ตอนที่แล้วระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 499 แม่น้ำเก้าอเวจี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปชี้แจง + กลับมาแปลต่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568

ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 500 พบสมบัติล้ำค่า


ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 500 พบสมบัติล้ำค่า

"เรื่องนี้ก็ไม่แน่ ที่แห่งนี้เดิมทีก็ไม่มีสำนักนิกายที่แข็งแกร่งใด ๆ บางทีอาจจะเป็นเซียนเทียม"

อวิ๋นหลินอธิบาย

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา

กู้ชิงเฟิงก็ได้เรียนรู้บางสิ่ง

ชายผู้นี้ เมื่อแสร้งทำเป็นผู้รู้ ก็ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้

แต่หากเป็นเรื่องความสามารถในการเรียนรู้

เขากลับอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างยิ่ง

ตราบใดที่ผู้อื่นมีความรู้มากกว่าตนเอง เขาก็จะอ่อนน้อมถ่อมตน เรียนรู้จากผู้อื่น

เพียงแต่ หลังจากนั้น เขาก็จะนำเรื่องราวเหล่านั้นไปโอ้อวดผู้อื่น

กระทั่งหลอกลวงผู้อื่น จนพวกเขาต้องตกตะลึง

เหลียงเสิงก็ถูกเขาหลอกลวงเช่นกัน

จี๋อวิ๋นไม่คิดมาก่อนว่า กู้ชิงเฟิงผู้นี้จะมีโชคดีถึงเพียงนี้

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป

เกรงว่าบุตรเทพและธิดาศักดิ์สิทธิ์อีกสามคน

จะต้องพ่ายแพ้ต่อเขา

ในเวลานั้น

ขณะที่กู้ชิงเฟิงเพิ่งจะเข้าไปในถ้ำสวรรค์

และกำลังสำรวจ

จี๋อวิ๋นก็รีบควบคุมหุ่นเชิดบรรพบุรุษโพธิ์แห่งนิกายพุทธ ตงหวงไท่อี๋แห่งวังอสูร และมหาจักรพรรดิเฟิงตูแห่งยมโลก ให้นำบุตรเทพและธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตน

มายังที่แห่งนี้ หากกู้ชิงเฟิงรู้ว่าจี๋อวิ๋นทำเช่นนี้

เกรงว่าเขาคงต้องโกรธจนตาย

หรือว่าการที่ตนเองมีโชคดี เป็นเรื่องที่ผิด?

เพียงชั่วครู่ คนทั้งสามก็ได้มาถึงที่แห่งนี้

และในเวลานั้น ทจักรพรรดิเซียนที่ติดตามกู้ชิงเฟิง

เมื่อเห็นถ้ำสวรรค์แห่งนี้

เขาก็รู้สึกได้ว่าภายในนั้น ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาต้องการ

นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกังวล

คือคนทั้งสองที่อยู่ข้างกายกู้ชิงเฟิง

แม้ว่าพลังอำนาจบนร่างกายของคนทั้งสอง จะอยู่ในระดับกึ่งจักรพรรดิเซียน

แต่เขากลับมิอาจหยั่งถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของพวกเขาได้

ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ลงมือ

ในชั่วขณะถัดมา เขาก็ได้ยินว่ามีคนมาถึงที่แห่งนี้

“ไม่คิดเลยว่านิกายพุทธก็จะมาที่แห่งนี้เช่นกัน”

เซียวลั่วหลีเห็นเจียงหยู่ซีปรากฏตัวขึ้น จึงเอ่ยวาจาขึ้น

“อมิตาพุทธ โยมก็รู้ว่าที่แห่งนี้มีสมบัติล้ำค่าหรือ?”

เจียงหยู่ซีได้เรียนรู้แก่นแท้ของนิกายพุทธแล้ว

ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับผู้ใด

เขาก็สามารถเผชิญหน้าได้ด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง

“แน่นอน มิเช่นนั้น เหตุใดจึงมีเพียงนิกายพุทธของโยมที่รู้?”

ขณะที่คนทั้งสองกำลังโต้เถียงกัน

จากที่ไกลโพ้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ไม่คิดเลยว่าพวกโยมจะมาก่อนข้า! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

พลังอำนาจของเหยาหรูอวี้ ก็อยู่ในระดับราชันเซียนเหนือหล้าเช่นกัน

เพียงครึ่งก้าว ก็สามารถก้าวเข้าสู่ระดับกึ่งจักรพรรดิเซียนได้

เพียงแต่ พวกเขาทั้งสามคน ได้รับคำสั่ง ห้ามรีบร้อนทะลวงระดับ ต้องรอคอยโอกาส

พลังอำนาจของพวกเขาทั้งสามในตอนนี้ แม้แต่กึ่งจักรพรรดิเซียนสามัญ ก็มิอาจทำอันใดพวกเขาได้

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็มาดูกันว่าใครมีความสามารถมากกว่ากัน ใครจะสามารถช่วงชิงสมบัติล้ำค่าที่แห่งนี้ได้”

แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในขุมอำนาจที่แตกต่างกัน

กระทั่งความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ยังไม่ค่อยดีนัก

แต่บุตรเทพและธิดาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้

กลับรู้สึกถูกชะตากัน

ท้ายที่สุดแล้ว พรสวรรค์ในโลกนี้มีเพียงไม่กี่คน

แน่นอนว่า พวกเขายังคงคิดถึง

การมีอยู่ของจี๋อวิ๋น

เพียงแต่ จี๋อวิ๋นมักจะไม่ปรากฏตัว

ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว ล้วนเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึง

ในตอนที่พวกเขาสอบถามผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง เกี่ยวกับข่าวสารของจี๋อวิ๋น พวกเขากลับไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ

บัดนี้ จี๋อวิ๋นสำหรับพวกเขาแล้ว ก็ไม่ต่างจากปริศนา

“ไม่รู้ว่าวันนี้ ชายผู้นั้นจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่หรือไม่”

เหยาหรูอวี้คิดถึงจี๋อวิ๋น

เซียวลั่วหลีได้ยินเช่นนั้น ก็ส่ายหน้า

“เป็นไปไม่ได้กระมัง จากที่มหาจักรพรรดิเฟิงตูกล่าว ที่แห่งนี้น่าจะเป็นกู้ชิงเฟิงที่ค้นพบ หลังจากที่พวกเขาสำรวจแล้ว ก็ส่งข้ามาที่นี่ ไม่คิดเลยว่าพวกโยมก็จะมาเช่นกัน”

เมื่อได้ยินเซียวลั่วหลีกล่าวเช่นนั้น

เจียงหยู่ซีก็พยักหน้า

“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ”

“เช่นนั้น พวกเรารีบลงมือเถิด ราชาอสูรได้บอกกับข้าว่า กู้ชิงเฟิงผู้นี้มีโชคดีอย่างยิ่ง บอกว่าหากมีเวลาว่าง ก็ให้จับตาดูเขา”

เหยาหรูอวี้ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใด ๆ

เพียงแต่บอกเล่าเรื่องราวที่ตนเองรู้

คนทั้งสองได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า

“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ไม่อาจปล่อยให้พลังอำนาจของชายผู้นี้ แข็งแกร่งขึ้นมาก่อนพวกเรา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

หลังจากที่คนทั้งสามกล่าวจบ

ก็เดินทางผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยกับดัก เข้าไปในประตูยมโลก

ในเวลานี้ กู้ชิงเฟิงได้เดินนำหน้าไปแล้ว

“ในเมื่อเป็นเซียนเทียม เช่นนั้น ถ้ำสวรรค์ที่พวกเราเข้าไป มิได้มีค่าอันใดหรือ?”

เขาก็หันหลังกลับ

สอบถามอวิ๋นหลินที่อยู่ข้างกาย

“เจ้าอย่าได้ดูถูกเซียนเทียม เซียนเทียมเหล่านี้ในยุคบุพกาล แม้ว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับ แต่พลังอำนาจของพวกเขาก็ยังคงไม่เลว”

“เพียงแต่ น่าสงสาร พวกเขาไม่ได้รับตำแหน่งเทพพิทักษ์ จึงไม่ได้รับพลังบุญกุศล การเพิ่มพูนระดับตบะ จำเป็นต้องอาศัยพลังเหล่านี้”

