพันปีก่อน
“เทพแห่งเพลิงผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดรับเอาศรัทธาจากข้าผู้ต่ำต้อย ข้าขอวิงวอนพลังเพลิงแห่งการเผาผลาญทุกสิ่งจากพระองค์…”
เมเทโอฟอลล์!
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดำหนาทึบ แต่ในทันใดนั้นมันก็เกิดช่องว่างในกลุ่มเมฆอย่างฉับพลัน พร้อมกับดาวตกขนาดประมาณบ้านหนึ่งหลังกำลังร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับเปลวไฟที่ลุกตามเป็นทางยาว
เสียงฉีกอากาศดังสนั่นราวกับเสียงหวีดร้องจากนรก ทำให้เหมาชิวที่เพิ่งวิ่งเข้ามาในระยะ 10 เมตรนิ่งอึ้งอยู่กับที่
“มันเป็นเวทมนตร์ต้องห้ามจริง ๆ ด้วย!” เหมาชิวเงยหน้ามองอุกกาบาตบนฟ้าด้วยความตกตะลึง
เอ็ม 16 เบิกตากว้างอ้าปากค้างจนหุบไม่อยู่
อุกกาบาตพุ่งเข้าชนพื้นที่ตรงกลางโทรลล์ทั้ง 100 ตัวอย่างแม่นยำ ซึ่งในวินาทีที่อุกกาบาตร่วงหล่นลงมานั้นมันก็ได้ก่อให้เกิดวงแหวนเพลิงแผ่กระจายออกไปโดยรอบอย่างรุนแรง
ตูม!
เมื่ออุกกาบาตระเบิดออกพลังงานอันบ้าคลั่งก็ปกคลุมโทรลล์ทั้ง 100 ตัว
-3,288, 3,166, 1,649, 1,594, ...
ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 121 หน่วย (รวมโบนัสค่าประสบการณ์จากการล่ามอนสเตอร์เลเวลสูงกว่า 33หน่วย)
…
ตัวเลขความเสียหายลอยขึ้นมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนจากระบบที่ดังขึ้นมาจากกล่องข้อความของพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
หลังจากเสียงแจ้งเตือนหยุดลงทุกคนก็มองไปยังสนามรบอย่างตกตะลึง โดยในตอนนี้มีโทรลล์ที่รอดชีวิตอยู่ไม่ถึง 40 ตัวและถึงแม้พวกมันจะรอดพ้นจากภัยพิบัติมาได้ แต่พลังชีวิตของพวกมันก็เหลืออยู่เพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น
แสงสีขาวสว่างวาบรอบตัวลู่หยาง ก่อนที่ชายหนุ่มจะไปปรากฏตัวด้านหน้าของฝูงโทรลล์ ปากของเขายังคงขมุบขมิบท่องคาถาออกมาไม่หยุด เมื่อระยะเวลาติดสตั๊น 10 วินาทีได้หมดลงพวกโทรลล์จึงเริ่มมุ่งเป้าโจมตีไปยังลู่หยาง แต่ในทันใดนั้นเปลวไฟที่มีความกว้างกว่า 3 เมตรก็พุ่งออกมาจากปลายคทาของชายหนุ่มเสียก่อน
ลู่หยางกวาดลำแสงเปลวเพลิงไปรอบ ๆ ตัวแล้วเมื่อลำแสงเปลวเพลิงได้หยุดลงมอนสเตอร์ทั้งหมดก็กลายเป็นเพียงแค่ซากศพที่ไหม้เกรียมอยู่บนพื้น
พวกฉิงชางต่างก็มองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง แม้แต่ซุนหยูที่เคยเห็นลู่หยางแสดงพลังในลักษณะนี้มาก่อนก็ยังมองภาพตรงหน้าอย่างตื่นเต้นเช่นกัน
“หัวหน้าโคตรเท่เลย!!” ซุนหยูส่งเสียงตะโกน
เสียงของซุนหยูดึงสติของพวกฉิงชางกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะรีบผลักเอ็ม 16 ไปอยู่ด้านหน้าลู่หยาง
“พี่ชายลู่หยางเมื่อกี้มันคือสกิลอะไรงั้นเหรอ?” ฉิงชางถาม
สกิลที่ลู่หยางเพิ่งใช้เป็นสกิลที่รุนแรงมากจนเกินไปแล้วมันก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้เล่นเกมเดียวกันกับลู่หยางอยู่
