ตอนที่แล้วบรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 434 หลี่ซูสำเร็จเป็นกึ่งอริยะ อวี้เวยสำเร็จเป็นอริยะเทียม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 436 คลื่นมารอสูรโจมตี

บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 435 สิ้นหวังอีกครั้ง


บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 435 สิ้นหวังอีกครั้ง

“ตูม!”

ภายในฟ้านอกสวรรค์ การต่อสู้ครั้งหนึ่งกำลังดำเนินไป

ฝ่ายหนึ่งคือ หลี่ซู อีกฝ่ายหนึ่ง คือ อวี้เว่ย

เวลานี้ ทั้งสองคนได้เข้าไปลึกภายในฟ้านอกสวรรค์แล้ว หลังจากที่หลี่ซูร่ายมหาค่ายกลสอดส่องฟ้าที่ปกปิดแรงสั่นสะเทือน จึงได้ประลองกับอวี้เว่ย

การต่อสู้ครั้งนี้ ใช้เวลานานมาก

“ซู ทำไมเจ้าถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้”

อวี้เว่ยหยุดลง มาถึงข้างกายหลี่ซู มองหลี่ซูด้วยความประหลาดใจ

นางเป็นถึงอริยะเทียมแล้ว ต่อสู้กับหลี่ซูนานเช่นนี้ กลับไม่สามารถเอาชนะหลี่ซูได้

แม้แต่ได้เปรียบก็ยังทำไม่ได้

นางเป็นถึงอริยะเทียม ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับอริยะแล้ว

กล่าวคือ ถึงแม้หลี่ซูจะเป็นเพียงกึ่งอริยะ พลังต่อสู้กลับเทียบเท่ากับอริยะเทียมแล้ว

หลี่ซูแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

ถึงแม้ว่าอวี้เว่ยจะมอบกายถวายตัวให้กับหลี่ซูแล้ว และจริงใจต่อหลี่ซู แต่หลายปีที่นางอยู่ในมณฑลเทพ นางกลับใช้เวลาส่วนใหญ่ในการปิดด่านบำเพ็ญ

นางจึงไม่ค่อยรู้จักหลี่ซูมากนัก

ตอนนี้ดูเหมือนว่า ชายของนาง...กลับยิ่งลึกลับ ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ

จากนั้น

นางก็ได้รู้จัก ความแข็งแกร่งอีกด้านหนึ่งของหลี่ซู

หลังจากที่นางเป็นอริยะเทียมแล้ว... นางกับหลี่ซูได้ต่อสู้กันครั้งใหญ่ในฟ้านอกสวรรค์ ยังไม่ทันได้พักผ่อน

หลี่ซูก็...นางหลายปี

หลังจากที่อวี้เว่ยเป็นอริยะเทียมแล้ว หลี่ซูก็มีความสุขมากขึ้น

ถึงแม้ว่านางจะยังคงบำเพ็ญอยู่ แต่หลี่ซูก็ยังคงสามารถลิ้มรสความงดงามของนางได้ทุก ๆ ระยะเวลาหนึ่ง

อวี้เว่ยก็จะไปที่ชั้นฟ้าหมื่นบุปผาบ่อยครั้ง

หลังจากที่เจ้าเซียนหมื่นบุปผารู้ว่านางเป็นอริยะเทียมแล้ว ก็มีความสุขมากเช่นกัน

ถึงแม้ว่าหลี่ซูจะเป็นกึ่งอริยะแล้ว แต่กลับไม่มีความตั้งใจที่จะเปิดเผย

เพียงแค่กึ่งอริยะเท่านั้น

“ซู ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นกึ่งอริยะได้เร็วเช่นนี้”

เจ้าเซียนหมื่นบุปผามองหลี่ซู ภายในดวงตามีความประหลาดใจ

เพียงแค่ไม่กี่หมื่นปี หลี่ซูก็เป็นกึ่งอริยะแล้ว

นางก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นหลี่ซูมากขึ้น

พร้อมกันนั้น ก็ยิ่งสิ้นหวังมากขึ้น

เพราะเซียนบุปผาที่ชั้นฟ้าหมื่นบุปผาแต่งงานกับหลี่ซู มีมากขึ้นเรื่อย ๆ

หลายปีผ่านไป มีเซียนบุปผามากกว่าหนึ่งร้อยคนที่แต่งงานกับหลี่ซูแล้ว

หลังจากที่เซียนบุปผามากมายแต่งงานกับหลี่ซู เซียนบุปผาคนอื่น ๆ ที่มีใจให้หลี่ซู ก็ยิ่งกล้าหาญมากขึ้น

กาลเวลาก็ยังคงดำเนินต่อไป

วันหนึ่ง ภายในชั้นฟ้าหมื่นบุปผา ก็มีต้าหลัวเกิดขึ้นอีกคน

ต้าหลัวผู้นี้ บำเพ็ญในระดับเซียนทองมานานกว่าสองล้านปีแล้ว

ร่างจริงของนางคือ ดอกโรสแมรี่ ชื่อว่า จื่อหลัว

สาเหตุที่ชื่อของนางมีคำว่า จื่อ เพราะกลีบดอกไม้ของนางเป็นสีม่วง

เจ้าเซียนหมื่นบุปผาเห็นว่าชั้นฟ้าหมื่นบุปผามีพลังแข็งแกร่งมากขึ้น ก็มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง

เพียงแต่ว่า เรื่องที่ทำให้นางสิ้นหวังก็มาถึงอีกครั้ง

หลังจากที่จื่อหลัวเป็นต้าหลัวแล้ว นางก็อยากแต่งงานกับหลี่ซู

ดังนั้น พิธีแต่งงานอีกครั้งหนึ่งจึงได้จัดขึ้น

“จอมเซียนหลี่ซู แต่งงานกับต้าหลัวของชั้นฟ้าหมื่นบุปผาอีกแล้วหรือ”

“แบบนี้ ต้าหลัวของชั้นฟ้าหมื่นบุปผา จะถูกจอมเซียนหลี่ซูแต่งงานจนหมดแล้วกระมัง”

เซียนมากมายในโลกเซียน ต่างก็ตกตะลึง

หลังจากแต่งงานกับจื่อหลัวแล้ว ชีวิตของหลี่ซูก็ยิ่งสุขสบายมากขึ้น

วันหนึ่ง เจ้าเซียนหมื่นบุปผาก็มาหาหลี่ซู

“ซู มีเรื่องหนึ่ง ข้าอยากจะขอให้เจ้าช่วย”

เจ้าเซียนหมื่นบุปผากล่าว

“เชิญเจ้าเซียนกล่าว”

หลี่ซูกล่าว

เจ้าเซียนหมื่นบุปผากล่าวว่า “ก่อนจื่อหลัว ชั้นฟ้าหมื่นบุปผามีเพียงสองต้าหลัว คนหนึ่งคือ จื่อหลัว อีกคนหนึ่งคือ ไป๋เว่ย ไป๋เว่ยใกล้จะเป็นกึ่งอริยะแล้ว แต่หลายปีผ่านไป นางกลับไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้...”

หลี่ซูก็เข้าใจความหมายของนาง

เห็นว่าหลี่ซูเป็นกึ่งอริยะได้เร็วเช่นนี้ ความเข้าใจในมรรคก็ลึกซึ้งมาก เจ้าเซียนหมื่นบุปผาจึงอยากขอให้หลี่ซูช่วยไป๋เว่ย

หลี่ซูตกลง

ไม่กี่วันต่อมา หลี่ซูก็ได้พบกับไป๋เว่ย

ไป๋เว่ยดูบริสุทธิ์มาก พลังของนางไปถึงระดับต้าหลัวขั้นสมบูรณ์แล้ว แต่กลับไม่สามารถทะลวงระดับเป็นกึ่งอริยะได้

ก้าวที่สำคัญนั้น ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้

ประตูสู่การเป็นอริยะ ก็ไม่สามารถผลักเปิดได้

ไป๋เว่ย เป็นผู้สืบทอดที่เจ้าเซียนหมื่นบุปผาเลือกไว้

ตอนนี้ หลังจากที่นางเป็นอริยะเทียมแล้ว สาเหตุที่นางไม่ปิดด่านบำเพ็ญตลอดเวลา ส่วนใหญ่เป็นเพราะ นางต้องดูแลชั้นฟ้าหมื่นบุปผา

ชั้นฟ้าหมื่นบุปผาไม่มีผู้สืบทอด นางจึงไม่สบายใจ

อริยะเทียมอยากจะเป็นอริยะ ต้องใช้เวลานานในการหลอมรวมกับมรรคแห่งฟ้าดิน การหลอมรวมแต่ละครั้ง อาจจะใช้เวลาหนึ่งร้อยถึงหนึ่งล้านปี

ถึงแม้จะเป็นหลี่ซู หลังจากเป็นอริยะเทียมแล้ว อยากจะเป็นอริยะ ต้องอาศัยแต้มพิสูจน์มรรคของระบบ ก็ยังคงต้องใช้เวลานานเช่นนี้

เพียงแต่ว่า เวลาถูกย่นย่อลงมาก พร้อมกันนั้นก็จะไม่มีความเสี่ยงใด ๆ

ดังนั้น ตอนที่หลี่ซูไปที่โลกเซียนมาร เพื่อยึดชั้นฟ้ามารฝันร้าย ถึงแม้ว่าในโลกเซียนมารตอนนั้นจะมีอริยะเทียมมากกว่าหนึ่งคน แต่ในเวลาสั้น ๆ มีเพียงเจ้ามารเก้าอเวจีเท่านั้นที่สามารถตื่นขึ้นมาได้

การหลอมรวมกับมรรค มิใช่ว่าจะไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ แต่เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นวิกฤตทำลายโลก อริยะเทียมคนอื่น ๆ ของชั้นฟ้ามารฝันร้าย จะไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้

ตื่นขึ้นมาหนึ่งครั้ง ความพยายามหลายปี อาจจะสูญเปล่า

ดังนั้น หลายปีต่อมา หลี่ซูจึงพาไป๋เว่ยอยู่ข้างกาย อธิบายมรรคให้กับนาง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนาง

ภายใต้การดูแลอย่างดีของเขา ในที่สุด หลายพันปีต่อมา ไป๋เว่ยที่ถูกคอขวดจำกัดเอาไว้นานหลายปี ก็กลายเป็นกึ่งอริยะได้สำเร็จ

“ซู ขอบคุณเจ้า”

หลังจากที่ไป๋เว่ยกลายเป็นกึ่งอริยะแล้ว ค่ำคืนนี้ ไป๋เว่ยที่อยู่กับหลี่ซูมาหลายพันปี ก็ได้มอบกายถวายตัวให้กับหลี่ซู

จากนั้น เจ้าเซียนหมื่นบุปผาก็สิ้นหวังอีกครั้ง

ผู้สืบทอดของตนเอง...กลับอยากจะแต่งงานกับหลี่ซูเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด