บทที่ 73 พระราชวังนีล
บทที่ 73 พระราชวังนีล
เมื่อกาลเวลาได้ผ่านพ้นไปอย่างยาวนานชาวนีลที่เคยถูกสังหารก็ได้กลายเป็นซอมบี้และโครงกระดูกไร้วิญญาณ
พวกที่อ่อนแอที่สุดคือซอมบี้เลเวล 25-27 รูปร่างหน้าตาของพวกมันคล้ายมนุษย์, ผิวสีแดงก่ำ, ถือดาบยาวและพวกมันก็กระจายตัวอยู่รอบนอกของซากปรักหักพัง
ลู่หยางเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูขนาดใหญ่ที่มีซอมบี้ 2 ตัวกำลังเดินไปเดินมาอย่างไร้จุดหมาย
ซอมบี้
เลเวล 25
พลังชีวิต 3,660/3,660
ชายหนุ่มยกมือขึ้นใช้เบลซซิงเบิร์สยิงไปยังศีรษะของซอมบี้ตัวหนึ่ง
-732 (คริติคอล)
ซอมบี้ทั้งสองมุ่งเป้ามาที่ลู่หยางในทันที ก่อนที่พวกมันจะค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้ามาอย่างช้า ๆ
มอนสเตอร์เคลื่อนที่ช้าคือจุดเด่นของแผนที่แห่งนี้ และถึงแม้พวกมันจะมีเลเวลค่อนข้างสูง แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกมันก็มีเพียง 1 ใน 4 ของมอนสเตอร์ธรรมดาทั่ว ๆ ไป
เบลซซิงเบิร์สที่ลู่หยางปล่อยออกไปมีเอฟเฟกต์ทำให้เป้าหมายหยุดชะงัก ซอมบี้ที่ถูกโจมตีจึงแทบไม่ได้เดินไปไหนก่อนที่มันจะตายลงไปในที่สุด
ในเวลาเดียวกันซอมบี้อีกตัวก็กำลังเคลื่อนไหวเข้ามาอย่างช้า ๆ และถึงแม้เพื่อนของมันจะตายไปแล้ว แต่ระยะห่างระหว่างมันกับลู่หยางก็ยังคงเหลืออยู่ประมาณ 20 เมตรอยู่ดี
ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ได้รับคำสั่งให้เข้าไปพัวพันกับซอมบี้ตัวนี้เอาไว้
-206
ความเสียหายจากการฟันดาบของผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์จัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ขณะที่ซอมบี้ที่พยายามยกดาบยาวฟันเข้าใส่อัศวินตรงหน้ากลับสามารถสร้างความเสียหายขึ้นมาได้เพียงแค่หน่วยเดียว
โคตรถึก!
นี่คือข้อโดดเด่นมากที่สุดของผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ เพราะแม้แต่มอนสเตอร์เลเวล 25 ก็ยังไม่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของมันเข้ามาได้
ลู่หยางปล่อยเบลซซิงเบิร์สเข้าสังหารซอมบี้ตัวที่ 2 ในเวลาเพียงแค่ไม่นาน และเมื่อเห็นว่าพวกมันไม่ได้ดรอปอะไรลงมาชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปในซากปรักหักพัง
พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้างมากและเนื่องจากลู่หยางเป็นผู้เล่นคนแรกที่เข้ามาบุกเบิกสถานที่แห่งนี้ ทางด้านในจึงมีซอมบี้อยู่อย่างมากมาย
หากเป็นก่อนหน้านี้ลู่หยางคงจะต้องคอยสังหารมอนสเตอร์ไปทีละตัวอย่างช้า ๆ แต่ในตอนนี้เขามีผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์และสกิลเฟลมเบิร์ดแล้ว การฆ่ามอนสเตอร์จึงกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ได้รับคำสั่งให้วิ่งเข้าไปดึงดูดความสนใจของซอมบี้มากกว่า 40 ตัว ซึ่งในระหว่างนั้นลู่หยางก็ท่องคาถาเพื่อเรียกนกไฟขึ้นมาภายในมือ
เฟลมเบิร์ด!
-412, -832, -417, -488,...
ตัวเลขความเสียหายเป็นจำนวนมากลอยขึ้นมาเหนือหัวกลุ่มซอมบี้ และถึงแม้พวกมันจะได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยเสื้อคลุมสปอร์ที่ช่วยลดความเกลียดชังพวกซอมบี้จึงยังคงมุ่งเป้าไปยังผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ต่อไป
ในทางกลับกันฝูงซอมบี้แทบจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นมอนสเตอร์ระยะประชิด เมื่อมีพรรคพวกกีดขวางอยู่ตรงหน้าซอมบี้ที่อยู่ด้านหลังจึงไม่สามารถเข้ามาจู่โจมเข้าใส่ผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์ได้
ลู่หยางทำการปล่อยเฟลมเบิร์ดออกไปติดต่อกันมากกว่า 20 ครั้ง ก่อนที่เขาจะสังหารซอมบี้เหล่านี้ได้จนหมด
เนื่องจากการสังหารมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าตัวเองถึง 15 เลเวล ลู่หยางจึงได้รับค่าประสบการณ์มากถึง 150% การสังหารซอมบี้เพียงฝูงเดียวจึงทำให้แถบค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มขึ้นมาถึง 10%
ก่อนหน้านี้ลู่หยางเสียเวลาวิ่งไปมาระหว่างแผนที่มากกว่า 20 ชั่วโมงทำให้ผู้เล่นเก็บเลเวลไล่ตามเขามาแล้ว อย่างไรก็ตามหากเขาได้รับคทาดีวายไฟร์สตาฟมา การเก็บเลเวลในสถานที่แห่งนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน
“ลูกพี่ ผมออกไปพักแล้วนะ” เสี่ยวเหลียงส่งข้อความมา
เด็กหนุ่มเก็บเลเวลติดต่อกันมานานกว่า 20 ชั่วโมงติดต่อกันแล้ว เขาจึงทนไม่ไหวและอยากจะออกไปนอนพักก่อน ทางด้านเซี่ยหยู่เว่ยกับหลานอวี่ก็ออกไปพักตั้งแต่ 4 ชั่วโมงก่อนแล้วด้วยเหมือนกัน ขณะที่ซุนหยูก็ออกไปพักตอนที่ลู่หยางเดินทางมายังเกาะ
“ไปพักเถอะ อีกสักพักฉันก็จะออกไปพักเหมือนกัน” ลู่หยางตอบ
ในที่สุดเสี่ยวเหลียงก็ออฟไลน์ออกไป ขณะที่ลู่หยางยังคงสำรวจซากปรักหักพังต่อ
2 ชั่วโมงต่อมาลู่หยางก็มาถึงใจกลางซากปรักหักพังได้ในที่สุด ซึ่งมันเป็นที่ตั้งของพระราชวังขนาดมหึมา
ระบบ: คุณค้นพบพระราชวังนีล
ลู่หยางเดินผ่านประตูวังขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาจากหินอ่อนสีดำ ก่อนที่เขาจะได้พบกับพรมยาวสีแดงที่ทั้งสองด้านมีเสาทรงกลมขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากคอยค้ำยันโครงสร้างของสถานที่แห่งนี้เอาไว้
แม้ว่าพื้นที่ด้านในจะค่อนข้างมืดแต่ด้วยหน้าต่างบริเวณโดยรอบที่เปิดค้างเอาไว้ มันจึงมีแสงสว่างส่องเข้ามาให้เห็นพื้นที่ด้านในได้อย่างสลัว ๆ
ระหว่างที่ลู่หยางพาผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เข้าไปยังด้านใน โครงกระดูกสวมผ้าคลุมสีเหลืองขาด ๆ ที่ถือหอกยาวเหล็กกล้าก็เคลื่อนที่ออกมาจากด้านหลังเสาต้นหนึ่ง
ทหารหอกโครงกระดูก
เลเวล 28
พลังชีวิต 4,110/4,110
ตามเนื้อเรื่องของเกมนักรบเหล่านี้เคยเป็นทหารองครักษ์ภายในวังมาก่อน และเมื่อพวกมันเสียชีวิตพวกมันก็ได้กลายเป็นโครงกระดูกในที่สุด
ลู่หยางเรียกลูกไฟขึ้นมาภายในมือก่อนที่เขาจะใช้เบลซซิงเบิร์ส 6 ครั้งติดต่อกันสังหารโครงกระดูกตัวนี้ลงและเดินหน้าเข้าไปภายในวังต่อ
หลังจากเดินผ่านห้องโถงเขตของคนรับใช้และเขตสวนเข้ามายังด้านใน ในที่สุดชายหนุ่มก็เดินทางมาถึงเขตของราชวงศ์
เขตของราชวงศ์ถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ โดยด้านหน้าเป็นระเบียงยาว ด้านซ้ายเป็นค่ายทหารองครักษ์ ตรงกลางเป็นห้องท้องพระโรงของกษัตริย์ และมันก็ยังเป็นตำแหน่งของบอสที่เขากำลังตามหาอยู่นั่นเอง
ขณะที่ลู่หยางกำลังจะวิ่งเข้าไปในห้องท้องพระโรง เสียงโครงกระดูกเป็นจำนวนมากและเสียงร้องตะโกนของผู้เล่นก็ดังขึ้นมาจากทางด้านขวาเสียก่อน
ชายหนุ่มมองไปทางขวาพร้อมกับขมวดคิ้ว เพราะในช่วงเวลานี้ของเกมนอกเหนือจากตัวเขาแล้วมันก็ไม่ควรจะมีคนอื่นมีความสามารถมากพอที่จะมายังสถานที่แห่งนี้ได้
ลู่หยางรีบเดินไปตามระเบียงทางด้านขวาในทันที ซึ่งในพื้นที่บริเวณนี้มีสุนัขล่าเนื้อโครงกระดูกอยู่เป็นจำนวนหลายสิบตัว
“ทุกคนรีบหาทางเร็ว ๆ เข้า ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว!”
“หัวหน้า พวกเราตายกลับดีกว่าไหม?”
“ทุกคนทนอีกหน่อย ฉันขอคิดหาทางก่อน”
“หัวหน้ายังจะคิดอะไรอีก?! มันจะมีใครซวยเหมือนพวกเราไหมที่จู่ ๆ ได้มาโผล่ในแผนที่เลเวล 30”
…
ภายในห้อง สุนัขล่าเนื้อโครงกระดูกกว่า 30 ตัวกำลังส่งเสียงขู่อยู่ใต้เสา 3 ต้นที่ด้านบนมีผู้เล่น 5 คนกำลังกอดเสาเอาไว้แน่น
เมื่อลู่หยางสังเกตเห็นผู้เล่นทั้งห้า เขาก็อดที่จะขำขึ้นมาไม่ได้
“พวกคุณทำอะไรกันอยู่?”
“พี่ชายรีบหนีไปเร็วเข้า! หมาพวกนี้มันเก่งมาก คุณสู้พวกมันไม่ได้หรอก” ชายผู้มีชื่อว่าจัวเจียวฉิงชางตะโกนเตือนลู่หยางอย่างตื่นตระหนก
ลู่หยางขำขึ้นมาภายในใจ เพราะสถานการณ์ของอีกฝ่ายไม่ควรจะเตือนใครแบบนี้ได้เลย อย่างไรก็ตามการที่อีกฝ่ายตะโกนเตือนขึ้นมาแบบนี้มันก็หมายความว่าชายคนนี้มีนิสัยที่ไม่เลว
“พวกคุณชื่ออะไรแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ลู่หยางถาม
เขายังไม่รีบช่วยทีมผู้เล่นด้านหน้าแต่ต้องการจะระบุตัวตนของอีกฝ่ายให้ได้ก่อน เพราะถ้าหากพวกเขาเป็นศัตรูในชาติที่แล้วลู่หยางก็จะหันหลังและเดินจากไปในทันที
เมื่อจัวเจียวฉิงชางเห็นลู่หยางยังคงใจเย็นเขาก็อดที่จะแปลกใจขึ้นมาไม่ได้ หลังจากที่เขาพิจารณาอีกฝ่ายโดยละเอียดเขาจึงเอ่ยปากพูดออกไปว่า
“ฉันชื่อจัวเจียวฉิงชางเป็นพาลาดิน พี่น้องข้าง ๆ นี้ชื่อเหมาชิว, ไนท์มูน, เครซี่เบลดบียอนเดอะเกรทวอลล์และไฟร์ก็อดเอ็ม 16 พี่ชายพอจะมีวิธีจัดการกับมอนสเตอร์พวกนี้ใช่ไหม ถ้าคุณช่วยพวกเราเอาไว้ได้พวกเราจะจดจำบุญคุณในคราวนี้เอาไว้อย่างแน่นอน” จัวเจียวฉิงชางกล่าว
“จัวเจียวฉิงชาง…”
ลู่หยางรู้สึกคุ้น ๆ ชื่อคนคนนี้ ก่อนที่เขาจะนึกได้ว่าชาติที่แล้วจัวเจียวฉิงชางกับไนท์มูนเป็นผู้เล่นอิสระที่มีชื่อเสียงมาก และในภายหลังเนื่องมาจากพวกเขาติดหนี้บุญคุณคิลลิ่งสเตป หัวหน้ากิลด์ทไวไลท์ออฟก็อด พวกเขาจึงตกลงเข้าร่วมกิลด์ทไวไลท์ออฟก็อดในเวลาต่อมา
เจอลูกน้องคนใหม่หรือเปล่าเนี่ยยย?