“มันเป็นเวทมนตร์ต้องห้ามที่ฉันบังเอิญเรียนรู้มาก็เท่านั้นเอง” ลู่หยางกล่าว
“เวทมนตร์เมื่อกี้นี้มันจะแรงเกินไปแล้วระบบปล่อยให้เกมมีสกิลแบบนี้ได้ยังไง?” เหมาชิวถามอย่างสับสน
“ทีอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มสกิลโดยตรง 2 เลเวลยังมีได้เลย แล้วมันจะแปลกอะไรที่เกมจะปล่อยสกิลต้องห้ามออกมา” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“นั่นก็จริง” เหมาชิวกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับ
เอ็ม 16 เล่นเป็นนักเวทไฟเหมือนกันและในปัจจุบันเขาก็กำลังมองลู่หยางหลายครั้งอย่างลังเล
ชายหนุ่มรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร เขาจึงตบไหล่เอ็ม 16 เบา ๆ และพูดว่า
“ขอโทษด้วยสกิลนี้ได้มาจากภารกิจพิเศษ ดังนั้นคุณเรียนรู้มันไม่ได้หรอก”
เอ็ม 16 ถอนหายใจออกมาอย่างหนักพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มหงอยลง อย่างไรก็ตามปฏิกิริยานี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกประหลาดอะไร เพราะไม่ว่าใครที่เห็นเวทมนตร์ของลู่หยาง พวกเขาก็คงอยากใช้สกิลอลังการแบบนี้ออกมาบ้างเหมือนกันหมด
“เอาล่ะตอนนี้พวกคุณก็มีเลเวล 10 แล้ว ส่วนฉันก็เล่นเกมมามากกว่า 30 ชั่วโมงแล้วเหมือนกัน ฉันต้องขอตัวออกไปพักผ่อนสักหน่อย” ลู่หยางกล่าว
“คุณออกไปพักก่อนได้เลย เดี๋ยวพวกเราจะเล่นต่ออีกสักพัก” ฉิงชางกล่าว
“ถ้าพวกคุณต้องการฝึกเทคนิคการเคลื่อนไหวก็ขอให้ซุนหยูฝึกให้กับพวกคุณที่นี่ไปสักพักก็ได้” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับตบไหล่ซุนหยูเบา ๆ จากนั้นเขาก็ใช้คัมภีร์ย้อนกลับเพื่อกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์ หลังจากที่ได้นั่งพักตรงบริเวณที่ไม่มีคน ชายหนุ่มก็กดปุ่มเพื่อทำการออกจากเกม
การเล่นเกมติดต่อกันกว่า 30 ชั่วโมงทำให้ลู่หยางรู้สึกเหนื่อยล้ามาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังออกกำลังกายก่อนที่จะไปเข้านอน
การนอนครั้งนี้กินเวลานานกว่า 6 ชั่วโมงเต็ม ๆ หลังจากตื่นขึ้นมากินข้าวทำธุระส่วนตัว ชายหนุ่มก็กลับเข้าไปภายในเกมอีกครั้ง
ตอนนี้เป็นวันที่ 6 หลังจากที่เกมเปิดให้บริการแล้ว เลเวลของผู้เชี่ยวชาญในกิลด์ใหญ่หลาย ๆ คนต่างก็ล้วนแล้วแต่เกินเลเวล 5 แล้วมันก็มีบางคนที่เลเวลถึงแปดแล้วด้วยซ้ำ
ผู้เล่นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นมืออาชีพและผู้เล่นหลาย ๆ คนก็เป็นผู้เล่นที่ลู่หยางเคยได้ยินชื่อเสียงมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว
เหตุการณ์นี้ทำให้ลู่หยางรู้สึกถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์ เพราะเมื่อทุกคนกำลังพัฒนาอย่างบ้าคลั่ง มันก็หมายความว่าเขาไม่สามารถหยุดพักได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เล่นโหดเกิ้นนนนนนนนนนนน