ตอนที่แล้วบทที่ 334 : กรุงเทพ (10)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 336 : คานส์ (2)

บทที่ 335 : คานส์ (1)


[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ]

[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]

[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ อยากขอให้ทุกคนสนับสนุนไปจนจนนะครับ ส่วนคนที่สนับสนุนแล้ว ก็ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมาครับ]

บทที่ 335 : คานส์ (1)

คังวูจินได้เห็นข่าวแล้วว่าผู้กำกับอันกาบกได้ขึ้นเครื่องบินเพื่อไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ส่วนตัวเขายังอยู่ในกรุงเทพ เขาเห็นข่าวนี้ในเช้าตรู่ ขณะนั่งรถเดินทางไปถ่ายทำ ‘มารร้ายผู้แสนดี’

‘ผู้กำกับอันออกเดินทางแล้วสินะ’ วูจินครุ่นคิด

วันศุกร์ที่ 24 ความตื่นเต้นที่เคยหลับใหลในส่วนลึกของจิตใจวูจินก็พลันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง ทันทีที่เห็นข่าวการเดินทางของผู้กำกับอันกาบก

‘ของฉันก็อีกไม่กี่วันแล้วนี่นา ฮู่ว- ยิ่งใกล้วันจริงเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกประหม่ามากขึ้นเท่านั้น’ เขาครุ่นคิดพลางถอนหายใจยาว

เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ งานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ของคนทำหนังระดับโลก จะงดงามตระการตาสักเพียงใดนะ? ถึงแม้จะเคยเห็นภาพถ่ายและวิดีโอจาก Youtube มาบ้าง แต่การได้สัมผัสบรรยากาศจริงที่คานส์ คงจะแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

‘เหมือนกับการอ่านบทในใจ กับการซ้อมบทในมิติว่างเปล่า มันต่างกันมาก’ วูจินได้แต่ลองเปรียบเปรยในใจ

กำหนดการอย่างเป็นทางการของคังวูจินที่กรุงเทพคือวันที่ 30 กันยายน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหนึ่งหรือสองวัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การถ่ายทำ อย่างไรก็ตาม การถ่ายทำ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ในต่างประเทศนี้มีกำหนดไว้ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม หลังจากนั้นวูจินต้องเดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ทันที

พิธีเปิดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์อย่างเป็นทางการคือวันที่ 30

กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการฉายภาพยนตร์ที่ได้รับเชิญ จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 10 ตุลาคม และในวันที่ 11 จะมีพิธีมอบรางวัลและพิธีปิดอันยิ่งใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าพิธีปิดนี้ถือเป็นไฮไลท์สำคัญสำหรับทั้งภาพยนตร์ที่ได้รับเชิญและเหล่านักแสดงมากมาย

และแน่นอนว่า…สำหรับคังวูจินด้วยเช่นกัน

วูจินยังคงมุ่งมั่นกับการค้นคว้าในเว็บ ความตื่นเต้นแล่นริ้วอยู่ในอก ขณะที่นิ้วมือเลื่อนผ่านเว็บไซต์มากมายจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งญี่ปุ่น ฮอลลีวูด ฝรั่งเศส และแน่นอนว่าเขาให้ความสำคัญกับประเทศที่ใช้ภาษาที่ตนเองคุ้นเคยเป็นพิเศษ

และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็คือ…

‘เหลือเชื่อจริง ๆ เทศกาลหนังเมืองคานส์นี่มันยิ่งใหญ่เกินบรรยาย!’

ไม่ว่าประเทศใด ทุกหนแห่งต่างคึกคักไปกับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ สื่อฝรั่งเศสส่งกองทัพนักข่าวลงพื้นที่ล่วงหน้า ข่าวสารแพร่สะพัดไปทั่วราวกับไฟลามทุ่ง มีรายงานว่าเหล่าดาราและบุคคลผู้มีชื่อเสียงเดินทางมาถึงคานส์กันแล้ว หลายต่อหลายคนเป็นคนที่รู้จักของวูจินเป็นอย่างดี แม้ว่าในตอนนี้น่าจะมีผู้มาถึงไม่เกินสามสิบเปอร์เซ็นต์ แต่บรรยากาศก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

‘โอ้โห… ไม่อยากจะเชื่อ ผู้คนมากมายมหาศาลขนาดนี้ หลั่งไหลมาเพราะเทศกาลหนังเมืองคานส์เชียวเหรอ?’

เขายังเห็นข้อความที่คาดการณ์ว่าจะมีผู้ชมนับแสนนับล้านแห่กันมา วูจินลองจินตนาการภาพตัวเองอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายเหล่านั้น นิ้วมือเคาะลงบนโต๊ะเบา ๆ พลางตรวจสอบกระแสตอบรับในประเทศ ‘ปลิง’ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน ‘ภาพยนตร์เข้าชิง’ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เมื่อสัปดาห์ก่อน สื่อและความคิดเห็นของสาธารณชนในประเทศต่างก็ลุกฮือขึ้นในทันที

เพราะ ‘ปลิง’ เป็นภาพยนตร์เกาหลีเพียงเรื่องเดียวที่ได้รับเลือกให้เข้าชิง

มันยิ่งใหญ่ถึงขั้นได้ออกอากาศในข่าวภาคค่ำหลายช่อง

กระแสความร้อนแรงยังคงคุกรุ่นมาจนถึงสัปดาห์นี้ และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก เมื่อผู้กำกับอันกาบกก้าวขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าสู่ฝรั่งเศส

บัดนี้ สื่อในประเทศต่างพร้อมใจกันประโคมข่าวออกไปอย่างต่อเนื่อง คงเป็นเพราะนี่คือข่าวที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอยล่ะมั้ง?

ความคิดมากมายเริ่มไหลบ่าเข้ามาในหัวของวูจิน

['ปลิง' ผลงานชิ้นเอกของอันกาบก ได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัลเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีนี้ นับเป็นการเยือนพรมแดงคานส์ครั้งที่ 5 ของผู้กำกับมากฝีมือคนนี้ แต่ครั้งนี้...เขาจะคว้ารางวัลกลับบ้านได้หรือไม่?]

[ข่าวโลกประเด็นเด่น] ‘ปลิง’ ภาพยนตร์โดยซิมฮันโฮและคังวูจิน เป็นภาพยนตร์เกาหลีเพียงเรื่องเดียวที่ได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัล ภาพยนตร์เกาหลีจะสามารถดับกระหายความสำเร็จในครั้งนี้ได้หรือไม่?

กระแสตอบรับร้อนแรงเป็นประวัติการณ์

ตำนานแห่งวงการภาพยนตร์เกาหลี ผู้กำกับอันกาบก เตรียมตัวฟาดฟันกับผู้กำกับระดับโลกเพื่อชิง ‘รางวัลปาล์มทองคำ’!/ ภาพ

ข่าวสารต่าง ๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของวูจินไม่หยุดหย่อน ทั้งสื่อบันเทิงและสื่อแขนงอื่น ๆ ต่างร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ แม้จะยังมีคำถามและข้อสงสัยแฝงอยู่มากมายก็ตาม

[ประเด็นร้อน] ‘ปลิง’ ภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ‘คังวูจิน’ ผู้คว้ารางวัลมาแล้วกว่า 8 รางวัลจากงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ภายในประเทศเมื่อปีที่แล้ว จะมีโอกาสคว้ารางวัลนักแสดงนำชายหรือไม่?

[เทศกาลภาพยนตร์] ซิมฮันโฮ โอฮีรยอง และคังวูจิน เตรียมตัวประชันฝีมือกับนักแสดงชื่อดังระดับโลก

โดยส่วนใหญ่แล้ว ‘ปลิง’ ได้รับเสียงชื่นชมและกำลังใจอย่างท่วมท้นจากการเข้าชิงรางวัลในครั้งนี้

[ผู้กำกับอันกาบกของ ‘ปลิง’ เดินทางสู่คานส์ในวันนี้ ทั้งซิมฮันโฮและโอฮีรยองก็มีกำหนดเดินทางในเร็ว ๆ นี้ แล้วคังวูจินที่อยู่กรุงเทพ จะออกเดินทางเมื่อไหร่?]

[ภาพถ่าย] ตามติดผู้กำกับอันกาบก จินแจจุนปรากฏตัวที่สนามบินอินชอน!/ ภาพ

ด้วยกระแสข่าวที่ถาโถมเข้ามา วูจิจึงรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก เขาจึงแอบเปิดดูความคิดเห็นใต้บทความต่าง ๆ

กระแสตอบรับจากสาธารณชนก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน

- ฮือ ๆ ปลิง! สู้ ๆ!

- ไปคราวนี้ ขอให้ปลิงสร้างเรื่องราวดี ๆ กลับมาด้วยนะ ฮ่า ๆ

- แต่คังวูจินนี่แบบ ฮ่า ๆ เดบิวต์แค่ 2 ปี ได้ไปเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์แล้ว สุดยอดไปเลย ฮ่า ๆ

- ทีมตัวแทนเกาหลี: ซิมฮันโฮ โอฮีรยอง คังวูจิน จินแจจุน ไลน์อัพสุดยอด

และชื่อของคังวูจินก็ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง วูจินที่เห็นชื่อตัวเองถูกเอ่ยถึงอยู่เรื่อย ๆ ก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ 'เป็นตัวแทนงั้นเหรอ ไม่เลวเลยนี่'

เป็นเรื่องปกติที่ชื่อเสียงของนักแสดง “ปลิง” จะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ทุกคนจะมีอิทธิพลมากอยู่แล้ว แต่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งนี้ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาดังกระหึ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า

โดยเฉพาะคังวูจิน

『[ประเด็นข่าวเด่น] “ครั้งแรกในประเทศ!” คังวูจินนักแสดงหน้าใหม่เดบิวต์เพียง 2 ปี ก้าวสู่คานส์อย่างสง่างาม!』

นักแสดงรุ่นใหญ่อย่างซิมฮันโฮและโอฮีรยองเคยมีประสบการณ์ที่คานส์มาแล้ว แต่สำหรับคังวูจินที่เพิ่งเดบิวต์ได้เพียง 2 ปี นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่มาก

『‘ซิมฮันโฮ ครั้งที่ 4 ในคานส์’ ก็สุดยอดแล้ว แต่ ‘คังวูจิน’ ที่กำลังสร้างตำนานยิ่งใหญ่กว่า···ชาวเน็ต “คังวูจินนี่แหละตำนานตัวจริง”』

ทำอะไรก็เป็น “ครั้งแรก” ไปเสียหมด ไม่มีนักแสดงเกาหลีคนไหนเคยเดินบนเส้นทางเดียวกับคังวูจินมาก่อน ทำให้สื่อและกระแสตอบรับตื่นเต้นกันอย่างมาก เวลาแบบนี้แหละที่คนเกาหลีจะรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน

- สุดยอด!!! ความภูมิใจในชาติมันพลุ่งพล่าน!! ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ปลิงกับคังวูจินกวาดรางวัลที่คานส์มาให้หมด!!

-5555 บ้าเอ้ย! กับประเทศญี่ปุ่นนี่ แค่เป่ายิ้งฉุบก็ห้ามแพ้นะ!"

-TTTTTTTTTTTTTT ตอนประกาศหนังเข้าชิง พอชื่อ 'ปลิง' โผล่มานี่ขนลุกเลย…

-ปีที่แล้วกวาดรางวัลในประเทศเกาหลีหมด ปีนี้ไปคานส์อีก เหลือเชื่อจริง ๆ … แต่ถ้าเป็นคังวูจิน… เออ… ยอมรับได้…

ท่ามกลางกระแสความสนใจนี้ สื่อญี่ปุ่นที่ส่งหนังเข้าชิงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ถึงสองเรื่อง

『"เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์" ญี่ปุ่นส่งสองเรื่อง เกาหลีส่งเรื่องเดียว "บุปผาเร้น" ของคังวูจิน บุกถึงคานส์』

ก็ฉวยโอกาสใช้ชื่อของคังวูจินที่กำลังเป็นกระแสฮือฮา

『"ญี่ปุ่นปะทะเกาหลี" เดือด! ชิงชัยใน "เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์"』

เพื่อปลุกกระแสความขัดแย้งขึ้น

หลังจากนั้นคังวูจินก็กลับมาเข้าร่วมการถ่ายทำภาพยนตร์ "มารร้ายผู้แสนดี" หลังจากที่ทีมงานทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจกับฉากลองเทคเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทีมงาน "มารร้ายผู้แสนดี" ก็เริ่มการถ่ายทำอย่างจริงจัง

นั่นหมายความว่าตารางการถ่ายทำกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

โดยปกติแล้วละครหรือภาพยนตร์มักไม่สามารถถ่ายทำตามลำดับในบทได้ แต่สำหรับการถ่ายทำในต่างประเทศซึ่งมีเวลาจำกัด จึงจำเป็นต้องถ่ายทำตามลำดับ

“แอคชั่น!!”

ถึงกระนั้น ฉากที่ถ่ายทำในกรุงเทพ นี้ก็ยังคงกระจัดกระจายอยู่บ้าง ในตอนนี้ คังวูจินกำลังถ่ายทำอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่กลางป่า ห่างจากตัวเมืองกรุงเทพ พอสมควร

เสียงปืนดังสนั่นสั่นไหว

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

ยิ่งไปกว่านั้น

“คัท!! โอเค! คราวนี้ไปที่มุมของคุณวูจิน!”

“แปลงดอกไม้! เปลี่ยนแปลงดอกไม้!!”

ถึงแม้จะได้คฤหาสน์มาใช้ถ่ายทำ แต่ก็ถ่ายได้แค่ภาพรวมเท่านั้น ไม่อาจสร้างความเสียหายใด ๆ ได้ ดังนั้นจึงเนรมิตสวนขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ป่าใกล้ ๆ คฤหาสน์เพื่อใช้ในการถ่ายทำ

“คัท คัท คัท!! โอเค!!”

ฉากเดียวกันนี้ถูกถ่ายทำในหลายมุมกล้อง ฉากแอ็กชั่นและศิลปะการต่อสู้ของคังวูจินในชุดทหารโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ไมลีย์ คาร่าที่เข้าร่วมกองถ่ายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เปล่งประกายออร่าดึงดูดสายตาไม่แพ้กัน ถึงแม้จะไม่ใช่ผลงานของเธอเอง แต่เธอก็ทุ่มเทให้กับการถ่ายทำ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ อย่างเต็มที่ เธอแสดงฝีมือระดับฮอลลีวูดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

ชเวซองกุนผู้ไว้ผมหางม้าที่เอดูการถ่ายทำอยู่นั้นรู้สึกตื้นตันใจอย่างสุดซึ้ง

‘วูจิน... วูจินของเรามาอยู่ในเฟรมเดียวกับไมลีย์ คาร่าเร็วขนาดนี้เชียวเหรอ... ดูยังไงก็เหมือนความฝัน’

สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือทีมงานกว่าร้อยชีวิตของ ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ก็รู้สึกไม่ต่างกัน

“ว้าว... คุณวูจินกับไมลีย์ คาร่าในเฟรมเดียวกัน... สุดยอดไปเลย”

“แต่ว่า คุณวูจินกับคุณคาร่าเข้ากันได้ดีมากเลยนะ ดูเหมือนสนิทกันมาก”

“ก็เคยทำงานเพลงด้วยกันนี่ คุณคาร่าก็เคยไปออกYoutubeของคุณวูจินด้วย”

"ไม่อยากจะเชื่อเลย! แค่ไมลีย์ คาร่าโผล่เข้ามาในกล้องของเราก็เหมือนฝันเป็นจริงแล้ว"

"ปากฉันนี่มันคันยิบ ๆ อยากจะเม้าท์แทบแย่ มุมกล้องแบบนี้ถ้าคนอื่นได้เห็นต้องช็อกตายแน่ ๆ "

และในค่ำคืนนั้น

ขณะที่ตารางงานถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง ‘มารร้ายผู้แสนดี’ ผ่านพ้นไปกว่าครึ่ง โจเซฟและเมแกน สองผู้มาจากฮอลลีวูด พร้อมด้วยชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งได้มีโอกาสพบปะกับคังวูจิน ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องสำคัญอะไรกัน เป็นเพียงการทักทายสั้น ๆ เท่านั้น

"สวัสดีครับ พวกเรามาจาก ‘ยูนิเวอร์แซลมูฟวี่ส์’"

"ครับ สวัสดีครับ ผมคังวูจิน"

"พวกเราเป็นทีมสตั๊นท์ ฉากลองเทคของคุณวูจินน่าประทับใจมากครับ"

"ขอบคุณครับ"

ท่ามกลางบทสนทนา บรรยากาศแห่งความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงก็เริ่มก่อตัวขึ้น

"แอคชั่นโดยรวมของคุณยอดเยี่ยมมาก ‘ศิลปะการต่อสู้’ หรือ ‘CQC’ ก็เหนือมาตรฐานมาก ได้ยินมาว่าคุณเคยอยู่ในหน่วยรบพิเศษ"

คังวูจินปรายตามองอีธาน ชายหนุ่มจมูกโด่งผู้แฝงตัวมากับกลุ่มชาวต่างชาติ 'ไอ้หมอนี่สินะตัวต้นเหตุ' แต่ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกของเขายังคงนิ่งสงบ เพราะสถานการณ์แบบนี้เขาผ่านมาจนชินชา

ในยามนี้ ความเงียบงันคือคำตอบที่ดีที่สุด

"······"

แน่นอนว่าพวกเขาตีความความเงียบขรึมของวูจินไปอีกทาง

"อ่า ขอโทษด้วยครับ ไม่ได้ตั้งใจจะซักไซ้ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ครับ"

"ครับ"

"เรื่องคานส์นี้น่าสนใจดีนะครับ ผมจะรอดูผลงานของคุณ เจอกันที่คานส์นะครับ"

บทสนทนาส่วนใหญ่ก็ดำเนินไปในลักษณะนี้ เพียงแต่โจเซฟ PDชื่อดังจากฮอลลีวูด ได้ยื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับวูจินอย่างเงียบ ๆ

“ทีมนี้คือทีมงานที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ผมกำลังเตรียมสร้างครับ ผมอยากให้พวกเขาได้เห็นฝีมือของคังวูจินด้วยตาตัวเอง และแน่นอน ผมเองก็อยากเห็นฉากแอ็กชันของคุณเช่นกัน”

“อย่างนั้นเหรอครับ?”

“ฮ่า ๆ จริง ๆ เลย คุณวูจินนี่ทุกครั้งที่ได้พบก็เหนือความคาดหมายจริง ๆ พลังที่เคยเห็นใน ‘ปิดบัญชีเลือด 3’ ตอนนี้เทียบกันแล้วราวกับเด็กเล่นซน ผมกำลังวางแผนที่จะให้คุณรับบทนำอยู่นะครับ แผนนี้คงจะเสร็จสมบูรณ์ที่เมืองคานส์ แม้ว่าจะมีคนใหญ่คนโตให้ความสนใจหลายคน แต่หลังจากบทภาพยนตร์ของผมเสร็จสมบูรณ์แล้ว คุณจะเป็นคนแรกที่ได้รับพิจารณา สนใจไหมครับ?”

โจเซฟและเมแกนดูแลเอาใจใส่คังวูจินเป็นอย่างดี ตั้งแต่เกาหลี ญี่ปุ่น และมาถึงกรุงเทพ ซึ่งคังวูจินเองก็รับรู้ถึงความใส่ใจนั้นเป็นอย่างดี

“ครับ เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโจเซฟ ชายร่างยักษ์

“ผมตั้งตารอวันที่จะได้ร่วมงานกับคุณนะ”

เช้าวันที่ 25 โจเซฟและทีมงานก็ออกเดินทางจากกรุงเทพ ไม่ได้มุ่งหน้าสู่ฮอลลีวูด แต่กลับบินตรงไปยังเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส

และในช่วงบ่ายคล้อยของวันเดียวกันนั้นเอง

ปัง! ปัง!

ไมลีย์ คาร่าถูกกระสุนเจาะเข้าที่ท้อง ขณะที่เธอนั่งอยู่ในรถยนต์ดัดแปลงพิเศษ

“อึก!”

ตามบท รถควรจะวิ่งอยู่ แต่รถยนต์พิเศษที่บรรทุกคังวูจิน คาร่า และทีมกล้องอยู่ภายในนั้น เพียงแค่แสร้งทำท่าเร่งเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์สั่นสะเทือนที่ติดตั้งอยู่กับล้อทำให้เกิดแรงสั่นไหวอย่างรุนแรง รถตู้สั่นคลอนราวกับจะพังเป็นชิ้น ๆ

โครม!

กระสุนฝังเข้าเป้าหมาย กระจกหน้ารถแตกกระจาย การหลบหนีถูกสกัด วูจินกัดฟันกรอด กดมือข้างหนึ่งลงบนหน้าท้องของคาร่าที่นั่งอยู่เบาะข้าง

“ห้ามเลือดไว้!”

คาร่าผมสีทอง ใบหน้าซีดเผือด มืออันสั่นเทาเอื้อมไปลูบแขนของวูจิน ดูเหมือนเธอจะไม่คิดห้ามเลือดที่กำลังไหลทะลักออกมาแม้แต่น้อย

“เจ… ฉันดีใจที่ได้พบนายนะ…” คาร่ากระซิบเสียงแผ่ว

“หุบปากแล้วห้ามเลือดซะ!”

“น่าเสียดาย… ฉันอยากสนุกกับนายมากกว่านี้อีกหน่อย… ฝากเรื่องที่เหลือด้วยนะ… เงินที่ต้องได้ นายก็เอาไปเถอะ…” เสียงของคาร่าเบาลงเรื่อย ๆ

“หุบปาก!” วูจินคำรามลั่น

“อย่าใช้ชีวิตอย่างโง่งมสิ เจ อย่าปล่อยให้ใครมาเอาเปรียบ ทำในสิ่งที่ควรทำ จงเป็นผู้ร้ายที่ร้ายยิ่งกว่ามารร้ายเถอะนะ”

รถสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้น กล้องจับภาพดวงตาสีฟ้าของคาร่าที่ละมือจากแขนของวูจิน สายตาเธอมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับมองหาบางสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง

“ความรู้สึกผิดของนาย… ฉันจะรับมันไว้เอง…” คาร่าเอ่ยประโยคสุดท้าย

เธอคอพับลง แต่แรงสั่นสะเทือนของรถยังคงดำเนินต่อไป ความเงียบปกคลุมไปชั่วขณะ ก่อนเสียงตะโกนของPDซงมันวูจะดังก้องผ่านโทรโข่ง

“คัท!! โอเค!!!”

ใน “มารร้ายผู้แสนดี” บทบาทของไมลีย์ คาร่า จบลงเพียงแค่นี้

คังวูจินก้มลงทักทายคาร่าด้วยภาษาอังกฤษเสียงเบา

“เหนื่อยกันหน่อยนะครับ ขอบคุณที่มาร่วมถ่ายทำครับ”

คาร่าส่ายหน้า ยักไหล่เล็กน้อย

“ฉันสนุกดีค่ะ รอชม”มารร้ายผู้แสนดี“เลยล่ะ”

ประมาณหนึ่งชั่วโมงให้หลัง ไมลีย์ คาร่า ได้กล่าวอำลากับทีมงานถ่ายทำทั้งหมด ซึ่งเธอมีกำหนดเดินทางด้วยเที่ยวบินกลางคืน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เช่นเดียวกับโจเซฟและเมแกน ก่อนที่คาร่าจะออกจากสถานที่ถ่ายทำ เธอก็ได้เรียกคังวูจิน

“นี่ค่ะ”

คาร่าปัดผมสีบลอนด์ของเธอที่ปรกหน้า ขณะยื่นกุญแจรถให้กับวูจินบริเวณหน้ารถตู้

“ฉันอยากมอบสิ่งนี้ให้คุณด้วยตัวเองค่ะ นี่คือกุญแจบ้านของคุณที่ลอสแอนเจลิส ที่ฉันเตรียมไว้ให้”

วูจินรับกุญแจมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ก็เอ่ยขอบคุณออกมาเบา ๆ

“...ขอบคุณครับ”

“อืม? ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันแค่ให้ในสิ่งที่ฉันควรให้”

ทว่าภายในใจของเขากลับปั่นป่วนด้วยความตื่นเต้นอย่างรุนแรง

‘นี่... นี่มันกุญแจคฤหาสน์นี่! ฉันมีบ้านที่ลอสแอนเจลิสแล้วเหรอเนี่ย?! เป็นเรื่องจริงใช่มั้ย?!’

แน่นอนว่าคาร่าไม่มีทางล่วงรู้ถึงความคิดนี้ได้เลย

“คุณชอบใช่มั้ยคะ? ยังไงก็เจอกันที่คานส์นะคะ”

ไม่กี่วันต่อมา ในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน ณ ประเทศญี่ปุ่น

ภายในโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในโตเกียว เหล่าผู้ชมจำนวนมากกำลังนั่งชมภาพยนตร์อยู่ แต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่า ผู้ชมเหล่านั้นต่างถือกล้องอยู่ในมือ สาเหตุก็คือ ผู้ชมหลายร้อยคนที่อยู่ในนั้นล้วนเป็นนักข่าวชาวญี่ปุ่นทั้งสิ้น โดยมีนักวิจารณ์ภาพยนตร์ปะปนอยู่บ้างเล็กน้อย

บนจอขนาดใหญ่ด้านหน้ามีป้ายโฆษณาตั้งตระหง่านอยู่

-‘งานแถลงข่าวรอบสื่อมวลชน ครั้งที่ 1’

ดูเหมือนจะเป็นงานแถลงข่าวรอบสื่อมวลชนของภาพยนตร์ที่ใกล้จะเข้าฉาย

แต่สิ่งที่แปลกก็คือ

“······”

“······”

ดวงตาของเหล่านักข่าวทุกคนที่กำลังจ้องมองจอขนาดใหญ่นั้นเบิกกว้างขึ้นอย่างน่าตกใจ ใบหน้าของพวกเขาฉายแววตกตะลึงอย่างใหญ่หลวง ทันใดนั้น

-♬♪

เสียงเพลงประกอบภาพยนตร์อันยิ่งใหญ่ก็ดังกึกก้องไปทั่วโรงภาพยนตร์ บนจอขนาดใหญ่ปรากฏชื่อภาพยนตร์เป็นภาษาญี่ปุ่นขึ้น พร้อมกับ...

รายชื่อนักแสดงเริ่มปรากฏขึ้นบนจอเป็นชื่อขึ้นต้นเครดิต

- [อิโยตะ คิโยชิ แสดงโดย คังวูจิน]

- [โยชิซาวะ โมจิโอะ แสดงโดย มานะ โคซะกุ]

- [โฮริโนจิ อามิเอะ แสดงโดย อุรามัตสึ มิฟุยุ]

ท่ามกลางกองทัพนักข่าวหลายร้อยชีวิต นักข่าวแว่นหนาคนหนึ่งที่นั่งอยู่กลาง ๆ ค่อย ๆ ดันแว่นขึ้น จ้องเขม็งไปที่หน้าจอพลางพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา

“นี่... นี่มันคือบทสรุปของหนังเรื่องนี้จริง ๆ เหรอ?”

-จบ-

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด