ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 21 แผนการอันแยบยล
ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 21 แผนการอันแยบยล
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่หมายความว่า……”
“ง่ายมาก เพียงแค่เจ้าสังหารศิษย์ตระกูลฟางผู้นั้น มิเพียงแต่เจ้าจะรอดชีวิต แต่ยังจะได้รับความช่วยเหลือจากศาลาสังหารโลหิตของข้า ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เหมือนมังกรทะยานสู่ฟ้า!”
“สัง… สังหารเขา!?”
สีหน้าของจินหยวนเจิ้งซีดเผือด
“ถูกต้อง สังหารเขา”
“อึก”
จินหยวนเจิ้งกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล “สังหารเขา แล้วข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าพวกท่านจะไว้ชีวิตข้า หากต้องการสังหาร เหตุใดท่านจึงไม่ลงมือเอง”
“การที่ให้เจ้าสังหารเขา เป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจของเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น การมีอยู่ของผู้ว่าราชการเขตจินยังคงมีประโยชน์ต่อศาลาสังหารโลหิตของพวกเรา”
“ตราบใดที่เจ้ายังคงมอบสิ่งที่พวกเราต้องการ พวกเราก็จะเป็นพันธมิตรกันตลอดไป”
“ในอนาคต หากผลประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนมากพอ การให้เจ้านั่งบัลลังก์ราชวงศ์ก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
“แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความพยายามของผู้ว่าราชการเขตจิน”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น จินหยวนเจิ้งก็ตกตะลึง!
ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง
ในที่สุดจินหยวนเจิ้งก็สูดลมหายใจลึก กล่าวอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ “สิ่งที่พวกท่านกล่าวเป็นความจริงหรือ?”
หยินเลี่ยนกล่าวอย่างมั่นใจ “เป็นความจริงอย่างแน่นอน”
จินหยวนเจิ้งค่อย ๆ มองไปยังฟางเทียนหมิงที่อยู่บนที่สูง
หวู่เจินที่อยู่ด้านข้าง จึงโยนฟางเทียนหมิงลงบนพื้น
ปัง!
ฟางเทียนหมิงล้มลงบนพื้นอย่างแรง
ฝุ่นผงฟุ้งกระจาย ทั่วทั้งร่างกายดูน่าสมเพช
จินหยวนเจิ้งรวบรวมความกล้า เดินไปหาฟางเทียนหมิงอย่างช้า ๆ
หลิวกงที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้น
ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้าง ตะโกนเสียงดัง “จินหยวนเจิ้ง เจ้ากล้าหรือ!!!”
ฟางเทียนหมิงกลิ้งไปมาบนพื้นดิน มองดูจินหยวนเจิ้งที่กำลังเดินเข้ามาใกล้
กล่าวด้วยความหวาดกลัว “จินหยวนเจิ้ง ท่านพ่อของข้าคือเจ้าตระกูลฟาง หากเจ้าสังหารข้า ด้วยพลังอำนาจของตระกูลฟาง ไม่ถึงหนึ่งวันก็จะสามารถตามหาเจ้า และจับเจ้ามาทรมาน แต่หากเจ้าเชื่อฟังข้า วันนี้หากเจ้าช่วยข้า……”
กล่าวจบ จินหยวนเจิ้งก็ยังคงไม่หยุดฝีเท้า เดินทางต่อไป
จนกระทั่งมาหยุดอยู่เบื้องหน้า
บนใบหน้าของจินหยวนเจิ้งยังคงมีความลังเล ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ
ดั่งที่ฟางเทียนหมิงกล่าว หากตอนนี้เขาลงมือ ก็ไม่มีทางหวนกลับ
ฟางเทียนหมิงดูเหมือนว่าจะถูกความหวาดกลัวครอบงำ ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าเป็นเพียงผู้ว่าราชการเขตเล็ก ๆ หากเจ้าสังหารข้า ท่านพ่อของข้าจะต้องจับเจ้าไปขังคุก และทรมานดวงวิญญาณของเจ้า……”
คำพูดนี้ของฟางเทียนหมิง ดูเหมือนว่าจะทำให้จินหยวนเจิ้งตัดสินใจได้
ภายในดวงตาของจินหยวนเจิ้งปรากฏแววตาเย็นชา ยกฝ่ามือขึ้น
“คุณชายฟาง ข้าก็ถูกบีบบังคับ หากเจ้าต้องลงไปยังยมโลก ก็อย่าได้โทษข้าเลย!”
ปราณวิญญาณมากมายพุ่งทะลักเข้าสู่มือขวาของจินหยวนเจิ้ง
ปัง!
ฝ่ามือเดียว กระแทกเข้าที่กระหม่อมของฟางเทียนหมิงจนแหลกสลาย!!!
มองดูร่างไร้วิญญาณที่อยู่เบื้องหน้า จินหยวนเจิ้งก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
ทันใดนั้น ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นข้างหู
“พวกเจ้ากล้าดีอย่างไร!”
หลิวกงที่เดิมทีถูกพิษจนไม่สามารถขยับตัว หรือแม้แต่ใช้พลังวิญญาณได้ ก็พลันลุกขึ้นยืน
พุ่งเข้าโจมตีจินหยวนเจิ้ง
“ช่างเป็นคนบ้า เผาผลาญอายุขัยเพื่อที่จะระงับพิษ แต่……”
จิ้งจอกพันหน้ายิ้มออกมา
ก่อนที่หลิวกงจะเข้าใกล้จินหยวนเจิ้ง
เบื้องหน้าของเขาก็ปรากฏหมอกสีดำขึ้น
จากหมอกสีดำนั้น ชายชราผอมแห้งคนหนึ่งเดินออกมา
เขาคือชายชราที่สังหารเจ้าเมืองเหลี่ยวกวง
หมอกผี หรือชายชราผอมแห้งผู้นั้น
กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “มือแห่งจิต”
ในขณะที่หลิวกงไม่ทันระวังตัว
กรงเล็บที่สร้างขึ้นจากหมอกสีดำก็พุ่งออกมาจากความว่างเปล่า
ทะลวงผ่านหน้าอกของเขา
ดึงหัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ ออกมา
หลิวกงล้มลงกับพื้น กล่าวพึมพำก่อนตาย “ระดับ… เคลื่อน… วิญญาณ… ขั้น… เจ็ด……”
จินหยวนเจิ้งรู้สึกตัว
มองดูยอดฝีมือระดับเคลื่อนวิญญาณอีกคนหนึ่งของศาลาสังหารโลหิตปรากฏตัวขึ้น ภายในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
จินหยวนเจิ้งเอ่ยถาม “พ… พวกท่านต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”
“ทำสิ่งใด? ง่ายมาก พวกเราจะให้เจ้ากินโอสถแกล้งตาย หลังจากกินเข้าไป ชีพจรและเส้นชีพจรแปดเส้นของเจ้าจะอยู่ในสภาพใกล้ตาย เป็นเวลาหนึ่งวัน”
“ช่วงเวลานี้ เพียงพอที่จะให้ผู้ว่าราชการเขตคนอื่น ๆ หรือราชสำนักพบเจอเหตุการณ์ที่นี่”
“หากไม่มีข้อผิดพลาด เจ้า……”
จิ้งจอกพันหน้ากล่าวอยู่ประมาณหลายนาที จึงอธิบายแผนการทั้งหมดให้จินหยวนเจิ้งฟัง
จินหยวนเจิ้งรับโอสถแกล้งตายมาจากมือของหยินเลี่ยน สีหน้าของเขาดูไม่มั่นคง
“ผู้ว่าราชการเขตจินมีสีหน้าเช่นนี้…… หรือว่ากลัวว่าโอสถนี้จะมีพิษ?”
หยินเลี่ยนใช้มือขวาสัมผัสที่ไหล่ของจินหยวนเจิ้ง
จินหยวนเจิ้งรีบกล่าว “ผ… ผู้ยิ่งใหญ่เข้าใจผิดแล้ว ข้าเพียงแต่กลัวว่าหลังจากตื่นขึ้นมา จะถูกผู้ตรวจการสอบสวน เท่าที่ข้ารู้ ผู้ตรวจการมีสมบัติเวทที่สามารถตรวจสอบคำโกหก……”
“โปรดวางใจ พวกเราเตรียมการเอาไว้แล้ว โอสถแกล้งตายนี้ นอกจากจะมีฤทธิ์ ‘แกล้งตาย’ แล้วยังสามารถป้องกันการตรวจสอบจิตใจจากภายนอกได้”
“เว้นแต่สมบัติเวทตรวจสอบของอีกฝ่ายจะมีระดับนิลขั้นสูง หากเป็นสมบัติเวทระดับนิลทั่วไป ก็ไร้ประโยชน์”
ในเวลานี้ หลัวจวินก็เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
“เช่น… เช่นนั้นหรือ”
“อึก”
จินหยวนเจิ้งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกลืนโอสถแกล้งตายลงไป
“เช่นนี้พอใจแล้วหรือ”
หลังจากกินโอสถเข้าไป จินหยวนเจิ้งก็รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอลง
ความรู้สึกสับสนเริ่มต้นแผ่กระจายไปทั่วจิตใจ
“เช่นนั้น ผู้ว่าราชการเขตจิน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้ง”
หยินเลี่ยนยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย เดินออกไปจากข้างกายจินหยวนเจิ้ง
มือสังหารหลายคนของศาลาสังหารโลหิตมองหน้ากัน
หลัวจวินกล่าวว่า “อย่าลืมนำศพของศิษย์สายตรงตระกูลฟางกลับไป”
ตอนนี้ ปัญหาก็คือใครจะเป็นคนนำศพนี้กลับไปยังเมืองหลินเทียน
“สาวน้อยมิอาจทำเรื่องหยาบกระด้างเช่นนี้ได้ เรื่องนี้ควรจะเป็นหน้าที่ของพวกท่านคุณชาย”
จิ้งจอกพันหน้ายิ้มออกมา
ทุกคนมองหน้ากัน สุดท้ายก็มองไปยังหวู่เจินที่ร่างกายกำยำ
หวู่เจินรู้สึกไม่ดี “มองข้าทำไม?”
จิ้งจอกพันหน้ากล่าวว่า “คุณชายมีพลังวิญญาณมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังฝึกฝนวิชาร่างกายระดับนิล เรื่องนี้สาวน้อยคิดว่าควรจะมอบหมายให้ท่านคุณชายจะดีกว่า”
ไม่นานนัก
ก่อนที่หวู่เจินจะเอ่ยวาจา หมอกผีที่ไม่ค่อยมีตัวตนก็เดินออกมาอย่างช้า ๆ
กล่าวว่า “เรื่องนี้ ข้าจะจัดการเอง”
ทุกสายตามองไปยังเขา
บนมือขวาที่ผอมแห้งของหมอกผี ปรากฏแหวนที่เปล่งประกาย
แสงสว่างวาบผ่าน