บทที่ 78 ไทแรนท์สเกเลตัล
บทที่ 78 ไทแรนท์สเกเลตัล
ในระยะไกลได้มีไทแรนท์สเกเลตัลเดินไปมา เมื่อลู่หยางเห็นว่าพลังชีวิตของผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ฟื้นฟูกลับขึ้นมาจนเต็ม เขาจึงก้าวเข้าไปในระยะ 30 เมตรจากไทแรนท์สเกเลตัล
ไทแรนท์สเกเลตัล (ระดับลอร์ด)
เลเวล 30
พลังชีวิต 450,000/450,000
ตอนนี้ไทแรนท์สเกเลตัลกำลังยืนอยู่หน้าบัลลังก์ ขนาดร่างกายของมันสูงประมาณสองเท่าของมนุษย์ โครงกระดูกมีสีเทาเข้ม บนศีรษะมีเขาอยู่สองเขา ทางด้านหลังถูกสวมเอาไว้ด้วยผ้าคลุมสีทองแดง
ตรงบริเวณอกของไทแรนท์สเกเลตัลไม่มีเกราะป้องกัน มันจึงเผยให้เห็นโครงกระดูกที่ไม่มีเนื้อหนัง บริเวณขาด้านซ้ายยังคงมีเนื้ออยู่บางส่วน และบริเวณขาขวาถูกปกคลุมไปด้วยหัวกะโหลกเล็ก ๆ จำนวนนับไม่ถ้วน
เข็มขัดตรงบริเวณเอวถูกสร้างขึ้นมาจากหัวกะโหลกขนาดใหญ่ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุดสำหรับมอนสเตอร์ตัวนี้คือค้อนด้ามยาวที่ไม่ได้ทำขึ้นมาจากโลหะ แต่เป็นหัวกะโหลกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกนำมาเชื่อมต่อติดกัน และด้วยอาวุธชิ้นนี้จึงทำให้ไทแรนท์สเกเลตัลสามารถใช้สกิลอันโดดเด่นของมันออกไปได้ โดยสกิลนั้นคือสกิลที่มีชื่อว่าดีม่อนโซลสแลช
ดีม่อนโซลสแลชเป็นสกิลที่สร้างความเสียหายธาตุวิญญาณมาพร้อมกับการโจมตีปกติ โดยมันสามารถสร้างความเสียหายธาตุวิญญาณได้สูงถึง 3,000 หน่วยและมันก็เป็นสกิลการโจมตีระยะประชิดที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 10×10 เมตร
ในชาติที่แล้วผู้เล่นทีมแรกที่เดินทางมาบุกเบิกสถานที่แห่งนี้คือทีมของผู้เล่นชั้นยอดเลเวล 20 จำนวนกว่า 200 คน โดยผู้เล่นแต่ละคนต่างก็สวมใส่อุปกรณ์อย่างน้อยระดับเงิน และมันก็มีผู้เล่นบางคนที่ครอบครองอุปกรณ์ระดับแพลตตินั่มอยู่ด้วยซ้ำ
การฆ่ามอนสเตอร์ในก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขาคิดว่ามอนสเตอร์ในแผนที่นี้ไม่ได้มีตัวอันตราย เมื่อพวกเขาเห็นไทแรนท์สเกเลตัล พวกเขาก็คิดว่ามันสามารถฆ่าได้ง่าย ๆ ไม่ต่างไปจากนีลสเกเลตัลมากนัก นักรบกว่า 20 คนจึงไม่ฟังคำสั่งและพุ่งตัวออกไปพร้อมกันตามความเคยชิน
นักรบสายป้องกันเลเวล 20 ที่สวมใส่อุปกรณ์ระดับเงินครบทั้งชุดจะมีพลังชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2,000 หน่วย พวกเขาจึงคิดว่าตัวเองสามารถรับมือกับบอสได้ง่าย ๆ และแย่งกันใช้สกิลยั่วยุดึงความสนใจของบอสมาที่ตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็นไทแรนท์สเกเลตัลเปิดใช้งานสกิลดีม่อนโซลสแลช โจมตีออกไปเป็นวงกว้างและทำให้นักรบทั้ง 20 คนตายหมดในครั้งเดียว
ตอนแรกผู้นำทีมก็ไม่ได้ให้ความสนใจไทแรนท์สเกเลตัลมากนัก ตอนที่เขาเห็นนักรบพุ่งเข้าไปจึงไม่ได้คิดที่จะสั่งห้าม เมื่อนักรบทั้ง 20 คนเสียชีวิตลงภายใต้การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว มันจึงทำให้คนอื่น ๆ ยืนงงด้วยความสับสน ซึ่งก่อนที่พวกเขาจะทันได้รู้ตัวไทแรนท์สเกเลตัลก็กระโจนเข้ามาแล้ว
หลังจากกระโจนเข้าไปในกลุ่มผู้เล่น ไทแรนท์สเกเลตัลก็ได้ใช้ดีม่อนโซลสแลชออกมา 4 ครั้งติดต่อกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมามากกว่า 80 คน
แม้จะเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าแต่ผู้นำทีมก็ยังไม่ตื่นตระหนก เขาจึงสั่งให้พาลาดินเข้าไปชนกับบอสเอาไว้และสั่งให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ ไปยืนประจำตำแหน่งของตัวเอง
พาลาดินคนนี้คือตัวแทงค์หลักของทีม ทั่วทั้งตัวของเขาจึงเต็มไปด้วยอุปกรณ์ระดับแพลตตินั่มที่เน้นเพิ่มพลังชีวิตทั้งหมดทำให้เขามีพลังชีวิตมากกว่า 5,000 หน่วย และถึงแม้ว่าบอสจะสามารถสร้างความเสียหายได้ครั้งละมากกว่า 3,000 หน่วย แต่ด้วยการรักษาของนักบวชมากกว่า 20 คน การรับมือกับบอสย่อมไม่ทำให้เขาประสบพบเจอกับปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตามไทแรนท์สเกเลตัลก็ไม่ได้มีสกิลดีม่อนโซลสแลชเพียงสกิลเดียว เมื่อพลังชีวิตของมันลดลงทุก ๆ 20% มันก็จะเปิดใช้งานสกิลใหญ่สกิลที่ 2 ที่มีชื่อว่าบลัดดี้ปาร์ตี้
บลัดดี้ปาร์ตี้เป็นสกิลโจมตีวงกว้างที่สามารถจู่โจมเข้าใส่ผู้เล่นทุกคนในรัศมี 30 เมตรและสร้างความเสียหายธาตุวิญญาณได้มากถึง 5,000 หน่วย
เมื่อบอสใช้บลัดดี้ปาร์ตี้ออกมาเป็นครั้งแรก พาลาดินซึ่งเป็นตัวแทงค์หลักของทีมก็เสียชีวิตลงไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อบอสใช้บลัดดี้ปาร์ตี้ออกมาเป็นครั้งที่ 2 ในคราวนี้สมาชิกภายในทีมต่างก็ล้วนแล้วแต่ถูกสังหารลงไปทั้งหมด
ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบว่าการจัดการกับไทแรนท์สเกเลตัลเป็นงานที่ยากมาก หลังจากนั้นพวกเขาจึงย้ายไปบุกเบิกยังสถานที่อื่น ๆ อีกนานกว่าครึ่งปี แล้วถึงแม้ผู้เล่นจะมีเลเวลสูงถึง 50 แล้วแต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะบอสตัวนี้ได้
ด้วยความโหดร้ายของสกิลบลัดดี้ปาร์ตี้ ไม่ว่าผู้เล่นจะขนคนมาเป็นจำนวนมากเท่าไหร่แต่สุดท้ายมันก็จบลงที่คนตายยกทีมอยู่เหมือนเดิม
จนกระทั่งในวันหนึ่งบลัดไทแรนท์ได้โอ้อวดค่าสถานะของผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เลเวล 7 บนอินเตอร์เน็ต ที่หลังจากมันได้รับการวิวัฒนาการแล้วมันจะได้กลายเป็นนักรบเกราะดำใส่หมวกปิดบังใบหน้าเอาไว้อย่างมิดชิด นอกจากนี้เนื่องมาจากมันเป็นมอนสเตอร์ธาตุวิญญาณมันจึงมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีธาตุวิญญาณอย่างสมบูรณ์
เมื่อพบวิธีเอาชนะไทแรนท์สเกเลตัล ทีมบุกเบิกจึงได้ใช้ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ในการแทงค์บอสเอาไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อบอสได้ใช้สกิลบลัดดี้ปาร์ตี้ออกมา มันก็ยังมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากอยู่ดีจนกระทั่งภายในทีมเหลือนักเวท 1 คนและนักบวชอีกหนึ่งคน พวกเขาจึงสามารถสังหารไทแรนท์สเกเลตัลได้สำเร็จ
โดยปกติแล้วลู่หยางย่อมไม่มีทางรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด แต่ทีมผู้บุกเบิกมีการขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ในภายหลังทำให้ผู้ที่ถูกไล่ออกจากสตูดิโอไม่พอใจจนเป็นเหตุให้เขานำวิดีโอออกมาเผยแพร่อย่างโมโห
ย้อนกลับไปในตอนนั้นลู่หยางดูวิดีโอนี้ซ้ำ ๆ เป็นเวลานานเพื่อเรียนรู้วิธีการใช้สกิลแฟลชหลบสกิล และถึงแม้ในตอนนี้เขาจะย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ แต่ภาพเหตุการณ์ในวิดีโอนั้นยังคงติดตาตรึงใจเขาไม่รู้ลืม
“มนุษย์? มีมนุษย์บุกรุกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง” ไทแรนท์สเกเลตัลเริ่มพึมพำเมื่อมันค้นพบตัวตนของลู่หยาง
ต่อมาโครงกระดูกที่สูงกว่ามนุษย์สองเท่าก็ได้ยกค้อนหัวกะโหลกของมันขึ้นก่อให้เกิดภาพเงาหลอนพุ่งเข้าชาร์จใส่ลู่หยาง
ร่างของชายหนุ่มกลายเป็นแสงสว่างในพริบตา ก่อนที่ลู่หยางจะปรากฏกายขึ้นอีกครั้งบนบัลลังก์ การเคลื่อนไหวของเขาจึงสามารถหลบหลีกการโจมตีของไทแรนท์สเกเลตัลได้อย่างง่ายดาย
การโจมตีเมื่อสักครู่นี้คือจุดเด่นของไทแรนท์สเกเลตัลนั่นก็คือการชาร์จบวกกับการโจมตีออกไปอย่างหนัก ซึ่งเมื่อนำการโจมตีทั้งสองชนิดนี้มาคอมโบกัน มันก็จะสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าปกติถึงสี่เท่า
พลังโจมตีของไทแรนท์สเกเลตัลอยู่ที่ 700 กว่าหน่วย การโจมตีเมื่อสักครู่จึงสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 2,800 หน่วย ถึงแม้ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์จะมีพลังป้องกันสูงถึง 600 หน่วย แต่การโจมตีรูปแบบนี้เพียงครั้งเดียวก็มากพอที่จะทำให้พลังชีวิตของผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ลดลงไปมากกว่าครึ่ง
เพื่อความปลอดภัยลู่หยางจึงเลือกใช้วิธีการเทเลพอร์ตหลบหนีมากกว่าที่จะให้ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ต้านรับการโจมตีครั้งแรกของบอส
หลังจากหลบสกิลเปิดของบอสได้สำเร็จ เขาก็สั่งให้ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์พุ่งเข้าโจมตีพร้อมกับใช้สกิลฟันดาบของมันออกไป
-84, -264
ไทแรนท์สเกเลตัลกำลังจะใช้สกิลอินเตอร์เซปพุ่งหาลู่หยางเป็นครั้งที่ 2 แต่เมื่อมันถูกโจมตีจากผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ ความเกลียดชังทั้งหมดของมันจึงเปลี่ยนไปยังอัศวินเกราะดำที่อยู่ใกล้ ๆ แทน
ดีม่อนโซลสแลช!
เมื่อบอสเริ่มเปิดใช้สกิลท่าไม้ตายตัวอักษรคำว่าพลาดก็ลอยขึ้นมาเหนือศีรษะผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ ก่อนที่มันจะตามมาด้วยตัวเลข -194
คำว่าพลาดที่ปรากฏขึ้นมาครั้งแรกหมายความว่าความเสียหายธาตุวิญญาณไม่แสดงผล ส่วนความเสียหาย -194 หน่วยมันก็เกิดขึ้นมาจากความเสียหายทางกายภาพของไทแรนท์สเกเลตัล
ลู่หยางเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดีเมื่อได้พบว่าสกิลนี้แทบจะไม่มีผลกับผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เลย หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มท่องคาถาเพื่อใช้สกิลคอมบัสชันกับบอส
-267
สัญลักษณ์ลูกไฟปรากฏขึ้นเหนือศีรษะไทแรนท์สเกเลตัลในทันที และเนื่องจากมันไม่มีความต้านทานธาตุไฟ ไทแรนท์สเกเลตัลจึงรับความเสียหายธาตุไฟเข้าไปเต็ม ๆ
แม้ลู่หยางจะสร้างความเสียหายได้ค่อนข้างสูง แต่ไทแรนท์สเกเลตัลก็ยังคงล็อคเป้าหมายไปที่ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์และทำการใช้สกิลดีม่อนโซสแลชออกมาอย่างต่อเนื่อง
บริเวณรอบ ๆ ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ในรัศมี 10 เมตรมีดวงวิญญาณสีขาวซีดเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนล่องลอยไปมาในอากาศ แต่น่าเสียดายที่วิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับอัศวินเกราะดำได้
ลู่หยางรอจนกระทั่งผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์จะดึงดูดความเกลียดชังของไทแรนท์สเกเลตัลเอาไว้ได้อย่างมั่นคง เขาจึงใช้สกิลคอมบัสชันออกมาอีกสี่ครั้งเพื่อเพิ่มโบนัสความเสียหายธาตุไฟให้สูงถึง 150 หน่วย จากนั้นชายหนุ่มก็ใช้สกิลไฟร์วอลล์จุดไฟขึ้นมายังตำแหน่งใต้เท้าของบอส
-481
ไฟร์วอลล์เลเวล 2 มีความเสียหายพื้นฐานอยู่ที่ 84 หน่วย ประกอบกับโบนัสความเสียหายจากสกิลคอมบัสชัน 5 ชั้นและพลังโจมตีเวทของชายหนุ่มอีก 247 หน่วย มันจึงทำให้กำแพงไฟสามารถสร้างความเสียหายได้สูงถึง 481 หน่วยต่อวินาที
ลู่หยางยังคงใช้สกิลออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่เขาใช้สกิลไฟร์วอลล์ออกมาแล้วชายหนุ่มก็ทำการเรียกลูกไฟขนาดใหญ่ออกมาจากปลายเท้า ก่อนที่จะยิงเบลซซิงเบิร์สออกไปในทุก ๆ 0.5 วินาที
-1,082 (คริติคอล)
-1,082 (คริติคอล)
-1,082 (คริติคอล)
…
จิ๊บ ๆ