“พวกเขาไม่ได้รับพลังบุญกุศล พลังอำนาจจึงมักจะติดอยู่ที่ระดับเซียนทองต้าหลัวระยะสูงสุด ในเวลานั้น พวกเขาบางคนเลือกที่จะทำลายชะตากรรมของตนเอง ทะลวงระดับเข้าสู่กึ่งอริยะ และบางคนเลือกที่จะเข้าร่วมกับวังสวรรค์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากพลังบุญกุศล”

“เมื่อข้ามาถึงที่แห่งนี้ ข้าก็สัมผัสได้ว่าพลังอำนาจของเจ้าของที่แห่งนี้ในช่วงชีวิตก่อน น่าจะอยู่ในระดับกึ่งอริยะ เพียงแต่ เขาก็ยังคงไม่สามารถหนีรอดจากความตาย”

“ยิ่งไปกว่านั้น ที่แห่งนี้ยังคงห่างไกลผู้คน นี่เป็นลักษณะของเซียนเทียม”

เมื่อได้ยินคำอธิบายของเขา

กู้ชิงเฟิงก็รู้สึกคาดหวังเล็กน้อย

“ไม่คิดเลยว่า พวกเจ้าจะนำข้ามาที่แห่งนี้ และยังบอกเล่าเรื่องราวเช่นนี้ให้กับข้า ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเจ้าก็ไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว”

จักรพรรดิเซียนที่ติดตามพวกเขามา

ในที่สุดก็ทนไม่ไหว

แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจระดับตบะที่อวิ๋นหลินกล่าวถึง แต่กลิ่นอายภายในถ้ำสวรรค์แห่งนี้ ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความไม่ธรรมดา

ดังนั้น เขาจึงต้องการช่วงชิงมันมา

บัดนี้ กู้ชิงเฟิงได้นำเขาเข้ามาในส่วนลึกของถ้ำสวรรค์แล้ว

เขาไม่จำเป็นต้องให้กู้ชิงเฟิงและคนอื่น ๆ นำทางอีกต่อไป

“โอ้? เมื่อใดกันที่ข้ามีหางติดตามมา”

“ตั้งแต่เริ่มต้น เพียงแต่ข้าไม่ได้เอ่ยวาจาใด ๆ”

อวิ๋นหลินและไป๋ฉื้อทง แท้จริงแล้วคือคนเดียวกัน

คนทั้งสองถามตอบกัน

คำพูดที่พวกเขากล่าวออกมา

ทำให้จักรพรรดิเซียนผู้นั้น ตกตะลึง

“เพียงแค่พวกเจ้าสองคน ก็คิดจะตรวจสอบกลิ่นอายของข้าหรือ? ช่างฝันกลางวันเสียจริง เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อหรือ?”

จักรพรรดิเซียนผู้นั้นมีสีหน้าที่ไม่เชื่อ

ในมือของเขา

มีพิษมากมายแผ่กระจายออกมา

“โอ้? ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนเจ้าเล่ห์ ฝึกฝนมหามรรคแห่งพิษ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ให้ข้าออกมาพบเจ้า”

อวิ๋นหลินมองเห็นความจริงของเขาในทันที

เมื่อได้ยินอวิ๋นหลินกล่าวเช่นนั้น

จักรพรรดิเซียนผู้นั้นกลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ

บนใบหน้าของเขา ปรากฏรอยยิ้มอันโหดเหี้ยม

“หากพวกเจ้ารู้จักประมาณตน ก็จงจากไปจากที่แห่งนี้เสีย ข้าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้า แต่หากพวกเจ้ายังคงอยู่ที่นี่ ต่อไปคงจะไม่ดีนัก”

เมื่อได้ยินคำพูดที่โอหังของเขา

อวิ๋นหลินจึงโบกมือเรียกเขา

“เพียงแค่เจ้า ก็คิดจะลงมือกับข้าหรือ?”

ในเวลานี้ กลิ่นอายบนร่างกายของอวิ๋นหลิน

ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

เมื่อครู่ เขากำลังสนทนากับกู้ชิงเฟิง แน่นอนว่าเขาไม่ได้คิดจะกดขี่อีกฝ่าย

แต่ตอนนี้ จักรพรรดิเซียนผู้นี้ปรากฏตัวขึ้น!

ยังกล้ามาโอ้อวดพลังต่อหน้าเขา เขาจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายสบายใจ

0 0 โหวต
Article Rating
12 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด