บทที่ 162: ความสงสัย [ฟรี]

วันรุ่งขึ้นทุกคนตื่นนอน และเคนเลือกที่จะอยู่ห่างจากกลุ่มอีกครั้ง ลูกเรือไม่เข้าใจว่าทำไมเคนถึงอยู่ห่างจากกลุ่มมาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้ห้าม และหลังจากเขาจากไปหนึ่งชั่วโมง เอเนลก็ปรากฏตัวในที่สุด

อุซปต้องการพิสูจน์ความกล้าหาญของเขา จึงเป็นคนแรกที่ออกไปเผชิญหน้ากับเอเนล เพราะคิดว่านี่เป็นแค่นักบวชคนอื่น เมื่อไม่กี่นาทีก่อน นักบวชร่างกลมปรากฏตัว และถูกซันจิเล่นงานด้วยการเตะไปมาเหมือนลูกฟุตบอลขนาดใหญ่

ดังนั้นอุซปจึงอิจฉาและอยากแสดงความกล้าให้เพื่อนๆ เห็น นั่นเป็นความผิดพลาดครั้งแรกและใหญ่ที่สุดของอุซปนับตั้งแต่เขาปีนบันไดขึ้นไปหาแมรี่ เขาก้าวออกไปในอากาศและยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเอเนล

จากนั้นเขาก็หยิบธนูออกมายิงใส่เอเนล ตรงนั้นเองที่พวกเขารู้ว่าเอเนลคือคนที่เคนพูดถึงก่อนหน้านี้และเป็นคนที่พวกเขารู้สึกว่าคอยจับตามองพวกเขา ลูกธนูทะลุผ่านร่างของเขาขณะที่เขาเปลี่ยนร่างเป็นธาตุ

"อุซป!!" ลูฟี่มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเขาก็ถูก เอเนลปล่อยไฟฟ้า 500,000 โวลต์ใส่อุซป และแม้ว่าเขาจะพยายามหลบ แต่ก็สายเกินไปแล้ว ไฟฟ้าแรงสูงพุ่งผ่านร่างของเขา และจากนั้นเขาก็ร่วงลงพื้น

ซันจิกระโดดขึ้นไปรับร่างของอุซปที่หมดสติและนำลงมา ช็อปเปอร์วิ่งไปดูว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่และรู้สึกขอบคุณที่ชีพจรยังปกติ เขาหมดสติเพราะผิวหนังถูกไหม้จนกรอบและความเจ็บปวดมากเกินไป

โซโร ซันจิ และลูฟี่โกรธมาก 'อย่าทำร้ายเพื่อนของเรา' เป็นคติของลูกเรือ และเอเนลทำแบบนั้นต่อหน้าพวกเขา

ลูฟี่ ซันจิ และโซโรเข้าสู่โหมดต่อสู้ โซโรใช้ลมหายใจแห่งตะวันพร้อมกับเคลือบดาบด้วยฮาคิเกราะ ลวดลายไฟบนดาบสว่างเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ ซันจิมีไฟขนาดใหญ่ลุกอยู่ใต้เท้า และลูฟี่ประสานอินเรียกร่างเงาออกมา 10 ตัว

ปกติลูฟี่ไม่ชอบเรียกร่างเงา เพราะรู้สึกว่าเป็นการดูถูกพลังของเขา แต่ที่นี่เขาไม่อาจปล่อยผ่านสิ่งที่เกิดขึ้น แม้เอเนลจะทำหน้านิ่ง แต่หัวใจของเขาเต้นข้ามจังหวะเมื่อเห็นชายเหล่านี้ที่มีออร่ามหาศาลมองเขาด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม

แต่เขาต้องรักษาสัญญาไม่ว่าอย่างไร และการต่อสู้มหากาพย์ 1 ต่อ 3 ก็เริ่มขึ้น เอเนลค่อนข้างเจ้าเล่ห์ในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาไม่ปล่อยให้อีโก้ครอบงำ เคนบอกว่าสายฟ้าของเขาไม่มีผลกับลูฟี่ เขาจึงเลือกใช้วิธีอื่น

นั่นคือความร้อน แม้ว่าลูฟี่จะใช้ไฟได้และจะมีภูมิต้านทานสูงในอนาคต แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะปลอดภัยจากความร้อนอย่างสมบูรณ์ และเอเนลใช้จุดนั้น เขาหยิบหอกทองคำออกมาและเปลี่ยนรูปร่างมันโดยใช้ไฟฟ้า ไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นความร้อนที่นี่และทำให้หอกทองคำร้อนจัด

เอเนลลอยอยู่สูงในอากาศ และมีเพียงซันจิที่สามารถบินได้ รูปแบบการบินของซันจิไม่ใช่แบบทั่วไป และเขาสามารถใช้เท้าเป็นเครื่องยนต์ได้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงใช้เท้าได้เพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่จะต้องหยุดตัวเองไม่ให้ลงไปชิมหญ้า

ดังนั้นโซโรจึงไม่สามารถทำอะไรน่าประทับใจได้มากในการต่อสู้และทำได้เพียงโจมตีเมื่อลูฟี่และซันจิให้แรงส่ง ลูฟี่ช่วยส่งโดยสร้างเสาขนาดใหญ่ที่โซโรวิ่งขึ้นไปและฟันใส่เอเนล ในขณะที่ลูฟี่ก็ทำเช่นเดียวกันและกระโดดขึ้นไปในอากาศเพื่อต่อยเอเนล

เขารู้ว่าการใช้นินจุตสึธาตุใดๆ กับคนนี้นั้นไร้ประโยชน์ เพราะเขาเป็นเหมือนสายฟ้า และมีเพียงฮาคิเท่านั้นที่จะครองความยิ่งใหญ่ได้ แต่มีอีกอย่าง: เอเนลก็มีฮาคิสังเกตเช่นกัน และมันไม่เหมือนของเคนที่ฝึกฝนมาพักใหญ่

และดังนั้น แม้ว่าคนพวกนี้จะมีฮาคิเกราะ พวกเขาก็ต้องลงมือโจมตีให้โดน และนอกจากนั้น ลูฟี่ โซโร และซันจิต้องหลบทั้งสายฟ้าและหอกทองคำขนาดใหญ่

ช็อปเปอร์และคนอื่นๆ พร้อมที่จะช่วยทั้งสาม เพราะคิดว่าพวกเขามีความสามารถพอ แต่โรบินห้ามไว้

"โรบิน เธอทำอะไร? พวกเราใช้พลังของเราสู้กับไอ้ติ่งหูยาวนั่นได้นะ" นามิรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

"ใช่ พวกเราใช้เทคโนโลยีของฉันเบี่ยงเบนไฟฟ้าทั้งหมดที่มันผลิตและระบายลงพื้นได้" วิวี่พูด นั่นเป็นวิธีที่ไฟฟ้าถูกระบายในบ้าน

"ใช่ พวกเราต้องช่วยลูฟี่" คริกเก็ตทุบอกเช่นกัน เหมือนโชโจและมาชิระ

"ไม่... พวกคุณไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ?" โรบินถาม

"อะไรแปลก?" ช็อปเปอร์ถาม

"ทั้งสถานการณ์นี้" โรบินพูด

"หมายความว่ายังไง?" วิวี่ถาม

"มีการต่อสู้ใหญ่ขนาดนี้ และเคนไม่ปรากฏตัว เขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในการควบคุมสายฟ้าและน่าจะจัดการเทพเจ้าที่ปรากฏตัวนี้ได้ดีที่สุด" โรบินเตือนว่าหนึ่งในพลังหลักของเคนคือสายฟ้า และเขาเป็นที่รู้จักในการคอยสอดส่องทุกอย่างรอบตัว

แต่เขาไม่ปรากฏตัว ชายคนนี้น่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะทั้งหมด และเคนกลับไม่สนใจมาช่วยลูกเรือของเขา นี่มันน่าสงสัยมาก

"เขาต้องติดธุระอื่นแน่ๆ" ช็อปเปอร์ไม่ได้คิดมากเรื่องการไม่อยู่ของเคน

"ไม่ เขาอยู่ห่างจากพวกเราตั้งแต่เมื่อวาน ต้องมีเหตุผลแน่" โรบินโต้แย้ง

"แล้วเธอกำลังบอกว่าอะไร? เขาตั้งใจไม่ช่วยพวกเราหรือ?" นามิถาม เธอเริ่มเห็นสิ่งที่โรบินกำลังพูดถึง

"ใช่ บางทีเขาอาจจะเป็นคนส่งชายคนนี้มาหาพวกเรา" โรบินพูดถึงข้อสงสัยของเธอ