บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 447 มหาความชั่วร้ายตื่นขึ้น
บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 447 มหาความชั่วร้ายตื่นขึ้น
ภายในโลกเซียนอสูร ไม่มีใครรู้ว่า กึ่งอริยะของเผ่าจิ้งจอก จิ่วเว่ยเจ้าอสูร ในวันนี้ ได้กลายเป็นผู้หญิงของหลี่ซู
เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว อสูรกลับรักแรงเกลียดแรง
พอนางตกหลุมรักใครสักคน ก็จะรักจนวันตาย
เวลานี้ หากความรักของอสูรถูกทรยศ ก็มักจะเกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรง
นี่เป็นเรื่องปกติ
เช่นเดียวกับหลี่ม่อโฉวในละครโทรทัศน์ก่อนที่หลี่ซูจะข้ามภพมา นางในอดีตก็เป็นหญิงสาวที่ร่าเริงและรักใคร่ มีมุมที่อ่อนโยนเช่นกัน
เพียงแต่ถูกคนรักทอดทิ้ง จึงได้เปลี่ยนไป
มนุษย์ยังเป็นเช่นนี้ แล้วอสูรเล่า
เพียงแต่ หลี่ซูมิใช่คนใจร้ายเช่นนั้น
ผู้หญิงของหลี่ซู ไม่มีใครถูกทรยศ
เพียงแต่ สิ่งที่จิ่วเว่ยนึกไม่ถึงก็คือ หลี่ซูกลับกลั่นแกล้งนางหลายเดือน
ทำให้นางตกตะลึง
นางก็ได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ผู้หญิงคนอื่นของหลี่ซูต้องเผชิญ
ถึงแม้จะรู้สึกจนใจ แต่ก็มีความสุขและยินดี
เพียงแต่ ครั้งแรกก็ถูกหลี่ซูกลั่นแกล้งนานเช่นนี้ ทำให้นางอยากร้องไห้
.
หลายเดือนต่อมา ในที่สุดหลี่ซูก็ปล่อยนางไป
ถึงแม้จะถูกกลั่นแกล้งหลายเดือน เวลาที่จิ่วเว่ยเห็นหลี่ซู ก็ยังคงเขินอายอย่างมาก
เห็นท่าทางเขินอายของนาง หลี่ซูจึงอยู่เป็นเพื่อนอีกหลายวัน จึงได้จากโลกเซียนอสูรไป
จากนั้น เขาก็หลอมโอสถมรรคามากมาย
วัสดุที่ใช้หลอมโอสถมรรคา หายากมาก
หลี่ซูก็มีไม่มากนัก
ตอนนี้ในบ้านของหลี่ซู มีกึ่งอริยะหนึ่งคน อริยะเทียมหนึ่งคน
ต้าหลัวก็มีหลายปีแล้ว
พอไปถึงจุดสูงสุดระดับต้าหลัวแล้ว เวลาที่สัมผัสมรรคครั้งแรก หากมีโอสถมรรคาก็จะง่ายขึ้น
หลี่ซูหลอมให้กับอวี้เว่ย ไป๋เว่ย คนละหนึ่งเม็ด
ส่วนคนอื่น รอให้พวกนางไปถึงขอบเขตนั้นก่อนค่อยว่ากัน
จากนั้น หลี่ซูก็หลอมให้เจ้าเซียนหมื่นบุปผาหนึ่งเม็ด
“นี่คือโอสถมรรคาหรือ”
หลังจากที่เจ้าเซียนหมื่นบุปผาได้รับ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ซู นี่เจ้าให้ข้าหรือ”
นางไม่แน่ใจ
หลี่ซูพยักหน้า
“ขอบคุณ”
เจ้าเซียนหมื่นบุปผารับมา
จากนั้น นางก็มอบของสิ่งหนึ่งให้หลี่ซู
“นี่คือแผ่นค่ายกลแกนกลางของชั้นฟ้าหมื่นบุปผา ข้าเตรียมจะไปหลอมรวมกับมรรคเป็นเวลานาน ชั้นฟ้าหมื่นบุปผาฝากเจ้ากับไป๋เว่ย”
นางกล่าว
“นี่คือน้ำผึ้งของข้า เวลาที่สำคัญ สามารถใช้ป้องกันตัวได้”
นางก็มอบขวดเล็ก ๆ ให้หลี่ซูอีกขวดหนึ่ง
พูดถึงน้ำผึ้ง ใบหน้าของนางก็แดงขึ้นเล็กน้อย
นี่คือของวิเศษที่บรรจุต้นกำเนิดชีวิตของนาง นี่เป็นครั้งแรกที่นางมอบให้คนอื่น
“บนต้นไม้เทพมหาบรรพกาลหลายต้นของชั้นฟ้าหมื่นบุปผา มีของบางอย่าง ในสถานการณ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของพวกมัน เจ้าสามารถไปเก็บได้”
นางกล่าวอีกครั้ง
สุดท้าย หลังจากที่มอบหมายเรื่องราวมากมายให้หลี่ซู มอบของให้หลี่ซูไม่น้อยแล้ว เจ้าเซียนหมื่นบุปผาก็ได้ปิดด่านบำเพ็ญอย่างเป็นทางการ
นางจะไปหลอมรวมกับมรรคเป็นเวลานาน
เวลานี้ อย่างน้อยก็นับหมื่นปี
หรือแม้แต่หลายแสนปี หลายล้านปี
อยากจะเป็นอริยะ มิใช่เรื่องง่าย
.
หลังจากที่เจ้าเซียนหมื่นบุปผาปิดด่านบำเพ็ญแล้ว เจ้าเซียนของชั้นฟ้าหมื่นบุปผาก็ได้กลายเป็นไป๋เว่ยอย่างเป็นทางการ
ไป๋เว่ยประจำการอยู่ที่ชั้นฟ้าหมื่นบุปผา
ไป๋เว่ยก็ได้แต่งงานกับหลี่ซูแล้ว
สองชั้นฟ้าของโลกเซียน จึงได้ตกเป็นของตระกูลหลี่
เรื่องนี้ ทำให้เกิดการพูดคุยกันในโลกเซียน
เซียนมากมายต่างก็พูดถึงความแข็งแกร่งและความมหัศจรรย์ของตระกูลหลี่
เวลายังคงผ่านไปอย่างต่อเนื่อง
หลี่ซูไม่ได้รีบร้อนไปที่โลกวิญญาณเทพ
เพราะเขากำลังจะบรรลุเป็นอริยะเทียมแล้ว
หลายสิบปีต่อมา หลี่ซูก็ได้ก้าวไปอีกขั้นอย่างเงียบ ๆ
กลายเป็นอริยะเทียมในคราวเดียว
การก้าวไปอีกขั้นครั้งนี้ แตกต่างจากกึ่งอริยะโดยสิ้นเชิง
เขาในตอนนี้ อายุยังไม่ถึงสองแสนปี ก็กลายเป็นอริยะเทียมแล้ว
“แบบนี้ ภายในหนึ่งล้านปี น่าจะบรรลุเป็นอริยะได้”
หลี่ซูคิด
หนึ่งล้านปีบรรลุเป็นอริยะ
ความเร็วเช่นนี้ นับว่าไม่เคยมีมาก่อน
ความจริงแล้ว หากหลี่ซูเพียงแค่อยากจะเป็นอริยะ เขาในตอนนี้ก็สามารถทำได้แล้ว
เพียงแค่การสร้างสังสารวัฏ หลายปีผ่านไป ก็ได้ครอบคลุมอาณาจักรวิญญาณต่าง ๆ ในโลกเบื้องล่างเกือบทั้งหมดแล้ว
เพียงเท่านี้ อีกไม่กี่หมื่นปี หลี่ซูก็สามารถควบคุมสังสารวัฏได้
แต่สิ่งที่หลี่ซูต้องการ มิใช่เพียงแค่สังสารวัฏ
เวลาที่ใช้ จึงนานกว่า
.
หลังจากที่หลี่ซูเป็นอริยะเทียมแล้ว ก็ไม่ได้ประกาศ
วันนี้ จิตสำนึกวิญญาณของเขาก็ได้มาถึงโลกวิญญาณเทพอีกครั้ง
เขาอยากลองดูว่า สามารถใช้การเปลี่ยนแปลงระหว่างความจริงกับความฝัน เข้าไปในโลกวิญญาณเทพได้หรือไม่
พอดี ช่วงนี้ไม่มีเรื่องให้ทำ
ไม่นาน จิตสำนึกวิญญาณของเขาก็มาถึงเหวลึกที่จักรพรรดิโบราณอยู่
เพียงแต่ ครั้งนี้ หลี่ซูกลับไม่เห็นจักรพรรดิโบราณ
“นางไปที่ใดแล้ว”
ไม่นาน หลี่ซูก็พบข้อความที่จักรพรรดิโบราณทิ้งเอาไว้
“มีเทพธิดาคนหนึ่งบนสวรรค์อยากจะเป็นเทพสูงสุด พอนางเป็นเทพสูงสุดแล้ว กำแพงผลึกของโลกใบนี้จะสั่นสะเทือน ทำให้ ‘มหาความชั่วร้าย’ ข้างนอกตื่นขึ้นมา เปิ่นเซียนจึงต้องไปคุยกับนาง”
ที่แท้นางไปที่โลกสวรรค์แล้ว
จิตสำนึกวิญญาณของหลี่ซูมุ่งหน้าไปยังโลกสวรรค์
ยังไม่ทันได้ถึงโลกสวรรค์ ก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนของการต่อสู้
หลี่ซูมองดู วิญญาณเทพมากมายบนสวรรค์ กำลังต่อสู้กับจักรพรรดิโบราณ
โลกสวรรค์ทั้งหมด มีเทพหลักสิบคน
ในเทพหลักสิบคนนี้ มีประมาณสามคนที่เทียบเท่าระดับต้าหลัว ส่วนที่เหลือเป็นระดับไท่อี่
เวลานี้ เทพหลักเก้าในสิบคน ได้ลงมือแล้ว
วิญญาณเทพคนอื่น ๆ ก็ได้เข้าร่วมการต่อสู้เช่นกัน
พวกเขาได้ส่งพลังเทพของตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้เทพหลักสิบคนใช้
จักรพรรดิโบราณใช้พลังของตนเอง ต่อสู้กับวิญญาณเทพมากมายบนสวรรค์ แต่ก็ยังคงได้เปรียบ
เพียงแต่ วิญญาณเทพมากมายได้รวมพลังเทพทั้งหมด ก่อตัวเป็นม่านพลังที่แข็งแกร่ง
ปิดกั้นจักรพรรดิโบราณเอาไว้
“คนโง่ พอนางเป็นเทพสูงสุดแล้ว ก็คือวันโลกาวินาศของโลกพวกเจ้า”
ถึงแม้จะเป็นจักรพรรดิโบราณ ก็ยังคงร้อนรนเล็กน้อย
เพราะ ใจกลางโลกสวรรค์ เทพธิดาแห่งชีวิตที่สวมชุดขาว เหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะเป็นเทพสูงสุดแล้ว
แต่นางพูดอะไร วิญญาณเทพมากมายบนสวรรค์ก็ไม่ฟัง คิดว่านางมาขัดขวาง จึงไม่ให้นางเข้าใกล้
จิตสำนึกของหลี่ซูเคลื่อนไหว เตรียมจะใช้วิชาลับ เข้าไปในโลกวิญญาณเทพ
เวลานี้ ทันใดนั้น
เบื้องบนท้องฟ้าสูงสุดของโลกวิญญาณเทพ แสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวบริสุทธิ์ได้พุ่งออกมา ส่องสว่างไปทั่วโลก
โลกทั้งใบ ก็สั่นสะเทือน
“จบแล้ว”
จักรพรรดิโบราณถอยหลังหนึ่งก้าว เตรียมจะหนีไปแล้ว
นางเป็นต้าหลัวมานานกว่าหนึ่งแสนปีแล้ว ใกล้จะเป็นกึ่งอริยะแล้ว ถึงแม้ ‘มหาความชั่วร้าย’ จะมาถึง หากนางอยากจะหนี ก็ยังคงหนีไปได้
เพียงแต่นาง ไม่อยากเห็นโลกใบนี้ถูกทำลาย
พร้อมกับการสั่นสะเทือนของโลก นอกโลก สิ่งมีชีวิตหนึ่งที่หลับใหลไปนานเท่าไหร่ไม่รู้… ได้ลืมตาขึ้น