ตอนที่แล้วตอนที่ 661 กุญแจรถเป็นกล่องๆ เลยเหรอ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 663 พวกเธอว่าพี่เขยฉันเจ๋งมั้ย?

ตอนที่ 662 'ฟรี' นี่แหละที่แพงที่สุด


Doomsday is Coming

โม่ เมิ่งเฟย ได้ตอบกลับ

“เราดึงตัวผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่มีประสบการณ์มาช่วยพัฒนาเกมประเภทนี้โดยเฉพาะ”

โม่ เมิ่งเฟย อธิบายเหตุผลในการพัฒนาเกมนี้

เนื่องจากเธอไม่มีประสบการณ์ด้านการทำงานในบริษัทเกมมาก่อน ดังนั้นเธอจึงต้องค่อยๆ เรียนรู้ไป และการพัฒนาเกมนี้ก็เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านการพัฒนาเกมของบริษัทให้มากขึ้น

หากทำกำไรได้บ้างก็นับว่าเป็นผลกำไร

ดังนั้นการเริ่มต้นจากเกมแนวเอาชีวิตรอดจากวันสิ้นโลกน่าจะปลอดภัยกว่า

นี่เป็นเกมแรกที่บริษัท ฟิวเจอร์ เกมออกแบบ และพัฒนาด้วยตัวเอง การใช้เวลา และการลงทุนในการพัฒนาจึงไม่มากนัก

“วันสิ้นโลก ดูเหมือนจะน่าสนใจทีเดียวนะ”

เย่เฉิน พยักหน้า เขาเริ่มสนใจมากขึ้น

“ว่าแต่ เกมนี้จะคิดเงิน หรือปล่อยให้เล่นฟรี?”

เย่เฉิน ถามอีกครั้ง

“ฟรีนะ”

โม่ เมิ่งเฟย พยักหน้า

แต่แรกสุด เรื่องว่าจะให้เกมเล็กๆ อย่าง ‘Doomsday is Coming’ เป็นเกมฟรี หรือไม่ก็มีการอภิปรายกันยาวในหมู่ผู้บริหารบริษัท

จนในท้ายที่สุด โม่ เมิ่งเฟย เสนอให้เกมนี้เป็นเกมฟรีได้สำเร็จ

“แม้ฉันจะไม่เชี่ยวชาญด้านการบริหารบริษัทเกม และยังใหม่อยู่ก็ตาม แต่มีคำพูดหนึ่งที่ฉันจำได้ดี”

โม่ เมิ่งเฟย ยิ้มตอบ

“เกม ‘ฟรี’ นี่แหละที่แพงที่สุด”

เห็นรอยยิ้มของ โม่ เมิ่งเฟย เย่เฉิน ก็ยิ้มตอบกลับเช่นกันว่า :

“ในฐานะที่ผมเป็นคนเล่นเกมมานาน ผมเข้าใจคำพูดนี้ดีเลยล่ะ”

เกมที่ต้องเสียเงินเล่นมักจะสู้เกมฟรีที่มีการซื้อไอเทมในเกมไม่ได้

โม่ เมิ่งเฟย พยักหน้า เห็นด้วยกับสิ่งที่ เย่เฉิน พูด และนี่คือสิ่งที่เธอต้องการจะพูดจริงๆ

“ผมอยากขอลองเล่นเกมที่เราพัฒนาดูหน่อยดีกว่า คุณว่าไง?”

เย่เฉิน พูดอย่างตื่นเต้นด้วยความกระตือรือร้นที่อยากจะลอง

“ได้สิ”

โม่ เมิ่งเฟย ยิ้มพลางพยักหน้า

ผ่านไปไม่กี่นาที เย่เฉิน ก็ได้ลองเล่นเกม ‘Doomsday is Coming’ ล่วงหน้า

หลังจากเล่นไปประมาณ 20 นาที เย่เฉิน ก็หยุดแล้วให้ความเห็นว่า :

“โดยรวมถือว่าดีมาก”

ในฐานะที่เป็นเกมแรกที่บริษัท ฟิวเจอร์ เกมพัฒนาเอง และใช้เวลา และต้นทุนไม่มาก ได้ขนาดนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว

แน่นอนว่ายังมีข้อบกพร่องเล็กน้อยอยู่บ้าง เย่เฉิน จึงเสนอความคิดเห็นบางอย่างเพื่อให้ปรับปรุงอีกนิดหน่อย

ในช่วงเวลานี้ บริษัทน่าจะสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้

“หวังว่ามันจะติดอันดับในหมวดหมู่เกมยอดดาวน์โหลด และเกมยอดนิยมได้”

โม่ เมิ่งเฟย พูดอย่างคาดหวัง

ขอแค่ติดอันดับยอดดาวน์โหลด และยอดนิยมสักระยะก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

“เป้าหมายของคุณยังเล็กไปนะ ลองขยับเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นดีกว่า เป้าหมายของเราคือติดอันดับท็อป 10 ในหมวดหมู่เกมยอดดาวน์โหลด และเกมยอดนิยม”

เย่เฉิน คิดก่อนจะตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

จริงๆ แล้ว เย่เฉิน อยากจะพูดว่าติดท็อป 5 แต่เมื่อคิดถึงเกมที่ได้รับความนิยมจำนวนมากในประเทศ การติดท็อป 5 น่าจะยากเกินไป

ดังนั้นเขาจึงลดระดับลงเหลือท็อป 10 แทน ถ้าสามารถติดท็อป 10 ได้ เกมนี้จะสามารถนำกำไรมาสู่บริษัท ฟิวเจอร์ เกมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

แน่นอน.. เย่เฉิน หวังว่าเกมนี้จะประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมเช่นกัน

“หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”

โม่ เมิ่งเฟย พยักหน้า เธอก็รอคอยผลลัพธ์ของเกมนี้เช่นกัน เพราะนี่เป็นผลงานที่เธอทุ่มเทมาตลอด

ที่จริงแล้วแม่ของเธอเร่งให้เธอกลับเจียงโจวไปจัดการงานของบริษัท โม่ กรุ๊ป ตั้งนานแล้ว

แต่เพราะเกมนี้ยังพัฒนาไม่เสร็จ โม่ เมิ่งเฟย จึงขอเลื่อนออกไปเรื่อยๆ จนทำให้เธอกับแม่มีความขัดแย้งกันบ้างเล็กน้อย

เมื่อเธอทุ่มเทขนาดนี้แล้ว เธอก็อยากเห็นผลลัพธ์เช่นกัน

“ว่าแต่ แล้วโปรเจกต์ใหญ่ของเรา เกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ ไปถึงไหนแล้ว?”

เย่เฉิน ถามถึงเรื่องสำคัญที่สุดอีกครั้ง

การพัฒนาเกมเล็กๆ นั้นเรียกได้ว่าเป็นงานรอง ส่วนเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ นี่แหละคืองานหลัก

“ตอนนี้ก็ราบรื่นดีนะ งานหลักของบริษัทตอนนี้ก็ยังเป็นการพัฒนาเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’”

โม่ เมิ่งเฟย ได้ตอบกลับ

ส่วนการพัฒนาเกม ‘Doomsday is Coming’ ของบริษัทถือเป็นงานรองเล็กๆ เท่านั้น เนื่องจากบุคลากรด้านเทคนิคส่วนใหญ่ของบริษัทกำลังมุ่งพัฒนาเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ ที่เป็นโปรเจกต์หลัก

โม่ เมิ่งเฟย เล่ารายละเอียดความคืบหน้าของการพัฒนาเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ ให้ เย่เฉิน ฟังด้วย

“เราต้องเร่งพัฒนาต่อไป พร้อมกับดึงคนที่มีความสามารถด้านเทคนิคมาช่วยอีก เพิ่มขนาดทีมพัฒนาให้ใหญ่ขึ้น”

เย่เฉิน กล่าวขึ้นมา

เย่เฉิน หวังว่าเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ จะพัฒนาให้แล้วเสร็จไวๆ เนื่องจากนั่นหมายถึงกำไรมหาศาลที่รอเขาอยู่

“ถ้าขาดเงินทุนบอกได้เลยทันที”

“ปัญหาไหนที่แก้ด้วยเงินได้ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาเช่นกัน”

เย่เฉิน ไม่ลังเลที่จะเพิ่มการลงทุนในเกมนี้

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

โม่ เมิ่งเฟย ยิ้มพยักหน้า

ตอนเที่ยง เย่เฉิน ได้เลี้ยงข้าวขอบคุณ โม่ เมิ่งเฟย ที่ช่วยทำงานอย่างหนักในช่วงนี้ แล้วพวกเขาก็แยกกันไปหลังจากทานอาหารเสร็จ

โดย โม่ เมิ่งเฟย กลับไปจัดการงานที่บริษัท ส่วนทางด้าน เย่เฉิน กลับไปที่คฤหาสน์ ถานกง ของเขา

ประมาณบ่ายสองกว่าๆ เย่เฉิน ก็ได้รับข้อความจาก ซู หลิงเอ๋อร์

“พี่เขย หนูมาถึงที่สตูดิโอของบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป ในเซี่ยงไฮ้แล้ว เดี๋ยวเจอกันนะคะ”

เมื่อเห็นข้อความของ ซู หลิงเอ๋อร์ เย่เฉิน ก็แปลกใจเล็กน้อย

หลิงเอ๋อร์ นี้อยากเจอ ‘เมยเมย’ ขนาดนั้นเลยหรือ?

เขาเคยบอก ซู หลิงเอ๋อร์ ว่าเมื่อไหร่ที่เธอมาถึงเซี่ยงไฮ้ให้โทรหาเขา เขาจะได้ไปรับที่สนามบิน

แต่ดูเหมือน ซู หลิงเอ๋อร์ จะรอไม่ไหว เธอถึงขั้นตรงดิ่งไปที่สตูดิโอทันที

หลิงเอ๋อร์ คงจะชื่นชอบ เมยเมย จริงๆ

บริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป มีสตูดิโออยู่ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่ง เทย์เลอร์ สวิฟต์ จะพักที่นั่นระหว่างอยู่ที่เซี่ยงไฮ้

“โอเค ได้ เดี๋ยวเจอกัน”

เย่เฉิน ส่งข้อความตอบกลับไป ก่อนจะขับรถ BMW 7 Series มุ่งหน้าไปยังสตูดิโอของ บริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์

ประมาณยี่สิบนาทีต่อมา ซู หลิงเอ๋อร์ ก็มาถึงที่หมายของเธอ

เมื่อเธอลงจากรถก็เห็นคนจำนวนมากยืนล้อมอยู่หน้าสตูดิโอ อย่างน้อยก็มีกันอยู่หลายสิบคน

บางคนถึงกับชูภาพของ เมยเมย มาเลย เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาไล่ตามดาราที่ชื่นชอบ

มองคนเหล่านั้น ซู หลิงเอ๋อร์ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจ

เธอโชคดีมากจริงๆ ที่มีพี่เขยที่เก่ง และยอดเยี่ยมขนาดนี้

ถ้าไม่ได้พี่เขย ต่อให้รู้ว่า เมยเมย มาที่เซี่ยงไฮ้ เธอก็คงต้องยืนรออยู่ด้านนอกแบบพวกเขา ได้แต่หวังจะเห็น เมยเมย จากระยะไกล

ส่วนการจะได้ถ่ายรูป หรือพูดคุยด้วยคงไม่มีทางเลย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็รู้สึกภูมิใจมาก

พี่เขยยังมาไม่ถึง เธอเองก็เข้าไปไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่ต้องยืนรออยู่ด้านนอกเท่านั้น

ไหนๆ ก็มีเวลาว่างแล้ว งั้นถือโอกาสนี้วิดีโอคอลหาเพื่อนสาวในกลุ่มซะเลย

อวดว่าตัวเองกำลังจะได้เจอ เมยเมย ให้พวกเพื่อนๆ อิจฉาเล่นดีกว่า อิอิ

เมื่อคิดได้ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรวิดีโอคอลไปในกลุ่มทันที

“มีอะไรเหรอ หลิงเอ๋อร์?”

“หลิงเอ๋อร์ นั่นเธออยู่ที่ไหนเนี่ย?”

“ใช่ วันนี้ไม่เห็นเธอเลย”

พอรับสายวิดีโอคอลกันแล้ว เพื่อนสาวในกลุ่มหลายคนต่างก็ถามด้วยความสงสัย

“เฮ้อ ถ้าบอกพวกเธอ พวกเธอต้องไม่เชื่อแน่ๆ ตอนนี้ฉันอยู่ที่เซี่ยงไฮ้”

ซู หลิงเอ๋อร์ ยิ้มอย่างมีความสุขบนใบหน้าของเธอ

“เดี๋ยวฉันจะได้เจอ เมยเมย ได้ถ่ายรูปคู่ แล้วก็ได้ขอลายเซ็นด้วย”

ซู หลิงเอ๋อร์ พูดด้วยความตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด