ตอนที่แล้วบรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 468 ปราบปรามโลกเซียนมารอีกครา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 470 โอกาสบรรลุอริยะของเจ้าเซียนหมื่นบุปผา

บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 469 หลี่ซูผู้ไร้เทียมทาน


บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 469 หลี่ซูผู้ไร้เทียมทาน

เจ้ามารเก้าอเวจีเดือดดาลยิ่งนัก แต่ก็ทำได้เพียงแค่อาละวาดอย่างไร้ประโยชน์

ไม่ว่าเขาจะพยายามดิ้นรนอย่างไร ก็ยังคงถูกหลี่ซูเหยียบย่ำจนขยับเขยื้อนไม่ได้

อริยะเทียมอีกคนพุ่งเข้ามาโจมตี หลี่ซูจึงปลดปล่อยการโจมตีอันรุนแรงออกไปในทันใด

สีหน้าของเซียนมารระดับอริยะเทียมผู้นั้นซีดเผือด หลบหลีกไม่ทัน ถึงแม้จะหลบได้ ก็ยังคงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของหลี่ซู

หลี่ซูโจมตีอีกฝ่ายจนกระเด็นถอยหลัง ส่งเสียง “ฮึ” เบา ๆ แล้วกระทืบเท้าลงไปอีกครั้ง

ในทันใด เจ้ามารเก้าอเวจีก็ถูกหลี่ซูเหยียบย่ำจนกลายเป็นหมอกโลหิต

แต่คนผู้นี้กลับปรากฏตัวขึ้นในอีกสถานที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว วิชามารของคนผู้นี้มีลักษณะพิเศษอย่างยิ่ง

ร่างแยกของเขามีหลายร่าง ร่างแยกแต่ละร่างล้วนมีพลังเทียบเท่าอริยะเทียม

แผนการของคนผู้นี้ก็คือ ใช้วิธีนี้ พยายามทะลวงระดับเป็นอริยะโดยไม่หยุดยั้ง

ร่างแยกแต่ละร่าง ล้วนเป็นหลักประกันอย่างหนึ่ง

ยิ่งกว่านั้น เจตจำนงของร่างแยกแต่ละร่าง เขาก็ยังคงแบ่งแยกเอาไว้

เพียงแต่ว่า ร่างแยกของเขาเพิ่งจะปรากฏตัวขึ้น ก็ถูกหลี่ซูเข้าประชิดตัว โจมตีเพียงไม่กี่ครั้งก็ถูกกำจัด

หลี่ซูหลังจากกำจัดร่างแยกของเจ้ามารเก้าอเวจีแล้ว มือก็คว้าไปยังส่วนลึกของโลกเซียนมารอย่างรวดเร็ว

ที่นั่น ร่างจริงของเจ้ามารเก้าอเวจีมีสีหน้าหวาดกลัว

เขามองดูหลี่ซูคว้าเข้ามา อยากจะหลบหนี แต่ก็สายเกินไปแล้ว

“อย่าคิดที่จะเอาชนะข้า!”

เจ้ามารเก้าอเวจีส่งเสียงคำรามลั่นฟ้าดิน พลังทั้งหมดในร่างกายพุ่งทะยานถึงขีดสุด ปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของตนเองออกมา

จากนั้น การโจมตีที่รุนแรงที่สุดนี้ ก็ถูกหลี่ซูทำลายในพริบตา

เห็นว่าการโจมตีของหลี่ซูกำลังจะกลืนกินเจ้ามารเก้าอเวจี ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน

บนมือของเงาร่างนี้ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นหนึ่งเปล่งประกายเจิดจรัส ส่องสว่างไปทั่วฟ้าดิน รับมือกับหลี่ซู

“อริยะมาร!”

เซียนมารระดับสูงมากมายต่างก็ดีใจ คนผู้นี้คือ อริยะมาร

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่อริยะมารที่แท้จริง เป็นเพียงเจตจำนงหนึ่ง แต่คนผู้นี้ถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ พลังอำนาจจึงไม่ด้อยไปกว่าอริยะ

เจตจำนงของอริยะผู้นี้ น่ากลัวยิ่งนัก

ในทันใด ก็ต้านทานฝ่ามือขนาดใหญ่ของหลี่ซูเอาไว้

หลี่ซูถูกต้านทานเอาไว้ สีหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลง มือเพียงแค่สะบัด คันฉ่องขนาดใหญ่ก็ขยายใหญ่ขึ้นในทันที ราวกับว่าสะท้อนโลกเซียนมารทั้งใบเอาไว้ภายใน

ในวินาทีถัดมา คันฉ่องนี้ก็เปล่งประกายเจิดจรัสออกมา

ถึงแม้ว่าเจตจำนงของอริยะผู้นั้นจะตอบสนองได้ทันเวลา แต่ก็ยังคงถูกแสงสว่างปกคลุม ร่างกายแตกสลายในทันที จากนั้นก็สลายหายไป

หลี่ซูเพียงแค่โจมตีครั้งเดียว ก็ทำลายเจตจำนงของอริยะมารได้

สีหน้าของเจ้ามารเก้าอเวจีซีดเผือด เพราะการโจมตีของหลี่ซู ได้มาถึงอีกครั้ง

“ข้าขอยอมแพ้!”

ในช่วงเวลาคับขัน เจ้ามารเก้าอเวจีส่งเสียงตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว

หลี่ซูหยุดลง

บนใบหน้าของเจ้ามารเก้าอเวจี เหงื่อเย็นไหลริน

อริยะเทียมอีกคนที่อยู่ด้านข้าง ก็มองดูด้วยความหวาดกลัว

พลังต่อสู้ของหลี่ซู น่ากลัวยิ่งนัก

ยังไม่ได้เป็นอริยะ พลังต่อสู้กลับเทียบเท่าอริยะแล้ว

ยิ่งกว่านั้น เมื่อเทียบกับอริยะ ยังคงน่ากลัวยิ่งกว่า

หากเขาเป็นอริยะแล้วเล่า… จะแข็งแกร่งขนาดไหน!

เขาแทบจะไม่กล้าจินตนาการ!

เวลานี้ สายตาของหลี่ซูมองไปที่เขา

ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน

“ข้าขอยอมแพ้!”

คนผู้นี้ก็ยอมจำนนแล้ว

เซียนมารกับเซียนนั้นแตกต่างกัน เซียนมารส่วนใหญ่จะยอมก้มหัวให้ได้

คนเหล่านี้เห็นว่าหลี่ซูแข็งแกร่งเช่นนี้ หากยังคงต่อสู้ต่อไป คนที่เสียเปรียบก็คือพวกเขา

ดังนั้น แต่ละคนจึงยอมจำนนก่อน

ส่วนเรื่องอื่น ๆ … รอให้อริยะมารกลับมาก่อนค่อยว่ากัน

เจตจำนงของอริยะมาร สุดท้ายก็ไม่ใช่อริยะมารที่แท้จริง

พวกเขาไม่เชื่อว่า หลี่ซูจะสามารถเอาชนะอริยะได้

อริยะเทียมถึงแม้จะแข็งแกร่ง ก็ยังคงเป็นเพียงอริยะเทียม

ใต้หล้าอริยะ ล้วนเป็นเพียงมดปลวก คำพูดนี้มิใช่เพียงแค่คำพูดลอย ๆ

การเป็นอริยะกับการไม่เป็นอริยะ ความแตกต่างนั้นมากมายเหลือเกิน

.

เพียงแต่ว่า

เซียนมารเหล่านี้ไม่นานก็พบว่า การยอมจำนนมิใช่เรื่องง่าย

เซียนมารระดับกึ่งอริยะขึ้นไปแต่ละคน ต่างก็มอบหินเซียนให้หลี่ซูหลายพันล้านก้อน

คนเหล่านี้ ถูกเล่นงานแล้วยังต้องจ่ายหินเซียนอีก

ไม่เพียงเท่านั้น

หลี่ซูยังคงเริ่มจับเซียนมารหญิงที่งดงามในโลกเซียนมารอย่างบ้าคลั่ง

ชั่วขณะหนึ่ง โลกเซียนมารทั้งใบ ต่างก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเดชานุภาพแห่งราคะของหลี่ซู

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด